19 พฤษภาคม 2557 dplus ลงทุนสินค้าภายใต้ลิขสิทธิ์ "ไลน์" อยู่ที่กว่า 60 ล้านบาท คาดว่าจะทำยอดขายได้ 100 ล้านบาท จากเป้ารายได้รวม 1,000 ล้านบาทเท่ากับปีที่ผ่านมา
ประเด็นหลัก
สำหรับเงินลงทุนสินค้าภายใต้ลิขสิทธิ์ "ไลน์" อยู่ที่กว่า 60 ล้านบาท คาดว่าจะทำยอดขายได้ 100 ล้านบาท จากเป้ารายได้รวม 1,000 ล้านบาทเท่ากับปีที่ผ่านมา เนื่องจากการเมืองและเศรษฐกิจคาดการณ์ได้ยาก แค่รักษายอดเท่าเดิมก็ดีแล้ว
"ตลาดอุปกรณ์เสริม แต่เดิมยังไม่มีเรื่องการสร้างแบรนด์เท่าไร ผู้บริโภคไม่เข้าใจถึงความแตกต่างของสินค้า แต่พอเริ่มเข้าสู่การทำแบรนด์เต็มตัว ผู้บริโภคสามารถเข้าใจ และแยกแยะความต่างได้ จุดเด่น ๆ คือเรื่องบริการหลังการขาย แต่ก่อนเสียแล้วก็ทิ้ง แต่ถ้าเป็นสินค้าของบริษัท ทุกชิ้นมีการรับประกัน 1 ปี ปีนี้เรามีงบฯการตลาด 100 ล้านบาท หรือ 10% ของรายได้รวม เพิ่มจากปีที่แล้ว 20% เพื่อย้ำแบรนด์ ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจมากขึ้นว่า การใช้ฟิล์มถูกประเภทเป็นอย่างไร เดิมฟิล์มกันรอยมีแต่ฟิล์มด้านและฟิล์มใส ปัจจุบันมีฟิล์มใสที่ลดรอยนิ้วมือ, กันกระแทก เป็นต้น"
______________________________________
ดีพลัสบุกอุปกรณ์เสริมไอที รุกตปท.-ดึง "ไลน์" เพิ่มสีสัน
"ดีพลัส" เกาะกระแสฮอต "LINE FRIENDS" ดึงแคแร็กเตอร์การ์ตูนผลิตอุปกรณ์เสริมสินค้าไอที พร้อมเสริมทีมขยายฐานลูกค้าเพิ่มรายได้จากตลาดต่างประเทศ หลังชิมลางผลิตสินค้าลิขสิทธิ์ยี่ห้อ "พอลแฟรงก์" ทำตลาดทั่วโลก เร่งสปีดปั๊มรายได้รวมทะลุพันล้านบาท
นายอมรศักดิ์ แดงแสงทอง รองประธานกรรมการฝ่ายการตลาด บริษัท ดีพลัส อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์เสริม แบรนด์ FOCUS, RIZZ และ POWERMAX เปิดเผยว่า ได้สิทธิจากบริษัท เอ ไอ ไทยแลนด์ และ NAVER ประเทศญี่ปุ่น นำ LINE FRIENDS (แคแร็กเตอร์การ์ตูนในไลน์) มาผลิตสินค้าทำตลาดในประเทศไทย ทั้งเคสมือถือ, แบตเตอรี่สำรอง, ลำโพง และอุปกรณ์เสริมไอที
"ผู้ใช้ LINE ในไทยเป็นอับดับ 2 ของโลก รองจากญี่ปุ่น การได้สิทธิผลิตและจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์แคแร็กเตอร์ LINE FRIENDS ในหมวดสินค้าไอทีเพียงผู้เดียวในไทยถือเป็นโอกาส บริษัทให้ความสำคัญกับการดีไซน์และฟังก์ชั่น วัสดุต้องมีคุณภาพ การผลิตที่มีมาตรฐาน ทั้งเคสมือถือ แท็บเลต แบรนด์ FOCUS, แบตเตอรี่ POWERMAX อุปกรณ์เสริมไอทีแบรนด์ RIZZ"
สำหรับเงินลงทุนสินค้าภายใต้ลิขสิทธิ์ "ไลน์" อยู่ที่กว่า 60 ล้านบาท คาดว่าจะทำยอดขายได้ 100 ล้านบาท จากเป้ารายได้รวม 1,000 ล้านบาทเท่ากับปีที่ผ่านมา เนื่องจากการเมืองและเศรษฐกิจคาดการณ์ได้ยาก แค่รักษายอดเท่าเดิมก็ดีแล้ว
"ตลาดอุปกรณ์เสริม แต่เดิมยังไม่มีเรื่องการสร้างแบรนด์เท่าไร ผู้บริโภคไม่เข้าใจถึงความแตกต่างของสินค้า แต่พอเริ่มเข้าสู่การทำแบรนด์เต็มตัว ผู้บริโภคสามารถเข้าใจ และแยกแยะความต่างได้ จุดเด่น ๆ คือเรื่องบริการหลังการขาย แต่ก่อนเสียแล้วก็ทิ้ง แต่ถ้าเป็นสินค้าของบริษัท ทุกชิ้นมีการรับประกัน 1 ปี ปีนี้เรามีงบฯการตลาด 100 ล้านบาท หรือ 10% ของรายได้รวม เพิ่มจากปีที่แล้ว 20% เพื่อย้ำแบรนด์ ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจมากขึ้นว่า การใช้ฟิล์มถูกประเภทเป็นอย่างไร เดิมฟิล์มกันรอยมีแต่ฟิล์มด้านและฟิล์มใส ปัจจุบันมีฟิล์มใสที่ลดรอยนิ้วมือ, กันกระแทก เป็นต้น"
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแคมเปญส่งเสริมการขายสนับสนุนตัวแทนจำหน่ายต่อเนื่องพร้อมมีแผนแตกไลน์การผลิตสินค้าใหม่ เพิ่มขึ้น เช่น ผลิตฟิล์มกันกระแทก, ฟิล์มลดแสงสีฟ้า เป็นต้น
ตลาดอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟนและแท็บเลตปีที่ผ่านมาเติบโตขึ้นมาก จากการที่ผู้ใช้เปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น แม้ในไตรมาสแรกปีนี้จะเติบโตลดลงเล็กน้อยจากปัจจัยการเมืองและเศรษฐกิจ แต่เชื่อว่าสินค้าลิขสิทธิ์ LINE จะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคใหม่ ๆ มากขึ้น
นายอมรศักดิ์กล่าวว่า บริษัทเริ่มสร้างทีมงานเพื่อรองรับการขยายไปยังตลาดต่างประเทศ โดยจะเริ่มที่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม พม่า กัมพูชา อินโดนีเซีย เพื่อขยายธุรกิจ และเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
"ปีที่แล้ว เราได้รับความไว้วางใจจากพอลแฟรงก์ให้เป็นผู้ผลิตแอ็กเซสซอรี่เพียงผู้เดียวเพื่อจำหน่ายไปทั่วโลก แต่รายได้จากการส่งออกแค่ 10% ปีนี้เน้นตลาดต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากกำลังซื้อสูง สำหรับในไทยมีช่องทางขายมากมาย ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าไอทีจนถึงร้านสะดวกซื้อเป็นผู้บุกเบิกแอ็กเซสซอรี่ในร้านสะดวกซื้อตลาดไอทีไม่ใช่ของคนเมืองอีกต่อไป"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1400315377
ไม่มีความคิดเห็น: