03 กันยายน 2558 กลุ่มดิจิตอลทีวี 5 ช่อง ประกอบด้วย GMM ONE, GMM chanel, PPTV, THAIRATH TV และ Bright TV ฟ้อง กสทช. 9.5 พันล. เหตุ กสทช.ละเลย ล่าช้า ในการดำเนินการให้มีการเปลี่ยนผ่านระบบการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ เป็นระบบดิจิตอล ละเลยล่าช้าในการควบคุมกำกับดูแลมาตรฐานหรือคุณภาพของกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล การแจกคูปองสนับสนุนประชาชน การขยายโครงข่ายทีวีดิจิตอลและการกำกับดูแลผู้ประกอบการโครงข่ายทีวีดิจิตอล
ประเด็นหลัก
___________________________________
ฟ้อง กสทช. 9.5 พันล. ทีวี-ดิจิตอล 5 ช่องสุดทน เจอข้อมูลมั่ว
นายวศินกล่าวว่า ทั้ง 5 ช่องเห็นว่า กสทช.ละเลย ล่าช้า ในการดำเนินการให้มีการเปลี่ยนผ่านระบบการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ เป็นระบบดิจิตอล ละเลยล่าช้าในการควบคุมกำกับดูแลมาตรฐานหรือคุณภาพของกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล การแจกคูปองสนับสนุนประชาชน การขยายโครงข่ายทีวีดิจิตอลและการกำกับดูแลผู้ประกอบการโครงข่ายทีวีดิจิตอล ให้สามารถขยายโครงข่ายทีวีดิจิตอลได้ทันตามที่กำหนด ไม่ส่งเสริมสนับสนุนประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนรับรู้ หรือมั่นใจในการเปลี่ยนมารับชมทีวีดิจิตอล ละเลยต่อหน้าที่ในการออกกฎเกณฑ์ประกาศ เพื่อส่งเสริมให้มีการแข่งขันทางการค้าในการประกอบการทีวีดิจิตอล
___________________________________
ฟ้อง กสทช. 9.5 พันล. ทีวี-ดิจิตอล 5 ช่องสุดทน เจอข้อมูลมั่ว
ไทยรัฐทีวีผนึกกำลังร่วมกับอีก 4 ช่องทีวีดิจิตอล ยื่นฟ้อง กสทช. จงใจละเมิด ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ด้วยการให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง ไม่สามารถดำเนินการได้จริง จนผู้ประมูลทีวีดิจิตอลสะบักสะบอม อ่วมกันเป็นแถว พร้อมเรียกค่าเสียหาย 9.5 พันล้าน
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. เวลา 15.30 น. ที่สำนักงานศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ กลุ่มดิจิตอลทีวี 5 ช่อง ประกอบด้วย GMM ONE, GMM chanel, PPTV, THAIRATH TV และ Bright TV ซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อการให้บริการ โทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการธุรกิจระดับชาติ นำโดยนายสุขสวัสดิ์ เวทไว และนายวศิน เลิศวไลพงศ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากทั้ง 5 บริษัท ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สำนักงาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-3 ต่อศาลปกครองกลาง ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ กสทช.ปฏิบัติตามกฎหมาย พร้อมเรียกค่าเสียหายของแต่ละสถานีรวมเป็นเงินจำนวน 9,550 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
นายวศินกล่าวว่า ทั้ง 5 ช่องเห็นว่า กสทช.ละเลย ล่าช้า ในการดำเนินการให้มีการเปลี่ยนผ่านระบบการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ เป็นระบบดิจิตอล ละเลยล่าช้าในการควบคุมกำกับดูแลมาตรฐานหรือคุณภาพของกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล การแจกคูปองสนับสนุนประชาชน การขยายโครงข่ายทีวีดิจิตอลและการกำกับดูแลผู้ประกอบการโครงข่ายทีวีดิจิตอล ให้สามารถขยายโครงข่ายทีวีดิจิตอลได้ทันตามที่กำหนด ไม่ส่งเสริมสนับสนุนประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนรับรู้ หรือมั่นใจในการเปลี่ยนมารับชมทีวีดิจิตอล ละเลยต่อหน้าที่ในการออกกฎเกณฑ์ประกาศ เพื่อส่งเสริมให้มีการแข่งขันทางการค้าในการประกอบการทีวีดิจิตอล
“ทั้งหมดทำให้กลุ่มผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลหลงเชื่อและเข้าร่วมในการประมูล โดยหลงผิดในข้อมูลหรือข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญ รวมทั้งยังมีการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แก่ผู้เข้าประมูลว่ากลุ่มทีวีดิจิตอล จะได้รับสิทธิ์การเลือกช่องรายการ หากชนะการประมูลในลำดับสูงสุด ทำให้ผู้ประมูลหลงจ่ายเงินประมูลในราคาที่สูงเกินกว่าความเป็นจริงถือเป็นการละเมิดต่อกลุ่มดิจิตอลทีวี ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมดิจิตอลทีวี ประเทศชาติและประชาชน เพราะคลื่นความถี่เป็นสมบัติสาธารณะของคนทั้งชาติ ประชาชนเสียโอกาสในการเข้าถึงดิจิตอลทีวีและการพัฒนาการแข่งขัน ทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจประเมินเป็นมูลค่าได้”
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประกอบการ จึงได้ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 3 ชำระค่าเสียหายที่ได้กระทำละเมิด ให้แก่ทั้ง 5 บริษัท โดยรวมเป็นเงิน 9,550 ล้านบาท และให้ กสทช.ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย พิจารณาใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย โดยออก มาตรการเยียวยาความเสียหายให้กับผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ซึ่งอาจรวมถึงการใช้อำนาจหน้าที่ในการพิจารณากำหนดหรือเลื่อนการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตการใช้คลื่นความถี่ในงวดที่ 3 เป็นต้นไป
http://www.thairath.co.th/content/520576
ไม่มีความคิดเห็น: