Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

12 ธันวาคม 2554 สำหรับเอเชีย แบล็กเบอรี่บุก(หนัก)อินโดนีเซีย ไทย และฟิลิปปินส์ ทั้งAPP //ไปเป็นเวอร์ชัน 10 และ(Operator billing)

สำหรับเอเชีย แบล็กเบอรี่บุก(หนัก)อินโดนีเซีย ไทย และฟิลิปปินส์ ทั้งAPP //ไปเป็นเวอร์ชัน 10 และ(Operator billing)


ประเด็นหลัก

นอกจากนักพัฒนา ริมยังหวังเจรจากับโอเปอเรเตอร์ไทยเพื่อให้ชาวบีบีในไทยมีโอกาสซื้อสินค้า และบริการบนแอปฯ โดยไม่จำเป็นต้องมีบัตรเครดิต แต่สามารถจ่ายเงินรวมกับค่าบริการโทรศัพท์มือถือรายเดือนได้เลย (Operator billing) จุดนี้เวดด์ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลว่าริมกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับใคร โดยที่ผ่านมา ริมได้ร่วมมือกับ 21 โอเปอเรเตอร์ทั่วโลกแล้วในขณะนี้ และมี 2 รายเป็นโอเปอเรเตอร์ในเอเชีย ได้แก่ อินโดนีเซียและออสเตรเลีย

"ยังบอกรายละเอียดการเจรจาไม่ได้ แต่การร่วมมือระหว่างริมและอินโดแซต (โอเปอเรเตอร์ในอินโดนีเซีย) ถือเป็นสัญญาณที่ดี"

ระบบ ปฏิบัติการแบล็กเบอรี่เท็นนั้นเป็นการก้าวกระโดดจากเวอร์ชันล่าสุดคือ 7.1 ไปเป็นเวอร์ชัน 10 ซึ่งผู้บริหารริมระบุว่าเวอร์ชัน 10 จะรองรับเวอร์ชัน 7.1 อย่างเต็มตัว เพิ่มความคล่องตัวให้ทั้งนักพัฒนาที่จะสามารถเขียนแอปฯครั้งเดียวใช้ได้หลาย อุปกรณ์ และผู้บริโภคที่จะมีทางเลือกใช้แอปฯที่หลากหลายได้โดยไม่ต้องรอนาน

_________________________________________________________

เตรียมส่งบีบีบนทีวี!!

ริม (Research In Motion) เตรียมการใหญ่รับระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด "แบล็กเบอรี่เท็น (BlackBerry 10)" ประกาศพร้อมพัฒนาระบบรับส่งข้อความบีบีเอ็ม (BlackBerry Messenger) ให้สามารถรองรับรูปแบบอุปกรณ์ที่มีหน้าจอหลากหลาย เท่ากับไม่เพียงสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต แต่ทีวีและระบบฝังตัวในรถยนต์จะสามารถรองรับระบบบีบีเอ็มได้ในอนาคต

สำหรับประเทศไทย ริมระบุว่าแผนใหญ่ปีหน้าคือการหนุนตลาดแอปพลิเคชันที่มีการเชื่อมต่อข้อมูล กับระบบรับส่งข้อความของแบล็กเบอรี่ (BBM Connected App) ซึ่งมียอดการดาวน์โหลดมหาศาลแต่ยังมีจำนวนน้อย ยังอุบแผนคุยโอเปอเรเตอร์ไทยทำโอเปอเรเตอร์บิลลิ่ง (Operator Billing) หรือการเก็บค่าซื้อสินค้าและบริการบนแอปฯ ผ่านบิลค่าบริการโทรศัพท์มือถือ ระบุเพียงว่าการร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์ในอินโดนีเซียถือเป็นสัญญาณที่ดีของ การเจรจากับโอเปอเรเตอร์รายอื่น เบื้องต้นตั้งความหวังว่าโอเปอเรเตอร์บิลลิ่งอาจเกิดในไทยช่วงปีหน้า

***ปีหน้าริมรุกหนักนักสร้างแอปฯไทย

เกรกอรี่ เวดด์ (Gregory Wade) กรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชียตะวันออก บริษัท รีเสิร์ช อิน โมชัน หรือริม ให้สัมภาษณ์ในงาน Blackberry DevCon Asia 2011 ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 7-8 ธันวาคมที่ผ่านมาว่าไทยคือหนึ่งในหลายประเทศของเอเชียที่ริมจะให้ความสำคัญ ในการลงทุนเพิ่มขึ้นช่วงปีหน้า โดยยอมรับว่าการตัดสินใจครั้งนี้มาจากการขยายตัวของตลาดบีบีในเอเชีย ซึ่งพบว่ารายได้ของริมมากกว่า 56% มาจากตลาดนอกสหรัฐฯ-แคนาดา-ยุโรป

"Next big thing หรือการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นในตลาดไทยช่วงปีหน้า คือการให้ความสำคัญกับการใช้งานแอปฯ กลุ่ม BBM Connected เพราะไทยเด่นเรื่องเครือข่ายสังคม เราต้องการส่งเสริมให้การใช้งานแอปฯBBM ในบริการเครือข่ายสังคมมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทางที่จะไปถึงจุดหมายได้คือการร่วมมือกับนักพัฒนาแอปฯไทย"

เวดด์ระบุว่าแอปฯ กลุ่ม BBM Connected นั้นมีจำนวนเพียง 325 แอปฯในขณะนี้ แต่มียอดการดาวน์โหลดสูงกว่า 60 ล้านครั้ง ขณะเดียวกัน 6 ใน 10 ของผู้ใช้บีบีในไทยนั้นใช้งานเครือข่ายสังคม จุดนี้ถือเป็นโอกาสที่ริมมองเห็นจนทำให้ริมตั้งใจเข้าถึงนักพัฒนาแอปฯไทยมาก เป็นพิเศษ โดยมีแผนจะกลับมาจัดงาน DevCon Asia 2012 ในไทยหลังจากที่ต้องย้ายไปประเทศสิงคโปร์เพราะพิษน้ำท่วม

ริมยังมีแผนจะเข้าถึงนักพัฒนาไทยด้วยการจัดกิจกรรมและร่วมมือกับสถานบันการ ศึกษาไทยในปีหน้า ถือเป็นการตามรอยการเข้าถึงนักพัฒนาแอปฯในประเทศอินโดนีเซียที่ริมเปิดทางมา ก่อนและประสบความสำเร็จงดงาม โดยในระดับโลก ริมใช้วิธีเปลี่ยนโฉมชุดเครื่องมือพัฒนาแอปฯออนไลน์ใหม่ในชื่อแบล็กเบอรี่แจ ม (Blackberry Jam) ซึ่งได้รับการยกย่องจากนักพัฒนาไทยว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีและครอบคลุม กว่าชุดเครื่องมือดั้งเดิมมาก

นอกจากนักพัฒนา ริมยังหวังเจรจากับโอเปอเรเตอร์ไทยเพื่อให้ชาวบีบีในไทยมีโอกาสซื้อสินค้า และบริการบนแอปฯ โดยไม่จำเป็นต้องมีบัตรเครดิต แต่สามารถจ่ายเงินรวมกับค่าบริการโทรศัพท์มือถือรายเดือนได้เลย (Operator billing) จุดนี้เวดด์ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลว่าริมกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับใคร โดยที่ผ่านมา ริมได้ร่วมมือกับ 21 โอเปอเรเตอร์ทั่วโลกแล้วในขณะนี้ และมี 2 รายเป็นโอเปอเรเตอร์ในเอเชีย ได้แก่ อินโดนีเซียและออสเตรเลีย

"ยังบอกรายละเอียดการเจรจาไม่ได้ แต่การร่วมมือระหว่างริมและอินโดแซต (โอเปอเรเตอร์ในอินโดนีเซีย) ถือเป็นสัญญาณที่ดี"

นอกจากไทย เวดด์นั้นระบุว่าริมจะเพิ่มการลงทุนในเอเชียอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีนับ จากนี้ ไม่มีการพูดถึงตัวเงิน แต่จะมีนโยบายการลงทุนเพิ่มเช่นการขยายร้านค้าปลีก ให้การสนับสนุนและร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ให้มากขึ้น รวมถึงการเพิ่มนโยบายด้านการตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคให้มากกว่าเดิม

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

***บีบีเอ็มเตรียมโผล่หลายอุปกรณ์

ซาริม เอซิส (Sarim Aziz) หัวหน้าทีมนักพัฒนาสัมพันธ์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รีเสิร์ช อิน โมชัน ระบุว่าหนึ่งในนโยบายเปลี่ยนแปลงโลกการสื่อสารที่ริมวางไว้คือการทำให้ระบบ รับส่งข้อความบนระบบแบล็กเบอรี่หรือบีบีเอ็มนั้นสามารถทำงานบนอุปกรณ์หลาย รูปแบบ ไม่ว่าอุปกรณ์นั้นจะมีหน้าจอขนาดใหญ่อย่างทีวี หรืออุปกรณ์หน้าจอเล็กอย่างสมาร์ทโฟนทั่วไป

"ยังไม่ใช่ตอนนี้ แต่จะเป็นแผนพัฒนาในอนาคตเมื่อแบล็กเบอรี่เท็นแจ้งเกิดแล้ว แบล็กเบอรี่เท็นไม่ได้รองรับเพียงแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน แต่สามารถรองรับอุปกรณ์ที่มีหน้าจอหลายขนาด บางทีเราอาจจะไปทีวี และอุปกรณ์อื่น"

เอซิสอธิบายว่าบีบีเอ็มเป็นบริการรับส่งข้อความแชตที่ไม่เพียงสามารถใช้งาน ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค แต่เกมหรือแอปฯธุรกิจก็ต้องการการรับส่งข้อความแชตลักษณะนี้ โดยเอซิสระบุว่าปัจจุบันผู้ใช้บีบีเอ็มมากกว่า 70% ใช้งานรับส่งข้อความแชตทุกวัน สถิติผู้ใช้บีบีเอ็มรายใหม่มีมากกว่า 3 ล้านคนต่อเดือน โดยมากกว่า 100 พันล้านหรือ 1 แสนล้านข้อความถูกส่งไปมาใน 1 เดือน ทั้งหมดนี้แสดงว่าริมยังเชื่อมั่นในอิทธิพลของระบบบีบีเอ็มแม้ปัจจุบันจะมี บริการมากมายที่เสนอตัวให้ผู้บริโภคสามารถรับส่งข้อความแชตได้ลักษณะเดียว กัน

สำหรับแบล็กเบอรี่เท็นที่เอซิสพูดถึงนั้นคือจุดสำคัญของงานประชุมนักพัฒนา DevCon Asia ที่ริมจัดในประเทศสิงคโปร์ โดยนี่คือครั้งแรกที่ริมเปิดตัวระบบปฏิบัติการแบล็กเบอรี่เท็นในเอเชีย (ชื่อเดิมคือ BBX) หลังจากริมเปิดตัวระบบปฏิบัติการครั้งแรกที่งานประชุม DevCon ที่ซานฟรานซิสโก เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

แบล็กเบอรี่เท็นจะเป็นระบบปฏิบัติการเจเนอเรชันต่อไปที่ริมจะนำมาใช้บนอุ ปกรณ์แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน รวมถึงอุปกรณ์อื่นของริมในอนาคตไม่เว้นแม้แต่รถยนต์ เป็นระบบปฏิบัติการที่สามารถรองรับบริการคลาวด์ของริม "BlackBerry cloud" ได้ และรองรับเทคโนโลยี HMTL5 รวมถึงเทคโนโลยีมาตรฐานเปิดแบบครบเครื่อง

ระบบปฏิบัติการแบล็กเบอรี่เท็นนั้นเป็นการก้าวกระโดดจากเวอร์ชันล่าสุดคือ 7.1 ไปเป็นเวอร์ชัน 10 ซึ่งผู้บริหารริมระบุว่าเวอร์ชัน 10 จะรองรับเวอร์ชัน 7.1 อย่างเต็มตัว เพิ่มความคล่องตัวให้ทั้งนักพัฒนาที่จะสามารถเขียนแอปฯครั้งเดียวใช้ได้หลาย อุปกรณ์ และผู้บริโภคที่จะมีทางเลือกใช้แอปฯที่หลากหลายได้โดยไม่ต้องรอนาน

มาร์ติน มัลลิค (Martyn Mallick) รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจและพันธมิตรระดับโลกของริม ให้สัมภาษณ์ว่าแบล็กเบอรี่เท็นจะถูกเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้า โดยจะสามารถทำงานร่วมกับทั้งอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการแบล็กเบอรี่เซเว่น (Blackberry 7 OS) และอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ QNX ทุกชนิดในท้องตลาด

"ระบบฝังตัวในรถยนต์จำนวนมากกว่า 235 รุ่นใช้ระบบปฏิบัติการ QNX นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีมากของแบล็กเบอรี่เทน เรายังไม่มีแผนประกาศความร่วมมือกับค่ายรถ แต่เชื่อว่านักพัฒนาแอปฯ จะสามารถสร้างสรรค์โซลูชันแห่งอนาคตได้"

***ยืนยันแบล็กเบอรี่ยังรุ่ง

ริมระบุว่าปีที่ผ่านมา ผู้ใช้แบล็กเบอรี่รายใหม่มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคน และร้านดาวน์โหลดแอปฯ"แบล็กเบอรี่แอปเวิร์ล (BlackBerry App World)" ได้รับการยอมรับว่าเป็นตลาดที่สร้างกำไรให้กับนักพัฒนาแอปฯสูงเป็นอันดับ 2 โดยที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายแบล็กเบอรี่ทั้งหมดมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 165 ล้านเครื่องทั่วโลก

ผู้บริหารริมระบุว่าจำนวนสมาชิกบริการแบล็กเบอรี่นั้นมีการเพิ่มจาก 50 ล้านคนในปีที่แล้วมาเป็น 70 ล้านคนในปี 2011 โดยปัจจุบัน ผู้ใช้บริการรับส่งข้อความบนแบล็กเบอรี่ "แบล็กเบอรี่แมสเซนเจอร์ (BlackBerry Messenger)" นั้นมีจำนวนราว 50 ล้านคน ขณะที่ร้านแบล็กเบอรี่แอปเวิร์ลมียอดดาวน์โหลดทะลุหลัก 1 พันล้านครั้งแล้ว

แต่ยอดดาวน์โหลด 1 พันล้านครั้งนั้นถือว่ายังน้อยมากเมื่อเทียบกับยอดดาวน์โหลดแอนดรอยด์มาร์ เก็ตที่เพิ่งประกาศว่าทะลุหลัก 1 หมื่นล้านครั้งเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา จุดนี้มัลลิคมองว่ายอดการดาวน์โหลดเป็นเพียงตัวเลข แต่ความสำคัญอยู่ที่การใช้งานจริงของผู้บริโภค

"การสำรวจพบว่าแอปฯแอนดรอยด์มากกว่า 95% ถูกดาวน์โหลดไปแต่ไม่มีการใช้งานครั้งที่ 2 ต่างกับแอปฯของแบล็กเบอรี่ที่มีการใช้งานจริง"

นอกจากนี้ บริษัทวิจัยแยงกี้กรุ้ป (Yankee Group) ยังยกให้แบล็กเบอรี่แอปเวิร์ลเป็นตลาดแอปฯที่สามารถทำกำไรได้มากเป็นอันดับ 2 เหนือแอนดรอยด์มาร์เก็ต (Android Market) ของกูเกิล โดยระบุว่าแอปฯแบล็กเบอรี่สามารถทำเงินได้สูงกว่าแอปฯแอนดรอยด์เฉลี่ย 40%

สำหรับเอเชีย แบล็กเบอรี่ถือเป็นผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนของอินโดนีเซีย ไทย และฟิลิปปินส์

ASTVผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9540000157830


ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.