Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

25 มิถุนายน 2556 กลุ่มพนักงานและลูกจ้าง MCOT ไล่วาระนี้ออก!! ด้านผู้บริหาร ปรับยุทธการ จ่ายลิขสิทธิ์ปีละ70ลบ.จาก165ลบ.3ปี และแบ่งขายโฆษณา 65%35% จาก MCOTรับเต็ม ขี้ขาดในวันที่ 4 ก.ค.56 เวลา 16.30 น.


ประเด็นหลัก



 อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีแนวโน้มที่จะไม่เห็นด้วยกับการซื้อต่อลิขสิทธิ์แบบจ่ายขาด จำนวน 165 ล้านบาท/ปี ตลอดช่วงเวลา 3 ฤดูการแข่งขัน รวมกว่า 480 ล้านบาท แต่มีแนวทางจะปรับเป็นการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ปีละ 70 ล้านบาท รวม 210 ล้านบาท และแบ่งรายได้โฆษณาในสัดส่วน MCOT 65% และ CTH 35% ซึ่งแนวทางนี้ อสมท เชื่อว่าจะสามารถทำกำไรได้ และลดแรงกดดันจากสหภาพแรงงาน อสมท ที่กังวลว่าบริษัทจะขาดทุนจากเรื่องนี้ โดยเบื้องต้นประเมินรายได้จากการขายโฆษณาในปีแรกที่ 248 ล้านบาท
         ทั้งนี้ คณะทำงาน 4 คน ได้แก่ นายสุรชัย โฆษิตเสรีวงศ์ กรรมการ, นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการ, นายจักรพันธุ์ ยมจินดา รองประธานกรรมการ และ นายธนะชัย วงศ์ทองศรี รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ จะทำหน้าที่เจรจาต่อรองกับ CTH และให้เสนอกลับมาที่คณะกรรมการ MCOT เพื่อให้ตัดสินขี้ขาดในวันที่ 4 ก.ค.56 เวลา 16.30 น.


 ขณะที่กลุ่มพนักงานและลูกจ้าง บริษัท อสมท ได้ทำหนังสือในนามกลุ่มพนักงาน ลูกจ้าง อสมท ยื่นถึงนายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลบริษัท อสมท ให้พิจารณาเปลี่ยนตัวนายสุธรรม และนายจักรพันธุ์ ยมจินดา รองประธานบอร์ด และขอให้สั่งเลื่อนพิจารณาในวาระดังกล่าวออกไปเพื่อประโยชน์ต่อองค์กร.

____________________________________________


อสมท เลือกไทม์แชริ่งถ่ายพรีเมียร์ฯ


  อสมท ใช้ไทม์แชริ่งถ่ายสดพรีเมียร์ลีกช่อง 9 ลดกระแสต้าน ตั้งทีมไปเจรจากับ ซีทีเอช อีกที
    นายสุธรรม แสงประทุม ประธานกรรมการ บมจ.อสมท (MCOT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการวันนี้ยังไม่มีมติเห็นชอบให้ซื้อต่อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษบางนัด จาก บมจ.ซีทีเอช โดยมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อเจรจากับ ซีทีเอช ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ เพื่อต่อรองให้ อสมท ได้ประโยชน์สูงสุด
         อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีแนวโน้มที่จะไม่เห็นด้วยกับการซื้อต่อลิขสิทธิ์แบบจ่ายขาด จำนวน 165 ล้านบาท/ปี ตลอดช่วงเวลา 3 ฤดูการแข่งขัน รวมกว่า 480 ล้านบาท แต่มีแนวทางจะปรับเป็นการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ปีละ 70 ล้านบาท รวม 210 ล้านบาท และแบ่งรายได้โฆษณาในสัดส่วน MCOT 65% และ CTH 35% ซึ่งแนวทางนี้ อสมท เชื่อว่าจะสามารถทำกำไรได้ และลดแรงกดดันจากสหภาพแรงงาน อสมท ที่กังวลว่าบริษัทจะขาดทุนจากเรื่องนี้ โดยเบื้องต้นประเมินรายได้จากการขายโฆษณาในปีแรกที่ 248 ล้านบาท
         ทั้งนี้ คณะทำงาน 4 คน ได้แก่ นายสุรชัย โฆษิตเสรีวงศ์ กรรมการ, นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการ, นายจักรพันธุ์ ยมจินดา รองประธานกรรมการ และ นายธนะชัย วงศ์ทองศรี รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ จะทำหน้าที่เจรจาต่อรองกับ CTH และให้เสนอกลับมาที่คณะกรรมการ MCOT เพื่อให้ตัดสินขี้ขาดในวันที่ 4 ก.ค.56 เวลา 16.30 น.
    ด้านแหล่งข่าวจากบริษัท อสมท รายหนึ่ง เปิดเผยว่า การที่ อสมท จะเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นไทม์แชริ่ง น่าจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับทุกฝ่าย เพราะจะทำให้ อสมท มีรายได้จากไทม์แชริ่งเข้ามาด้วย ส่วนยอดพรีเซลส์ที่มีเข้ามาในตอนนี้ประมาณ 270 ล้านบาท ถือว่าเป็นผลตอบรับที่ดีเกินคาด เพราะขณะนี้แพ็กเกจโฆษณาขนาดเล็กได้ถูกขายเต็มเวลาไปแล้ว ส่วนแพ็กเกจขนาดกลางและขนาดใหญ่อยู่ระหว่างการเจรจา เบื้องต้นแพ็กเกจขนาดใหญ่น่าจะได้ข้อสรุป 2 ราย คือ บริษัท ปตท. กับเอไอเอส รายละ 50 ล้านบาท
    ขณะที่กลุ่มพนักงานและลูกจ้าง บริษัท อสมท ได้ทำหนังสือในนามกลุ่มพนักงาน ลูกจ้าง อสมท ยื่นถึงนายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลบริษัท อสมท ให้พิจารณาเปลี่ยนตัวนายสุธรรม และนายจักรพันธุ์ ยมจินดา รองประธานบอร์ด และขอให้สั่งเลื่อนพิจารณาในวาระดังกล่าวออกไปเพื่อประโยชน์ต่อองค์กร.


http://www.thaipost.net/news/260613/75551

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.