24 กรกฎาคม 2554 Nokia-Siemens networks แนะโอเปอร์เรเตอร์มือถือไทยต้องเน้นวางแผนเครือข่าย 3G ให้ดี เชื่อโมบายบรอดแบนด์มาแน่
Nokia-Siemens networks แนะโอเปอร์เรเตอร์มือถือไทยต้องเน้นวางแผนเครือข่าย 3G ให้ดี เชื่อโมบายบรอดแบนด์มาแน่
Nokia-Siemens networks แนะโอเปอร์เรเตอร์มือถือไทยต้องเน้นวางแผนเครือข่าย 3G ให้ดี เชื่อโมบายบรอดแบนด์มาแน่
ประเด็นหลัก
"ปราก ฎการณ์ไอโฟนรวมถึงสมาร์ทโฟนอื่นๆ ที่มีการส่งซิกแนลลิ่งอยู่ตลอดทำให้ผู้ให้บริการมือถือ 3G ต้องหันมาปรับปรุงเครือข่ายที่มีอยู่ให้รองรับกับทราฟิกซิกแนลลิ่งที่เกิด ขึ้น ควบคู่กับการเพิ่มขึ้นดาต้าที่ส่วนใหญ่จะเกิดจากการใช้ดีไวซ์ที่เป็นดองโก ที่สร้างทราฟิกบนเครือข่ายถึง 70% ขณะที่สมาร์ทโฟนมีเพียง 20% เท่านั้น"
"แค่ สมาร์ทโฟนสัดส่วนจะเพิ่มเป็น 50% ภายในเวลาอันรวดเร็วเมื่อมี 3G ยังไม่รวมถึงการเติบโตของอุปกรณ์ดองโกและแท็บเล็ตซึ่งเชื่อว่าจะเติบโตไม่ แพ้สมาร์ทโฟน"
__________________________________________________________
โนเกียซีเมนส์แนะโอเปอเรเตอร์ วางแผนเครือข่ายรับโมบายบรอดแบนด์
โนเกีย ซีเมนส์เน็ตเวิร์คส แนะโอเปอร์เรเตอร์มือถือไทยต้องเน้นวางแผนเครือข่าย 3G ให้ดี เชื่อโมบายบรอดแบนด์มาแน่
นางสาวมาริสา อำมาตย์มณี หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์ประจำเอเชียแปซิฟิก บริษัท โนเกีย ซีเมนส์เน็ตเวิร์คส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เมื่อไรที่ประเทศไทยเปิดให้บริการ 3G สิ่งที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยจะต้องให้ความสำคัญก็คือ โมบาย บรอดแบนด์ที่จะต้องมีการวางแผนรองรับปริมาณทราฟิกของข้อมูลที่จะเกิดขึ้น อย่างมหาศาล โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มข้อมูลในส่วนทึ่เรียกว่าซิก แนลลิ่ง (signalling) หรือการส่งข้อมูลขนาดเล็กบนเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น จากข้อมูลของผู้ให้บริการมือถือในต่างประเทศที่เปิดให้บริการ 3G ซึ่งพบว่ามีการเพิ่มขึ้นของซิกแนลลิ่งสูงถึง 177% ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของข้อมูลมีเพียง 65%
"ปรากฎการณ์ไอโฟนรวมถึงสมาร์ทโฟนอื่นๆ ที่มีการส่งซิกแนลลิ่งอยู่ตลอดทำให้ผู้ให้บริการมือถือ 3G ต้องหันมาปรับปรุงเครือข่ายที่มีอยู่ให้รองรับกับทราฟิกซิกแนลลิ่งที่เกิด ขึ้น ควบคู่กับการเพิ่มขึ้นดาต้าที่ส่วนใหญ่จะเกิดจากการใช้ดีไวซ์ที่เป็นดองโก ที่สร้างทราฟิกบนเครือข่ายถึง 70% ขณะที่สมาร์ทโฟนมีเพียง 20% เท่านั้น"
ทั้งหมดนี้สะท้อนความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ให้บริการมือถือในประเทศไทยจะ ต้องเตรียมการรับมือเรื่องนี้ ใน 3 เรื่อง เริ่มจากการขยายความจุในการรองรับซิกแนลลิ่งที่จะเกิดขึ้นจากการใช้สมาร์ท โฟน ที่คาดว่าปีนี้จะมีประมาณ 3.4 ล้านเครื่อง คิดเป็น 10% ของโทรศัพท์มือถือทั้งหมด
ขณะที่แนวโน้มการเปลี่ยนมือถือจากเครื่องที่เป็นฟีเจอร์โฟนมาเป็นสมาร์ทโฟน มีประมาณ 9-10% นั้นหมายถึงเมื่อไรที่ 3G พร้อมให้บริการ ก็จะมีกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟนกลุ่มใหญ่ที่พร้อมจะใช้โมบายบรอดแบนด์ทันที ไม่เหมือนกับผู้ให้บริการ 3G ในต่างประเทศที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนเริ่มต้นพร้อมๆ กัน ก็ยังเจอปัญหาดังกล่าวซึ่งผู้ออกแบบเครือข่ายไม่ได้คิดถึงเอาไว้แต่แรก สอง ขยายความจุในเรื่องของดาต้าให้มากขึ้น และวางแผนขยายเครือข่ายรองรับสมาร์ทดีไวซ์ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
"แค่สมาร์ทโฟนสัดส่วนจะเพิ่มเป็น 50% ภายในเวลาอันรวดเร็วเมื่อมี 3G ยังไม่รวมถึงการเติบโตของอุปกรณ์ดองโกและแท็บเล็ตซึ่งเชื่อว่าจะเติบโตไม่ แพ้สมาร์ทโฟน"
ASTVผู้จัดการ
Nokia-Siemens networks แนะโอเปอร์เรเตอร์มือถือไทยต้องเน้นวางแผนเครือข่าย 3G ให้ดี เชื่อโมบายบรอดแบนด์มาแน่
ประเด็นหลัก
"ปราก ฎการณ์ไอโฟนรวมถึงสมาร์ทโฟนอื่นๆ ที่มีการส่งซิกแนลลิ่งอยู่ตลอดทำให้ผู้ให้บริการมือถือ 3G ต้องหันมาปรับปรุงเครือข่ายที่มีอยู่ให้รองรับกับทราฟิกซิกแนลลิ่งที่เกิด ขึ้น ควบคู่กับการเพิ่มขึ้นดาต้าที่ส่วนใหญ่จะเกิดจากการใช้ดีไวซ์ที่เป็นดองโก ที่สร้างทราฟิกบนเครือข่ายถึง 70% ขณะที่สมาร์ทโฟนมีเพียง 20% เท่านั้น"
"แค่ สมาร์ทโฟนสัดส่วนจะเพิ่มเป็น 50% ภายในเวลาอันรวดเร็วเมื่อมี 3G ยังไม่รวมถึงการเติบโตของอุปกรณ์ดองโกและแท็บเล็ตซึ่งเชื่อว่าจะเติบโตไม่ แพ้สมาร์ทโฟน"
__________________________________________________________
โนเกียซีเมนส์แนะโอเปอเรเตอร์ วางแผนเครือข่ายรับโมบายบรอดแบนด์
โนเกีย ซีเมนส์เน็ตเวิร์คส แนะโอเปอร์เรเตอร์มือถือไทยต้องเน้นวางแผนเครือข่าย 3G ให้ดี เชื่อโมบายบรอดแบนด์มาแน่
นางสาวมาริสา อำมาตย์มณี หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์ประจำเอเชียแปซิฟิก บริษัท โนเกีย ซีเมนส์เน็ตเวิร์คส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เมื่อไรที่ประเทศไทยเปิดให้บริการ 3G สิ่งที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยจะต้องให้ความสำคัญก็คือ โมบาย บรอดแบนด์ที่จะต้องมีการวางแผนรองรับปริมาณทราฟิกของข้อมูลที่จะเกิดขึ้น อย่างมหาศาล โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มข้อมูลในส่วนทึ่เรียกว่าซิก แนลลิ่ง (signalling) หรือการส่งข้อมูลขนาดเล็กบนเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น จากข้อมูลของผู้ให้บริการมือถือในต่างประเทศที่เปิดให้บริการ 3G ซึ่งพบว่ามีการเพิ่มขึ้นของซิกแนลลิ่งสูงถึง 177% ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของข้อมูลมีเพียง 65%
"ปรากฎการณ์ไอโฟนรวมถึงสมาร์ทโฟนอื่นๆ ที่มีการส่งซิกแนลลิ่งอยู่ตลอดทำให้ผู้ให้บริการมือถือ 3G ต้องหันมาปรับปรุงเครือข่ายที่มีอยู่ให้รองรับกับทราฟิกซิกแนลลิ่งที่เกิด ขึ้น ควบคู่กับการเพิ่มขึ้นดาต้าที่ส่วนใหญ่จะเกิดจากการใช้ดีไวซ์ที่เป็นดองโก ที่สร้างทราฟิกบนเครือข่ายถึง 70% ขณะที่สมาร์ทโฟนมีเพียง 20% เท่านั้น"
ทั้งหมดนี้สะท้อนความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ให้บริการมือถือในประเทศไทยจะ ต้องเตรียมการรับมือเรื่องนี้ ใน 3 เรื่อง เริ่มจากการขยายความจุในการรองรับซิกแนลลิ่งที่จะเกิดขึ้นจากการใช้สมาร์ท โฟน ที่คาดว่าปีนี้จะมีประมาณ 3.4 ล้านเครื่อง คิดเป็น 10% ของโทรศัพท์มือถือทั้งหมด
ขณะที่แนวโน้มการเปลี่ยนมือถือจากเครื่องที่เป็นฟีเจอร์โฟนมาเป็นสมาร์ทโฟน มีประมาณ 9-10% นั้นหมายถึงเมื่อไรที่ 3G พร้อมให้บริการ ก็จะมีกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟนกลุ่มใหญ่ที่พร้อมจะใช้โมบายบรอดแบนด์ทันที ไม่เหมือนกับผู้ให้บริการ 3G ในต่างประเทศที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนเริ่มต้นพร้อมๆ กัน ก็ยังเจอปัญหาดังกล่าวซึ่งผู้ออกแบบเครือข่ายไม่ได้คิดถึงเอาไว้แต่แรก สอง ขยายความจุในเรื่องของดาต้าให้มากขึ้น และวางแผนขยายเครือข่ายรองรับสมาร์ทดีไวซ์ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
"แค่สมาร์ทโฟนสัดส่วนจะเพิ่มเป็น 50% ภายในเวลาอันรวดเร็วเมื่อมี 3G ยังไม่รวมถึงการเติบโตของอุปกรณ์ดองโกและแท็บเล็ตซึ่งเชื่อว่าจะเติบโตไม่ แพ้สมาร์ทโฟน"
ASTVผู้จัดการ
ไม่มีความคิดเห็น: