Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

14 กรกฎาคม 2558 ETDA ได้ใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท ในการนำร่องคัดผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซไทย ซึ่งล้วนเป็นเอสเอ็มอี จำนวน 400 ราย เข้าร่วมโครงการ Green e-Commerce เพื่อเสริมศักยภาพในการเป็นผู้ประกอบการโดย ETDA ได้จับมือกับพันธมิตรที่ทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซชั้นนำของประเทศในการติวเข้มเทคนิคการตลาดออนไลน์

ประเด็นหลัก



   ***เดินหน้าผลักดันเอสเอ็มอีไทยผ่านโครงการ Green e-Commerce
     
       นางสุรางคณา กล่าวว่า ขณะนี้ ETDA ได้ใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท ในการนำร่องคัดผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซไทย ซึ่งล้วนเป็นเอสเอ็มอี จำนวน 400 ราย เข้าร่วมโครงการ Green e-Commerce เพื่อเสริมศักยภาพในการเป็นผู้ประกอบการโดย ETDA ได้จับมือกับพันธมิตรที่ทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซชั้นนำของประเทศในการติวเข้มเทคนิคการตลาดออนไลน์ และสนับสนุนเครื่องมือทางการตลาดออนไลน์ต่างๆ ให้ผู้เข้าร่วมโครงการตลอดระยะเวลา 2 เดือน โดยมั่นใจว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการแล้ว ผู้ประกอบการแต่ละรายจะมียอดขายเพิ่มขึ้น 15%
     
       “ที่ผ่านมา แม้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของไทยจะมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ยังถือว่าเติบโตในอัตราส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับการเติบโตของตัวเลขผู้ใช้อินเทอร์เน็ต สมาร์ทโฟน รวมถึงโซเชียลมีเดียของไทย ซึ่งต้องยอมรับว่า ประเทศไทยยังคงมีอุปสรรคในการพัฒนาอี-คอมเมิร์ซ ไม่ว่าจะเป็น การขาดความรู้ความเข้าใจในการขายสินค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ การขาดทักษะในการทำออนไลน์มาร์เกตติ้ง การขาดพี่เลี้ยงหรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยสนับสนุนการทำธุรกิจอย่างครบวงจร เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังมีปัญหาทางฝั่งผู้ซื้อที่ไม่เชื่อมั่นในการทำธุรกรรมทางออนไลน์ ทำให้การเติบโตของอี-คอมเมิร์ซไทยล่าช้ากว่าหลายประเทศทั้งในภูมิภาคอาเซียน และเอเชีย ETDA จึงเข้ามารับหน้าที่ในการสร้างอี-คอมเมิร์ซของประเทศไทยให้มีความน่าเชื่อถือ ได้มาตรฐาน และมั่นคงปลอดภัย เพื่อเพิ่มทั้งปริมาณ และมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ”










____________________________________




ETDA ชี้ 3 ปีถึงปรับทัศนคติผู้บริหารกระทรวงไอซีทีได้


        ETDA เผยไม่เกินเดือน ส.ค.นี้ พร้อมเริ่มโครงการปรับทัศนคติผู้บริหารกระทรวงไอซีที เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงานกับกระทรวงดีอี ยอมรับทำยาก ด้วยวัฒนธรรมและการทำงานของผู้บริหารแต่ละหน่วยงานต่างกัน ชี้งบ 60 ล้านบาท ทำได้แค่ 6 เดือน ลั่นต้องทำ 3 ปี ถึงจะเปลี่ยนทัศนคติการทำงานได้อย่างยั่งยืน
     
       นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดทำโครงการ บริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management) เพื่อพัฒนาบุคลากรระดับสูงของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที ให้ทำงานภายใต้กระทรวงใหม่ซึ่งกำลังจะเปลี่ยนชื่อเป็นกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ภายในเดือน ต.ค.นี้ ด้วยงบประมาณ 60 ล้านบาทว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติงบประมาณจากกระทรวงไอซีที แต่ทาง ETDA ได้เตรียมแผนงานในการทำโครงการดังกล่าวไว้ทั้งหมดแล้ว ตั้งแต่กระบวนการวิเคราะห์เพื่อวางแผนการดำเนินงาน การกำหนดแผนปฏิบัติการ ทรัพยากรที่ช่วยสนับสนุน การกำหนดทีมเจ้าภาพ การดำเนินงานตามแผนงานที่กำหนดตั้งแต่ระดับปฏิบัติการจนถึงผู้บริหารระดับสูง การพัฒนาศักยภาพเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับทั้งในมิติเนื้อหาทางวิชาการ เศรษฐกิจ เทคโนโลยี ภาวะความเป็นผู้นำ การเสริมสร้างแนวคิดเพื่อให้เป็นหนึ่งเดียว และผลักดันภารกิจขององค์กรไปยังจุดมุ่งหมายร่วมกัน รวมถึงการติดตามและประเมินผล
     
       ทั้งนี้ คาดว่า จะสามารถเริ่มทำโครงการดังกล่าวได้ประมาณเดือน ก.ค. หรือ ส.ค. นี้ โดยภายใต้งบประมาณดังกล่าว และต้องทำในระยะเวลารวดเร็วและให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โครงการนี้จึงได้กำหนดระยะเวลาของโครงการไว้ประมาณ 6 เดือน ซึ่งหากต้องการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และเกิดความต่อเนื่องนั้น ตนเองคิดว่า ต้องทำควบคู่กับการทำงานอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3 ปี เนื่องจากความหลากหลายของข้าราชการระดับสูงที่กำหนดไว้ตั้งแต่ ซี 6-ซี 8 นั้น ต่างก็มีเนื้องานและวัฒนธรรมการทำงานที่แตกต่างกัน รวมถึงจำนวนบุคลากรก็มีจำนวนมากด้วยเช่นกัน จึงไม่สามารถปรับทัศนคติในการทำงานด้วยแผนการอบรมเหมือนกัน หรืออาศัยเพียงห้องประชุมในการอบรม เพียงเท่านั้นได้ แต่การทำโครงการต้องอาศัยเนื้อหาการอบรมที่แตกต่างกัน ต้องมีการออกนอกสถานที่เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และสร้างบุคลิกการทำงานให้แตกต่างจากข้าราชการทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ภายในไม่กี่เดือน
     
       “ตอนแรกกระทรวงก็จะหาองค์กรต่างชาติมาทำ เราเลยขอเสนอตัว เพราะวัฒนธรรมการทำงานของคนไทยกับต่างชาติมีสไตล์ที่แตกต่างกัน และเราก็พิสูจน์มาแล้วในการปรับทัศนคติบุคลากรของหน่วยงานเราเอง จากนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานแบบวิชาการให้มีบุคลิกการทำงานเชิงรุกเหมือนเอกชน ซึ่งกว่าเราจะมีวันนี้ได้เราก็ใช้เวลาอย่างน้อยถึง 3 ปี”
     
       ***เดินหน้าผลักดันเอสเอ็มอีไทยผ่านโครงการ Green e-Commerce
     
       นางสุรางคณา กล่าวว่า ขณะนี้ ETDA ได้ใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท ในการนำร่องคัดผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซไทย ซึ่งล้วนเป็นเอสเอ็มอี จำนวน 400 ราย เข้าร่วมโครงการ Green e-Commerce เพื่อเสริมศักยภาพในการเป็นผู้ประกอบการโดย ETDA ได้จับมือกับพันธมิตรที่ทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซชั้นนำของประเทศในการติวเข้มเทคนิคการตลาดออนไลน์ และสนับสนุนเครื่องมือทางการตลาดออนไลน์ต่างๆ ให้ผู้เข้าร่วมโครงการตลอดระยะเวลา 2 เดือน โดยมั่นใจว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการแล้ว ผู้ประกอบการแต่ละรายจะมียอดขายเพิ่มขึ้น 15%
     
       “ที่ผ่านมา แม้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของไทยจะมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ยังถือว่าเติบโตในอัตราส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับการเติบโตของตัวเลขผู้ใช้อินเทอร์เน็ต สมาร์ทโฟน รวมถึงโซเชียลมีเดียของไทย ซึ่งต้องยอมรับว่า ประเทศไทยยังคงมีอุปสรรคในการพัฒนาอี-คอมเมิร์ซ ไม่ว่าจะเป็น การขาดความรู้ความเข้าใจในการขายสินค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ การขาดทักษะในการทำออนไลน์มาร์เกตติ้ง การขาดพี่เลี้ยงหรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยสนับสนุนการทำธุรกิจอย่างครบวงจร เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังมีปัญหาทางฝั่งผู้ซื้อที่ไม่เชื่อมั่นในการทำธุรกรรมทางออนไลน์ ทำให้การเติบโตของอี-คอมเมิร์ซไทยล่าช้ากว่าหลายประเทศทั้งในภูมิภาคอาเซียน และเอเชีย ETDA จึงเข้ามารับหน้าที่ในการสร้างอี-คอมเมิร์ซของประเทศไทยให้มีความน่าเชื่อถือ ได้มาตรฐาน และมั่นคงปลอดภัย เพื่อเพิ่มทั้งปริมาณ และมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ”

http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9580000074394&utm_source=MadMimi&utm_medium=email&utm_content=Manager+Morning+Brief+2-7-58&utm_campaign=20150701_m126419673_Manager+Morning+Brief+2-7-58&utm_term=ETDA+_E0_B8_8A_E0_B8_B5_E0_B9_89+3+_E0_B8_9B_E0_B8_B5_E0_B8_96_E0_B8_B6_E0_B8_87_E0_B8_9B_E0_B8_A3_E0_B8_B1_E0_B8_9A_E0_B8_97_E0_B8_B1_E0_B8_A8_E0_B8_99_E0_B8_84_E0_B8_95_E0_B8_B4_E0_B8_9C_E0_B8_B9_E0_B9_89_E0_B8_9A_E0_B8_A3_E0_B8_B4_E0_B8_AB_E0_B8_B2_E0_

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.