Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

3 กรกฎาคม 2556 (เกมต่อรอภายใน) บอร์ด MCOT หาข้อสรุปกับ CTH 2ทางคือสนอ จ่าย 2 ล้านบาท แบ่งรายได้โฆษณา 50:50 และ จ่าย 2.5 ล้านบาท แบ่งรายได้โฆษณา รวมไฮไลท์ 50:50 (เตรียมนำเรื่องเข้าที่ประชุม)



ประเด็นหลัก



       นายสุธรรม แสงประทุม ประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันนี้ (4ก.ค.)ได้มีการประชุมวาระพิเศษสืบเนื่องจากการประชุมบอร์ด อสมท วันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการให้คณะทำงานดูแลเกี่ยวกับการซื้อลิขสิทธิ์การแข่งขันพรีเมียร์ลีกทางฟรีทีวีไปเจรจากับทางบริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน)เพิ่มเติม เพื่อความพอใจของทั้งสองฝ่ายโดยเฉพาะกลุ่มสหภาพแรงงาน อสมท ที่มีความกังวลใจ โดยสรุปออกมาว่า จะใช้วิธีการซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกแบบปีต่อปี โดยนำเสนอแก่ซีทีเอช 2ทางเลือก คือ
   
       1.จ่ายค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดให้ซีทีเอชคู่ละ 2.5 ล้านบาท และแบ่งรายได้จากโฆษณาร่วมกันในอัตราส่วน 50:50 ไม่รวมรายได้จากรายการไฮไลท์ เบื้องต้นคาดว่าจะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ซีทีเอชราว 42.5 ล้านบาท (ยังไม่รวมรายได้จากการการแบ่งรายได้โฆษณารวมกัน)
   
       2.จ่ายค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดให้ซีทีเอชคู่ละ 2 ล้านบาท และแบ่งรายได้จากโฆษณาร่วมกันในอัตราส่วน50:50 รวมรายได้จากรายการไฮไลท์ เบื้องต้นคาดว่าจะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ซีทีเอชราว 34 ล้านบาท (ยังไม่รวมรายได้จากการการแบ่งรายได้โฆษณารวมกัน)



สำหรับ 17 คู่การแข่งขันที่จะนำมาถ่ายทอดสดนั้น อสมท  สามารถเลือกคู่การแข่งขันได้ทั้งหมด  ขณะที่ช่วงเวลาโฆษณาที่ อสมท ได้รับก็เป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดคือ 1 คู่ต่อ 25 นาที  ซึ่งช่วงเวลาที่ได้มาดังกล่าว  อสมท จะแบ่งให้กับซีทีเอช 4 นาที









______________________________________





เรียบร้อย CTH - บอร์ด อสมท.หาสูตรซื้อบอลพรีเมียร์ลีกจนได้


     “สุธรรม”ชูซื้อพรีเมียร์ลีกแบบปีต่อปีผ่าน2แนวทาง ตกลงทุนปีละ 42.5 ล้านบาท พร้อมแบ่งรายได้โฆษณาร่วมกัน สยบปัญหาความไม่พอใจของกลุ่มสหภาพแรงงาน ฟากซีทีเอชรับได้พร้อมดีลที่โมเดลนี้ ด้านเอนกเดินหน้าลุยดิจิตอลทีวีกำ 2,000 ล้านบาท เบนเข็มประมูล-ช่องเอสดี แทนเอชดี
     
       นายสุธรรม แสงประทุม ประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันนี้ (4ก.ค.)ได้มีการประชุมวาระพิเศษสืบเนื่องจากการประชุมบอร์ด อสมท วันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการให้คณะทำงานดูแลเกี่ยวกับการซื้อลิขสิทธิ์การแข่งขันพรีเมียร์ลีกทางฟรีทีวีไปเจรจากับทางบริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน)เพิ่มเติม เพื่อความพอใจของทั้งสองฝ่ายโดยเฉพาะกลุ่มสหภาพแรงงาน อสมท ที่มีความกังวลใจ โดยสรุปออกมาว่า จะใช้วิธีการซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกแบบปีต่อปี โดยนำเสนอแก่ซีทีเอช 2ทางเลือก คือ
     
       1.จ่ายค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดให้ซีทีเอชคู่ละ 2.5 ล้านบาท และแบ่งรายได้จากโฆษณาร่วมกันในอัตราส่วน 50:50 ไม่รวมรายได้จากรายการไฮไลท์ เบื้องต้นคาดว่าจะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ซีทีเอชราว 42.5 ล้านบาท (ยังไม่รวมรายได้จากการการแบ่งรายได้โฆษณารวมกัน)
     
       2.จ่ายค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดให้ซีทีเอชคู่ละ 2 ล้านบาท และแบ่งรายได้จากโฆษณาร่วมกันในอัตราส่วน50:50 รวมรายได้จากรายการไฮไลท์ เบื้องต้นคาดว่าจะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ซีทีเอชราว 34 ล้านบาท (ยังไม่รวมรายได้จากการการแบ่งรายได้โฆษณารวมกัน)
     
       อย่างไรก็ตาม ผลสรุปในที่ประชุมครั้งนี้ ถือเป็นโมเดลการซื้อลิขสิทธิ์ที่ลงทุนน้อยกว่าเดิม เพื่อให้อสมทมีภาระการลงทุนน้อยที่สุด โดยจะนำเสนอต่อทางซีทีเอชอย่างเร็วที่สุด คาดว่าภายใน 1 วันจะรู้ผล ทั้งนี้ในส่วนของผู้สนับสนุน สปอนเซอร์โฆษณาที่เคยพรีเซลล์ไปแล้วพบว่ามีรายได้แน่นอนไม่ต่ำ200- 250 ล้านบาทนั้น เชื่อว่าจะไม่กระทบ เพียงแต่จะต้องปรับโมเดลการขายโฆษณาให้สอดคล้องกับแผนการซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกใหม่เท่านั้น และหากทางซีทีเอชตอบรับในโมเดลการซื้อพรีเมียร์ลีกครั้งนี้ มั่นใจว่าตัวแรกรายได้ในปีแรกจะทำได้ไม่ต่ำกว่าเดิม คือ ปีละไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
     
       ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ด้านนายกฤษณัน งามผาติพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โมเดลใหม่ที่ทางอสมทจะนำเสนอมานั้น ทางซีทีเอชมองว่าเป็นโมเดลที่รับได้ และน่าจะจบดีลการซื้อขายได้ด้วยดี
     
       ด้านนายสุระ เกนทะนะศิล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการซื้อลิขสิทธิ์การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษจากซีทีเอชทางฟรีทีวี ด้วยว่า ในความเป็นจริงคนอสมทต้องการให้มีคอนเท้นท์พรีเมียร์ลีกเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับทางช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ แต่ต้องเป็นราคาที่เหมาะสม เพราะคอนเท้นท์พรีเมียร์ลีกจะเป็นขั้นแรกที่จะทำให้อสมทก้าวสู่ความแข็งแกร่งในเรื่องคอนเท้นท์กีฬาต่อไปได้ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการแข่งขันของฟรีทีวีในปัจจุบันที่ต้องมีเอกลักษณ์ และความแข็งแกร่งของคอนเท้นท์แต่ละประเภท จากปัจจุบันต้องยอมรับว่าอสมทสู้เรื่องละคร และข่าวกับฟรีทีวีช่องอื่นได้ยากแล้ว
     
       อย่างไรก็ตามปัญหาของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกอังกฤษครั้ง ที่ผ่านมาไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ แต่ครั้งนี้ต้องจ่าย เนื่องจากโอกาสในการหารายได้ และมีฟรีทีวีหลายช่องให้ความสนใจร่วมถ่ายทอดสด ทำให้เกิดการแข่งขันตามมา บวกกับอสมทเองเป็นผู้ที่เข้าไปพูดคุยกับทางซีทีเอชเป็นอันดับต้นๆจึงต้องมีการพูดคุยแบบเจาะลึกมากขึ้น จนนำมาถึงเรื่องการซื้อลิขสิทธิ์ครั้งนี้ แต่โดยส่วนตัวมองว่าอสมทกำลังเข้าสู่การแข่งขันทางบรอดคาสติ้งอย่างเต็มตัว ถ้าไม่กล้าลงทุนก็จะแข่งขันยาก ซึ่งการซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกครั้งนี้ อาจจะทำให้คนอสมทเกิดความกังวลไปบ้าง
     
       อสมทเงินไม่ถึง ถอดใจประมูลแค่ 3ช่องเอสดี
       นายสุระ เกนทะนะศิล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการเข้าร่วมประมูลดิจิตอลทีวีหลังจากนี้ อสมทอาจจะต้องโฟกัสที่ 3ช่องแบบเอสดีเป็นหลัก เนื่องจากการประมูลช่องดิจิตอลทีวีแบบเอชดี มีต้นทุนสูง กับเม็ดเงินประมูลเริ่มต้นที่ 1,500 ล้านบาทต่อช่อง อีกทั้งการประมูลช่องเอชดี ยังมีกฎออกมาห้ามทำช่องข่าว อีกด้วย ซึ่งอสมทมีสำนักข่าวไทยอยู่ในมือ และต้องการทำช่องข่าว จึงต้องมีการเปลี่ยนแผนการประมูลใหม่ โดยจะทำเรื่องเสนอบอร์ด อสมท อีกครั้ง โดยการเน้นประมูลช่องดิจิตอลทีวี แบบเอสดี 3 ช่องแทน จากงบเดิมที่วางไว้ก็จะลดลงตามความเหมาะสม
     
       “ดิจิตอลทีวีแบบเอชดี มีคู่แข่งมาก และแต่ละรายก็มีเม็ดเงินที่หนากว่าเรา ส่วนรูปแบบเอสดีก็มีผู้ที่สนใจเช่นกัน แต่ถือเป็นกลุ่มที่ยังสามารถหารายได้จากโฆษณาได้ดีกว่าแบบเฮชดี ที่มองว่าถึงแม้ประเทศไทยจะมีการเติบโตของบรอดคาสติ้งเพิ่มขึ้นมา แต่ในแง่เม็ดเงินโฆษณาอาจจะทรงตัวหรือเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะสภาพเศรษฐกิจ ค่าเงินยูโร และสถาการณ์เศรษฐกิจโลกยังไม่ดี ทำให้เม็ดเงินโฆษณาหลักจากบริษัทข้ามชาติไม่โต จะโตที่กลุ่มเอสเอ็มอีที่มีโอกาสได้ลงโฆษณามากขึ้นแทน แต่ในแง่มูลค่าอุตสาหกรรมโฆษณาแสนกว่าล้านบาทอาจจะไม่โตมากนัก ดังนั้นการลงทุนดิจิตอลทีวี แบบเอชดีจึงมองว่าไม่คุ้ม”
     
       อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ กล่าวว่า การประมูลดิจิตอลทีวีในวันจริงนั้น อสมท มีงบประมาณเบื้องต้นไว้ที่ 2,000 ล้านบาท สำหนับแนวทางเลือกในการประมูลทีวีดิจิตอล 3 ทาง คือ 1. ช่อง HD 1 ช่อง-ช่อง SD 1 ช่อง และช่องเด็ก 1 ช่อง 2. ประมูลเฉพาะช่อง SD ทั้ง 3 ช่อง และ3. ช่อง HD วาไรตี 1 ช่อง และช่อง SD วาไรตี 1 ช่องเท่านั้น โดยทุกทางเลือกต้องรอดูสถานการณ์ในช่วงการประมูลจริงอีกครั้ง หากช่อง HD มีราคาสูงเกินไป อสมทจะเน้นประมูลในช่อง SD วาไรตีเป็นหลักก่อน ส่วนในช่อง HD จะมีการอัปเกรดภายหลังจากนี้ 2-3 ปี

http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000081722

_________________________________________



"อสมท"สรุป2ข้อเสนอพรีเมียร์ลีก


อสมท ล้างไพ่ชู 2 ข้อเสนอ จ่าย 2 ล้านบาท แบ่งรายได้โฆษณา 50:50 และ จ่าย 2.5 ล้านบาท แบ่งรายได้โฆษณา รวมไฮไลท์ 50:50

นายสุธรรม  แสงประทุม ประธานกรรมการบอร์ด  บมจ.อสมท  เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับบอร์ดบริหาร  และตัวแทนทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายจักรพันธุ์  ยมจินดา รองประธานกรรมการ บมจ.อสมท  นายสุรชัย  โฆษิตเสรีวงค์  กรรมการ บมจ.อสมท  นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการ  บมจ.อสมท  และนายธนะชัย  วงศ์ทองศรี  รองกรรการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท  ได้ข้อสรุป 2 แนวทาง คือ 1. จ่ายค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดคู่ละ 2 ล้านบาทต่อครั้ง แบ่งผลประโยชน์จากการออกอากาศกับซีทีเอช 50:50  ไม่รวมรายการไฮไลท์(รายการพิเศษ)

2.จ่ายค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดคู่ละ 2.5 ล้านบาทต่อครั้ง  แบ่งผลประโยชน์จากการถ่ายทอดสดกับซีทีเอช และรายการไฮไลท์ 50:50  ซึ่งหลังจากข้อสรุปที่ได้ในครั้งนี้บริษัทจะนำข้อเสนอดังกล่าวไปเจรจาร่วมกับซีทีเอชทันที  หากการซีทีเอชไม่รับข้อเสนอตามเงื่อนไขดังกล่าวคงต้องต่างคนต่างไป  เพราะบริษัทต้องการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับ อสมท

“ข้อสรุปครั้งนี้ถือเป็นครั้งสุดท้ายของบอร์ดที่จะมีการเจาจาร่วมกัน  เพราะหลังจากมีการหารือภายในร่วมกันหลายครั้งทำให้พบทางใหม่ และข้อเสนอใหม่ๆ ที่ทำให้ อสมท มีค่าใช้จ่ายน้อยลง  และข้อเสนอครั้งนี้ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด”นายสุธรรมกล่าว

สำหรับ 17 คู่การแข่งขันที่จะนำมาถ่ายทอดสดนั้น อสมท  สามารถเลือกคู่การแข่งขันได้ทั้งหมด  ขณะที่ช่วงเวลาโฆษณาที่ อสมท ได้รับก็เป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดคือ 1 คู่ต่อ 25 นาที  ซึ่งช่วงเวลาที่ได้มาดังกล่าว  อสมท จะแบ่งให้กับซีทีเอช 4 นาที

นายสุธรรม กล่าวว่า  จากข้อสรุปในครั้งนี้มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อยอดพรีเซลล์ที่บริษัทได้ขายไปก่อนหน้าเป็นเม็ดเงิน 248.5  ล้านบาท  เพราะผลประโยชน์ที่ อสมท ได้รับยังคงเหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาการถ่ายทอดสด เวลาโฆษณา รายการไฮไลท์  หรือการทำกิจกรรม

ก่อนหน้านี้บอร์ด อสมท ได้เสนอแนวทางเจรจาผลประโยชน์กับซีทีเอช 2 แนวทาง เช่นกัน  คือ 1.การซื้อสิทธิ์การถ่ายทอดสดแบบเบ็ดเสร็จ  ด้วยการจ่ายปีละ 165 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 3 ปี  และ 2.แบบเรเวนิวแชร์ริง  อสมท  จ่ายค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดปีละ 70 ล้านบาท และนำผลประโยชน์ที่ได้จากการขายโฆษณาแบ่งกับ ซีทีเอชในอัตราส่วน  อสมท  65%  ซีทีเอช  35%

ทั้งนี้  จากข้อสรุปที่ออกมาดังกล่าวสอบถามไปยังนายสุวิทย์ มิ่งมล  ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ. อสมท  กล่าวว่า  ยังไม่ข้อออกความคิดเห็นในเรื่องนี้  เนื่องจากต้องนำผลสรุปที่ได้จากบอร์ด อสมท  เข้าที่ประชุมสหภาพฯ จึงจะสามารถออกมาเปิดเผยข้อสรุปในส่วนของสหภาพได้

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้ทำการสอบถามไปทางบริษัท ซีทีเอช  ผู้ได้ลิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ถึงเรื่องที่ อสมท ยื่นข้อเสนอใหม่ว่า  ยินดีรับข้อเสนอดังกล่าว

http://www.posttoday.com/%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88-
%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94/232342/%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B
8%97-
%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%9B2%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%
E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0
%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%81


ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.