26 มิถุนายน 2556 TRUE พยายามยึดพื้นที่ใหม่ในโลกออนไลน์!!! แอปใหม่ “TrueMoney Wallet” เพิ่มยอดใช้ทะลุ 1 ล้านราย สร้างรายได้เพิ่ม 15% สินปีการทำบัตรเครดิต (เดบิต)
ประเด็นหลัก
“TrueMoney Wallet” เป็นบริการที่ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถจัดการทางด้านการเงินที่สะดวก ประกอบด้วยบริการเติมเงิน โอนเงิน และชำระบิล และยังมีฟังก์ชันล่าสุด Scan & Pay ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถชำระค่าบริการต่างๆ ด้วยตัวเองในลักษณะของเคาน์เตอร์ส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง จ่ายได้มากกว่า 80 บิล โดยแอปพลิเคชันนี้สามารถใช้งานได้ทุกเครือข่าย ไม่เฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นลูกค้าทรู
นายศุภชัยกล่าวต่อว่า บริการใหม่นี้ถือเป็นการตอบสนองการชำระเงินในช่องทางใหม่ๆ โดยเฉพาะช่องทางที่กำลังเติบโตอย่างอีคอมเมิร์ซ ซึ่งทรูได้เข้ามาเติมเต็มในเรื่องดังกล่าวเพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น จากเดิมที่ต้องใช้บัตรเครดิตเท่านั้น และปัจจุบันจำนวนผู้ใช้บัตรเครดิตในประเทศไทยมีอยู่เพียง 8 ล้านราย จึงเป็นโอกาสที่ทรูจะเข้าไปตอนสนองลูกค้าในกลุ่มที่เหลือให้สามารถซื้อสินค้าผ่าน e-Commerce ได้ง่ายขึ้น
ด้านปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด กล่าวว่า “TrueMoney Wallet” ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่ทรูนำมาตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการชำระเงินได้หลากหลายช่องทาง โดยสเต็ปต่อไปสำหรับบริการ eWallet คือการทำบัตรเครดิต (เดบิต) ให้ลูกค้าสามารถใช้ชำระสินค้าในร้านค้าและห้างสรรพสินค้าต่างๆ ได้ง่ายขึ้น โดยมีรูปแบบและวิธีการเติมเงินเช่นเดียวกับช่องทาง e-Money ของทรู ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวได้ในปลายปีนี้
______________________________________
ทรูเปิดแอปใหม่ “TrueMoney Wallet” ก่อนต่อยอดด้วยบัตร VISA ปลายปี
ทรูมันนี่เติมเต็ม eWallet บริการเปิดแอปใหม่ “TrueMoney Wallet” พร้อมเปิดกว้างให้ทุกเครือข่ายเข้ามาใช้งาน หวังเพิ่มยอดการใช้งานปีนี้เพิ่มขึ้นเท่าตัวหรือทะลุ 1 ล้านราย สร้างรายได้เพิ่ม 15% ปิดยอด 1,900 ล้านบาท เผยสเต็ปต่อไปเตรียมทำบัตรเครดิตให้ลูกค้านำไปรูดใช้ในร้านค้าต่างๆ และเตรียมโกอินเตอร์ไปให้บริการในอินโดฯ และเวียดนาม ตามหลังพันธมิตรไปทำธุรกิจก่อนหน้านี้แล้ว
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันบริการ e-Money มีแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น โดยในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตประมาณ 30-40% สอดคล้องกับการเติบโตเพิ่มขึ้นของตลาด e-Commerce และดิจิตอลคอนเทนต์ทั่วโลก ซึ่งทรูมันนี่ได้เล็งเห็นโอกาสทางการตลาดดังกล่าวจึงได้ทำการเปิดตัวแอปพลิเคชัน “TrueMoney Wallet”
“ปัจจุบันในเมืองไทยมีผู้ใช้งานโมบายล์อินเทอร์เน็ตสูงถึงประมาณ 17.8 ล้านคน ในจำนวนนี้มีลูกค้าใช้บริการ eWallet แล้วจำนวน 6 ล้านราย และมีการใช้งานจริงประมาณ 5 แสนราย ซึ่งการเปิดให้บริการด้วยช่องทางใหม่นี้จะทำให้มีการใช้งาน eWallet เพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านราย โดยทรูได้ตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้น 15% หรือคิดเป็นมูลค่า 1,900 ล้านบาท”
“TrueMoney Wallet” เป็นบริการที่ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถจัดการทางด้านการเงินที่สะดวก ประกอบด้วยบริการเติมเงิน โอนเงิน และชำระบิล และยังมีฟังก์ชันล่าสุด Scan & Pay ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถชำระค่าบริการต่างๆ ด้วยตัวเองในลักษณะของเคาน์เตอร์ส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง จ่ายได้มากกว่า 80 บิล โดยแอปพลิเคชันนี้สามารถใช้งานได้ทุกเครือข่าย ไม่เฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นลูกค้าทรู
นายศุภชัยกล่าวต่อว่า บริการใหม่นี้ถือเป็นการตอบสนองการชำระเงินในช่องทางใหม่ๆ โดยเฉพาะช่องทางที่กำลังเติบโตอย่างอีคอมเมิร์ซ ซึ่งทรูได้เข้ามาเติมเต็มในเรื่องดังกล่าวเพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น จากเดิมที่ต้องใช้บัตรเครดิตเท่านั้น และปัจจุบันจำนวนผู้ใช้บัตรเครดิตในประเทศไทยมีอยู่เพียง 8 ล้านราย จึงเป็นโอกาสที่ทรูจะเข้าไปตอนสนองลูกค้าในกลุ่มที่เหลือให้สามารถซื้อสินค้าผ่าน e-Commerce ได้ง่ายขึ้น
ด้านปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด กล่าวว่า “TrueMoney Wallet” ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่ทรูนำมาตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการชำระเงินได้หลากหลายช่องทาง โดยสเต็ปต่อไปสำหรับบริการ eWallet คือการทำบัตรเครดิต (เดบิต) ให้ลูกค้าสามารถใช้ชำระสินค้าในร้านค้าและห้างสรรพสินค้าต่างๆ ได้ง่ายขึ้น โดยมีรูปแบบและวิธีการเติมเงินเช่นเดียวกับช่องทาง e-Money ของทรู ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวได้ในปลายปีนี้
นอกจากนี้ทรูยังได้เตรียมขยายบริการ eWallet ไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย และเวียดนาม ที่มีพันธมิตรของทรูไปเปิดตลาดเกมอยู่แต่ยังหาช่องทางการชำระเงินที่ง่ายและสะดวกได้ โดยปัจจุบันทรูมันนี่มีจุดชำระเงินมากขึ้น 5,000 จุดทั่วประเทศ
“ปัจจุบันมีทรานเซกชันผ่านทรูมันนี่ 3 หมื่นล้าน โดยแอปพลิเคชัน “TrueMoney Wallet” ถือเป็นบริการที่เข้ามาตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ทั้งในเมืองและพื้นที่ห่างไกลที่มีแนวโน้มซื้อสินค้าและบริการออนไลน์สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถได้รับบริการธุรกรรมทางการเงินที่สะดวกและต้นทุนต่ำในช่องทางต่างๆ ได้ง่ายขึ้น”
http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000077491&Keyword=true
____________________________________
ผุด 'ทรูแล็บ' นำร่อง 8 มหา'ลัย ทุ่ม 100 ล.หนุนวิจัย
"ทรู" เปิดตัว "ทรู แล็บ" ส่งเสริมงานวิจัยไอเดียนักศึกษาไทย เผยเตรียมงบกว่า 300 ล้านบาท สนับสนุนงานวิจัยต่อยอดสู่การใช้จริง พร้อมปั้นสตาร์ทอัพประดับวงการ...
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า จากโครงการทรู อินโนเวชั่น บริษัทได้สานต่อการสนับสนุนและส่งเสริมงานวิจัย เพื่อเชื่อมโยงผลงานนวัตกรรมตอบโจทย์ภาคธุรกิจ และส่งเสริมนักคิดนวัตกรรมไทยให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมในโครงการทรู แล็บ ซึ่งเบื้องต้นบริษัทร่วมมือกับสถาบันการศึกษา 8 แห่ง คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวต่อว่า บริษัทได้วางแผนขยายความร่วมมือจากสถาบันการศึกษานำร่องในครั้งนี้ สู่สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ โดยในปีนี้บริษัทเตรียมงบประมาณไว้กว่า 110 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนโครงการทรู แล็บ ใน 2 ส่วน คือ 1.ความร่วมมือด้านงานวิจัยและทุนวิจัย รวมถึงการดูงานด้านนวัตกรรมในต่างประเทศ แก่นักศึกษาและอาจารย์ที่ผ่านการคัดเลือกในโครงการ 2.การสร้างศูนย์ทรู แล็บ ในพื้นที่มหาวิทยาลัย ซึ่งบริษัทจะเป็นผู้วางระบบเทคโนโลยีสื่อสารพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกแก่บุคลากรของมหาวิทยาลัยและนักศึกษา นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมงบประมาณอีกว่า 200 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรายใหม่ที่ต้องการตั้งต้นธุรกิจในโครงการทรู อินคิวบ์อีกด้วย
ด้านนายธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ์ รองผู้อำนวยการและหัวหน้าศูนย์นวัตกรรม ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า บริษัทจะขยายความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาแห่งต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยพิจารณาจากความถนัดและเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของแต่ละแห่ง โดยในปีนี้โครงการทรู แล็บ ถือเป็นการดำเนินการปีที่ 2 โดยปีที่ผ่านมา บริษัทได้สนับสนุนทุนโครงการวิจัยแก่สถาบันการศึกษาแห่งต่างๆ ไปแล้วรวม 50 โครงการ ซึ่งโครงการวิจัยส่วนใหญ่จะเน้นการนำมาใช้งานจริง และสามารถในการตอบสนองการใช้งานใน 4 กลุ่ม คือ ลูกค้า กลุ่มทรู เทคโนโลยี และเพื่อสังคมเป็นหลัก
รองผู้อำนวยการและหัวหน้าศูนย์นวัตกรรม ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวอีกว่า สำหรับทุนที่บริษัทมอบให้โครงการวิจัยต่างๆ แบ่งออกเป็น 3 ขนาด คือ ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ 50,000 บาท 100,000 บาท และ 300,000 บาทตามลำดับ โดยหากโครงการใดได้รับการพิจารณาหรือมีโอกาสต่อยอด สู่การนำไปใช้จริง ก็อาจได้รับทุนเพิ่มเติมจนถึงหลักล้านบาท
นอกจากนี้ โครงการทรู แล็บ ยังจัดให้มีการประกวดทรู แล็บ คอนเทสต์ โดยเปิดรับสมัครนักศึกษาของมหาวิทยาลัยที่ร่วมโครงการดังกล่าว รวมทีมละ 5 คน จาก 2 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิทยาศาสตร์ อาทิ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ และสาขาสังคมศาสตร์ อาทิ คณะบริหารธุรกิจ คณะเศรษฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ โดยแต่ละทีมจะต้องนำเสนอแนวคิดและผลงานวิจัยภายใต้ 7 หัวข้อ ได้แก่ เทคโนโลยีด้านการสื่อสารโทรคมนาคมและเครือข่าย นวัตกรรมด้านระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ นวัตกรรมการเรียนรู้ นวัตกรรมส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมด้านสุขภาพและการแพทย์ และนวัตกรรมคอนเวอร์เจนซ์ ซึ่งผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าวได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 26 ก.ค.นี้.
โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/353702
ไม่มีความคิดเห็น: