11 ตุลาคม 2555 (เกาะติดประมูล3G) 17.00น.ศาลปกครองได้ออกนั่งบัลลังก์อีกครั้ง เสร็จแล้วจะแจ้งแจ้งคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายในภายหลัง
ประเด็นหลัก
ศาลปกครองกลาง ได้ออกนั่งบัลลังก์ ไต่สวนฉุกเฉินในคดีที่ นายอนุภาพ ถิรลาภ นักวิชาการอิสระ ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ขอให้มีคำพิพากษาสั่งให้ กสทช. ยุติการจัดสรรความถี่วิทยุสำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลย่าน 2.1GHz ไว้ก่อนจนกว่าจะได้มีการจัดทำประกาศ ระเบียบ หรือ มติใดตามกฎหมาย ที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 47 และตัวแบบเงื่อนไขในการจัดสรรคลื่นความถี่ ในข้อ 2 จะแล้วเสร็จ เพื่อพิจารณาว่า จะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาคือ ให้ กสทช.ระงับการประมูลคลื่น 3 จี ในวันที่ 16 ต.ค.นี้ ไว้ก่อนจนกว่าจะมีการแก้ไขประกาศ ระเบียบ ตามที่ นายอนุภาพ มีคำร้องขอหรือไม่ และจะมีคำสั่งรับคำฟ้องดังกล่าวไว้พิจารณาพิพากษาหรือไม่
ต่อมาเวลา 17.00น. ศาลได้ออกนั่งบัลลังก์อีกครั้ง เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายลงนาม ยืนยันคำให้การ ก่อนแจ้งให้ทราบว่า ศาลจะรับเรื่องไว้พิจารณาว่า จะมีคำสั่งรับฟ้องหรือไม่ และจะคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ แล้วจะแจ้งให้ทราบต่อไปภายหลัง ขณะที่นายสุทธิพล กล่าวว่า ถ้าถึงวันที่ 16ต.ค.แล้ว ศาลยังไม่มีคำสั่งใดอออกมา กสทช.ก็จะเดินหน้าประมูลคลื่นความถี่ 3จี ตามกำหมดต่อไป.
________________________________
ศาลปกครองไต่สวนคดี '3 จี' เสร็จแล้ว คุ้มครองหรือไม่แจ้งคู่กรณีภายหลัง
ศาลปกครองไต่สวน คดี 3 จี เสร็จแล้ว เตรียมพิจารณา แจ้งคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายในภายหลัง จะรับคำฟ้อง และมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ ด้าน กสทช. ยัน หากวันที่ 16 ต.ค. ยังไม่มีคำสั่ง เตรียมเดินหน้าประมูล 3จีต่อ
วันที่ 11 ต.ค. ศาลปกครองกลาง ได้ออกนั่งบัลลังก์ ไต่สวนฉุกเฉินในคดีที่ นายอนุภาพ ถิรลาภ นักวิชาการอิสระ ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ขอให้มีคำพิพากษาสั่งให้ กสทช. ยุติการจัดสรรความถี่วิทยุสำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลย่าน 2.1GHz ไว้ก่อนจนกว่าจะได้มีการจัดทำประกาศ ระเบียบ หรือ มติใดตามกฎหมาย ที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 47 และตัวแบบเงื่อนไขในการจัดสรรคลื่นความถี่ ในข้อ 2 จะแล้วเสร็จ เพื่อพิจารณาว่า จะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาคือ ให้ กสทช.ระงับการประมูลคลื่น 3 จี ในวันที่ 16 ต.ค.นี้ ไว้ก่อนจนกว่าจะมีการแก้ไขประกาศ ระเบียบ ตามที่ นายอนุภาพ มีคำร้องขอหรือไม่ และจะมีคำสั่งรับคำฟ้องดังกล่าวไว้พิจารณาพิพากษาหรือไม่
โดยในส่วนของผู้ร้องมีนายอนุภาพ เดินทางมาให้ถ้อยคำเพียงคนเดียว ขณะที่ กสทช.ได้มอบให้นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กสทช.ด้านกฎหมาย นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ กรรมการ กสทช. นายชัยยุทธ มังศรี ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายสำนักงาน กสทช. เป็นผู้มาชี้แจง
ทั้งนี้ ก่อนการไต่สวน นายอนุภาพ กล่าวว่า จะนำเสนอให้ศาลฯ เห็นว่า ควรที่ศาลจะสั่งให้ยุติการประมูลไว้ก่อนแล้วให้ กสทช.ไปแก้ไขประกาศ หรือระเบียบต่างๆ ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนเสียก่อน อย่างในเรื่องเพดานราคาขั้นสูง คุณภาพการบริการที่จะต้องไม่มีสัญญาณล่ม พื้นที่การให้บริการ ก็ไม่ได้เขียนเป็นหลักประกันให้กับประชาชน ซึ่งข้อเท็จจริงตามในภาคผนวกของหลักเกณฑ์การประมูลก็เปิดช่องให้ กสทช. สามารถแก้ไขระเบียบต่างๆ ได้ หากจะทำจริงเชื่อว่า 2 วัน ก็เสร็จแล้ว สามารถเดินหน้าประมูลต่อไป
ส่วนที่ กสทช.อ้างว่าให้ประมูลไปก่อนแล้วจึงค่อยแก้ไขระเบียบภายหลัง ก็จะนำเสนอให้ศาลเห็นว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะขนาดศาลมีคำสั่งให้ กสทช.ดำเนินการบังคับตามกฎหมายในคดีสัญญามาตรฐานไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภคที่ใช้โทรศัพท์มือถือชนิดเติมเงินแล้ว เวลาผ่านไป 6 ปี กสทช.ก็กลับไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย นอกจากใช้วิธีการประวิงเวลาด้วยการยื่นอุทธรณ์ ตนไม่ใช่หน้าใหม่ของวงการนี้ ความเคลื่อนไหวทุกอย่าง สามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว การมายื่นร้องต่อศาลเป็นการใช้สิทธิ์ในฐานะประชาชน ซึ่งหาก กสทช.เห็นว่าเสียหายก็สามารถดำเนินการฟ้องได้เลย แต่การเป็นเจ้าหน้าที่รัฐออกมากล่าวในลักษณะนี้ จะถือเป็นการข่มขู่หรือไม่ และเหมาะสมหรือไม่
ด้านนายสุทธิพล กล่าวว่า วันนี้ได้นำพยานหลักฐานเข้าชี้แจงครบอย่างถ้วนทุกประเด็น ซึ่งก็ไม่ประมาท รวมทั้งมีตัวเลขความเสียหายที่จะเกิดขึ้น หากมีการชะลอการประมูลออกไป หากเรื่องนี้ชะลอ ออกไปจะส่งผลเสียหายเนื่องจากจะถูกผู้ประกอบการฟ้อง ซึ่ง กสทช. ยืนอยู่ตรงกลาง ที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน การฟ้องคดีต่อศาลปกครองบางครั้งต้องศึกษาให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้การใช้สิทธิ์ ไปกระทบผลต่อประโยชน์ประเทศชาติ และประชาชน ยืนยันว่า กฎเกณฑ์ที่ กสทช.กำหนดในการประมูลเป็นธรรมและพิจารณาอย่างรอบครอบดีแล้ว
“ขณะนี้ กสทช.ก็มีพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน ที่จะใช้ป้องกันผลประโยชน์ของประเทศ และเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้ถูกรังแก ทั้งนี้ยอมรับ มีขบวนการที่ต้องล้มการประมูล 3 จี โดยทำกันเป็นระบบ เริ่มจากนักวิชาการ อย่างไรก็ตาม การมาตรการทางปกครองมีเพื่อป้องกันประชาชนไม่ให้ถูกรักแก ไม่ใช่นำมาใช้กลั่นแกล้วเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง” นายสุทธิพล กล่าว
ภายหลังการไต่สวนนานกว่า 2 ชั่วโมง ศาลได้สั่งพักการไต่สวนโดย นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กสทช. ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ได้ชี้แจงต่อศาลถึงความถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย ว่าหาก กสทช. ทำตามที่ผู้ร้องต้องการจะกลายเป็นการทำผิดขั้นตอนตามกฎหมายเสียเอง เนื่องจากการกำหนดอัตราค่าบริการขั้นสูงของค่าบริการล่วงหน้า จะคำนวณได้เมื่อทราบผู้ชนะประมูล เพราะขึ้นกับต้นทุนของการประมูลและการลงทุน ทั้งนี้มีกำหนดไว้ชัดเจนแล้วว่าการกำหนดอัตราดังกล่าวต้องเป็นธรรมระหว่าง ผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ และการออกประกาศดังกล่าวยังต้องผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะด้วย
นายสุทธิพล กล่าวอีกว่า ตนยังชี้ให้ศาลเห็นว่า ผู้ฟ้องคดีไม่ใช่ผู้เดือดร้อนเสียหายตามความหมายของพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ เพราะไม่ใช่ผู้เข้าร่วมประมูล รวมถึงมีความไม่สุจริต เนื่องจากเป็นผู้มีความรู้ทางโทรคมนาคมและเชี่ยวชาญทางกฎหมาย โดยเคยฟ้องคดีเกี่ยวกับโทรคมนาคมต่อศาลปกครองมาแล้ว ซึ่งเมื่อรู้ทั้งกฎหมายและเทคนิคแล้ว ยังจะมาบังคับให้ กสทช. ทำผิดกฎหมาย จึงถือเป็นการใช้สิทธิ์โดยไม่สุจริต “ที่บอกกับศาลแบบนี้ไม่ใช่เพื่อปรักปรำ โกรธแค้นผู้ร้อง หรือโยงว่าผู้ร้องมีผลประโยชน์กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการประมูลรายใด แต่ต้องการชี้ว่าเป็นการร้องที่ไม่มีมูลเหตุตามกฎหมาย ใครจะฟ้องร้องอะไรควรศึกษากฎหมายให้รอบคอบ เพราะอาจมีผลเสียหายต่อส่วนรวม และยากจะชี้ว่าใครจะต้องมารับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่ายังจะมีการร้องแบบนี้อีกหลายกรณี อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า มีขบวนการจ้องล้มการประมูล แต่ไม่ทันไรก็มีการฟ้อง 2, 3 คดีแล้ว และเชื่อว่าจะมีคดีที่ 4 ตามมา จึงอยากทำให้คดีนี้เป็นตัวอย่างเพราะเราไม่ต้องการปล่อยให้ขบวนการเหล่านี้มาทำลายประเทศ”
นายสุทธิพล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนยังเปิดเผยตัวเลขความเสียหายที่ได้แจ้งต่อศาล หากมีการชะลอการประมูลครั้งนี้ออกไปว่า จากตัวเลขในบทความทางวิชาการที่นักวิชาการสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เคยศึกษาถึงผลเสียหายทางเศรษฐกิจของประเทศไทย จากการประมูล 3 จีที่ล่าช้ามาแล้ว 2 ปี เป็นตัวเลข 153,900 ล้านบาท เฉลี่ยที่วันละ 210 ล้านบาท “ถ้าต้องชะลอการประมูลออกไป ลำพังขั้นตอนการจัดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ และขั้นตอนเตรียมการประมูลหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งต้องเริ่มทำใหม่หมดก็เป็นเวลาประมาณ 8 เดือน คิดเป็นความเสียหายทางเศรษฐกิจราว 51,300 ล้านบาท ซึ่งต้องไปบวกกับเวลาที่ต้องรอคดียุติในชั้นศาลอีกวันละ 210 ล้านบาท ที่คนไทยประเทศอไทยต้องรับความเสียหายเหล่านี้ไป”
ต่อมาเวลา 17.00น. ศาลได้ออกนั่งบัลลังก์อีกครั้ง เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายลงนาม ยืนยันคำให้การ ก่อนแจ้งให้ทราบว่า ศาลจะรับเรื่องไว้พิจารณาว่า จะมีคำสั่งรับฟ้องหรือไม่ และจะคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ แล้วจะแจ้งให้ทราบต่อไปภายหลัง ขณะที่นายสุทธิพล กล่าวว่า ถ้าถึงวันที่ 16ต.ค.แล้ว ศาลยังไม่มีคำสั่งใดอออกมา กสทช.ก็จะเดินหน้าประมูลคลื่นความถี่ 3จี ตามกำหมดต่อไป.
ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/pol/297861
________________________________
ศาลปกครองยังไม่ฟันธงรับคำร้อง 3G หรือไม่ ขอนำข้อมูลเข้าองค์คณะใหญ่ก่อน
นายอนุภาพ ถิรลาภ นักวิชาการอิสระ ด้านโทรคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ศาลปกครองกลางยังไม่มีคำสั่งว่าจะรับคำร้องให้คณะกรรมการกิจการการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)แก้ไขหลักเกณฑ์การประมูลใบอนุญาต 3G ไว้พิจารณาหรือไม่ หลังจากเสร็จสิ้นการไต่สวนคู่ความในวันนี้แล้ว โดยศาลฯ ระบุว่าขอนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดเข้าสู่ที่ประชุมองค์คณะตุลาการก่อน แต่ยืนยันว่าจะดำเนินการโดยเร็ว
"ยังไม่ได้ข้อสรุปวันนี้ ศาลขอนำข้อเท็จจริงเข้าที่ประชุมองค์คณะก่อน เพื่อพิจารณาใน 2 ประเด็นว่าจะรับฟัองหรือไม่ และจะคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่"นายอนุภาพ กล่าว
พร้อมระบุว่า วันนี้ศาลปกครองบอกว่าได้รับข้อเท็จจริงที่เพียงพอจากทั้งฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้องแล้ว โดยจะนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดเข้าสู่ที่ประชุมองค์คณะตุลาการศาลปกครองก่อนและจะเร่งดำเนินการโดยเร็ว ซึ่งหากศาลฯ มีคำสั่งออกมาแล้วจะแจ้งไปยังคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายให้รับทราบในทันที
ด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กสทช.ว่า ตราบใดที่ยังไม่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ระงับการเปิดประมูล 3G กสทช.ก็จะเดินหน้าจัดการประมูล 3G ตามขั้นตอนที่ได้วางไว้คือในวันที่ 16 ต.ค.55
และวันนี้ศาลปกครองได้แจ้งให้ทราบแล้วว่าได้รับทราบข้อมูลที่เพียงพอ ซึ่งหากมีคำสั่งจะแจ้งให้คู่ความได้ทราบโดยทันที ส่วนจะให้คาดการณ์ว่าจะรู้ผลคำตัดสินเมื่อใดนั้น นายสุทธิพล เชื่อว่าศาลฯ ได้รับทราบกำหนดการที่จะเปิดประมูลในวันที่ 16 ต.ค.แล้ว ดังนั้น จึงเชื่อว่าต้องเร่งดำเนินการให้ทันแน่นอน
--อินโฟเควสท์
http://www.ryt9.com/s/iq05/1507346
______________________________________
ศาลปกครองยังไม่มีคำสั่งกรณี 3จี กสทช.เดินหน้าประมูลต่อ
ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2555 17:58:00 น.
เย็นวันที่ 11 ตุลาคม ที่สำนักงานศาลปกครอง นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กสทช. กล่าวภายหลังจากการไต่สวน โดยยืนยันว่า ได้นำประสบการณ์จากการถูกฟ้องระงับการประมูลเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มาไตร่ตรอง ออกเป็นประกาศอย่างถี่ถ้วนแล้ว และหากทำตามผู้ร้อง โดยมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ?ก็เหมือนเป็?นการบังคับให้ กสทช. ทำผิดกฎหมาย ?เพราะ 1 ในคำร้องที่ขอให้ กสทช. กำหนดอัตราขั้นสูงไว้ล่วงหน้านั้น เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากตามขั้นตอน ต้องรอผู้ชนะการประมูลก่อนจะศึกษาและคำนวณออกมาเป็นอัตราขั้นสูง จากนั้นจะต้องมี การรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ก่อนออกประกาศ
ทั้งนี้หากศาลมีตำสั่งคุ้มครองชั่วคราว กระบวนการประมูลใบอนุญาต 3 จี ก็จะต้องหยุดชะงัก จนกว่ากระบวนการพิจารณาจะแล้วเสร็จ พร้อมยกตัวอย่างว่า หากใช้เวลา 8 เดือนจะเกิดความเสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท หรือหากเป็น 1 ปีจะเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 7 หมื่นล้านบาท ?ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น กสทช.จะพิจารณาอีกครั้งว่า จะอุทธรณ์หรือไม่ นอกจากนี้ยังให้การต่อศาลไปด้วยว่า นายอนุภาพ ใช้สิทธิ์ฟ้องร้องโดยไม่สมควร เนื่องจากไม่ใช่ผู้เสียหายตรง อีกทั้งเป็นคนในวงการโทรคมนาคมที่ทราบกฎหมายเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว
“ขณะนี้ศาลยังไม่มีคำสั่งใดๆ กสทช.จึงยังเดินหน้าการประมูลใบอนุญาตเครือข่าย 3 จีได้ตามกำหนดการ ในวันที่ 16 ต.ค. จนกว่าศาลจะมีคำสั่งออกมา ทั้งนี้ศาลได้ระบุว่า จากการไต่สวนได้ข้อมูล หลักฐานเพียงพอแล้ว ส่วนตัวเชื่อมั่นในกระบวนการและความยุติธรรมของศาล โดยศาลระบุว่า จะเร่งดำเนินการพิจารณาโดยเร็ว เพราะทางกสทช.ได้แจ้งยังศาลถึงกรอบระยะเวลาว่าจะมีการประมูลในวันที่ 16 ?ต.ค.นี้” นายสุทธิพลกล่าว
ด้าน นายอนุภาพ ถิรลาภ นักวิชาการอิสระด้านโทรคมนาคม กล่าวภายหลังการเข้าให้การไต่สวนแล้วเสร็จว่า เบื้องต้นสรุปว่าศาลได้ข้อเท็จจริงจากคู่กรณี ทั้ง 2 ฝ่ายครบถ้วนแล้ว โดยหลังจากนี้ศาลจะประชุมองค์คณะเพื่อพิจารณาใน 2 ประเด็นว่าจะรับฟ้อง หรือไม่ และ จะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ ซึ่งศาลจะมีคำสั่งแจ้งให้คู่กรณีได้ทราบภายหลังจากนี้ โดยไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่าจะมีคำสั่งออกเมื่อใด แต่ระบุว่าจะดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ผลการพิจารณาจะออกเป็นเช่นไร ขึ้นอยู่กับศาล ซึ่งเท่าที่ฟังศาลก็ไม่ได้ให้ชี้แจงอะไรเพิ่มเติม เนื่องจากศาลได้ข้อเท็จจริงครบถ้วนแล้ว
แนวหน้า
http://www.ryt9.com/s/nnd/1507330
ศาลปกครองกลาง ได้ออกนั่งบัลลังก์ ไต่สวนฉุกเฉินในคดีที่ นายอนุภาพ ถิรลาภ นักวิชาการอิสระ ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ขอให้มีคำพิพากษาสั่งให้ กสทช. ยุติการจัดสรรความถี่วิทยุสำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลย่าน 2.1GHz ไว้ก่อนจนกว่าจะได้มีการจัดทำประกาศ ระเบียบ หรือ มติใดตามกฎหมาย ที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 47 และตัวแบบเงื่อนไขในการจัดสรรคลื่นความถี่ ในข้อ 2 จะแล้วเสร็จ เพื่อพิจารณาว่า จะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาคือ ให้ กสทช.ระงับการประมูลคลื่น 3 จี ในวันที่ 16 ต.ค.นี้ ไว้ก่อนจนกว่าจะมีการแก้ไขประกาศ ระเบียบ ตามที่ นายอนุภาพ มีคำร้องขอหรือไม่ และจะมีคำสั่งรับคำฟ้องดังกล่าวไว้พิจารณาพิพากษาหรือไม่
ต่อมาเวลา 17.00น. ศาลได้ออกนั่งบัลลังก์อีกครั้ง เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายลงนาม ยืนยันคำให้การ ก่อนแจ้งให้ทราบว่า ศาลจะรับเรื่องไว้พิจารณาว่า จะมีคำสั่งรับฟ้องหรือไม่ และจะคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ แล้วจะแจ้งให้ทราบต่อไปภายหลัง ขณะที่นายสุทธิพล กล่าวว่า ถ้าถึงวันที่ 16ต.ค.แล้ว ศาลยังไม่มีคำสั่งใดอออกมา กสทช.ก็จะเดินหน้าประมูลคลื่นความถี่ 3จี ตามกำหมดต่อไป.
________________________________
ศาลปกครองไต่สวนคดี '3 จี' เสร็จแล้ว คุ้มครองหรือไม่แจ้งคู่กรณีภายหลัง
ศาลปกครองไต่สวน คดี 3 จี เสร็จแล้ว เตรียมพิจารณา แจ้งคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายในภายหลัง จะรับคำฟ้อง และมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ ด้าน กสทช. ยัน หากวันที่ 16 ต.ค. ยังไม่มีคำสั่ง เตรียมเดินหน้าประมูล 3จีต่อ
วันที่ 11 ต.ค. ศาลปกครองกลาง ได้ออกนั่งบัลลังก์ ไต่สวนฉุกเฉินในคดีที่ นายอนุภาพ ถิรลาภ นักวิชาการอิสระ ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ขอให้มีคำพิพากษาสั่งให้ กสทช. ยุติการจัดสรรความถี่วิทยุสำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลย่าน 2.1GHz ไว้ก่อนจนกว่าจะได้มีการจัดทำประกาศ ระเบียบ หรือ มติใดตามกฎหมาย ที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 47 และตัวแบบเงื่อนไขในการจัดสรรคลื่นความถี่ ในข้อ 2 จะแล้วเสร็จ เพื่อพิจารณาว่า จะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาคือ ให้ กสทช.ระงับการประมูลคลื่น 3 จี ในวันที่ 16 ต.ค.นี้ ไว้ก่อนจนกว่าจะมีการแก้ไขประกาศ ระเบียบ ตามที่ นายอนุภาพ มีคำร้องขอหรือไม่ และจะมีคำสั่งรับคำฟ้องดังกล่าวไว้พิจารณาพิพากษาหรือไม่
โดยในส่วนของผู้ร้องมีนายอนุภาพ เดินทางมาให้ถ้อยคำเพียงคนเดียว ขณะที่ กสทช.ได้มอบให้นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กสทช.ด้านกฎหมาย นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ กรรมการ กสทช. นายชัยยุทธ มังศรี ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายสำนักงาน กสทช. เป็นผู้มาชี้แจง
ทั้งนี้ ก่อนการไต่สวน นายอนุภาพ กล่าวว่า จะนำเสนอให้ศาลฯ เห็นว่า ควรที่ศาลจะสั่งให้ยุติการประมูลไว้ก่อนแล้วให้ กสทช.ไปแก้ไขประกาศ หรือระเบียบต่างๆ ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนเสียก่อน อย่างในเรื่องเพดานราคาขั้นสูง คุณภาพการบริการที่จะต้องไม่มีสัญญาณล่ม พื้นที่การให้บริการ ก็ไม่ได้เขียนเป็นหลักประกันให้กับประชาชน ซึ่งข้อเท็จจริงตามในภาคผนวกของหลักเกณฑ์การประมูลก็เปิดช่องให้ กสทช. สามารถแก้ไขระเบียบต่างๆ ได้ หากจะทำจริงเชื่อว่า 2 วัน ก็เสร็จแล้ว สามารถเดินหน้าประมูลต่อไป
ส่วนที่ กสทช.อ้างว่าให้ประมูลไปก่อนแล้วจึงค่อยแก้ไขระเบียบภายหลัง ก็จะนำเสนอให้ศาลเห็นว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะขนาดศาลมีคำสั่งให้ กสทช.ดำเนินการบังคับตามกฎหมายในคดีสัญญามาตรฐานไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภคที่ใช้โทรศัพท์มือถือชนิดเติมเงินแล้ว เวลาผ่านไป 6 ปี กสทช.ก็กลับไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย นอกจากใช้วิธีการประวิงเวลาด้วยการยื่นอุทธรณ์ ตนไม่ใช่หน้าใหม่ของวงการนี้ ความเคลื่อนไหวทุกอย่าง สามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว การมายื่นร้องต่อศาลเป็นการใช้สิทธิ์ในฐานะประชาชน ซึ่งหาก กสทช.เห็นว่าเสียหายก็สามารถดำเนินการฟ้องได้เลย แต่การเป็นเจ้าหน้าที่รัฐออกมากล่าวในลักษณะนี้ จะถือเป็นการข่มขู่หรือไม่ และเหมาะสมหรือไม่
ด้านนายสุทธิพล กล่าวว่า วันนี้ได้นำพยานหลักฐานเข้าชี้แจงครบอย่างถ้วนทุกประเด็น ซึ่งก็ไม่ประมาท รวมทั้งมีตัวเลขความเสียหายที่จะเกิดขึ้น หากมีการชะลอการประมูลออกไป หากเรื่องนี้ชะลอ ออกไปจะส่งผลเสียหายเนื่องจากจะถูกผู้ประกอบการฟ้อง ซึ่ง กสทช. ยืนอยู่ตรงกลาง ที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน การฟ้องคดีต่อศาลปกครองบางครั้งต้องศึกษาให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้การใช้สิทธิ์ ไปกระทบผลต่อประโยชน์ประเทศชาติ และประชาชน ยืนยันว่า กฎเกณฑ์ที่ กสทช.กำหนดในการประมูลเป็นธรรมและพิจารณาอย่างรอบครอบดีแล้ว
“ขณะนี้ กสทช.ก็มีพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน ที่จะใช้ป้องกันผลประโยชน์ของประเทศ และเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้ถูกรังแก ทั้งนี้ยอมรับ มีขบวนการที่ต้องล้มการประมูล 3 จี โดยทำกันเป็นระบบ เริ่มจากนักวิชาการ อย่างไรก็ตาม การมาตรการทางปกครองมีเพื่อป้องกันประชาชนไม่ให้ถูกรักแก ไม่ใช่นำมาใช้กลั่นแกล้วเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง” นายสุทธิพล กล่าว
ภายหลังการไต่สวนนานกว่า 2 ชั่วโมง ศาลได้สั่งพักการไต่สวนโดย นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กสทช. ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ได้ชี้แจงต่อศาลถึงความถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย ว่าหาก กสทช. ทำตามที่ผู้ร้องต้องการจะกลายเป็นการทำผิดขั้นตอนตามกฎหมายเสียเอง เนื่องจากการกำหนดอัตราค่าบริการขั้นสูงของค่าบริการล่วงหน้า จะคำนวณได้เมื่อทราบผู้ชนะประมูล เพราะขึ้นกับต้นทุนของการประมูลและการลงทุน ทั้งนี้มีกำหนดไว้ชัดเจนแล้วว่าการกำหนดอัตราดังกล่าวต้องเป็นธรรมระหว่าง ผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ และการออกประกาศดังกล่าวยังต้องผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะด้วย
นายสุทธิพล กล่าวอีกว่า ตนยังชี้ให้ศาลเห็นว่า ผู้ฟ้องคดีไม่ใช่ผู้เดือดร้อนเสียหายตามความหมายของพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ เพราะไม่ใช่ผู้เข้าร่วมประมูล รวมถึงมีความไม่สุจริต เนื่องจากเป็นผู้มีความรู้ทางโทรคมนาคมและเชี่ยวชาญทางกฎหมาย โดยเคยฟ้องคดีเกี่ยวกับโทรคมนาคมต่อศาลปกครองมาแล้ว ซึ่งเมื่อรู้ทั้งกฎหมายและเทคนิคแล้ว ยังจะมาบังคับให้ กสทช. ทำผิดกฎหมาย จึงถือเป็นการใช้สิทธิ์โดยไม่สุจริต “ที่บอกกับศาลแบบนี้ไม่ใช่เพื่อปรักปรำ โกรธแค้นผู้ร้อง หรือโยงว่าผู้ร้องมีผลประโยชน์กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการประมูลรายใด แต่ต้องการชี้ว่าเป็นการร้องที่ไม่มีมูลเหตุตามกฎหมาย ใครจะฟ้องร้องอะไรควรศึกษากฎหมายให้รอบคอบ เพราะอาจมีผลเสียหายต่อส่วนรวม และยากจะชี้ว่าใครจะต้องมารับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่ายังจะมีการร้องแบบนี้อีกหลายกรณี อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า มีขบวนการจ้องล้มการประมูล แต่ไม่ทันไรก็มีการฟ้อง 2, 3 คดีแล้ว และเชื่อว่าจะมีคดีที่ 4 ตามมา จึงอยากทำให้คดีนี้เป็นตัวอย่างเพราะเราไม่ต้องการปล่อยให้ขบวนการเหล่านี้มาทำลายประเทศ”
นายสุทธิพล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนยังเปิดเผยตัวเลขความเสียหายที่ได้แจ้งต่อศาล หากมีการชะลอการประมูลครั้งนี้ออกไปว่า จากตัวเลขในบทความทางวิชาการที่นักวิชาการสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เคยศึกษาถึงผลเสียหายทางเศรษฐกิจของประเทศไทย จากการประมูล 3 จีที่ล่าช้ามาแล้ว 2 ปี เป็นตัวเลข 153,900 ล้านบาท เฉลี่ยที่วันละ 210 ล้านบาท “ถ้าต้องชะลอการประมูลออกไป ลำพังขั้นตอนการจัดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ และขั้นตอนเตรียมการประมูลหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งต้องเริ่มทำใหม่หมดก็เป็นเวลาประมาณ 8 เดือน คิดเป็นความเสียหายทางเศรษฐกิจราว 51,300 ล้านบาท ซึ่งต้องไปบวกกับเวลาที่ต้องรอคดียุติในชั้นศาลอีกวันละ 210 ล้านบาท ที่คนไทยประเทศอไทยต้องรับความเสียหายเหล่านี้ไป”
ต่อมาเวลา 17.00น. ศาลได้ออกนั่งบัลลังก์อีกครั้ง เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายลงนาม ยืนยันคำให้การ ก่อนแจ้งให้ทราบว่า ศาลจะรับเรื่องไว้พิจารณาว่า จะมีคำสั่งรับฟ้องหรือไม่ และจะคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ แล้วจะแจ้งให้ทราบต่อไปภายหลัง ขณะที่นายสุทธิพล กล่าวว่า ถ้าถึงวันที่ 16ต.ค.แล้ว ศาลยังไม่มีคำสั่งใดอออกมา กสทช.ก็จะเดินหน้าประมูลคลื่นความถี่ 3จี ตามกำหมดต่อไป.
ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/pol/297861
________________________________
ศาลปกครองยังไม่ฟันธงรับคำร้อง 3G หรือไม่ ขอนำข้อมูลเข้าองค์คณะใหญ่ก่อน
นายอนุภาพ ถิรลาภ นักวิชาการอิสระ ด้านโทรคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ศาลปกครองกลางยังไม่มีคำสั่งว่าจะรับคำร้องให้คณะกรรมการกิจการการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)แก้ไขหลักเกณฑ์การประมูลใบอนุญาต 3G ไว้พิจารณาหรือไม่ หลังจากเสร็จสิ้นการไต่สวนคู่ความในวันนี้แล้ว โดยศาลฯ ระบุว่าขอนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดเข้าสู่ที่ประชุมองค์คณะตุลาการก่อน แต่ยืนยันว่าจะดำเนินการโดยเร็ว
"ยังไม่ได้ข้อสรุปวันนี้ ศาลขอนำข้อเท็จจริงเข้าที่ประชุมองค์คณะก่อน เพื่อพิจารณาใน 2 ประเด็นว่าจะรับฟัองหรือไม่ และจะคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่"นายอนุภาพ กล่าว
พร้อมระบุว่า วันนี้ศาลปกครองบอกว่าได้รับข้อเท็จจริงที่เพียงพอจากทั้งฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้องแล้ว โดยจะนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดเข้าสู่ที่ประชุมองค์คณะตุลาการศาลปกครองก่อนและจะเร่งดำเนินการโดยเร็ว ซึ่งหากศาลฯ มีคำสั่งออกมาแล้วจะแจ้งไปยังคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายให้รับทราบในทันที
ด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กสทช.ว่า ตราบใดที่ยังไม่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ระงับการเปิดประมูล 3G กสทช.ก็จะเดินหน้าจัดการประมูล 3G ตามขั้นตอนที่ได้วางไว้คือในวันที่ 16 ต.ค.55
และวันนี้ศาลปกครองได้แจ้งให้ทราบแล้วว่าได้รับทราบข้อมูลที่เพียงพอ ซึ่งหากมีคำสั่งจะแจ้งให้คู่ความได้ทราบโดยทันที ส่วนจะให้คาดการณ์ว่าจะรู้ผลคำตัดสินเมื่อใดนั้น นายสุทธิพล เชื่อว่าศาลฯ ได้รับทราบกำหนดการที่จะเปิดประมูลในวันที่ 16 ต.ค.แล้ว ดังนั้น จึงเชื่อว่าต้องเร่งดำเนินการให้ทันแน่นอน
--อินโฟเควสท์
http://www.ryt9.com/s/iq05/1507346
______________________________________
ศาลปกครองยังไม่มีคำสั่งกรณี 3จี กสทช.เดินหน้าประมูลต่อ
ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2555 17:58:00 น.
เย็นวันที่ 11 ตุลาคม ที่สำนักงานศาลปกครอง นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กสทช. กล่าวภายหลังจากการไต่สวน โดยยืนยันว่า ได้นำประสบการณ์จากการถูกฟ้องระงับการประมูลเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มาไตร่ตรอง ออกเป็นประกาศอย่างถี่ถ้วนแล้ว และหากทำตามผู้ร้อง โดยมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ?ก็เหมือนเป็?นการบังคับให้ กสทช. ทำผิดกฎหมาย ?เพราะ 1 ในคำร้องที่ขอให้ กสทช. กำหนดอัตราขั้นสูงไว้ล่วงหน้านั้น เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากตามขั้นตอน ต้องรอผู้ชนะการประมูลก่อนจะศึกษาและคำนวณออกมาเป็นอัตราขั้นสูง จากนั้นจะต้องมี การรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ก่อนออกประกาศ
ทั้งนี้หากศาลมีตำสั่งคุ้มครองชั่วคราว กระบวนการประมูลใบอนุญาต 3 จี ก็จะต้องหยุดชะงัก จนกว่ากระบวนการพิจารณาจะแล้วเสร็จ พร้อมยกตัวอย่างว่า หากใช้เวลา 8 เดือนจะเกิดความเสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท หรือหากเป็น 1 ปีจะเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 7 หมื่นล้านบาท ?ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น กสทช.จะพิจารณาอีกครั้งว่า จะอุทธรณ์หรือไม่ นอกจากนี้ยังให้การต่อศาลไปด้วยว่า นายอนุภาพ ใช้สิทธิ์ฟ้องร้องโดยไม่สมควร เนื่องจากไม่ใช่ผู้เสียหายตรง อีกทั้งเป็นคนในวงการโทรคมนาคมที่ทราบกฎหมายเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว
“ขณะนี้ศาลยังไม่มีคำสั่งใดๆ กสทช.จึงยังเดินหน้าการประมูลใบอนุญาตเครือข่าย 3 จีได้ตามกำหนดการ ในวันที่ 16 ต.ค. จนกว่าศาลจะมีคำสั่งออกมา ทั้งนี้ศาลได้ระบุว่า จากการไต่สวนได้ข้อมูล หลักฐานเพียงพอแล้ว ส่วนตัวเชื่อมั่นในกระบวนการและความยุติธรรมของศาล โดยศาลระบุว่า จะเร่งดำเนินการพิจารณาโดยเร็ว เพราะทางกสทช.ได้แจ้งยังศาลถึงกรอบระยะเวลาว่าจะมีการประมูลในวันที่ 16 ?ต.ค.นี้” นายสุทธิพลกล่าว
ด้าน นายอนุภาพ ถิรลาภ นักวิชาการอิสระด้านโทรคมนาคม กล่าวภายหลังการเข้าให้การไต่สวนแล้วเสร็จว่า เบื้องต้นสรุปว่าศาลได้ข้อเท็จจริงจากคู่กรณี ทั้ง 2 ฝ่ายครบถ้วนแล้ว โดยหลังจากนี้ศาลจะประชุมองค์คณะเพื่อพิจารณาใน 2 ประเด็นว่าจะรับฟ้อง หรือไม่ และ จะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ ซึ่งศาลจะมีคำสั่งแจ้งให้คู่กรณีได้ทราบภายหลังจากนี้ โดยไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่าจะมีคำสั่งออกเมื่อใด แต่ระบุว่าจะดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ผลการพิจารณาจะออกเป็นเช่นไร ขึ้นอยู่กับศาล ซึ่งเท่าที่ฟังศาลก็ไม่ได้ให้ชี้แจงอะไรเพิ่มเติม เนื่องจากศาลได้ข้อเท็จจริงครบถ้วนแล้ว
แนวหน้า
http://www.ryt9.com/s/nnd/1507330
ไม่มีความคิดเห็น: