Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

05 กันยายน 2557 ขณะที่แหล่งข่าว ICT ระบุ เรื่องเว็บหมิ่นเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ที่คอยตรวจสอบและมอนิเตอร์ไม่ให้เกิดขึ้น เรื่องนี้ถ้ากระทรวงไอซีทีสั่งปิดได้ก็จะดำเนินการปิดเว็บดังกล่าวในทันที

ประเด็นหลัก


alt ++ไอซีทีชี้เว็บหมิ่นเป็นหน้าที่ทุกคน
    ขณะที่แหล่งข่าวจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า สำหรับเรื่องเว็บหมิ่นเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ที่คอยตรวจสอบและมอนิเตอร์ไม่ให้เกิดขึ้น เรื่องนี้ถ้ากระทรวงไอซีทีสั่งปิดได้ก็จะดำเนินการปิดเว็บดังกล่าวในทันที


______________________________




ภารกิจรมต.ป้ายแดง'ไอซีที'




 ในที่สุดโผรายชื่อของรัฐบาลประยุทธ์ 1 (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าที่นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช.)  ถูกแต่งตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2557 พร้อมกับรายชื่อรัฐมนตรีจำนวน 32 คน และ หนึ่งในนั้นมีรายชื่อของ นายพรชัย รุจิประภา  ถูกแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที
    ต้องบอกว่ากระทรวงไอซีที ภายใต้ คสช.(คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) ถูกจัดลำดับให้อยู่ในส่วนของความมั่นคง เนื่องจากที่ผ่านมาทางการเมืองใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นอาวุธลับในการสื่อสารกับบรรดาเหล่าสาวกทั้งหลาย จนกลายเป็นชนวนเหตุปลุกระดม

++ปิดเว็บหมิ่นไม่ได้ควรออกไป
    พลันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าที่นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. ประกาศว่าจะมีการแต่งตั้งรัฐมนตรีภายในวันที่ 1 กันยายน 2557 ปรากฏว่าก่อนวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของ องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน ที่มี พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา เป็นเจ้าของแฟนเพจได้เปลี่ยนรูปหน้าโพรไฟล์โดยมี "โลโกไอซีที พร้อมกับข้อความที่ว่า "ปิดเพจหมิ่นไม่ได้ก็ออกไป"
    ไม่เพียงเท่านี้ยังมีการเขียนข้อความด้วยว่า นี่คือวาระแห่งชาติ นี่คือภาระที่คนไทยทุกคน ย้ำ ทุกคน!!! ต้องทำ ขอให้นักรบของพระราชาทุกคน เปลี่ยน profile picture เป็นรูปที่แนบมาเพื่อกดดันให้ กระทรวงไอซีที ดำเนินการอย่างจริงจังกับเว็บ/เพจ หมิ่นทั้งหลาย มิเช่นนั้นก็ลาออกไปซะ
    นอกจากนี้ พล.ต.เหรียญทอง ยังเขียนข้อความต่ออีกว่า แชร์หรือไลน์ให้ทราบทั่วกันทั้งภายในและภายนอก ราชอาณาจักรไปเลยว่า "เลี้ยงไปก็เปลืองข้าวสุก...อยู่ต่อไปก็เปลืองงบประมาณแผ่นดิน"...ปัญหาเพจหรือเว็บหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกระทรวงไอซีที ไม่มุ่งมั่น ไม่เอาใจใส่ในการควบคุมหรือปิดเพจหรือเว็บหมิ่น ปล่อยปละละเลยให้เพจและเว็บหมิ่นเผยแพร่โดยเป็นที่ปรากฏว่าเมื่อภาคประชาชน ได้รายงานเพจหรือเว็บหมิ่นเข้าไปยังกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
หลายครั้งหลายคราแล้วก็หาได้ใส่ใจปิดเพจหรือเว็บหมิ่นเหล่านั้นแต่อย่างใด...หากส่วนราชการกระทรวงไอซีทีทำงานได้เพียงแค่ นี้...ก็ยุบไปเสียเถิดครับ หรือไม่ก็ปลดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ออกไปเสียให้หมด...เปลืองงบ ประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีอากร...พูดง่ายๆครับว่า "เลี้ยงไปก็เปลืองข้าวสุก...อยู่ต่อไปก็เปลืองงบประมาณแผ่นดิน"นั่นแหละครับ ลงชื่อ พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา 31 ส.ค.57 เวลา 08.15 น.
alt ++ไอซีทีชี้เว็บหมิ่นเป็นหน้าที่ทุกคน
    ขณะที่แหล่งข่าวจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า สำหรับเรื่องเว็บหมิ่นเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ที่คอยตรวจสอบและมอนิเตอร์ไม่ให้เกิดขึ้น เรื่องนี้ถ้ากระทรวงไอซีทีสั่งปิดได้ก็จะดำเนินการปิดเว็บดังกล่าวในทันที
++ยุคเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ดิจิตอล
    ต่อเรื่องนี้นายพรชัย รุจิประภา ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที  เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ภารกิจเร่งด่วนมีหลายเรื่องที่ กระทรวงไอซีที ต้องเร่งดำเนินการ หนึ่งในนั้นคือเรื่องการปรับปรุงโครงสร้างระบบใหม่ เพราะขณะนี้ประเทศไทยได้เข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านจากระบบอะนาล็อกเข้าสู่ระบบดิจิตอล ดังนั้นต้องปรับปรุงระบบให้มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง และ มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการแข่งขันอย่างเป็นธรรม
alt++ทีโอที-แคท โจทย์ใหญ่
    ไม่เพียงเท่านี้ ว่าที่รัฐมนตรีไอซีที ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนกรณีเรื่องเร่งฟื้นฟูกิจการใน บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ถือว่าเป็นโจทย์ใหญ่ และภายในเร็ว ๆ นี้จะมีการเจรจากับกระทรวงการคลังเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้
    "ผมเคยทำงานที่สภาพัฒน์(สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในตำแหน่องรองเลขาธิการ) เคยมีการเจรจากับทั้ง 2 หน่วยงานถ้าทำแบบนี้อยู่ไม่สามารถแข่งขันได้"
    อย่างไรก็ตามโครงสร้างธุรกิจของ บมจ.ทีโอที และ แคท มีจุดแข็งอยู่ที่การวางโครงสร้างระบบพื้นฐาน กรณีเกิดเหตุการณ์ฝนตกทำให้สัญญาณดาวเทียมเกิดเหตุขัดข้อง แต่การวางโครงสร้างพื้นฐานด้วยการวางข่ายสายกระจายไปครอบคลุมทั่วประเทศจะมีประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งทั้ง2หน่วยงานมีประสบการณ์และวิธีการบริหารจัดการเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
++ ลุ้นดึงเนคเทค
    ขณะที่ เนคเทค (ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิคส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ) เชื่อว่าน่าจะเข้ามาเชื่อมโยงกับ ไอซีที ได้เป็นอย่างดีเพราะหาก เนคเทค เข้ามาอยู่ภายใต้สังกัดไอซีทีเท่ากับเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กระทรวงไอซีที เนื่องจากข้อจำกัดบุคลากรของ ไอซีที มีไม่มากถ้าได้เติมบุคลากรของ เนคเทค เข้ามาเสริมถือว่าเป็นบุญของประเทศชาติ
    ทั้งหมด คือ ภารกิจเร่งด่วนของรัฐมนตรีไอซีที ป้ายแดง

พรชัย รุจิประภาพรชัย รุจิประภา**"พรชัย รุจิประภา"เขาคือใคร
    ประวัติการศึกษาของ นายพรชัย รุจิประภา จบการศึกษาปริญญาตรี คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาเกษตรศาสตร์ จากนั้นจบการศึกษาปริญญาโท และปริญญาเอก สาขา Regional Economics จาก University of Pennsylvania สหรัฐอเมริกา  จบการศึกษาปริญญาโท สาขารัฐศาสนศาสตร์ จาก NIDA ,ปริญญาบัตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 41 (วปอ. 41) ,จบหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชนรุ่น 11 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ,จบหลักสูตร DAP สมาคมส่งเสริมสถานบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ปี 2549
ส่วนประวัติการทำงานนั้น ปี 2549 -เคยเป็นกรรมการบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)  ปี 2251 -เคยเป็นประธานกรรมการ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ปี 2552 -เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพลังงาน (สมัยนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)  ปี 2557 -ลาออกจากการเป็นกรรมการ ประธานกรรมการ และประธานคณะกรรมการลงทุนของเอ็กโก้ (ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม)
    อดีตปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หลายรัฐบาล นอกจากนี้ยังเคยนั่งบอร์ดของรัฐวิสาหกิจอีกหลายแห่ง และยังเคยเป็นกรรมการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ, กรรมการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กรรมการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ประธานกรรมการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=244997:2014-09-02-07-45-04&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.VAlbS0tAeuw

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.