08 พฤศจิกายน 2555 (เกาะติดประมูล3G) รับแล้ว!! ศาลปกครองคดีดำ 2865/2555 // สุริยะใส ชมผู้ตรวจการต้องทำความกระจ่างต่อสังคม
ประเด็นหลัก
ที่ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ยื่นความเห็นเกี่ยวกับการให้ใบอนุญาตการใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล 2.1 GHz หรือ 3จี เสนอให้ศาลปกครองพิจารณาและวินิจฉัยว่าเป็นการดำเนินการที่เป็นแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรมตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรการ 47 และ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบการกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคม พ.ศ.2553 มาตรการ 45 ประกอบมาตรา 41 วรรค 1 และวรรค 7 หรือไม่
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวแสดงความชื่นชมต่อมติผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ส่งเรื่องให้ศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉินและตรวจสอบว่าการประมูล 3 จี มีการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรมหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ข้อพิพาทการประมูล 3 จี ได้ข้อยุติและมีความชัดเจนว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร เรื่องนี้แม้จะซับซ้อน แต่ถือเป็นหน้าที่ที่กลไกตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญต้องทำความกระจ่างต่อสังคม
ทั้งนี้ เมื่อข้อพิพาทขึ้นสู่ศาลปกครองทุกฝ่ายก็ต้องรอคำสั่งศาล ซึ่งเชื่อว่าศาลคงจะเปิดไต่สวนฉุกเฉินเพราะก่อนหน้านี้แม้ศาลปกครองไม่รับฟ้องภาคประชาชน เพราะไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง แต่ในคำสั่งศาลก็ระบุไว้ชัดว่ามีเหตุอันสมควรที่จะต้องตรวจสอบดุลพินิจและหลักเกณฑ์การประมูลที่ประกาศโดย กสทช.ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
“ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะได้แจกแจงรายละเอียดข้อเท็จจริงต่อศาลปกครอง สังคมก็จะได้รับรู้รายละเอียดทั้งหมด จากกระบวนการวินิจฉัยของศาลปกครองที่ใช้ระบบไต่สวน ถ้าศาลเห็นว่าการประมูล 3 จี ไม่มีการแข่งขันกันจริงก็ต้องจัดประมูลกันใหม่ แต่ถ้าศาลเห็นว่าการประมูลโปร่งใส กสทช.ก็ต้องเดินหน้าออกใบอนุญาตให้เอกชน 3 รายต่อไป” นายสุริยะใส กล่าว
________________________________________
ศาล ปค.กลางรับคดีผู้ตรวจการแผ่นดินร้องระงับใบอนุญาต3จี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ยื่นความเห็นเกี่ยวกับการให้ใบอนุญาตการใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล 2.1 GHz หรือ 3จี เสนอให้ศาลปกครองพิจารณาและวินิจฉัยว่าเป็นการดำเนินการที่เป็นแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรมตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรการ 47 และ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบการกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคม พ.ศ.2553 มาตรการ 45 ประกอบมาตรา 41 วรรค 1 และวรรค 7 หรือไม่
โดยขอให้ศาลปกครองได้มีคำสั่งไต่สวนฉุกเฉินเพื่อมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว สั่งห้ามการให้ใบอนุญาตการใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล 2.1 GHz หรือ 3จี กับบริษัทเอกชน 3 ราย ที่ได้ประมูลเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น
ขณะนี้ศาลปกครองกลางได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ในสารบบความ เป็นคดีหมายเลขดำที่ 2865/2555 โดยหลังจากนี้จะได้มีการจ่ายสำนวนให้องค์คณะตุลาการรับผิดชอบ พิจารณาคำฟ้องเพื่อมีคำสั่งต่อไปว่าจะให้ไต่สวนฉุกเฉินหรือไม่ แต่เบื้องต้นศาลปกครองกลางยังไม่มีคำสั่งใดๆ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวออกมาแต่อย่างใด
มติชน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1352375217&grpid=03&catid=&subcatid=
_____________________________________
“สุริยะใส” ชมผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นสอบประมูล 3 จี หวังทุกฝ่ายแจงรายละเอียดต่อศาล
ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน เผยชื่นชมผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติส่งเรื่องให้ศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉินการประมูล 3 จี เป็นธรรมหรือไม่ หวังทุกฝ่ายแจงต่อศาล ชี้หากตัดสินว่าฮั้วจริง กทค.เจอมาตรา 157
วันนี้ (8 พ.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวแสดงความชื่นชมต่อมติผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ส่งเรื่องให้ศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉินและตรวจสอบว่าการประมูล 3 จี มีการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรมหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ข้อพิพาทการประมูล 3 จี ได้ข้อยุติและมีความชัดเจนว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร เรื่องนี้แม้จะซับซ้อน แต่ถือเป็นหน้าที่ที่กลไกตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญต้องทำความกระจ่างต่อสังคม
ทั้งนี้ เมื่อข้อพิพาทขึ้นสู่ศาลปกครองทุกฝ่ายก็ต้องรอคำสั่งศาล ซึ่งเชื่อว่าศาลคงจะเปิดไต่สวนฉุกเฉินเพราะก่อนหน้านี้แม้ศาลปกครองไม่รับฟ้องภาคประชาชน เพราะไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง แต่ในคำสั่งศาลก็ระบุไว้ชัดว่ามีเหตุอันสมควรที่จะต้องตรวจสอบดุลพินิจและหลักเกณฑ์การประมูลที่ประกาศโดย กสทช.ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
“ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะได้แจกแจงรายละเอียดข้อเท็จจริงต่อศาลปกครอง สังคมก็จะได้รับรู้รายละเอียดทั้งหมด จากกระบวนการวินิจฉัยของศาลปกครองที่ใช้ระบบไต่สวน ถ้าศาลเห็นว่าการประมูล 3 จี ไม่มีการแข่งขันกันจริงก็ต้องจัดประมูลกันใหม่ แต่ถ้าศาลเห็นว่าการประมูลโปร่งใส กสทช.ก็ต้องเดินหน้าออกใบอนุญาตให้เอกชน 3 รายต่อไป” นายสุริยะใส กล่าว
ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ยังกล่าวอีกว่า ประเด็นสำคัญหากศาลชี้ว่าการประมูลไม่แข่งขันกันจริงหรือมีการฮั้วกัน จะส่งผลให้ กสทช. โดยเฉพาะ กทค.ทั้ง 4 คนที่รับรองการประมูลไป จะตกที่นั่งลำบากเพราะอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตาม พรบ.ฮั้วประมูล รวมทั้งพฤติกรรมของเอกชนทั้ง 3 รายด้วย ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ตั้งอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวนแล้ว
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9550000136863&Keyword=%a1%ca%b7
ที่ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ยื่นความเห็นเกี่ยวกับการให้ใบอนุญาตการใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล 2.1 GHz หรือ 3จี เสนอให้ศาลปกครองพิจารณาและวินิจฉัยว่าเป็นการดำเนินการที่เป็นแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรมตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรการ 47 และ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบการกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคม พ.ศ.2553 มาตรการ 45 ประกอบมาตรา 41 วรรค 1 และวรรค 7 หรือไม่
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวแสดงความชื่นชมต่อมติผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ส่งเรื่องให้ศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉินและตรวจสอบว่าการประมูล 3 จี มีการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรมหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ข้อพิพาทการประมูล 3 จี ได้ข้อยุติและมีความชัดเจนว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร เรื่องนี้แม้จะซับซ้อน แต่ถือเป็นหน้าที่ที่กลไกตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญต้องทำความกระจ่างต่อสังคม
ทั้งนี้ เมื่อข้อพิพาทขึ้นสู่ศาลปกครองทุกฝ่ายก็ต้องรอคำสั่งศาล ซึ่งเชื่อว่าศาลคงจะเปิดไต่สวนฉุกเฉินเพราะก่อนหน้านี้แม้ศาลปกครองไม่รับฟ้องภาคประชาชน เพราะไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง แต่ในคำสั่งศาลก็ระบุไว้ชัดว่ามีเหตุอันสมควรที่จะต้องตรวจสอบดุลพินิจและหลักเกณฑ์การประมูลที่ประกาศโดย กสทช.ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
“ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะได้แจกแจงรายละเอียดข้อเท็จจริงต่อศาลปกครอง สังคมก็จะได้รับรู้รายละเอียดทั้งหมด จากกระบวนการวินิจฉัยของศาลปกครองที่ใช้ระบบไต่สวน ถ้าศาลเห็นว่าการประมูล 3 จี ไม่มีการแข่งขันกันจริงก็ต้องจัดประมูลกันใหม่ แต่ถ้าศาลเห็นว่าการประมูลโปร่งใส กสทช.ก็ต้องเดินหน้าออกใบอนุญาตให้เอกชน 3 รายต่อไป” นายสุริยะใส กล่าว
________________________________________
ศาล ปค.กลางรับคดีผู้ตรวจการแผ่นดินร้องระงับใบอนุญาต3จี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ยื่นความเห็นเกี่ยวกับการให้ใบอนุญาตการใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล 2.1 GHz หรือ 3จี เสนอให้ศาลปกครองพิจารณาและวินิจฉัยว่าเป็นการดำเนินการที่เป็นแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรมตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรการ 47 และ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบการกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคม พ.ศ.2553 มาตรการ 45 ประกอบมาตรา 41 วรรค 1 และวรรค 7 หรือไม่
โดยขอให้ศาลปกครองได้มีคำสั่งไต่สวนฉุกเฉินเพื่อมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว สั่งห้ามการให้ใบอนุญาตการใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล 2.1 GHz หรือ 3จี กับบริษัทเอกชน 3 ราย ที่ได้ประมูลเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น
ขณะนี้ศาลปกครองกลางได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ในสารบบความ เป็นคดีหมายเลขดำที่ 2865/2555 โดยหลังจากนี้จะได้มีการจ่ายสำนวนให้องค์คณะตุลาการรับผิดชอบ พิจารณาคำฟ้องเพื่อมีคำสั่งต่อไปว่าจะให้ไต่สวนฉุกเฉินหรือไม่ แต่เบื้องต้นศาลปกครองกลางยังไม่มีคำสั่งใดๆ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวออกมาแต่อย่างใด
มติชน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1352375217&grpid=03&catid=&subcatid=
_____________________________________
“สุริยะใส” ชมผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นสอบประมูล 3 จี หวังทุกฝ่ายแจงรายละเอียดต่อศาล
ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน เผยชื่นชมผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติส่งเรื่องให้ศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉินการประมูล 3 จี เป็นธรรมหรือไม่ หวังทุกฝ่ายแจงต่อศาล ชี้หากตัดสินว่าฮั้วจริง กทค.เจอมาตรา 157
วันนี้ (8 พ.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวแสดงความชื่นชมต่อมติผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ส่งเรื่องให้ศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉินและตรวจสอบว่าการประมูล 3 จี มีการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรมหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ข้อพิพาทการประมูล 3 จี ได้ข้อยุติและมีความชัดเจนว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร เรื่องนี้แม้จะซับซ้อน แต่ถือเป็นหน้าที่ที่กลไกตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญต้องทำความกระจ่างต่อสังคม
ทั้งนี้ เมื่อข้อพิพาทขึ้นสู่ศาลปกครองทุกฝ่ายก็ต้องรอคำสั่งศาล ซึ่งเชื่อว่าศาลคงจะเปิดไต่สวนฉุกเฉินเพราะก่อนหน้านี้แม้ศาลปกครองไม่รับฟ้องภาคประชาชน เพราะไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง แต่ในคำสั่งศาลก็ระบุไว้ชัดว่ามีเหตุอันสมควรที่จะต้องตรวจสอบดุลพินิจและหลักเกณฑ์การประมูลที่ประกาศโดย กสทช.ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
“ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะได้แจกแจงรายละเอียดข้อเท็จจริงต่อศาลปกครอง สังคมก็จะได้รับรู้รายละเอียดทั้งหมด จากกระบวนการวินิจฉัยของศาลปกครองที่ใช้ระบบไต่สวน ถ้าศาลเห็นว่าการประมูล 3 จี ไม่มีการแข่งขันกันจริงก็ต้องจัดประมูลกันใหม่ แต่ถ้าศาลเห็นว่าการประมูลโปร่งใส กสทช.ก็ต้องเดินหน้าออกใบอนุญาตให้เอกชน 3 รายต่อไป” นายสุริยะใส กล่าว
ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ยังกล่าวอีกว่า ประเด็นสำคัญหากศาลชี้ว่าการประมูลไม่แข่งขันกันจริงหรือมีการฮั้วกัน จะส่งผลให้ กสทช. โดยเฉพาะ กทค.ทั้ง 4 คนที่รับรองการประมูลไป จะตกที่นั่งลำบากเพราะอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตาม พรบ.ฮั้วประมูล รวมทั้งพฤติกรรมของเอกชนทั้ง 3 รายด้วย ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ตั้งอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวนแล้ว
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9550000136863&Keyword=%a1%ca%b7
ไม่มีความคิดเห็น: