28 กรกฎาคม 2555 4 ผู้นำเข้าโทรศัพท์ร้องกสทช. โดนมิจฉาชีพอ้างเป็นจนท.รีดเงินฐานขายมือถือเถื่อน
4 ผู้นำเข้าโทรศัพท์ร้องกสทช. โดนมิจฉาชีพอ้างเป็นจนท.รีดเงินฐานขายมือถือเถื่อน
ประเด็นหลัก
สำหรับบริษัทที่หารือกับ กสทช.ได้แก่ บริษัท มีเดีย อินฟินิตี้ บริษัทเจมาร์ทจำกัด (มหาชน) บริษัท ทีดับบลิวแซด จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เทคโน มาสเตอร์โฟน จำกัด โดยบริษัทเหล่านี้มีโทรศัพท์บางรุ่นที่เพิกถอนใบอนุญาต แต่ทั้ง 4 บริษัทรายงานว่า คู่ค้าและพันธมิตรที่จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ถูกเรียกค่าปรับ และยึดโทรศัพท์มือถือ ทั้งๆ ที่โทรศัพท์รุ่นที่จำหน่ายนั้นไม่ใช่รุ่นที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
ก่อน หน้านี้ สำนักงานกสทช.ได้มีคำสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ จำนวน 280 รุ่น จาก 27 บริษัท มีผลตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมาและบางบริษัทมีการแก้ไขไปแล้ว
“ในเบื้องต้นสำนักงา นกสทช.ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบเบื้องต้นว่ามีเจ้าหน้าที่ของ กสทช.กระทำการตามที่ได้มีการร้องเรียนจริงหรือไม่ และประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้สอบสวนว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือบุคคลแอบอ้างเป็นตำรวจดำเนินการ ในลักษณะดังกล่าวจริงหรือไม่ ซึ่งกสทช.ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือเต็มที่”
____________________________________________
4ผู้นำเข้าโทรศัพท์ร้องกสทช.โดนมิจฉาชีพอ้างเป็นจนท.รีดเงินฐานขายมือถือเถื่อน
นาย ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้หารือกับผู้นำเข้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ และได้รับเรื่องร้องเรียนว่า ได้มีกลุ่มบุคคลแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ กสทช.และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปจับกุม และ เรียกค่าปรับจากบริษัทผู้จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในข้อหาจำหน่ายโทรศัพท์รุ่นที่กสทช.เพิกถอนใบอนุญาต
สำหรับ บริษัทที่หารือกับ กสทช.ได้แก่ บริษัท มีเดีย อินฟินิตี้ บริษัทเจมาร์ทจำกัด (มหาชน) บริษัท ทีดับบลิวแซด จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เทคโน มาสเตอร์โฟน จำกัด โดยบริษัทเหล่านี้มีโทรศัพท์บางรุ่นที่เพิกถอนใบอนุญาต แต่ทั้ง 4 บริษัทรายงานว่า คู่ค้าและพันธมิตรที่จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ถูกเรียกค่าปรับ และยึดโทรศัพท์มือถือ ทั้งๆ ที่โทรศัพท์รุ่นที่จำหน่ายนั้นไม่ใช่รุ่นที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
ก่อน หน้านี้ สำนักงานกสทช.ได้มีคำสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ จำนวน 280 รุ่น จาก 27 บริษัท มีผลตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมาและบางบริษัทมีการแก้ไขไปแล้ว
“ในเบื้องต้นสำนักงา นกสทช.ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบเบื้องต้นว่ามีเจ้าหน้าที่ของ กสทช.กระทำการตามที่ได้มีการร้องเรียนจริงหรือไม่ และประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้สอบสวนว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือบุคคลแอบอ้างเป็นตำรวจดำเนินการ ในลักษณะดังกล่าวจริงหรือไม่ ซึ่งกสทช.ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือเต็มที่”
นาย ฐากร กล่าวยอมรับว่า การออกคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อนหน้านี้เกิดเข้าใจคลาดเคลื่อนในหลายประเด็น เพราะคำสั่งทางปกครองที่สั่งให้ยกเลิกใบอนุญาตก็เป็นเฉพาะบางรุ่นเท่านั้น ไม่ใช่ทุกรุ่น และ เมื่อกสทช.ได้หารือกับผู้ประกอบการก็มีความเป็นกังวล และเห็นใจบริษัทเอกชน เพราะข่าวที่ออกมาก็มีความซับซ้อน
ล่าสุดอยู่ ระหว่างหารือกับบริษัทที่นำเข้า และได้เปิดให้บริษัทเหล่านั้น ส่งเรื่องอุทธรณ์คำสั่ง และส่งผลแล็บ (ตรวจสอบมาตรฐาน) มาให้พิจารณาอีกครั้ง โดยยืนยันว่า การดำเนินการจะให้เป็นไปด้วยความยุติธรรมต่อผู้ประกอบการ แต่หากโทรศัพท์รุ่นไหนที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตนำเข้า ก็ต้องนำไปทำลาย หรือนำออกนอกประเทศภายใน 30 วัน โดยไม่มีเงื่อนไข
แนวหน้า
http://www.ryt9.com/s/nnd/1454351
ประเด็นหลัก
สำหรับบริษัทที่หารือกับ กสทช.ได้แก่ บริษัท มีเดีย อินฟินิตี้ บริษัทเจมาร์ทจำกัด (มหาชน) บริษัท ทีดับบลิวแซด จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เทคโน มาสเตอร์โฟน จำกัด โดยบริษัทเหล่านี้มีโทรศัพท์บางรุ่นที่เพิกถอนใบอนุญาต แต่ทั้ง 4 บริษัทรายงานว่า คู่ค้าและพันธมิตรที่จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ถูกเรียกค่าปรับ และยึดโทรศัพท์มือถือ ทั้งๆ ที่โทรศัพท์รุ่นที่จำหน่ายนั้นไม่ใช่รุ่นที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
ก่อน หน้านี้ สำนักงานกสทช.ได้มีคำสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ จำนวน 280 รุ่น จาก 27 บริษัท มีผลตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมาและบางบริษัทมีการแก้ไขไปแล้ว
“ในเบื้องต้นสำนักงา นกสทช.ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบเบื้องต้นว่ามีเจ้าหน้าที่ของ กสทช.กระทำการตามที่ได้มีการร้องเรียนจริงหรือไม่ และประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้สอบสวนว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือบุคคลแอบอ้างเป็นตำรวจดำเนินการ ในลักษณะดังกล่าวจริงหรือไม่ ซึ่งกสทช.ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือเต็มที่”
____________________________________________
4ผู้นำเข้าโทรศัพท์ร้องกสทช.โดนมิจฉาชีพอ้างเป็นจนท.รีดเงินฐานขายมือถือเถื่อน
นาย ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้หารือกับผู้นำเข้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ และได้รับเรื่องร้องเรียนว่า ได้มีกลุ่มบุคคลแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ กสทช.และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปจับกุม และ เรียกค่าปรับจากบริษัทผู้จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในข้อหาจำหน่ายโทรศัพท์รุ่นที่กสทช.เพิกถอนใบอนุญาต
สำหรับ บริษัทที่หารือกับ กสทช.ได้แก่ บริษัท มีเดีย อินฟินิตี้ บริษัทเจมาร์ทจำกัด (มหาชน) บริษัท ทีดับบลิวแซด จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เทคโน มาสเตอร์โฟน จำกัด โดยบริษัทเหล่านี้มีโทรศัพท์บางรุ่นที่เพิกถอนใบอนุญาต แต่ทั้ง 4 บริษัทรายงานว่า คู่ค้าและพันธมิตรที่จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ถูกเรียกค่าปรับ และยึดโทรศัพท์มือถือ ทั้งๆ ที่โทรศัพท์รุ่นที่จำหน่ายนั้นไม่ใช่รุ่นที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
ก่อน หน้านี้ สำนักงานกสทช.ได้มีคำสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ จำนวน 280 รุ่น จาก 27 บริษัท มีผลตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมาและบางบริษัทมีการแก้ไขไปแล้ว
“ในเบื้องต้นสำนักงา นกสทช.ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบเบื้องต้นว่ามีเจ้าหน้าที่ของ กสทช.กระทำการตามที่ได้มีการร้องเรียนจริงหรือไม่ และประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้สอบสวนว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือบุคคลแอบอ้างเป็นตำรวจดำเนินการ ในลักษณะดังกล่าวจริงหรือไม่ ซึ่งกสทช.ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือเต็มที่”
นาย ฐากร กล่าวยอมรับว่า การออกคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อนหน้านี้เกิดเข้าใจคลาดเคลื่อนในหลายประเด็น เพราะคำสั่งทางปกครองที่สั่งให้ยกเลิกใบอนุญาตก็เป็นเฉพาะบางรุ่นเท่านั้น ไม่ใช่ทุกรุ่น และ เมื่อกสทช.ได้หารือกับผู้ประกอบการก็มีความเป็นกังวล และเห็นใจบริษัทเอกชน เพราะข่าวที่ออกมาก็มีความซับซ้อน
ล่าสุดอยู่ ระหว่างหารือกับบริษัทที่นำเข้า และได้เปิดให้บริษัทเหล่านั้น ส่งเรื่องอุทธรณ์คำสั่ง และส่งผลแล็บ (ตรวจสอบมาตรฐาน) มาให้พิจารณาอีกครั้ง โดยยืนยันว่า การดำเนินการจะให้เป็นไปด้วยความยุติธรรมต่อผู้ประกอบการ แต่หากโทรศัพท์รุ่นไหนที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตนำเข้า ก็ต้องนำไปทำลาย หรือนำออกนอกประเทศภายใน 30 วัน โดยไม่มีเงื่อนไข
แนวหน้า
http://www.ryt9.com/s/nnd/1454351
ไม่มีความคิดเห็น: