08 ตุลาคม 2555 (เกาะติดประมูล3G) TDRI หนุนรัฐเดินหน้าประมูล 3G ต่อ ( แต่ กสทช.กลับไม่ต้องการให้มีการแข่งขันในการประมูล )
(เกาะติดประมูล3G) TDRI หนุนรัฐเดินหน้าประมูล 3G ต่อ ( แต่ กสทช.กลับไม่ต้องการให้มีการแข่งขันในการประมูล )
ประเด็นหลัก
นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ฟ้องร้องศาลปกครองสั่งให้ กสทช. ระงับการประมูล 3G ในวันที่ 16 ต.ค.ที่จะถึงนี้ว่า ไม่น่าจะมีเหตุผลที่เพียงพอในการฟ้องร้องให้ระงับการประมูล 3G หรือเลื่อนออกไปอีก เพราะประเด็นต่างๆ ที่มีการหยิบยกขึ้นมา สามารถใช้เครื่องมือในการกำกับดูแลต่างๆ ของ กสทช. ที่มีอยู่ เช่น การกำกับดูแลค่าบริการ และการกำหนดมาตรฐานคุณภาพบริการ ในการคุ้มครองผู้บริโภคได้อยู่แล้ว นอกจากนี้ การชะลอการประมูล 3G ออกไปจะทำให้ประเทศไทยมีบริการ 3G ใช้ล่าช้ากว่าประเทศอื่นต่อไปอีก
“ผม เห็นด้วยว่า การกำหนดหลักเกณฑ์การประมูล 3G ของ กสทช. ครั้งนี้ อาจจะเป็นการเอื้อให้ผู้ให้บริการทั้งสามราย สามารถเสนอราคาที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เพราะเงื่อนไขของการประมูลแทบจะไม่ทำให้เกิดการแข่งขันเลย เหมือนจัดคน 3 คนมาเล่นเก้าอี้ดนตรี 3 ตัว ดังนั้น หากจะมีประมูล 3G ผมก็เห็นด้วยว่า ควรดำเนินการต่อไป แต่ขณะเดียวกัน กสทช.ก็ต้องหาคำตอบกับสังคมให้ได้ หากการประมูลครั้งนี้รัฐได้รายได้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นเป็นหมื่นล้านบาท”
"เป็น เรื่องแปลกมากที่ผู้ประกอบการต่างพูดว่าพร้อมจะจ่ายค่าประมูลคลื่นความถี่ สูงกว่า ที่กสทช. กำหนด เช่น มีรายหนึ่งบอกว่าพร้อมจะจ่าย 1.5-2.0 หมื่นล้านบาท แต่ กสทช.กลับไม่ต้องการให้มีการแข่งขันในการประมูล ดูเหมือนจงใจเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการ"นายสมเกียรติ กล่าว
________________________________________
TDRI หนุนรัฐเดินหน้าประมูล 3G ต่อ แต่ต้องรับผิดชอบหากทำรัฐเสียประโยชน์
นาย สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงกรณีมีผู้เตรียมฟ้องร้องศาลปกครองให้มีคำสั่งคณะกรรมการกิจการวิทยุ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ระงับการประมูลใบอนุญาต 3G ว่า ไม่น่าจะมีเหตุผลที่เพียงพอในการฟ้องร้องให้ระงับการประมูล 3G ออกไปอีก เพราะประเด็นต่างๆ ที่มีการหยิบยกขึ้นมา สามารถใช้เครื่องมือในการกำกับดูแลต่างๆ ของ กสทช.ที่มีอยู่ เช่น การกำกับดูแลค่าบริการ และการกำหนดมาตรฐานคุณภาพบริการในการคุ้มครองผู้บริโภคได้อยู่แล้ว นอกจากนี้ การชะลอการประมูล 3G ออกไปจะทำให้ประเทศไทยมีบริการ 3G ใช้ล่าช้ากว่าประเทศอื่นต่อไปอีก
“โดยสรุป ผมเห็นว่าการประมูลควรจะเดินหน้าต่อไป แต่ผมขอถามว่า กสทช. จะรับผิดชอบอย่างไร หากผลการประมูลออกมาอย่างที่คาด คือทำให้รัฐเสียประโยชน์เป็นหมื่นล้านบาท"นายสมเกียรติ กล่าว
เนื่อง จากการกำหนดหลักเกณฑ์การประมูล 3G ของ กสทช. ครั้งนี้ เป็นการเอื้อให้ผู้ให้บริการทั้ง 3 ราย สามารถเสนอราคาที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เพราะเงื่อนไขของการประมูลแทบจะไม่ทำให้เกิดการแข่งขันเลย เหมือนจัดคน 3 คนมาเล่นเก้าอี้ดนตรี 3 ตัว ทั้งนี้ หากผลการประมูลได้ราคาใกล้เคียงกับราคาประมูลตั้งต้น รัฐและประชาชนในฐานะผู้เสียภาษี ก็จะเสียหายประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท เมื่อคิดจากราคาประเมินของ กสทช. เอง ส่วนประชาชนในฐานะผู้บริโภคนั้นไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากราคาค่าประมูลอยู่ แล้ว เพราะค่าประมูลเป็นส่วนที่ไปหักมาจากกำไรของผู้ประกอบการ ต่อให้ผู้ประกอบการได้คลื่นความถี่ไปฟรี ก็ยังจะคิดค่าบริการจากผู้บริโภคในอัตราที่ทำกำไรสูงสุดนั่นเอง
"เป็น เรื่องแปลกมากที่ผู้ประกอบการต่างพูดว่าพร้อมจะจ่ายค่าประมูลคลื่นความถี่ สูงกว่า ที่กสทช. กำหนด เช่น มีรายหนึ่งบอกว่าพร้อมจะจ่าย 1.5-2.0 หมื่นล้านบาท แต่ กสทช.กลับไม่ต้องการให้มีการแข่งขันในการประมูล ดูเหมือนจงใจเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการ"นายสมเกียรติ กล่าว
--อินโฟเควสท์
http://www.ryt9.com/s/iq03/1504673
____________________________________
ปธ.ทีดีอาร์ไอหนุนลุยประมูล 3 จี ชี้ไร้เหตุผลฟ้องระงับ
"สม เกียรติ" ระบุฟ้องล้ม 3 จี ไม่น่าเป็นผล หนุน กสทช.เดินหน้าประมูลต่อตามกำหนดเดิม แต่ติงราคาตั้งต้นต่ำกว่าที่ควรเป็น จี้ กสทช.เตรียมคำตอบหากรายได้จากการประมูลครั้งนี้ต่ำกว่าที่ควร...
เมื่อ วันที่ 8 ต.ค. นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ฟ้องร้องศาลปกครองสั่งให้ กสทช. ระงับการประมูล 3G ในวันที่ 16 ต.ค.ที่จะถึงนี้ว่า ไม่น่าจะมีเหตุผลที่เพียงพอในการฟ้องร้องให้ระงับการประมูล 3G หรือเลื่อนออกไปอีก เพราะประเด็นต่างๆ ที่มีการหยิบยกขึ้นมา สามารถใช้เครื่องมือในการกำกับดูแลต่างๆ ของ กสทช. ที่มีอยู่ เช่น การกำกับดูแลค่าบริการ และการกำหนดมาตรฐานคุณภาพบริการ ในการคุ้มครองผู้บริโภคได้อยู่แล้ว นอกจากนี้ การชะลอการประมูล 3G ออกไปจะทำให้ประเทศไทยมีบริการ 3G ใช้ล่าช้ากว่าประเทศอื่นต่อไปอีก
“ผม เห็นด้วยว่า การกำหนดหลักเกณฑ์การประมูล 3G ของ กสทช. ครั้งนี้ อาจจะเป็นการเอื้อให้ผู้ให้บริการทั้งสามราย สามารถเสนอราคาที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เพราะเงื่อนไขของการประมูลแทบจะไม่ทำให้เกิดการแข่งขันเลย เหมือนจัดคน 3 คนมาเล่นเก้าอี้ดนตรี 3 ตัว ดังนั้น หากจะมีประมูล 3G ผมก็เห็นด้วยว่า ควรดำเนินการต่อไป แต่ขณะเดียวกัน กสทช.ก็ต้องหาคำตอบกับสังคมให้ได้ หากการประมูลครั้งนี้รัฐได้รายได้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นเป็นหมื่นล้านบาท”
นาย สมเกียรติ กล่าวต่อว่า หากผลการประมูลได้ราคาใกล้เคียงกับราคาประมูลตั้งต้น รัฐและประชาชนในฐานะผู้เสียภาษี ก็จะเสียหายประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท เมื่อคิดจากราคาประเมินของ กสทช. เอง ซึ่งสำหรับประชาชนในฐานะผู้บริโภคนั้นไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากราคาค่าประมูล อยู่แล้ว เพราะค่าประมูลเป็นส่วนที่ไปหักมาจากกำไรของผู้ประกอบการ ต่อให้ผู้ประกอบการได้คลื่นความถี่ไปฟรี ก็ยังจะคิดค่าบริการจากผู้บริโภคในอัตราที่ทำกำไรสูงสุดนั่นเอง
“วิธี เดียวที่จะทำให้การประมูลได้ราคาสูงกว่าที่เป็นอยู่ก็คือ กสทช. ต้องไปอ้อนวอนขอร้องผู้เข้าประมูลให้ประมูลสูงขึ้นบ้าง เพื่อไม่ให้ผลการประมูลออกมาน่าเกลียดจนประจานตัวเองมากเกินไป ซึ่งประเด็นนี้ผมเห็นว่าเป็นเรื่องแปลกมาก เพราะผู้ประกอบการต่างพูดว่าพร้อมจะจ่ายค่าประมูลคลื่นความถี่สูงกว่าที่ กสทช. กำหนด เช่น มีรายหนึ่งบอกว่าพร้อมจะจ่าย 1.5 - 2.0 หมื่นล้านบาท แต่ กสทช. กลับไม่ต้องการให้มีการแข่งขันในการประมูล ดูเหมือนจงใจเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการ”
ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/tech/296955
ประเด็นหลัก
นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ฟ้องร้องศาลปกครองสั่งให้ กสทช. ระงับการประมูล 3G ในวันที่ 16 ต.ค.ที่จะถึงนี้ว่า ไม่น่าจะมีเหตุผลที่เพียงพอในการฟ้องร้องให้ระงับการประมูล 3G หรือเลื่อนออกไปอีก เพราะประเด็นต่างๆ ที่มีการหยิบยกขึ้นมา สามารถใช้เครื่องมือในการกำกับดูแลต่างๆ ของ กสทช. ที่มีอยู่ เช่น การกำกับดูแลค่าบริการ และการกำหนดมาตรฐานคุณภาพบริการ ในการคุ้มครองผู้บริโภคได้อยู่แล้ว นอกจากนี้ การชะลอการประมูล 3G ออกไปจะทำให้ประเทศไทยมีบริการ 3G ใช้ล่าช้ากว่าประเทศอื่นต่อไปอีก
“ผม เห็นด้วยว่า การกำหนดหลักเกณฑ์การประมูล 3G ของ กสทช. ครั้งนี้ อาจจะเป็นการเอื้อให้ผู้ให้บริการทั้งสามราย สามารถเสนอราคาที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เพราะเงื่อนไขของการประมูลแทบจะไม่ทำให้เกิดการแข่งขันเลย เหมือนจัดคน 3 คนมาเล่นเก้าอี้ดนตรี 3 ตัว ดังนั้น หากจะมีประมูล 3G ผมก็เห็นด้วยว่า ควรดำเนินการต่อไป แต่ขณะเดียวกัน กสทช.ก็ต้องหาคำตอบกับสังคมให้ได้ หากการประมูลครั้งนี้รัฐได้รายได้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นเป็นหมื่นล้านบาท”
"เป็น เรื่องแปลกมากที่ผู้ประกอบการต่างพูดว่าพร้อมจะจ่ายค่าประมูลคลื่นความถี่ สูงกว่า ที่กสทช. กำหนด เช่น มีรายหนึ่งบอกว่าพร้อมจะจ่าย 1.5-2.0 หมื่นล้านบาท แต่ กสทช.กลับไม่ต้องการให้มีการแข่งขันในการประมูล ดูเหมือนจงใจเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการ"นายสมเกียรติ กล่าว
________________________________________
TDRI หนุนรัฐเดินหน้าประมูล 3G ต่อ แต่ต้องรับผิดชอบหากทำรัฐเสียประโยชน์
นาย สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงกรณีมีผู้เตรียมฟ้องร้องศาลปกครองให้มีคำสั่งคณะกรรมการกิจการวิทยุ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ระงับการประมูลใบอนุญาต 3G ว่า ไม่น่าจะมีเหตุผลที่เพียงพอในการฟ้องร้องให้ระงับการประมูล 3G ออกไปอีก เพราะประเด็นต่างๆ ที่มีการหยิบยกขึ้นมา สามารถใช้เครื่องมือในการกำกับดูแลต่างๆ ของ กสทช.ที่มีอยู่ เช่น การกำกับดูแลค่าบริการ และการกำหนดมาตรฐานคุณภาพบริการในการคุ้มครองผู้บริโภคได้อยู่แล้ว นอกจากนี้ การชะลอการประมูล 3G ออกไปจะทำให้ประเทศไทยมีบริการ 3G ใช้ล่าช้ากว่าประเทศอื่นต่อไปอีก
“โดยสรุป ผมเห็นว่าการประมูลควรจะเดินหน้าต่อไป แต่ผมขอถามว่า กสทช. จะรับผิดชอบอย่างไร หากผลการประมูลออกมาอย่างที่คาด คือทำให้รัฐเสียประโยชน์เป็นหมื่นล้านบาท"นายสมเกียรติ กล่าว
เนื่อง จากการกำหนดหลักเกณฑ์การประมูล 3G ของ กสทช. ครั้งนี้ เป็นการเอื้อให้ผู้ให้บริการทั้ง 3 ราย สามารถเสนอราคาที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เพราะเงื่อนไขของการประมูลแทบจะไม่ทำให้เกิดการแข่งขันเลย เหมือนจัดคน 3 คนมาเล่นเก้าอี้ดนตรี 3 ตัว ทั้งนี้ หากผลการประมูลได้ราคาใกล้เคียงกับราคาประมูลตั้งต้น รัฐและประชาชนในฐานะผู้เสียภาษี ก็จะเสียหายประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท เมื่อคิดจากราคาประเมินของ กสทช. เอง ส่วนประชาชนในฐานะผู้บริโภคนั้นไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากราคาค่าประมูลอยู่ แล้ว เพราะค่าประมูลเป็นส่วนที่ไปหักมาจากกำไรของผู้ประกอบการ ต่อให้ผู้ประกอบการได้คลื่นความถี่ไปฟรี ก็ยังจะคิดค่าบริการจากผู้บริโภคในอัตราที่ทำกำไรสูงสุดนั่นเอง
"เป็น เรื่องแปลกมากที่ผู้ประกอบการต่างพูดว่าพร้อมจะจ่ายค่าประมูลคลื่นความถี่ สูงกว่า ที่กสทช. กำหนด เช่น มีรายหนึ่งบอกว่าพร้อมจะจ่าย 1.5-2.0 หมื่นล้านบาท แต่ กสทช.กลับไม่ต้องการให้มีการแข่งขันในการประมูล ดูเหมือนจงใจเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการ"นายสมเกียรติ กล่าว
--อินโฟเควสท์
http://www.ryt9.com/s/iq03/1504673
____________________________________
ปธ.ทีดีอาร์ไอหนุนลุยประมูล 3 จี ชี้ไร้เหตุผลฟ้องระงับ
"สม เกียรติ" ระบุฟ้องล้ม 3 จี ไม่น่าเป็นผล หนุน กสทช.เดินหน้าประมูลต่อตามกำหนดเดิม แต่ติงราคาตั้งต้นต่ำกว่าที่ควรเป็น จี้ กสทช.เตรียมคำตอบหากรายได้จากการประมูลครั้งนี้ต่ำกว่าที่ควร...
เมื่อ วันที่ 8 ต.ค. นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ฟ้องร้องศาลปกครองสั่งให้ กสทช. ระงับการประมูล 3G ในวันที่ 16 ต.ค.ที่จะถึงนี้ว่า ไม่น่าจะมีเหตุผลที่เพียงพอในการฟ้องร้องให้ระงับการประมูล 3G หรือเลื่อนออกไปอีก เพราะประเด็นต่างๆ ที่มีการหยิบยกขึ้นมา สามารถใช้เครื่องมือในการกำกับดูแลต่างๆ ของ กสทช. ที่มีอยู่ เช่น การกำกับดูแลค่าบริการ และการกำหนดมาตรฐานคุณภาพบริการ ในการคุ้มครองผู้บริโภคได้อยู่แล้ว นอกจากนี้ การชะลอการประมูล 3G ออกไปจะทำให้ประเทศไทยมีบริการ 3G ใช้ล่าช้ากว่าประเทศอื่นต่อไปอีก
“ผม เห็นด้วยว่า การกำหนดหลักเกณฑ์การประมูล 3G ของ กสทช. ครั้งนี้ อาจจะเป็นการเอื้อให้ผู้ให้บริการทั้งสามราย สามารถเสนอราคาที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เพราะเงื่อนไขของการประมูลแทบจะไม่ทำให้เกิดการแข่งขันเลย เหมือนจัดคน 3 คนมาเล่นเก้าอี้ดนตรี 3 ตัว ดังนั้น หากจะมีประมูล 3G ผมก็เห็นด้วยว่า ควรดำเนินการต่อไป แต่ขณะเดียวกัน กสทช.ก็ต้องหาคำตอบกับสังคมให้ได้ หากการประมูลครั้งนี้รัฐได้รายได้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นเป็นหมื่นล้านบาท”
นาย สมเกียรติ กล่าวต่อว่า หากผลการประมูลได้ราคาใกล้เคียงกับราคาประมูลตั้งต้น รัฐและประชาชนในฐานะผู้เสียภาษี ก็จะเสียหายประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท เมื่อคิดจากราคาประเมินของ กสทช. เอง ซึ่งสำหรับประชาชนในฐานะผู้บริโภคนั้นไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากราคาค่าประมูล อยู่แล้ว เพราะค่าประมูลเป็นส่วนที่ไปหักมาจากกำไรของผู้ประกอบการ ต่อให้ผู้ประกอบการได้คลื่นความถี่ไปฟรี ก็ยังจะคิดค่าบริการจากผู้บริโภคในอัตราที่ทำกำไรสูงสุดนั่นเอง
“วิธี เดียวที่จะทำให้การประมูลได้ราคาสูงกว่าที่เป็นอยู่ก็คือ กสทช. ต้องไปอ้อนวอนขอร้องผู้เข้าประมูลให้ประมูลสูงขึ้นบ้าง เพื่อไม่ให้ผลการประมูลออกมาน่าเกลียดจนประจานตัวเองมากเกินไป ซึ่งประเด็นนี้ผมเห็นว่าเป็นเรื่องแปลกมาก เพราะผู้ประกอบการต่างพูดว่าพร้อมจะจ่ายค่าประมูลคลื่นความถี่สูงกว่าที่ กสทช. กำหนด เช่น มีรายหนึ่งบอกว่าพร้อมจะจ่าย 1.5 - 2.0 หมื่นล้านบาท แต่ กสทช. กลับไม่ต้องการให้มีการแข่งขันในการประมูล ดูเหมือนจงใจเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการ”
ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/tech/296955
ไม่มีความคิดเห็น: