21 ธันวาคม 2555 (บทความ) ยุคทองโมบายแอพฯ พร้อม 3 จีแจ้งเกิด! ( เรื่องดีมากจริงๆ สร้างนักพัฒนารุ่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้น รวมนักศึกษามหาวิทยาลัย)
ประเด็นหลัก
****ยุคทองผู้ค้ามือถือ
อย่างไรก็ตามบรรดาโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่อย่าง เอไอเอส หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) แสดงความคิดเห็นกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การเปิดให้บริการระบบ 3 จี ของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะส่งผลให้เครื่องลูกข่าย (โทรศัพท์เคลื่อนที่) มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% และจะส่งผลดีต่อผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ อาทิเช่น บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ที.จี.โฟน จำกัด เพราะจะได้ผลประโยชน์จากการจัดจำหน่ายเครื่อง เนื่องจากผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่หากต้องการใช้ระบบ 3 จี ต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่
เช่นเดียวกับนายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ในปี 2556 อุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่จะเข้าสู่ยุคทองของตลาดเครื่องทดแทน ในปัจจุบัน ดีแทค มีผู้ใช้บริการทั้งสิ้น 25 ล้านคน แบ่งเป็นผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์จำนวน 5-6 ล้านคน และอีกจำนวน 19 ล้านเครื่องยัง
*** สร้างนักพัฒนาแอพรุ่นใหม่
ส่วน ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ หรือ ซอฟต์แวร์ พาร์ค ในฐานะเลขาธิการกลุ่มผู้พัฒนาโมบายแอพพลิเคชัน "เอ็มที สแควร์" กล่าวว่า จะผลักดันให้เกิดนักพัฒนาเพิ่มขึ้น และผลักดันให้ภาคธุรกิจเข้ามาใช้โมบายแอพพลิเคชันเป็นช่องทางเข้าถึงการทำธุรกรรมต่างๆ มากขึ้น อย่างไรก็ตามกลุ่มเอ็มที สแควร์ คงไม่ได้มองหรือส่งเสริมนักพัฒนาในการทำตลาดเฉพาะในประเทศ แต่มองการทำตลาดโมบายแอพพลิเคชันของไทยออกไปทั่วโลก ซึ่งที่ผ่านมาได้พาซอฟต์แวร์ไทยไปร่วมงานซีบิท เยอรมนี และโรดโชว์ในญี่ปุ่นนอกจากนี้ยังมุ่งการรวบรวมนักพัฒนาและบริษัทซอฟต์แวร์บนโมบาย ซึ่งขณะนี้มีนักพัฒนาที่เป็นสมาชิกในกลุ่มประมาณ 1,000 ราย และบริษัทอีก 16 ราย อย่างไรก็ตามมองว่าผู้ประกอบไทยยังมีน้อยอยู่ โดยที่ผ่านมาได้เร่งดำเนินการจัดโรดโชว์ไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อสร้างนักพัฒนารุ่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นอย่างมาก
ขณะที่ นายเอกชัย เจริญพัฒนมงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอ-แอ๊ป ครีเอชั่น จำกัด ผู้พัฒนาแอพพลิเคชันหรือโปรแกรมสมาร์ทโฟน และแท็บเลต ไอโฟน-ไอแพด กล่าวว่า จะส่งผลให้ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเข้าถึงข้อมูล หรือ เรียกใช้ข้อมูลผ่านระบบคลาวด์ มาใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา
นอกจากนี้จะทำให้แอพพลิเคชันประเภทการส่งข้อมูลวิดีโอ สตรีมมิ่ง หรือ การอัพโหลด-ดาวน์โหลด ข้อมูลวิดีโอผ่านยูทูบ เติบโตขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งทิศทางของบริษัทคงมุ่งการพัฒนาแอพพลิเคชันป้องกันภาพ หรือ Pic lock (Picture Lock), โปรแกรมป้องกันภาพวิดีโอ (Video Lock) และโปรแกรมป้องกันรายชื่อผู้ติดต่อ (Contact Lock) ให้สามารถใช้งานข้ามแพลตฟอร์ม โดยผู้ใช้สามารถล็อกหรือป้องกันข้อมูลเก็บไว้บนคลาวด์ แล้วสามารถใช้อุปกรณ์แท็บเลต สมาร์ทโฟน ที่ใช้ระบบปฏิบัติการไอโอเอส แอนดรอยด์ วินโดว์สโฟน 8 หรือ แบล็คเบอร์รี่ เรียกข้อมูลมาใช้งานได้
______________________________________
ยุคทองโมบายแอพฯ พร้อม 3 จีแจ้งเกิด!
กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
เป็นที่แน่นอนแล้วว่าไตรมาสแรกของปี 2556 บรรดาผู้ได้รับใบอนุญาตโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จี ในย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ จาก กสทช.(คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ)
อันได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ เอดับบลิวเอ็น, บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด และ บริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด จะเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จีอย่างเป็นทางการ
ถามว่า...การมาของ 3 จี จะเกิดอะไรขึ้น?
คำตอบ..คือ ตลาดมือถือจะมีอัตราการเติบโตและมีการเปลี่ยนเครื่องจาก 2.5 จีเป็นระบบ 3 จี ที่สำคัญไปกว่านั้นส่งผลทางอ้อมถึงบริการทางด้านข้อมูล หรือ แอพพลิเคชัน เพราะมีการประมาณการว่าจะมีการเปลี่ยนเครื่องถึง 70 ล้านเครื่องภายในระยะเวลา 3 ปีนับจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เปิดให้บริการ
****ยุคทองผู้ค้ามือถือ
อย่างไรก็ตามบรรดาโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่อย่าง เอไอเอส หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) แสดงความคิดเห็นกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การเปิดให้บริการระบบ 3 จี ของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะส่งผลให้เครื่องลูกข่าย (โทรศัพท์เคลื่อนที่) มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% และจะส่งผลดีต่อผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ อาทิเช่น บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ที.จี.โฟน จำกัด เพราะจะได้ผลประโยชน์จากการจัดจำหน่ายเครื่อง เนื่องจากผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่หากต้องการใช้ระบบ 3 จี ต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่
เช่นเดียวกับนายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ในปี 2556 อุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่จะเข้าสู่ยุคทองของตลาดเครื่องทดแทน ในปัจจุบัน ดีแทค มีผู้ใช้บริการทั้งสิ้น 25 ล้านคน แบ่งเป็นผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์จำนวน 5-6 ล้านคน และอีกจำนวน 19 ล้านเครื่องยังไม่เข้ามาสู่ระบบใหม่
****เจ มาร์ท-ที.จี. รับทรัพย์
แม้แต่นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2556 เจ มาร์ท จะมีรายได้จากการจัดจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์เพิ่มมากขึ้นโดยในปี 2556 จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 1 หมื่นล้านบาทจากในปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 8 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตามแผนการทำตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จี ขณะนี้บริษัทได้มีการเจรจากับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์จากระบบ 2.5 จีมาเป็นระบบ 3 จี
"ปีหน้ารับทรัพย์อย่างเดียวตลาดจะเริ่มต้นแข่งขันกันอีกครั้งหนึ่งหลังจากปีนี้การแข่งขันไม่สูงและจะเกิดปรากฏการณ์การเปลี่ยนเครื่อง ในขณะนี้บริษัทได้เตรียมความพร้อมกับการมาของ 3 จีไว้นานแล้ว และภายในสิ้นปีนี้มีศูนย์บริการจำนวนทั้งสิ้น 200 สาขาและสิ้นปีขยายเพิ่มเป็น 280 สาขาลงทุนทั้งหมด 100 ล้านบาทในปี 2556"
ส่วนทางด้านนายไพโรจน์ ถาวรสภานันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ที.จี.เซลลูล่าร์ จำกัด ซึ่งมีช็อปมือถือภายใต้แบรนด์ "TG fone" กล่าวในทำนองเดียวกันว่า จะส่งผลให้ตลาดเปลี่ยนเครื่องจากระบบ 2.5 จีมาเป็นระบบ 3 จี ซึ่งจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบันมีทั้งสิ้น 70 ล้านเครื่องคาดว่าจะเปลี่ยนเครื่องเข้าสู่ระบบใหม่ภายในระยะเวลา 3 ปี เนื่องจากในกลางปี 2556 เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จี ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและหัวเมืองใหญ่ ดังนั้นโอเปอเรเตอร์และผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องเตรียมแผนธุรกิจโดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนเครื่องถือว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญเช่นเดียวกันรองลงมาจากการขยายเครือข่าย
***ส่งผลตลาดเครือข่ายไร้สาย
ขณะที่นายโดนอลด์ เมเยอร์ ผู้จัดการอาวุโส การตลาดผลิตภัณฑ์ บริษัท อรูบ้า เน็ตเวิร์คส์ อิงค์ เปิดเผยว่า จากรายงานของ ABI Research ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา มีการผลิตอุปกรณ์ที่มีความสามารถ ในการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายออกมามากกว่า 9 พันล้านเครื่อง อีกทั้งการ์ทเนอร์มีการคาดการณ์ว่า ยอดการดาวน์โหลดโมบายแอพพลิเคชันจะมีจำนวนสูงถึง 310 พันล้านครั้งภายในปี 2559 เมื่อต้องเผชิญกับการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดของจำนวนอุปกรณ์โมบายและแอพพลิเคชันต่างๆ ผู้ดูแลระบบไอทีขององค์กรจึงต้องมั่นใจว่าโครงสร้างพื้นฐานระบบเครือข่ายจะสามารถให้ประสิทธิภาพและคุณภาพที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานแอพพลิเคชันทางธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม อรูบ้า เน็ตเวิร์คส์ ได้เปิดตัว อรูบ้า 7200 ซีรีส์ (Aruba 7200 Series) ซึ่งเป็นอุปกรณ์โมบิลิตีคอนโทรลเลอร์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี AppRF ของอรูบ้า โดยเทคโนโลยีดังกล่าวทำให้อรูบ้าเป็นแพลตฟอร์มเครือข่ายไร้สายเดียว ที่มาพร้อมกับความสามารถในการรู้จักและควบคุมแอพพลิเคชัน เพื่อทำให้การนำเสนอหรือขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน มีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้การใช้งานแอพพลิเคชัน ผ่านเครือข่ายไร้สายมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 11 เท่าเมื่อเทียบกับโซลูชันในปัจจุบัน
ด้านนายประคุณ เลาหกิตติกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อรูบ้า เน็ตเวิร์คส์ อิงค์ กล่าวว่า อุปกรณ์โมบิลิตีคอนโทรลเลอร์ 7200 Series ยังช่วยให้การสื่อสารด้วยเสียง วิดีโอ และแอพพลิเคชันการสื่อสารแบบรวมศูนย์ (Unified Communications : UC) เช่น Microsoft Lync ส่งผลให้องค์กรสามารถลดการลงทุนหัวโทรศัพท์ประจำโต๊ะ ระบบ IP PBX อุปกรณ์การสื่อสารทางภาพและเสียง ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
*** โมบายแอพดีดตัว
การ์ทเนอร์มีการคาดการณ์ว่า ยอดการดาวน์โหลดโมบายแอพพลิเคชันจะมีจำนวนสูงถึง 310 พันล้านครั้งภายในปี 2559 ซึ่งนายฉัตรชัย ตั้งจิตตรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดรีมเบส อินเตอร์แอ็คทีฟ จำกัด ผู้พัฒนาแอพพลิเคชัน Watchever สำหรับการชมรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ผ่านสมาร์ทโฟน กล่าวว่าการเปิด 3 จี ในปี 2556 จะผลักดันให้แอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเติบโตขึ้นอีกมาก โดยเฉพาะแอพพลิเคชันทางด้านวิดีโอ ขณะที่เอ็มคอมเมอร์ซ มีการขยายตัวเป็นอย่างมาก ทำให้การค้าขายออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนจะเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้นไม่เพียงแต่ผู้ที่เป็นเจ้าของเครือข่ายที่ได้ประโยชน์อย่างเดียว แต่ธุรกิจอื่นๆ จะเกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย
นอกจากนี้ยังเชื่อว่าในปี 2556 จะมีบริษัทผู้พัฒนาเว็บไซต์ปรับเปลี่ยนธุรกิจมาพัฒนาแอพพลิเคชันบนโมบายมากขึ้นส่วนองค์กรธุรกิจจะเริ่มมีการใช้แอพพลิเคชันเป็นช่องทางการตลาด และสื่อสารกับลูกค้ามากขึ้น
นายฉัตรชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เป้าหมายของบริษัทจะพัฒนาการให้บริการมากขึ้น ทั้งจากค่ายเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ และรายการโทรทัศน์ รวมไปถึงการแสดงคอนเสิร์ตจากเกาหลี นอกจากนี้ยังมุ่งการพัฒนาแอพพลิเคชันให้รองรับการแสดงผลหลากหลายหน้าจอ ทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเลต และสมาร์ท ทีวี
*** สร้างนักพัฒนาแอพรุ่นใหม่
ส่วน ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ หรือ ซอฟต์แวร์ พาร์ค ในฐานะเลขาธิการกลุ่มผู้พัฒนาโมบายแอพพลิเคชัน "เอ็มที สแควร์" กล่าวว่า จะผลักดันให้เกิดนักพัฒนาเพิ่มขึ้น และผลักดันให้ภาคธุรกิจเข้ามาใช้โมบายแอพพลิเคชันเป็นช่องทางเข้าถึงการทำธุรกรรมต่างๆ มากขึ้น อย่างไรก็ตามกลุ่มเอ็มที สแควร์ คงไม่ได้มองหรือส่งเสริมนักพัฒนาในการทำตลาดเฉพาะในประเทศ แต่มองการทำตลาดโมบายแอพพลิเคชันของไทยออกไปทั่วโลก ซึ่งที่ผ่านมาได้พาซอฟต์แวร์ไทยไปร่วมงานซีบิท เยอรมนี และโรดโชว์ในญี่ปุ่นนอกจากนี้ยังมุ่งการรวบรวมนักพัฒนาและบริษัทซอฟต์แวร์บนโมบาย ซึ่งขณะนี้มีนักพัฒนาที่เป็นสมาชิกในกลุ่มประมาณ 1,000 ราย และบริษัทอีก 16 ราย อย่างไรก็ตามมองว่าผู้ประกอบไทยยังมีน้อยอยู่ โดยที่ผ่านมาได้เร่งดำเนินการจัดโรดโชว์ไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อสร้างนักพัฒนารุ่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นอย่างมาก
ขณะที่ นายเอกชัย เจริญพัฒนมงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอ-แอ๊ป ครีเอชั่น จำกัด ผู้พัฒนาแอพพลิเคชันหรือโปรแกรมสมาร์ทโฟน และแท็บเลต ไอโฟน-ไอแพด กล่าวว่า จะส่งผลให้ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเข้าถึงข้อมูล หรือ เรียกใช้ข้อมูลผ่านระบบคลาวด์ มาใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา
นอกจากนี้จะทำให้แอพพลิเคชันประเภทการส่งข้อมูลวิดีโอ สตรีมมิ่ง หรือ การอัพโหลด-ดาวน์โหลด ข้อมูลวิดีโอผ่านยูทูบ เติบโตขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งทิศทางของบริษัทคงมุ่งการพัฒนาแอพพลิเคชันป้องกันภาพ หรือ Pic lock (Picture Lock), โปรแกรมป้องกันภาพวิดีโอ (Video Lock) และโปรแกรมป้องกันรายชื่อผู้ติดต่อ (Contact Lock) ให้สามารถใช้งานข้ามแพลตฟอร์ม โดยผู้ใช้สามารถล็อกหรือป้องกันข้อมูลเก็บไว้บนคลาวด์ แล้วสามารถใช้อุปกรณ์แท็บเลต สมาร์ทโฟน ที่ใช้ระบบปฏิบัติการไอโอเอส แอนดรอยด์ วินโดว์สโฟน 8 หรือ แบล็คเบอร์รี่ เรียกข้อมูลมาใช้งานได้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?
option=com_content&view=article&id=159755:--3-
&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491
****ยุคทองผู้ค้ามือถือ
อย่างไรก็ตามบรรดาโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่อย่าง เอไอเอส หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) แสดงความคิดเห็นกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การเปิดให้บริการระบบ 3 จี ของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะส่งผลให้เครื่องลูกข่าย (โทรศัพท์เคลื่อนที่) มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% และจะส่งผลดีต่อผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ อาทิเช่น บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ที.จี.โฟน จำกัด เพราะจะได้ผลประโยชน์จากการจัดจำหน่ายเครื่อง เนื่องจากผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่หากต้องการใช้ระบบ 3 จี ต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่
เช่นเดียวกับนายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ในปี 2556 อุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่จะเข้าสู่ยุคทองของตลาดเครื่องทดแทน ในปัจจุบัน ดีแทค มีผู้ใช้บริการทั้งสิ้น 25 ล้านคน แบ่งเป็นผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์จำนวน 5-6 ล้านคน และอีกจำนวน 19 ล้านเครื่องยัง
*** สร้างนักพัฒนาแอพรุ่นใหม่
ส่วน ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ หรือ ซอฟต์แวร์ พาร์ค ในฐานะเลขาธิการกลุ่มผู้พัฒนาโมบายแอพพลิเคชัน "เอ็มที สแควร์" กล่าวว่า จะผลักดันให้เกิดนักพัฒนาเพิ่มขึ้น และผลักดันให้ภาคธุรกิจเข้ามาใช้โมบายแอพพลิเคชันเป็นช่องทางเข้าถึงการทำธุรกรรมต่างๆ มากขึ้น อย่างไรก็ตามกลุ่มเอ็มที สแควร์ คงไม่ได้มองหรือส่งเสริมนักพัฒนาในการทำตลาดเฉพาะในประเทศ แต่มองการทำตลาดโมบายแอพพลิเคชันของไทยออกไปทั่วโลก ซึ่งที่ผ่านมาได้พาซอฟต์แวร์ไทยไปร่วมงานซีบิท เยอรมนี และโรดโชว์ในญี่ปุ่นนอกจากนี้ยังมุ่งการรวบรวมนักพัฒนาและบริษัทซอฟต์แวร์บนโมบาย ซึ่งขณะนี้มีนักพัฒนาที่เป็นสมาชิกในกลุ่มประมาณ 1,000 ราย และบริษัทอีก 16 ราย อย่างไรก็ตามมองว่าผู้ประกอบไทยยังมีน้อยอยู่ โดยที่ผ่านมาได้เร่งดำเนินการจัดโรดโชว์ไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อสร้างนักพัฒนารุ่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นอย่างมาก
ขณะที่ นายเอกชัย เจริญพัฒนมงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอ-แอ๊ป ครีเอชั่น จำกัด ผู้พัฒนาแอพพลิเคชันหรือโปรแกรมสมาร์ทโฟน และแท็บเลต ไอโฟน-ไอแพด กล่าวว่า จะส่งผลให้ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเข้าถึงข้อมูล หรือ เรียกใช้ข้อมูลผ่านระบบคลาวด์ มาใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา
นอกจากนี้จะทำให้แอพพลิเคชันประเภทการส่งข้อมูลวิดีโอ สตรีมมิ่ง หรือ การอัพโหลด-ดาวน์โหลด ข้อมูลวิดีโอผ่านยูทูบ เติบโตขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งทิศทางของบริษัทคงมุ่งการพัฒนาแอพพลิเคชันป้องกันภาพ หรือ Pic lock (Picture Lock), โปรแกรมป้องกันภาพวิดีโอ (Video Lock) และโปรแกรมป้องกันรายชื่อผู้ติดต่อ (Contact Lock) ให้สามารถใช้งานข้ามแพลตฟอร์ม โดยผู้ใช้สามารถล็อกหรือป้องกันข้อมูลเก็บไว้บนคลาวด์ แล้วสามารถใช้อุปกรณ์แท็บเลต สมาร์ทโฟน ที่ใช้ระบบปฏิบัติการไอโอเอส แอนดรอยด์ วินโดว์สโฟน 8 หรือ แบล็คเบอร์รี่ เรียกข้อมูลมาใช้งานได้
______________________________________
ยุคทองโมบายแอพฯ พร้อม 3 จีแจ้งเกิด!
กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
เป็นที่แน่นอนแล้วว่าไตรมาสแรกของปี 2556 บรรดาผู้ได้รับใบอนุญาตโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จี ในย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ จาก กสทช.(คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ)
อันได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ เอดับบลิวเอ็น, บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด และ บริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด จะเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จีอย่างเป็นทางการ
ถามว่า...การมาของ 3 จี จะเกิดอะไรขึ้น?
คำตอบ..คือ ตลาดมือถือจะมีอัตราการเติบโตและมีการเปลี่ยนเครื่องจาก 2.5 จีเป็นระบบ 3 จี ที่สำคัญไปกว่านั้นส่งผลทางอ้อมถึงบริการทางด้านข้อมูล หรือ แอพพลิเคชัน เพราะมีการประมาณการว่าจะมีการเปลี่ยนเครื่องถึง 70 ล้านเครื่องภายในระยะเวลา 3 ปีนับจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เปิดให้บริการ
****ยุคทองผู้ค้ามือถือ
อย่างไรก็ตามบรรดาโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่อย่าง เอไอเอส หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) แสดงความคิดเห็นกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การเปิดให้บริการระบบ 3 จี ของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะส่งผลให้เครื่องลูกข่าย (โทรศัพท์เคลื่อนที่) มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% และจะส่งผลดีต่อผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ อาทิเช่น บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ที.จี.โฟน จำกัด เพราะจะได้ผลประโยชน์จากการจัดจำหน่ายเครื่อง เนื่องจากผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่หากต้องการใช้ระบบ 3 จี ต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่
เช่นเดียวกับนายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ในปี 2556 อุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่จะเข้าสู่ยุคทองของตลาดเครื่องทดแทน ในปัจจุบัน ดีแทค มีผู้ใช้บริการทั้งสิ้น 25 ล้านคน แบ่งเป็นผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์จำนวน 5-6 ล้านคน และอีกจำนวน 19 ล้านเครื่องยังไม่เข้ามาสู่ระบบใหม่
****เจ มาร์ท-ที.จี. รับทรัพย์
แม้แต่นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2556 เจ มาร์ท จะมีรายได้จากการจัดจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์เพิ่มมากขึ้นโดยในปี 2556 จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 1 หมื่นล้านบาทจากในปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 8 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตามแผนการทำตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จี ขณะนี้บริษัทได้มีการเจรจากับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์จากระบบ 2.5 จีมาเป็นระบบ 3 จี
"ปีหน้ารับทรัพย์อย่างเดียวตลาดจะเริ่มต้นแข่งขันกันอีกครั้งหนึ่งหลังจากปีนี้การแข่งขันไม่สูงและจะเกิดปรากฏการณ์การเปลี่ยนเครื่อง ในขณะนี้บริษัทได้เตรียมความพร้อมกับการมาของ 3 จีไว้นานแล้ว และภายในสิ้นปีนี้มีศูนย์บริการจำนวนทั้งสิ้น 200 สาขาและสิ้นปีขยายเพิ่มเป็น 280 สาขาลงทุนทั้งหมด 100 ล้านบาทในปี 2556"
ส่วนทางด้านนายไพโรจน์ ถาวรสภานันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ที.จี.เซลลูล่าร์ จำกัด ซึ่งมีช็อปมือถือภายใต้แบรนด์ "TG fone" กล่าวในทำนองเดียวกันว่า จะส่งผลให้ตลาดเปลี่ยนเครื่องจากระบบ 2.5 จีมาเป็นระบบ 3 จี ซึ่งจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบันมีทั้งสิ้น 70 ล้านเครื่องคาดว่าจะเปลี่ยนเครื่องเข้าสู่ระบบใหม่ภายในระยะเวลา 3 ปี เนื่องจากในกลางปี 2556 เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จี ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและหัวเมืองใหญ่ ดังนั้นโอเปอเรเตอร์และผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องเตรียมแผนธุรกิจโดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนเครื่องถือว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญเช่นเดียวกันรองลงมาจากการขยายเครือข่าย
***ส่งผลตลาดเครือข่ายไร้สาย
ขณะที่นายโดนอลด์ เมเยอร์ ผู้จัดการอาวุโส การตลาดผลิตภัณฑ์ บริษัท อรูบ้า เน็ตเวิร์คส์ อิงค์ เปิดเผยว่า จากรายงานของ ABI Research ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา มีการผลิตอุปกรณ์ที่มีความสามารถ ในการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายออกมามากกว่า 9 พันล้านเครื่อง อีกทั้งการ์ทเนอร์มีการคาดการณ์ว่า ยอดการดาวน์โหลดโมบายแอพพลิเคชันจะมีจำนวนสูงถึง 310 พันล้านครั้งภายในปี 2559 เมื่อต้องเผชิญกับการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดของจำนวนอุปกรณ์โมบายและแอพพลิเคชันต่างๆ ผู้ดูแลระบบไอทีขององค์กรจึงต้องมั่นใจว่าโครงสร้างพื้นฐานระบบเครือข่ายจะสามารถให้ประสิทธิภาพและคุณภาพที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานแอพพลิเคชันทางธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม อรูบ้า เน็ตเวิร์คส์ ได้เปิดตัว อรูบ้า 7200 ซีรีส์ (Aruba 7200 Series) ซึ่งเป็นอุปกรณ์โมบิลิตีคอนโทรลเลอร์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี AppRF ของอรูบ้า โดยเทคโนโลยีดังกล่าวทำให้อรูบ้าเป็นแพลตฟอร์มเครือข่ายไร้สายเดียว ที่มาพร้อมกับความสามารถในการรู้จักและควบคุมแอพพลิเคชัน เพื่อทำให้การนำเสนอหรือขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน มีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้การใช้งานแอพพลิเคชัน ผ่านเครือข่ายไร้สายมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 11 เท่าเมื่อเทียบกับโซลูชันในปัจจุบัน
ด้านนายประคุณ เลาหกิตติกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อรูบ้า เน็ตเวิร์คส์ อิงค์ กล่าวว่า อุปกรณ์โมบิลิตีคอนโทรลเลอร์ 7200 Series ยังช่วยให้การสื่อสารด้วยเสียง วิดีโอ และแอพพลิเคชันการสื่อสารแบบรวมศูนย์ (Unified Communications : UC) เช่น Microsoft Lync ส่งผลให้องค์กรสามารถลดการลงทุนหัวโทรศัพท์ประจำโต๊ะ ระบบ IP PBX อุปกรณ์การสื่อสารทางภาพและเสียง ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
*** โมบายแอพดีดตัว
การ์ทเนอร์มีการคาดการณ์ว่า ยอดการดาวน์โหลดโมบายแอพพลิเคชันจะมีจำนวนสูงถึง 310 พันล้านครั้งภายในปี 2559 ซึ่งนายฉัตรชัย ตั้งจิตตรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดรีมเบส อินเตอร์แอ็คทีฟ จำกัด ผู้พัฒนาแอพพลิเคชัน Watchever สำหรับการชมรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ผ่านสมาร์ทโฟน กล่าวว่าการเปิด 3 จี ในปี 2556 จะผลักดันให้แอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเติบโตขึ้นอีกมาก โดยเฉพาะแอพพลิเคชันทางด้านวิดีโอ ขณะที่เอ็มคอมเมอร์ซ มีการขยายตัวเป็นอย่างมาก ทำให้การค้าขายออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนจะเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้นไม่เพียงแต่ผู้ที่เป็นเจ้าของเครือข่ายที่ได้ประโยชน์อย่างเดียว แต่ธุรกิจอื่นๆ จะเกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย
นอกจากนี้ยังเชื่อว่าในปี 2556 จะมีบริษัทผู้พัฒนาเว็บไซต์ปรับเปลี่ยนธุรกิจมาพัฒนาแอพพลิเคชันบนโมบายมากขึ้นส่วนองค์กรธุรกิจจะเริ่มมีการใช้แอพพลิเคชันเป็นช่องทางการตลาด และสื่อสารกับลูกค้ามากขึ้น
นายฉัตรชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เป้าหมายของบริษัทจะพัฒนาการให้บริการมากขึ้น ทั้งจากค่ายเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ และรายการโทรทัศน์ รวมไปถึงการแสดงคอนเสิร์ตจากเกาหลี นอกจากนี้ยังมุ่งการพัฒนาแอพพลิเคชันให้รองรับการแสดงผลหลากหลายหน้าจอ ทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเลต และสมาร์ท ทีวี
*** สร้างนักพัฒนาแอพรุ่นใหม่
ส่วน ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ หรือ ซอฟต์แวร์ พาร์ค ในฐานะเลขาธิการกลุ่มผู้พัฒนาโมบายแอพพลิเคชัน "เอ็มที สแควร์" กล่าวว่า จะผลักดันให้เกิดนักพัฒนาเพิ่มขึ้น และผลักดันให้ภาคธุรกิจเข้ามาใช้โมบายแอพพลิเคชันเป็นช่องทางเข้าถึงการทำธุรกรรมต่างๆ มากขึ้น อย่างไรก็ตามกลุ่มเอ็มที สแควร์ คงไม่ได้มองหรือส่งเสริมนักพัฒนาในการทำตลาดเฉพาะในประเทศ แต่มองการทำตลาดโมบายแอพพลิเคชันของไทยออกไปทั่วโลก ซึ่งที่ผ่านมาได้พาซอฟต์แวร์ไทยไปร่วมงานซีบิท เยอรมนี และโรดโชว์ในญี่ปุ่นนอกจากนี้ยังมุ่งการรวบรวมนักพัฒนาและบริษัทซอฟต์แวร์บนโมบาย ซึ่งขณะนี้มีนักพัฒนาที่เป็นสมาชิกในกลุ่มประมาณ 1,000 ราย และบริษัทอีก 16 ราย อย่างไรก็ตามมองว่าผู้ประกอบไทยยังมีน้อยอยู่ โดยที่ผ่านมาได้เร่งดำเนินการจัดโรดโชว์ไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อสร้างนักพัฒนารุ่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นอย่างมาก
ขณะที่ นายเอกชัย เจริญพัฒนมงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอ-แอ๊ป ครีเอชั่น จำกัด ผู้พัฒนาแอพพลิเคชันหรือโปรแกรมสมาร์ทโฟน และแท็บเลต ไอโฟน-ไอแพด กล่าวว่า จะส่งผลให้ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเข้าถึงข้อมูล หรือ เรียกใช้ข้อมูลผ่านระบบคลาวด์ มาใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา
นอกจากนี้จะทำให้แอพพลิเคชันประเภทการส่งข้อมูลวิดีโอ สตรีมมิ่ง หรือ การอัพโหลด-ดาวน์โหลด ข้อมูลวิดีโอผ่านยูทูบ เติบโตขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งทิศทางของบริษัทคงมุ่งการพัฒนาแอพพลิเคชันป้องกันภาพ หรือ Pic lock (Picture Lock), โปรแกรมป้องกันภาพวิดีโอ (Video Lock) และโปรแกรมป้องกันรายชื่อผู้ติดต่อ (Contact Lock) ให้สามารถใช้งานข้ามแพลตฟอร์ม โดยผู้ใช้สามารถล็อกหรือป้องกันข้อมูลเก็บไว้บนคลาวด์ แล้วสามารถใช้อุปกรณ์แท็บเลต สมาร์ทโฟน ที่ใช้ระบบปฏิบัติการไอโอเอส แอนดรอยด์ วินโดว์สโฟน 8 หรือ แบล็คเบอร์รี่ เรียกข้อมูลมาใช้งานได้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?
option=com_content&view=article&id=159755:--3-
&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491
ไม่มีความคิดเห็น: