14 กรกฎาคม 2558 ตั้งแต่ประกาศใช้มาตรการเยียวยาจนถึง ส.ค.57 รวมทั้งสิ้น 11 เดือน 15 วัน ทรูมูฟ และดีพีซี มีรายได้ต้องนำส่งสำนักงานรวม 2,299 ล้านบาท แบ่งเป็นของ TRUEMOVE 2G 1,666 ล้านบาท และ AIS GSM 1800 จำนวน 633 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบรายได้และค่าใช้จ่ายนี้ยังไม่ได้รวมถึงค่าใช้โครงข่ายของ CAT
ประเด็นหลัก
ทั้งนี้ บริษัททั้งสองจะต้องนำส่งรายได้ที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายในอัตรา 30% ของรายได้จากการให้บริการ อ้างอิงจากสัญญาสัมปทานเดิม และหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วมีรายได้เหลือให้นำรายได้ส่งรัฐต่อไป โดยเรื่องนี้ที่ประชุม กทค.มีมติเห็นชอบอย่างเป็นทางการไปแล้ว เมื่อ 23 ธ.ค.57 เรื่องผลการพิจารณารายได้ และค่าใช้จ่ายจากการให้บริการในช่วงคุ้มครองผู้ใช้บริการ โดยผลการตรวจสอบพบว่า ตั้งแต่ประกาศใช้มาตรการเยียวยาจนถึง ส.ค.57 รวมทั้งสิ้น 11 เดือน 15 วัน ทรูมูฟ และดีพีซี มีรายได้ต้องนำส่งสำนักงานรวม 2,299 ล้านบาท แบ่งเป็นของทรูมูฟ 1,666 ล้านบาท และดีพีซี จำนวน 633 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบรายได้และค่าใช้จ่ายนี้ยังไม่ได้รวมถึงค่าใช้โครงข่ายของ บมจ.กสทฯ ซึ่งผู้ให้บริการทั้งสองรายอ้างว่าไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ แต่ บมจ.กสทฯ แจ้งว่ามีค่าใช้จ่าย 14,141 ล้านบาท.
____________________________________
บีบทรูมูฟ-ดีพีซีจ่ายเยียวยาคลื่น1800
กสทช. จี้ทรูมูฟ-ดีพีซี จ่ายแผนเยียวยาคลื่น 1800 มูลค่าเฉียด 3 พันล้าน ซ้ำหนี้ค่าโครงข่าย บมจ.กสทฯ ร่วม 1.4 หมื่นล้าน โดยให้บอร์ด กทค.ตัดสินใจลงดาบ
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า สำนักงานได้ส่งความคืบหน้าการนำส่งเงินรายได้ของผู้ประกอบการตามประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทาน หรือแผนเยียวยาคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ ไปให้ที่ประชุมคณะกรรมการ กทค. วันที่ 15 มิ.ย.58 นี้ ประกอบการพิจารณา ให้เร่งดำเนินการกับบริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด หรือ ดีพีซี ที่ได้สิ้นสุดสัญญาสัมปทาน 2 จี กับบริษัท กสท โทรคมนาคม (มหาชน) ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.56 ซึ่งทั้งคู่ยังไม่นำเงินมาจ่าย โดยคณะทำงานตรวจสอบเงินนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินฯ ได้แจ้งยอดเงินที่ต้องจ่ายกว่า 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัททั้งสองจะต้องนำส่งรายได้ที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายในอัตรา 30% ของรายได้จากการให้บริการ อ้างอิงจากสัญญาสัมปทานเดิม และหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วมีรายได้เหลือให้นำรายได้ส่งรัฐต่อไป โดยเรื่องนี้ที่ประชุม กทค.มีมติเห็นชอบอย่างเป็นทางการไปแล้ว เมื่อ 23 ธ.ค.57 เรื่องผลการพิจารณารายได้ และค่าใช้จ่ายจากการให้บริการในช่วงคุ้มครองผู้ใช้บริการ โดยผลการตรวจสอบพบว่า ตั้งแต่ประกาศใช้มาตรการเยียวยาจนถึง ส.ค.57 รวมทั้งสิ้น 11 เดือน 15 วัน ทรูมูฟ และดีพีซี มีรายได้ต้องนำส่งสำนักงานรวม 2,299 ล้านบาท แบ่งเป็นของทรูมูฟ 1,666 ล้านบาท และดีพีซี จำนวน 633 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบรายได้และค่าใช้จ่ายนี้ยังไม่ได้รวมถึงค่าใช้โครงข่ายของ บมจ.กสทฯ ซึ่งผู้ให้บริการทั้งสองรายอ้างว่าไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ แต่ บมจ.กสทฯ แจ้งว่ามีค่าใช้จ่าย 14,141 ล้านบาท.
http://www.thaipost.net/?q=บีบทรูมูฟ-ดีพีซีจ่ายเยียวยาคลื่น1800
ทั้งนี้ บริษัททั้งสองจะต้องนำส่งรายได้ที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายในอัตรา 30% ของรายได้จากการให้บริการ อ้างอิงจากสัญญาสัมปทานเดิม และหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วมีรายได้เหลือให้นำรายได้ส่งรัฐต่อไป โดยเรื่องนี้ที่ประชุม กทค.มีมติเห็นชอบอย่างเป็นทางการไปแล้ว เมื่อ 23 ธ.ค.57 เรื่องผลการพิจารณารายได้ และค่าใช้จ่ายจากการให้บริการในช่วงคุ้มครองผู้ใช้บริการ โดยผลการตรวจสอบพบว่า ตั้งแต่ประกาศใช้มาตรการเยียวยาจนถึง ส.ค.57 รวมทั้งสิ้น 11 เดือน 15 วัน ทรูมูฟ และดีพีซี มีรายได้ต้องนำส่งสำนักงานรวม 2,299 ล้านบาท แบ่งเป็นของทรูมูฟ 1,666 ล้านบาท และดีพีซี จำนวน 633 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบรายได้และค่าใช้จ่ายนี้ยังไม่ได้รวมถึงค่าใช้โครงข่ายของ บมจ.กสทฯ ซึ่งผู้ให้บริการทั้งสองรายอ้างว่าไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ แต่ บมจ.กสทฯ แจ้งว่ามีค่าใช้จ่าย 14,141 ล้านบาท.
____________________________________
บีบทรูมูฟ-ดีพีซีจ่ายเยียวยาคลื่น1800
กสทช. จี้ทรูมูฟ-ดีพีซี จ่ายแผนเยียวยาคลื่น 1800 มูลค่าเฉียด 3 พันล้าน ซ้ำหนี้ค่าโครงข่าย บมจ.กสทฯ ร่วม 1.4 หมื่นล้าน โดยให้บอร์ด กทค.ตัดสินใจลงดาบ
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า สำนักงานได้ส่งความคืบหน้าการนำส่งเงินรายได้ของผู้ประกอบการตามประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทาน หรือแผนเยียวยาคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ ไปให้ที่ประชุมคณะกรรมการ กทค. วันที่ 15 มิ.ย.58 นี้ ประกอบการพิจารณา ให้เร่งดำเนินการกับบริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด หรือ ดีพีซี ที่ได้สิ้นสุดสัญญาสัมปทาน 2 จี กับบริษัท กสท โทรคมนาคม (มหาชน) ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.56 ซึ่งทั้งคู่ยังไม่นำเงินมาจ่าย โดยคณะทำงานตรวจสอบเงินนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินฯ ได้แจ้งยอดเงินที่ต้องจ่ายกว่า 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัททั้งสองจะต้องนำส่งรายได้ที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายในอัตรา 30% ของรายได้จากการให้บริการ อ้างอิงจากสัญญาสัมปทานเดิม และหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วมีรายได้เหลือให้นำรายได้ส่งรัฐต่อไป โดยเรื่องนี้ที่ประชุม กทค.มีมติเห็นชอบอย่างเป็นทางการไปแล้ว เมื่อ 23 ธ.ค.57 เรื่องผลการพิจารณารายได้ และค่าใช้จ่ายจากการให้บริการในช่วงคุ้มครองผู้ใช้บริการ โดยผลการตรวจสอบพบว่า ตั้งแต่ประกาศใช้มาตรการเยียวยาจนถึง ส.ค.57 รวมทั้งสิ้น 11 เดือน 15 วัน ทรูมูฟ และดีพีซี มีรายได้ต้องนำส่งสำนักงานรวม 2,299 ล้านบาท แบ่งเป็นของทรูมูฟ 1,666 ล้านบาท และดีพีซี จำนวน 633 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบรายได้และค่าใช้จ่ายนี้ยังไม่ได้รวมถึงค่าใช้โครงข่ายของ บมจ.กสทฯ ซึ่งผู้ให้บริการทั้งสองรายอ้างว่าไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ แต่ บมจ.กสทฯ แจ้งว่ามีค่าใช้จ่าย 14,141 ล้านบาท.
http://www.thaipost.net/?q=บีบทรูมูฟ-ดีพีซีจ่ายเยียวยาคลื่น1800
ไม่มีความคิดเห็น: