Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

26 มกราคม 2558 ฟอร์ติเน็ต.พีระพงศ์ เตรียมใช้ กลยุทธ์ โทเทิลโซลูชันในทุกองค์กรธุรกิจ สำหรับตลาดในเมืองไทยนั้นฟอร์ติเน็ต จะเน้นการเพิ่มพาร์ตเนอร์ และสร้างความรู้ เพื่อให้นำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดได้รวดเร็วขึ้น

ประเด็นหลัก



       “ในปี 2014 ที่ผ่านมา ฟอร์ติเน็ตเรียกว่าเป็นปีแห่งข้อมูลรั่วไหล ซึ่งแฮกเกอร์ต่างๆ มีความซับซ้อนมากขึ้น และมักจะมองหาจุดด้อยในระบบด้านการเงิน และด้านค้าปลีก เป็นต้น รวมไปถึงการรุกรานจะมุ่งไปสู่การโจมตีที่การทำงานของแอนติไวรัส ส่วนในปีนี้คาดว่าการโจมตีจะเริ่มมุ่งไปที่ Internet of Thing ที่คาดว่าจะเป็นเทรนด์มาแรง จึงจะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ภัยคุกคามขยายตัวได้เร็วมากขึ้น โดยจะมีการมุ่งไปโจมตีระบบอัตโนมัติที่ใช้ในครัวเรือน ระบบความปลอดภัยภายในบ้าน และเว็บแคมต่างๆ”
     
       จุดเด่นของฟอร์ติเน็ตอยู่ที่การป้องกันทั้งสิ่งที่รู้ว่าเป็นภัยคุกคาม และไม่รู้ว่าเป็นภัยคุกคาม โดยจะเน้นที่เป็นมัลติฟังก์ชัน ที่จะสามารถสร้างระบบความปลอดภัยทั้งภายใน และภายนอกองค์กร ทำงานได้อย่างรวดเร็ว และเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถตอบสนององค์กรได้ทุกขนาดไม่ว่าจะเป็นขนาดใหญ่ ขนาดกลาง หรือขนาดเล็ก นอกจากนี้ ยังได้มีการขยายการให้ความปลอดภัยให้ครอบคลุมแก่ทุกแพลตฟอร์มมากขึ้น


       นายพีระพงศ์ จงวิบูลย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ฟอร์ติเน็ต กล่าวว่า ฟอร์ติเน็ต ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นอันดับ 1 ในบริการความปลอดภัยด้านเครือข่ายของโลกภายในปี 2020 จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งอยู่ในอันดับท็อป 3 โดยฟอร์ติเน็ต จะมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมด้านความปลอดภัยมากขึ้น และเน้นการเป็นโทเทิลโซลูชันในทุกองค์กรธุรกิจ สำหรับตลาดในเมืองไทยนั้นฟอร์ติเน็ต จะเน้นการเพิ่มพาร์ตเนอร์ และสร้างความรู้ เพื่อให้นำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดได้รวดเร็วขึ้น



_____________________________________________________
















ฟอร์ติเน็ตเล็งใช้โทเทิลโซลูชันดันขึ้นผู้นำเครือข่าย ปี 2020


นายพีระพงศ์ จงวิบูลย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย พม่า ลาว กัมพูชาและเวียดนาม ฟอร์ติเน็ต

        ฟอร์ติเน็ต เล็งขึ้นเบอร์ 1 ความปลอดภัยด้านเครือข่ายของโลกในปี 2020 ด้วยกลยุทธ์โทเทิลโซลูชัน เผยปีที่ผ่านมา ในเมืองไทยยังเติบโตเนื่องจากมีผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดที่ครอบคลุม และลูกค้าจำเป็นต้องใช้งาน ส่วนปีนี้มั่นใจโตขึ้นแน่นอน พร้อมเพิ่มพาร์ตเนอร์เสริมโซลูชันใหม่มุ่งเจาะตลาดภาครัฐเป็นหลัก ส่วนนโยบายดิจิตอลอีโคโนมีนั้นต้องรอความชัดเจนก่อน แต่คาดว่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจแน่นอน เพราะองค์กรต่างๆ จะต้องมุ่งสู่ดิจิตอล
     
       นายพีระพงศ์ จงวิบูลย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ฟอร์ติเน็ต กล่าวว่า ฟอร์ติเน็ต ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นอันดับ 1 ในบริการความปลอดภัยด้านเครือข่ายของโลกภายในปี 2020 จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งอยู่ในอันดับท็อป 3 โดยฟอร์ติเน็ต จะมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมด้านความปลอดภัยมากขึ้น และเน้นการเป็นโทเทิลโซลูชันในทุกองค์กรธุรกิจ สำหรับตลาดในเมืองไทยนั้นฟอร์ติเน็ต จะเน้นการเพิ่มพาร์ตเนอร์ และสร้างความรู้ เพื่อให้นำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดได้รวดเร็วขึ้น
     
       โดยพาร์ตเนอร์ที่เลือกนั้นจะเน้นบริษัทใหญ่ๆ ที่มีความแข็งแรง และมีผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยบางยี่ห้ออยู่แล้ว แต่ไม่ได้ครอบคลุมมากนักเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในด้านโทเทิลโซลูชัน ซึ่งฟอร์ติเน็ต จะเข้าไปดึงให้มาเป็นพาร์ตเนอร์แบบถาวรกับฟอร์ติเน็ต ส่วนกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในปีนี้จะเป็นองค์กรภาครัฐ สถาบันการศึกษา และโทรคมนาคม โดยจะเน้นภาครัฐเป็นหลัก
     
       “ในปีที่ผ่านมา ฟอร์ติเน็ตมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีการนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น แม้จะได้รับผลกระทบทางการเมืองบ้าง ส่วนในปีนี้โครงการต่างๆ ที่ยังไม่เดินหน้าในปีที่ผ่านมา จะเริ่มมีการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น ฟอร์ติเน็ต จึงมั่นใจว่าน่าจะกลับมาสู่ในภาวะที่เป็นปกติ และน่าจะโตกว่าปีที่ผ่านมา”
     
       นายพีระพงศ์ กล่าวว่า ดิจิตอลอีโคโนมีจะทำให้องค์กรต่างๆ มีการเชื่อมโยงเข้าหากัน ดังนั้น ความปลอดภัยทางด้านเครือข่ายจึงมีความจำเป็นมากขึ้น ซึ่งฟอร์ติเน็ต ต้องรอดูความชัดเจนก่อนว่าจะเดินหน้าไปอย่างไร จึงจะเข้าไปเสริมนโยบายเหล่านั้น แต่คิดว่าเป็นโอกาสที่ดีของฟอร์ติเน็ตอย่างแน่นอน เนื่องจากทุกองค์กรจะเข้าสู่ดิจิตอลมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีในตลาดของไวร์เลสที่ฟอร์ติเน็ตมีอัตราการเติบโตค่อนข้างดีในตลาดนี้ในปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะปีนี้จะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน
     
       “ในปี 2014 ที่ผ่านมา ฟอร์ติเน็ตเรียกว่าเป็นปีแห่งข้อมูลรั่วไหล ซึ่งแฮกเกอร์ต่างๆ มีความซับซ้อนมากขึ้น และมักจะมองหาจุดด้อยในระบบด้านการเงิน และด้านค้าปลีก เป็นต้น รวมไปถึงการรุกรานจะมุ่งไปสู่การโจมตีที่การทำงานของแอนติไวรัส ส่วนในปีนี้คาดว่าการโจมตีจะเริ่มมุ่งไปที่ Internet of Thing ที่คาดว่าจะเป็นเทรนด์มาแรง จึงจะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ภัยคุกคามขยายตัวได้เร็วมากขึ้น โดยจะมีการมุ่งไปโจมตีระบบอัตโนมัติที่ใช้ในครัวเรือน ระบบความปลอดภัยภายในบ้าน และเว็บแคมต่างๆ”
     
       จุดเด่นของฟอร์ติเน็ตอยู่ที่การป้องกันทั้งสิ่งที่รู้ว่าเป็นภัยคุกคาม และไม่รู้ว่าเป็นภัยคุกคาม โดยจะเน้นที่เป็นมัลติฟังก์ชัน ที่จะสามารถสร้างระบบความปลอดภัยทั้งภายใน และภายนอกองค์กร ทำงานได้อย่างรวดเร็ว และเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถตอบสนององค์กรได้ทุกขนาดไม่ว่าจะเป็นขนาดใหญ่ ขนาดกลาง หรือขนาดเล็ก นอกจากนี้ ยังได้มีการขยายการให้ความปลอดภัยให้ครอบคลุมแก่ทุกแพลตฟอร์มมากขึ้น


http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000009133

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.