Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

21 พฤศจิกายน 2554 กสทช.ชัด++เป็นสัญญาว่าจ้างให้บริหารสถานีไม่ใช่สัมปทาน-ยกเลิกล่วงหน้าได้ 30 วัน//เจ๊ฉอด ขู่ฟ้อง!!จวกคู่กรณีมีผลประโยชน์

กสทช.ชัด++เป็นสัญญาว่าจ้างให้บริหารสถานีไม่ใช่สัมปทาน-ยกเลิกล่วงหน้าได้ 30 วัน//เจ๊ฉอด ขู่ฟ้อง!!จวกคู่กรณีมีผลประโยชน์


กสทช.ชัด++เป็นการทำสัญญาว่าจ้างให้บริหารสถานีไม่ ใช่สัญญาสัมปทาน-ยกเลิกล่วงหน้าได้ 30 วัน//“เจ๊ฉอด” ขู่ฟ้อง!!จวกคู่กรณีมีผลประโยชน์

ประเด็นหลัก

อย่างไรก็ตาม สัญญาดังกล่าวไม่ใช่สัญญาสัมปทานที่หลายฝ่ายเข้าใจ ก่อนหน้าที่จะเกิดกสทช. มติดังกล่าวคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. ได้ทำสัญญาร่วมกับผู้ให้บริการเอกชน ระบุในสัญญาและกำหนดว่าสัญญาดังกล่าวสามารถบอกเลิกจ้างได้และต้องแจ้งให้ ทราบล่วงหน้าภายใน 30 วัน ซึ่ง ผู้ให้บริการเอกชน ยอมรับสัญญาและจะปฏิบัติตามที่ระบุในสัญญาดังกล่าว

"การที่ออกมาโต้แย้งว่า กสทช. ไม่มีสิทธิเรียกเก็บคืนคลื่นและทำทีท่าจะไม่ปฏิบัติตามสัญญา รวมถึงสร้างกระแสมวลชนมาต่อต้านกสทช. ความเป็นจริงแล้ว แกรมมี่ และผู้ประกอบการรายอื่นๆ รู้อยู่แก่ใจว่าสัญญาเป็นอย่างไร และเป็นการทำสัญญาว่าจ้างให้บริหารสถานีไม่ใช่สัญญาสัมปทาน แต่ แกรมมี่กลับหยิบยกประเด็นเดิมตามติ กทช. ว่าให้สามารถต่อสัญญาได้ไปจนกว่าจะหาผู้ประกอบการรายใหม่ได้ ขณะเดียวกัน กสทช.ก็จะต้องดำเนินการทำแผนแม่บทคลื่นความถี่ให้แล้วเสร็จ และเปิดประมูล จึงจะสามารถหาผู้ประกอบการรายใหม่ได้"
__________________________________________________________

กสทช.ตอกกลับเอกชน "ใครผิดใครถูก รู้อยู่แกใจ"


กสทช.เผย ไม่สนเอกชนขู่ฟ้องกลับกรณี 1 ปณ.พร้อมอ้างต้องต่อสัญญาจ้างให้บริหารสถานีได้ จนกว่าจะมีผู้ประกอบการรายใหม่ แนะเอกชนกลับรู้อยู่แกใจใครผิดใครถูกสัญญาเป็นอย่างไร เตรียมเดินหน้าบริหารคลื่นวิทยุทั้ง 9 สถานีหลังเรียกคืน

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยถึงกรณีการสั่งระงับไม่ต่อสัญญาสถานีวิทยุ 1 ปณ.ใน 6 พื้นที่ รวมจำนวน 9 สถานี ได้แก่ กรุงเทพฯ เอฟเอ็ม 106.5 เมกะเฮิรตซ์ (กรีนเวฟ) และ เอฟเอ็ม 98.5 เมกะเฮิรตซ์ (กู๊ด เอฟเอ็ม) หลักสี่ เอเอ็ม 1035 กิกะเฮิรตซ์ และ เอเอ็ม 1089 กิกะเฮิรตซ์ อุบลราชธานี เอฟเอ็ม 102 เมกะเฮิรตซ์ อุดรธานี เอฟเอ็ม 99 เมกะเฮิรตซ์ และ เอเอ็ม 1089 กิกะเฮิรตซ์ภูเก็ต เอฟเอ็ม 89 เมกะเฮิรตซ์ และลำปาง เอเอ็ม 765 กิกะเฮิรตซ์ รวมจ่ายค่าเช่าราว 6 ล้านบาทต่อเดือน ทั้งหมด ซึ่งเป็นสัญญาจ้างให้บริหารสถานีจะสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2554 นี้ โดยให้เป็นไปตามมติดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555

อย่างไรก็ตามสัญญาดังกล่าวไม่ใช่สัญญาสัมปทานที่หลายฝ่ายเข้าใจ ก่อนหน้าที่จะเกิดกสทช. มติดังกล่าวคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. ได้ทำสัญญาร่วมกับผู้ให้บริการเอกชน ระบุในสัญญาและกำหนดว่าสัญญาดังกล่าวสามารถบอกเลิกจ้างได้และต้องแจ้งให้ ทราบล่วงหน้าภายใน 30 วัน ซึ่ง ผู้ให้บริการเอกชน ยอมรับสัญญาและจะปฏิบัติตามที่ระบุในสัญญาดังกล่าว

"การที่ออกมาโต้แย้งว่า กสทช. ไม่มีสิทธิเรียกเก็บคืนคลื่นและทำทีท่าจะไม่ปฏิบัติตามสัญญา รวมถึงสร้างกระแสมวลชนมาต่อต้านกสทช. ความเป็นจริงแล้ว แกรมมี่ และผู้ประกอบการรายอื่นๆ รู้อยู่แก่ใจว่าสัญญาเป็นอย่างไร และเป็นการทำสัญญาว่าจ้างให้บริหารสถานีไม่ใช่สัญญาสัมปทาน แต่ แกรมมี่กลับหยิบยกประเด็นเดิมตามติ กทช. ว่าให้สามารถต่อสัญญาได้ไปจนกว่าจะหาผู้ประกอบการรายใหม่ได้ ขณะเดียวกัน กสทช.ก็จะต้องดำเนินการทำแผนแม่บทคลื่นความถี่ให้แล้วเสร็จ และเปิดประมูล จึงจะสามารถหาผู้ประกอบการรายใหม่ได้"

ทั้งนี้ในเมื่อ มีมติ กสทช.แล้ว ผู้ประกอบการทุกรายควรที่จะปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย ควรที่จะยกเลิกสัญญาดังกล่าว เนื่องจากจะได้นำคลื่น 1ปณ.ไปทำประโยชน์สาธารณะ แก่ประชาชนมากที่สุด ส่วนกรณีที่ นายไพบูลย์ จะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองนั้น ก็เป็นสิทธิ หากมองว่ามติดังกล่าวไม่เป็นธรรม โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และโทรทัศน์ (กสท) หารือเพิ่มเติมว่าจะบริหารจัดการคลื่นวิทยุที่เรียกคืนนี้อย่างไรต่อไป

ก่อนหน้านี้นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีที่ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. มีมติให้ระงับไม่ต่อสัญญาสถานีวิทยุ 1 ปณ.ใน 6 พื้นที่ รวมจำนวน 9 สถานี โดยหนึ่งในนั้นมีคลื่น กรุงเทพฯ เอฟเอ็ม 106.5 เมกะเฮิรตซ์ (กรีนเวฟ) เอฟเอ็ม 98.5 เมกะเฮิรตซ์ (กู๊ด เอฟเอ็ม) โดยทั้งหมดสัญญาสัมปทานจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2554 นี้ ซึ่งให้เป็นไปตามมติดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555นั้น

โดยตนได้เดินทางเข้าพบ พ.อ.นที ศกุลรัตน์ รองประธานกสทช.และได้พูดคุยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการที่ที่น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ออกมาแถลงข่าวเมื่อวันที่ 9 พ.ย.54 ที่ผ่านมานั้น เป็นการเข้าใจผิดกันในบอร์ดกสทช. เนื่องจากการทำสัญญาสัมปทานผู้รับสัมปทานทุกรายจะต้องสิ้นสุดอายุสัมปทาน พร้อมกันทั้งหมด

“ผมได้เข้าไปพูดคุยกับ พ.อ.นที แล้ว ซึ่งการที่จะมาบอกยึดคลื่นคืน ควรที่จะกำหนดกรอบและจัดทำแผนแม่บทคลื่นความถี่ให้เรียบร้อยก่อนที่จะดำเนิน การใดๆ แต่ขณะนี้ยังไม่มีรูปแบบที่ชัดเจน ซึ่งท้ายที่สุดหากต้องโดนยึดจริงๆ เราคงจะต้องเข้าสู่กระบวนการยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง”

ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9540000148205

______________________________________________________


“เจ๊ฉอด” ขู่ “กสทช.” ถ้ายังเคลียร์ไม่ได้อาจมีฟ้อง จวกคู่กรณีมีผลประโยชน์ซ่อนเร้นหรือเปล่า?!



“เจ๊ ฉอด” เผยเข้าเคลียร์ “กสทช.” แล้ว อีกฝ่ายอ้างเกิดความผิดพลาดในการสื่อสาร แต่ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะออกหัวออกก้อย ย้ำ “กรีนเวฟ” ยังไม่หมดสัญญา โอดไม่ได้รับความเป็นธรรม ตั้งข้อสงสัยอีกฝ่ายมีผลประโยชน์ซ่อนเร้นหรือเปล่า?! พร้อมแย้มถ้ายังเคลียร์กันไม่ได้อาจมีฟ้อง

ยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรณีสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ออกมาประกาศจะยึดคลื่นความถี่วิทยุ 106.5 เอ็ฟเอ็ม หรือ คลื่นกรีนเวฟ ที่กำลังจะหมดสัญญาสัมปทานในสิ้นปีนี้ ร้อนถึงทางบิ๊กบอสส์เอไทม์ “เจ๊ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” ต้องออกมายืนยันว่ากรีนเวฟยังไม่หมดสัญญาเพราะทำสัญญาแบบไม่กำหนดวันสิ้นสุด ไว้เพื่อรอการจัดทำแผนแม่บทเสร็จสิ้น

ล่าสุดบิ๊กแกรมมี่ “อากู๋ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม” ก็ยังออกตัวแรงเตรียมยื่นฟ้อง กสทช.ในกรณีดังกล่าว ล่าสุดมีโอกาสเจอเจ๊ฉอดในงาน “รวมพลคน Do D เปลี่ยนน้ำเสียให้เป็นน้ำดี” ชวนประชาชนมาปั้นลูกอีเอ็มบอลบำบัดน้ำเสีย โดยเจ้าตัวเผยความคืบหน้าให้ฟังว่า มีโอกาสเข้าไปชี้แจงกับทางประธาน กสทช. ถึงกรณีดังกล่าวแล้ว ซึ่งคู่กรณีอ้างว่าเป็นการผิดพลาดทางการสื่อสาร

“ก็ยังยืนยันคลื่นกรีนเวฟของเรายังไม่หมดสัญญาตามที่มีการพูดถึงกัน เรื่องมันที่เกิดขึ้นเพราะว่า ณ วันนี้เรามีคณะกรรมการ กสทช. ซึ่งมีหน้าที่มาจัดระเบียบต่างๆ สถานีวิทยุ และโทรทัศน์ กับคลื่นกรีนเวฟถูกส่งต่อมา เดิมที่คลื่นกรีนเวฟเป็นคลื่นในสังกัดกรมไปรษณีย์ แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นกทช. แล้วก็เปลี่ยนมาเป็น กสทช. ในกฎหมาย กสทช. ไม่สามารถมีคลื่นวิทยุเป็นของตัวเอง แต่ว่าบังเอิญถูกย้ายมากับกสทช.”

“เราได้มีการทำสัญญากันมาก่อนว่า ให้ทางกรีนเวฟทำรายการต่อไป จนกว่าจะมีแผนแม่บทเกิดขึ้น และก็มีการจัดการเหมือนกันหมดทั่วประเทศ อันนั้นคือตามความเข้าใจที่เราเอง หรือว่าผู้จัดการสถานนีทั้งหมดในประเทศนี้เข้าใจกันว่าอย่างนั้น รวมถึงคณะกรรมการชุดเก่าด้วย”

“อย่างล่าสุดครั้งที่เราหมดสัญญา เลยมีการทำบันทึกขึ้นตกลงกันไว้ว่า ให้เราทำกรีนเวฟไปเรื่อยๆ ไม่ได้ระบุเวลาของการจบ เนื่องจากว่ามีความเข้าใจตรงกันว่า เมื่อแผนแม่บทเสร็จ กรีนเวฟและสถานีอื่นๆ ถูกเอาไปรวมกันแล้วมีการจัดสรรใหม่ แต่ว่าอยู่มาวันหนึ่ง มีการให้ข่าวจาก กสทช. ว่าจะเรียกคลื่นกรีนเวฟคืน ประเด็นที่พูดคือคลื่นหมดสัญญา ก็บอกว่าไม่ได้หมดสัญญา ทีนี้ถามว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เวลาที่จะเอาสถานีคลื่นวิทยุคลื่นทั้งๆ ที่ยังไม่หมดสัญญาคืน เป็นไปได้มั้ย เป็นไปได้ แต่ก็ต้องมีการเรียกเราไปหารือว่าทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เสียประโยชน์ เพราะการเช่าสถานีวิทยุไม่ใช่เช่าบ้านจะได้ย้ายเข้าย้ายออกแล้วไม่มีปัญหา”

“ปัญหาที่เกิดขึ้นมันเกิดจากความผิดพลาดที่ทาง กสทช. บอกว่าจะยึดคลื่น บอกว่าหมดสัญญา ซึ่งตรงนี้มันเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเราในเรื่องของลูกค้าโฆษณาที่ เขาเข้ามาถามว่าเมื่อคลื่นหมดสัญญาแล้วคุณมาทำสัญญากับเราทำไม ซึ่งทาง กสทช. บอกว่ามันเป็นการผิดพลาดทางการสื่อสาร แต่เราเสียหายไปแล้ว เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ได้นัดทานข้าวกับลูกค้าและชี้แจงไปแล้ว ยังไงก็ตาม ก็ยังมีการยืนยันว่าหมดสัญญาอยู่ จนวันนี้ไม่ใช่แค่หมดสัญญาแล้ว กลายเป็นว่าหมดสัญญาไปนานแล้ว มันงงๆ มาก”

“เอาเป็นว่าตอนนี้ทางเรากรีนเวฟยังไม่ได้รับการแจ้งอะไรอย่างเป็นทางการ นอกจากดูจากคำสัมภาษณ์ ดูจากทวิตเตอร์ ซึ่งทุกอย่างมันผิดขั้นตอนหมด อย่างแรกเขาต้องเรียกเราเข้าไปหารือ สองต้องมีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่ง ณ วันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเราเองได้มีการเข้าไปคุยกับท่านประธาน กสทช. เข้าไปเรียนท่านถึงเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งท่านก็บอกว่าเป็นการผิดพลาดในการสื่อสาร และก็รับไว้พิจารณา เราก็ต้องรอต่อไป

ยันคลื่น “กรีนเวฟ” จะยังอยู่ แม้อาจจะต้องผลัดเปลี่ยนไปคลื่นความถี่อื่น ปัดไม่เกี่ยวไม่ยอมรับกติกาแต่รู้สึกได้รับความไม่เป็นธรรมสร้างความสงสัยมี ผลประโยชน์อะไรซ่อนเร้นรึเปล่า

”เราได้แต่บอกตัวเองกับข่าวว่าไม่เป็นไร ในสิ่งไม่ดียังมีสิ่งที่ดีอยู่ ในตอนนี้เราได้รู้ว่าคนรักคลื่นกรีนเวฟกันแค่ไหน ทุกคนให้ความสนใจกับคลื่นกรีนเวฟ และเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้คลื่นกรีนเวฟหายไป เพราะกรีนเวฟเป็นมากกว่าคลื่นวิทยุ ยอมรับค่ะว่ามันเป็นธุรกิจค่ะ เราก็ต้องทำให้กรีนเวฟประสบความสำเร็จ แต่ที่มากกว่านั้นก็คือเราได้ทำสิ่งที่ดีงามให้กับสังคมมากมาย 21 ปีที่เราทำมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เชื่อว่ากรีนเวฟก็ยังอยู่ ไม่ว่าจะย้ายไปอยู่ที่ไหนก็เชื่อว่าคนฟังก็ตามไปแน่นอน”

“ทุกวันนี้มีคนพยายามพูดว่าเราไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ยอมรับกติกา มีดีเจลุกขึ้นมาโวยวาย ไม่เคารพกติกา เราอยากจะเรียนว่าชีวิตฉอดอยู่กับคลื่นวิทยุมาตลอด ทุกคนเข้าใจดี เราเคยผ่านช่วงที่คลื่นหมดสัญญา ไม่ต่อสัญญา อันนี้เราเจอมาตลอด เราเข้าใจได้ แต่ปัญหาครั้งนี้มันอยู่ที่ว่าผิดขั้นตอนทุกประการ ที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม”

“เราเองไม่รู้ว่ามันจะมีประโยชน์แฝงเร้นหรือว่าอะไรอย่างที่คนอื่นพูดหรือ เปล่า แต่มันน่าสงสัยว่าทำไมมันต้องรวดเร็วขนาดนี้ และสิ่งสำคัญที่สุดอยากให้ดูที่ว่า กสทช. มีสิทธิ์ที่จะเอาคลื่นไปจริงหรือไม่ เอาไปแล้วเขาจะเอาไปทำอะไร เพราะเขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำต่อ จะเอาไปให้เอกชนรายอื่นทำก็ไม่ได้ จะไปจ้างรายอื่นทำก็ไม่ได้ เขาต้องตอบกับสังคมให้ชัดเจน อยู่ๆ มาบอกว่าจะเอาไปทำประโยชน์ ถามว่าทำได้มั้ย ลองถามนักกฎหมายดู”

ส่วนกรณีบิ๊กแกรมมี่ “อากู๋ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม” ออกมาประกาศกร้าวเตรียมยื่นฟ้อง “กสทช.” นั้นบอกเป็นแค่ขั้นตอนที่คุยกัน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจถึงขั้นนั้น

“เรื่องนั้นคิดว่าคงมีคนไปถามนำ แล้วคุณไพบูลย์ก็เลยตอบไป แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดกันไปถึงตรงนั้น เพราะอย่างที่บอกว่าขั้นตอนมันผิดพลาดไปหมด เพราะว่ามันมีความผิดพลาดในขั้นตอน ถามว่าจะฟ้องมั้ยในขั้นสุดท้ายนั้นก็เป็นอีกทิศทางหนึ่งที่เราคงต้องคุยกัน ในขั้นตอนว่าเราจะทำอะไรต่อ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น เพราะว่ายังไม่มีอะไรแจ้งมาเลย แล้วไม่รู้ว่าจะฟ้องใครด้วย”

“เราค่อนข้างมั่นใจว่ากรีนเวฟยังต้องอยู่ต่อไป แต่ว่าอยู่ที่ไหนยังไงค่อยว่ากันต่ออีกที เราเองก็มองหาการต่อสัมปทานกับคลื่นอื่นไว้เหมือนกันค่ะ แต่ยังไงของความเป็นธรรมก่อน เพราะที่เข้าไปคุยมาก็ยังไม่มีการตอบรับอะไรกลับมาที่เป็นรูปธรรมชัดเจนเลย มีแต่พูดกันไปมา ในส่วนของทีมงานเราเขาไม่มีข้อสงสัย เพราะว่าเราทำงานกันเป็นทีมอยู่แล้ว เวลามีวิกฤตอะไรเกิดขึ้นทุกคนฟังฉอดคนเดียว เพราะว่าฉอดเป็นคนเดียวที่ให้คำตอบที่ถูกต้อง ก็จะบอกให้เขาฟังเราคนเดียว”


ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9540000148044



ประเด็นที่เกี่ยวข้อง..

เจ๊ฉอดสู้!! 106.5และALL1ปณ.(ลั่น.สญ.ไม่มีจุดจบเพราะรอแผนแม่บทเสร็จก่อนที่ได้ทำกับ+กทช.)//นที.กม.ให้ทำเป็นสิ่งแรก
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=thailandinthepresentday&month=15-11-2011&group=7&gblog=94

สุภิญญา ฟัน++พุธหน้าคลอดแผนแม่บทฯ(ใช้แผนเดิมกทช.ที่ทำแล้วกว่า90%)//บอร์ดเล็กเปิดช่องให้เอกชนทำต่อ6ด.ไม่เกิน 1ปี
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=thailandinthepresentday&month=16-11-2011&group=7&gblog=95

GMM เตรียมฟ้องกลับ กสทช. // อ้างคุยนทีแล้วทำแผนแม่บทก่อน// นที.บอก สุภิญญา เข้าใจผิด!!
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=thailandinthepresentday&month=16-11-2011&group=7&gblog=97

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.