Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

11 กันยายน 2557 ในปี 2558-2559 กสทช. คาดการณ์ว่ามูลค่าของตลาดโทรคมนาคมจะโตขึ้น 16.6 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในอีก 2 ปีข้างหน้า คิดเป็น 4% ของ จีดีพี ของประเทศไทย

ประเด็นหลัก


       อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของสำนักงาน กสทช. พบว่า เมื่อมองเศรษฐกิจโดยรวมที่เกิดจาก2 ภาคส่วน คือ โทรคมนาคมและกระจายเสียงและโทรทัศน์ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3% ของจีดีพีของประเทศไทย โดยในภาคโทรคมนาคม กสทช.คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าตลาดรวมทั้งหมดประมาณ 9.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 2.5 % ของจีดีพีของประเทศ ปัจจุบันประเทศไทยมีเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เปิดใช้บริการจำนวน 110 ล้านเลขหมาย จำแนกเป็นเลขหมายที่อยู่ในระบบ 3G จำนวน 65 ล้านเลขหมาย มีการขยายตัวของตลาด สมาร์ทโฟน ประมาณ 30% ในปี 2557 ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมกระจายเสียงและโทรทัศน์ จากข้อมูลพบว่า มีการเจริญเติบโตประมาณ 1% ของ จีดีพี ของประเทศ คิดเป็นมูลค่า1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ และหากมีจัดการประมูลคลื่น 1800 MHz เพื่อรองรับการให้บริการ 4G และคลื่น 900 MHz สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
   
       ในปี 2558-2559 กสทช. คาดการณ์ว่ามูลค่าของตลาดโทรคมนาคมจะโตขึ้น 16.6 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในอีก 2 ปีข้างหน้า คิดเป็น 4% ของ จีดีพี ของประเทศไทย และเมื่อรวมกับมูลค่าที่เกิดจากการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมกระจายเสียงและโทรทัศน์ด้วยแล้ว มูลค่ารวมทั้งหมดจะอยู่ที่ 5 %ของ จีดีพี ของประเทศไทยโดยประมาณ



______________________________




ไชน่าโมบายล์เข้าพบกสทช.ก่อนมีการลงนามร่วมทุนกับทรู



กลุ่มทรูจูงไชน่า โมบายล์ เข้าพบ กสทช.แจงเหตุผลร่วมลงทุนในประเทศไทย ก่อนมีพิธีลงนามร่วมธุรกิจกับกลุ่มทรูในวันที่ 11 ก.ย.เผยประเทศไทยมีอัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมากกว่าประเทศจีน ด้านเลขาธิการ กสทช.ย้ำเอกชนต้องไม่เข้าข่ายครอบงำกิจการโดยต่างด้าว
     
       เมื่อวันที่ 10 ก.ย. เวลา 9.00 น.นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยกลุ่มผู้บริหารบริษัท ไชน่า โมบายล์ จำกัด รวม 13 คน นำโดยนายหลี่ เยว่ หัวหน้าคณะผู้บริหารเข้าพบพล.อ.อ ธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ,พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกสทช.และประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.), พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร กรรมการกสทช. นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ กรรมการกสทช.และนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช. ซึ่งการเข้าพบดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่จะมีพิธีลงนามระหว่างกลุ่มทรูและไชน่าโมบายล์ ในวันที่ 11 ก.ย.
     
       สำหรับเนื้อหาในการหารือดังกล่าว ทางไชน่า โมบายล์ ได้ให้เหตุผลถึงความสนใจที่จะมาลงทุนในประเทศไทยร่วมกับกลุ่มทรู ว่าเป็นเพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีปัจจัยพื้นฐานเหมาะสมอย่างมากต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ซึ่งเห็นได้จากสัดส่วนจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้บริการโทรศัพท์มือถือต่อจำนวนประชากร100 คน คิดเป็น 140 เลขหมาย ในไตรมาส 2 ของปี 2557 นอกจากนั้น ยังมีสัดส่วนจำนวนผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตเท่ากับ 39% ของจำนวนประชากร หรือจำนวนประมาณ 26 ล้านคนในปี 2556 ซึ่งนับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับหลายประเทศ รวมถึงประเทศจีน
     
       นายฐากร กล่าวว่า กสทช.ให้สิทธิ์ต่างชาติถือครองหุ้นของบริษัทในไทยได้ต้องไม่เกิน 49% และต้องไม่กระทำการที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าวซึ่งมีรายละเอียด 8 ข้อ ได้แก่ 1.การครอบงำด้วยการให้คนต่างด้าวเข้ามาถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม 2.การครอบงำด้วยการถือหุ้นเองของคนต่างด้าว 3.การครอบงำโดยคนต่างด้าวมีอิทธิพลในการกำหนดนโยบาย 4.การครอบงำกิจการผ่านการมีนิติสัมพันธ์กับแหล่งที่มาของเงินลงทุนและเงินกู้จากคนต่างด้าวหรือบุคคลในเครือ 5.การครอบงำผ่านการทำสัญญาเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา สัญญาแฟรนส์ไชส์ หรือสัญญาที่ให้สิทธิแต่เพียงผู้เดียวกับคนต่างด้าวหรือนิติบุคคลในเครือ และสัญญาดังกล่าวมีผลเป็นการถ่ายโอนค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่คนต่างด้าว 6.การครอบงำผ่านการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างหรือสัญญาจ้างบริหารกับคนต่างด้าวหรือนิติบุคคลในเครือ 7.การครอบงำผ่านการร่วมประกอบกิจการกับคนต่างด้าวหรือนิติบุคคลในเครือโดยมีการจัดสรรหรือแบ่งต้นทุนในการประกอบกิจการในลักษณะที่มีผลต่อการถ่ายโอนค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่คนต่างด้าว และ 8.การครอบงำผ่านการทำธุรกรรมในลักษณะโอนราคาหรือสมยอมด้านราคากับคนต่างด้าวหรือนิติบุคคลในเครือ
     
       อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของสำนักงาน กสทช. พบว่า เมื่อมองเศรษฐกิจโดยรวมที่เกิดจาก2 ภาคส่วน คือ โทรคมนาคมและกระจายเสียงและโทรทัศน์ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3% ของจีดีพีของประเทศไทย โดยในภาคโทรคมนาคม กสทช.คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าตลาดรวมทั้งหมดประมาณ 9.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 2.5 % ของจีดีพีของประเทศ ปัจจุบันประเทศไทยมีเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เปิดใช้บริการจำนวน 110 ล้านเลขหมาย จำแนกเป็นเลขหมายที่อยู่ในระบบ 3G จำนวน 65 ล้านเลขหมาย มีการขยายตัวของตลาด สมาร์ทโฟน ประมาณ 30% ในปี 2557 ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมกระจายเสียงและโทรทัศน์ จากข้อมูลพบว่า มีการเจริญเติบโตประมาณ 1% ของ จีดีพี ของประเทศ คิดเป็นมูลค่า1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ และหากมีจัดการประมูลคลื่น 1800 MHz เพื่อรองรับการให้บริการ 4G และคลื่น 900 MHz สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
     
       ในปี 2558-2559 กสทช. คาดการณ์ว่ามูลค่าของตลาดโทรคมนาคมจะโตขึ้น 16.6 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในอีก 2 ปีข้างหน้า คิดเป็น 4% ของ จีดีพี ของประเทศไทย และเมื่อรวมกับมูลค่าที่เกิดจากการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมกระจายเสียงและโทรทัศน์ด้วยแล้ว มูลค่ารวมทั้งหมดจะอยู่ที่ 5 %ของ จีดีพี ของประเทศไทยโดยประมาณ

http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000104059&Keyword=%A1%CA%B7

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.