Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

1 มีนาคม 2556 เปิดใจแม่ทัพใหม่ NOKIA ( การเป็นคนไทยคุมงานง่าย ) เตรียมมัดเด็ดมือถือรับรอง3G เหลือ 1,990 บาท !!


ประเด็นหลัก


- อยู่โนเกียมานาน

18 ปี เริ่มที่โนเกียเน็ตเวิร์ก 8-9 ปี หน้าที่หลัก ๆ ดูแลลูกค้าโอเปอเรเตอร์ แล้วค่อยย้ายมาฝั่งโมบายตำแหน่งต่าง ๆ มาจบที่หัวหน้าฝ่ายขาย 5 ปี ก่อนรับตำแหน่งนี้

- การเป็นคนไทยคุมทำให้งานเร็วขึ้น

คนไทยไม่ได้ด้อยกว่าประเทศอื่น เรายังเป็น 1 ใน 14 ประเทศที่โนเกียจะลงทุนมากเป็นพิเศษ หรือที่เรียกว่า Focus Countries ล่าสุดซีอีโอ (สตีเฟน อีลอป) ก็เพิ่งเดินทางมาพบปะคู่ค้า มาดูความต้องการของตลาด



- จะกลับมาเป็นเบอร์ 1

ที่ 1 ไม่ใช่มาจากเราพูด แต่ต้องมาจากปากผู้บริโภค ดังนั้นเราต้องทำให้ผู้บริโภคเข้าใจสินค้า และใส่ใจกับผู้ใช้ทุกคนให้มากที่สุด ผมไม่เคยพูดเองว่า เราเป็นที่ 1 แต่จะบอกกับทีมงานว่า

"เรายังแข็งแรงอยู่" กระตุ้นทีมด้วยการสร้าง Challenger Mindset ให้รู้ว่าเราเป็นผู้ท้าทาย และจะกลับมาให้ได้ในตลาดนี้

การเป็นผู้นำ และผู้ท้าทายแตกต่างกันชัดเจน ผู้ท้าทายต้องกำหนดเป้าหมาย และพร้อมก้าวไปข้างหน้า รวมถึงมี Sense of Agency เพื่อให้เข้าถึงตลาดได้ในระยะเวลาอันสั้น ที่สำคัญมี Engagement หรือทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งภายในบริษัทเอง และคู่ค้า เราจะไม่หลอกตนเองว่า เป็นอันดับ 1 ที่หายไป ก็เพื่อเตรียมพร้อมที่จะกลับมา




- การมาถึงของ 3G ส่งผลต่อภาพรวมตลาดอย่างไร

ทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้นอย่างชัดเจน เราเริ่มเข้าไปคุยกับโอเปอเรเตอร์ เพื่อวางแผนทำตลาดร่วมกัน เช่น ในรุ่นถูกสุดของเราที่รองรับ 3G ได้ ก็ขยับราคาลงมาให้เหลือ 1,990 บาท เพื่อให้ผู้บริโภคทุกคนเอื้อมถึง ซึ่งการทำงานร่วมกับโอเปอเรเตอร์จะมีความเข้มข้นมากขึ้น








____________________________



เปิดใจแม่ทัพใหม่ "โนเกีย" ความต่างระหว่าง "ผู้นำ" และ "ผู้ท้าทาย"


ได้รับการจับตามองตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่งแม่ทัพ "โนเกีย" ประเทศไทย สำหรับ "ญาณธน สิมะวานิชกุล" เพราะถือเป็นคนไทยคนที่สองที่นั่งเก้าอี้นี้ แต่ห่างจากคนแรกนานนับสิบปี ประกอบกับในระยะหลัง ๆ มานี้ "โนเกีย" โดนท้าทายสถานะผู้นำตลาดอย่างหนักหน่วงจากคู่แข่ง จน (น่าจะ) เสียแชมป์ไปแล้วอย่างน้อย ๆ ก็ในสมรภูมิสมาร์ทโฟน



แม้เจ้าตัวยืนยันว่าในแง่ภาพรวมมาร์เก็ตแชร์ในไทยยังเป็นผู้นำตลาด เพราะยอดขายฟีเจอร์โฟนยังไปได้ดี (มาก)
ต้น ก.พ.ที่ผ่านมา ซีอีโอโนเกีย "สตีเฟน อีลอป" บินลัดฟ้ามาเยี่ยมเยียนตลาดไทย ถือเป็นการมาเป็นครั้งแรกในรอบยี่สิบปี

การมาเยือนเมืองไทยของซีอีโอ และการแต่งตั้งคนไทยนั่งเก้าอี้เบอร์หนึ่ง เท่ากับส่งสัญญาณชัดว่าให้ความสำคัญกับตลาดเมืองไทยมากขึ้น แต่จะพลิกสถานการณ์ได้ไหม น่าจับตา

"ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสพูดคุยกับแม่ทัพคนใหม่ "โนเกีย ประเทศไทย" ดังนี้

- อยู่โนเกียมานาน

18 ปี เริ่มที่โนเกียเน็ตเวิร์ก 8-9 ปี หน้าที่หลัก ๆ ดูแลลูกค้าโอเปอเรเตอร์ แล้วค่อยย้ายมาฝั่งโมบายตำแหน่งต่าง ๆ มาจบที่หัวหน้าฝ่ายขาย 5 ปี ก่อนรับตำแหน่งนี้

- การเป็นคนไทยคุมทำให้งานเร็วขึ้น

คนไทยไม่ได้ด้อยกว่าประเทศอื่น เรายังเป็น 1 ใน 14 ประเทศที่โนเกียจะลงทุนมากเป็นพิเศษ หรือที่เรียกว่า Focus Countries ล่าสุดซีอีโอ (สตีเฟน อีลอป) ก็เพิ่งเดินทางมาพบปะคู่ค้า มาดูความต้องการของตลาด

การที่เป็นคนเก่าทำให้การปรับตัวอะไรต่าง ๆ ทำได้เร็ว รวมถึงในจังหวะที่เข้ามาดูตรงนี้ยังเป็นเวลาที่ดี เหมาะสม

นอกจากเรื่องภาษาที่น่าจะเข้าใจกันง่ายขึ้น ความเข้าใจตลาดไทย การเป็นคนท้องที่ก็น่าจะทำให้งานต่าง ๆ เร็วขึ้น บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ดีกว่าเดิม

ไทยได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 14 ประเทศที่โนเกียให้ความสำคัญ เมื่อกลางปีที่แล้วแต่จริง ๆ ก่อนหน้านี้ ก็เป็นตลาดที่มีความสำคัญ สังเกตได้จากตอนปรับโครงสร้างองค์กรทั่วโลก ในไทยไม่ได้มีการลดคน เมื่อมีสินค้ารุ่นใหม่ออกมาก็เป็นประเทศต้น ๆ ที่ได้สินค้ามาทำตลาด

ทีมในไทยมีส่วนร่วมพัฒนาโปรดักต์ โดยเสนอความต้องการในประเทศว่ามีอะไรบ้าง แอปพลิเคชั่นไหนที่ต้องการ เพื่อให้ทีมนำไปปรับปรุงการออกแบบ แต่ก็เข้าใจว่า สินค้าที่มี เปลี่ยนแปลงไม่ได้

ดังนั้นเราต้องทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผลิตภัณฑ์ อย่างที่เราเองเข้าใจว่าดีอย่างไร เหนือกว่าคู่แข่งอย่างไรบ้าง

ผมจะไม่มีวันบอกว่า สินค้าตัวนี้ทำตลาดไม่ได้ หรือเอามาในไทยก็ขายไม่ได้ แต่จะอธิบายให้คนเหล่านั้นเข้าใจมากที่สุด ระดมทีมงานออกแบบการสื่อสารไปยังลูกค้า เทรนนิ่งคนขายให้เข้าใจโปรดักต์ นำเครื่องจริงไปให้ลูกค้าได้มีโอกาสทดลองใช้งาน

- ที่บอกเป็นเวลาที่เหมาะสมหมายถึงอะไร

ปลายปีที่ผ่านมา โนเกียเปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีส์ "ลูเมีย" 2 ตัว ได้แก่ 920 และ 820 ซึ่งใช้วินโดวส์โฟน 8 ซึ่งมีความแตกต่างจากรุ่นก่อนมาก ทั้งเรื่องการใช้ภาษาไทยได้, กล้องชัดกว่าเดิมมาก และซอฟต์แวร์ที่แปลกใหม่ ทำให้สร้างความแตกต่างให้ตลาดได้มาก พอต้นปีนี้ก็เปิดตัว 620 อีกรุ่น ส่วนฟีเจอร์โฟนก็มี อาช่า รุ่นต่าง ๆ ที่มีฟังก์ชั่นเหนือกว่าโทรศัพท์ธรรมดาแต่ราคาย่อมเยา โปรดักต์พร้อม จึงเป็นเวลาที่เหมาะสม

- แสดงว่าจะเริ่มกลับมาบุกอีกครั้ง

ถ้าให้ผมพูดตรง ๆ คงต้องบอกว่าตอนนี้เป็นแค่การเริ่มต้น ถ้าถามว่าเราจะกลับมาเข้าฟอร์มเหมือนเดิมไหม ผมว่าเรามีงานอีกเยอะที่ต้องทำ

และถ้าบอกว่ากลับมาแล้ว ผมก็บอกได้เลยว่า เรายังไปได้ไกลกว่านี้อีก ด้วยกลยุทธ์ Differentiation หรือการสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ ซึ่งจะต้องเป็นการสร้างความแตกต่างที่ผู้บริโภคสามารถนำไปใช้ได้จริง ไม่ใช่แค่ไม่เหมือนใคร

เราจะเข้าไปพูดคุยกับคู่ค้าทุกราย เพื่อให้ช่วยกันนำประสบการณ์ใหม่ ๆ ไปยังผู้บริโภค ทำให้ทุกคนได้เข้าใจว่า ซื้อเครื่องของโนเกียไปใช้แล้วได้อะไร ที่สำคัญคือการร่วมมือกันพัฒนาแอปพลิเคชั่นกับไมโครซอฟท์ เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด

เรามีนักพัฒนาแอปกว่า 500 คนที่ร่วมทำงานกับเรา ต้องยอมรับว่ามีคนเก่ง ๆ เยอะ มีกลุ่มหนึ่งทำแอปพลิเคชั่นชื่อ ME นำไปขายในต่างประเทศได้ ติดอันดับ 1 ใน 8 แอปที่มีคนดาวน์โหลดมากที่สุดในช่วงหนึ่งด้วย เราจะสนับสนุนต่อไป ทั้งกลุ่มคนที่พัฒนาบนวินโดวส์โฟน 8 ร่วมกับไมโครซอฟท์ เพื่อให้เกิดแอปพลิเคชั่นที่ดีที่สุด หลากหลายที่สุด และทำตลาดได้จริง กำลังคุยกับโอเปอเรเตอร์ให้คิดเงินค่าแอปจากบิลค่าโทรศัพท์เร็ว ๆ นี้คงได้เห็น

- เงียบไปนานกลับมาจึงต้องทำเยอะ

จริง ๆ เริ่มมาจากตอนที่ สตีเฟน อีลอป (ซีอีโอ) บอกว่าจะเปลี่ยนแพลตฟอร์มจากซิมเบียนไปยังวินโดวส์โฟน อารมณ์ประมาณตอนพระเจ้าตากบอกว่าจะทุบหม้อข้าว การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา แต่เมื่อทุกอย่างลงล็อก ก็จะวิ่งไปได้เร็ว จากนี้ไปถือเป็นความท้าทายในการนำแบรนด์โนเกียกลับมายังความคิดของผู้บริโภคอีกครั้ง เป็นทางเลือกของผู้บริโภคอีกครั้งมากกว่า ซึ่งเห็นได้ชัดจากยอดความนิยมของสมาร์ทโฟน

- จะกลับมาเป็นเบอร์ 1

ที่ 1 ไม่ใช่มาจากเราพูด แต่ต้องมาจากปากผู้บริโภค ดังนั้นเราต้องทำให้ผู้บริโภคเข้าใจสินค้า และใส่ใจกับผู้ใช้ทุกคนให้มากที่สุด ผมไม่เคยพูดเองว่า เราเป็นที่ 1 แต่จะบอกกับทีมงานว่า

"เรายังแข็งแรงอยู่" กระตุ้นทีมด้วยการสร้าง Challenger Mindset ให้รู้ว่าเราเป็นผู้ท้าทาย และจะกลับมาให้ได้ในตลาดนี้

การเป็นผู้นำ และผู้ท้าทายแตกต่างกันชัดเจน ผู้ท้าทายต้องกำหนดเป้าหมาย และพร้อมก้าวไปข้างหน้า รวมถึงมี Sense of Agency เพื่อให้เข้าถึงตลาดได้ในระยะเวลาอันสั้น ที่สำคัญมี Engagement หรือทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งภายในบริษัทเอง และคู่ค้า เราจะไม่หลอกตนเองว่า เป็นอันดับ 1 ที่หายไป ก็เพื่อเตรียมพร้อมที่จะกลับมา

- เป้าปีนี้

อยากกลับมาให้เร็วที่สุด แต่ในภาพใหญ่คงต้องบอกว่า อยากให้เป็นแบบยั่งยืน ไม่ใช่ยอดขายขึ้น ๆ ลง ๆ ตอนนี้ผมดูยอดขายเป็นรายวัน ทุกบ่าย 2 โมง ตัวเลขจะส่งมาที่มือถือ เห็นหมดว่าแต่ละวันมีลูกค้าใช้สมาร์ทโฟนโนเกียกี่เครื่อง ทำให้การวางแผนการทำตลาด การจัดการสต๊อกต่าง ๆ ทันสถานการณ์ ยอมรับว่าบีบหัวใจพอสมควร แต่ในอีกมุมก็กระตุ้นให้เกิดความกระตือรือร้น

- การมาถึงของ 3G ส่งผลต่อภาพรวมตลาดอย่างไร

ทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้นอย่างชัดเจน เราเริ่มเข้าไปคุยกับโอเปอเรเตอร์ เพื่อวางแผนทำตลาดร่วมกัน เช่น ในรุ่นถูกสุดของเราที่รองรับ 3G ได้ ก็ขยับราคาลงมาให้เหลือ 1,990 บาท เพื่อให้ผู้บริโภคทุกคนเอื้อมถึง ซึ่งการทำงานร่วมกับโอเปอเรเตอร์จะมีความเข้มข้นมากขึ้น


http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1362110416&grpid=&catid=04&subcatid=0401

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.