27 พฤษภาคม 2557 คสช.เน้นหนักในการควบคุมผู้จัดรายการต่างๆ ห้ามไม่ให้มีการขึ้นข่าวหรือข้อความตัววิ่งด้านล่างจอภาพ และห้ามให้มีการต่อสายหรือโฟนอินเข้ามาแสดงความคิดเห็นในรายการโทรทัศน์ อย่างเด็ดขาด
ประเด็นหลัก
ทั้งนี้ จะเน้นหนักในการควบคุมผู้จัดรายการต่างๆ ให้เป็นไปในทางสร้างสรรค์ รวมทั้ง คสช. ยังขอความร่วมมือผู้ประกอบการโทรทัศน์ ห้ามไม่ให้มีการขึ้นข่าวหรือข้อความตัววิ่งด้านล่างจอภาพ การเปิดให้ประชาชนทั่วไปส่งข้อความ (SMS) เข้ามาแสดงความคิดเห็น และห้ามให้มีการต่อสายหรือโฟนอินเข้ามาแสดงความคิดเห็นในรายการโทรทัศน์ อย่างเด็ดขาด เนื่องจากบุคคลภายนอกอาจไม่มีความรับผิดชอบมากพอในการแสดงความคิดเห็น จนอาจเป็นผลร้ายต่อสถานีโทรทัศน์ได้
“หากเราพบสถานีโทรทัศน์ใดฝ่าฝืนคำสั่งนี้ คสช.จะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักตามลำดับ เริ่มตั้งแต่เตือน เรียกพบ และปิดในที่สุด”
______________________________________
“คสช.” สั่งห้ามทีวีมี SMS-โฟนอิน แสดงความเห็น
คสช.เรียกผู้ประกอบการโทรทัศน์เข้าพบวันนี้ พร้อมสั่งห้ามปล่อยให้มีการแสดงความคิดเห็นผ่านทางเอสเอ็มเอสหน้าจอ รวมไปถึงการโฟนอินเข้ารายการ หากพบฝ่าฝืนโดนโทษแน่ ส่วนฟรีทีวีอนุญาตให้ออกอากาศตามปกติแล้ว
โดยเมื่อเวลา 16.00 น. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งเรียกให้ผู้ประกอบการโทรทัศน์ เช่น ช่องฟรีทีวีทั้งในระบบทีวีแอนะล็อก ทีวีดิจิตอล ทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี และผู้ให้บริการทีวีผ่านกล่องที่รับสัญญาณอินเทอร์เน็ต (ไอพีทีวี) เข้ารับทราบหลักการปฏิบัติตามประกาศ คสช.
พล.ต.สุชาติ ผ่องพุฒิ รองเจ้ากรมการทหารสื่อสาร และหัวหน้าคณะทำงานติดตามสื่อ คสช. กล่าวว่า ในการหารือดังกล่าวเป็นการชี้แจงให้แก่ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ทุกประเภทให้รับทราบหลักการปฏิบัติตามประกาศ คสช. ในฉบับที่ 14 และ 18 ว่าด้วยเรื่องการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารไปสู่ประชาชน โดยในการชี้แจงกับผู้ประกอบการโทรทัศน์ยังได้ขอความร่วมมือให้มีการนำเสนอเนื้อหารายการที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง จนนำไปสู่ให้เกิดการยั่วยุ เกิดการแตกแยกทางสังคม หรือก่อให้เกิดการบิดเบือนในการรับข้อมูลข่าวสาร
ทั้งนี้ จะเน้นหนักในการควบคุมผู้จัดรายการต่างๆ ให้เป็นไปในทางสร้างสรรค์ รวมทั้ง คสช. ยังขอความร่วมมือผู้ประกอบการโทรทัศน์ ห้ามไม่ให้มีการขึ้นข่าวหรือข้อความตัววิ่งด้านล่างจอภาพ การเปิดให้ประชาชนทั่วไปส่งข้อความ (SMS) เข้ามาแสดงความคิดเห็น และห้ามให้มีการต่อสายหรือโฟนอินเข้ามาแสดงความคิดเห็นในรายการโทรทัศน์อย่างเด็ดขาด เนื่องจากบุคคลภายนอกอาจไม่มีความรับผิดชอบมากพอในการแสดงความคิดเห็น จนอาจเป็นผลร้ายต่อสถานีโทรทัศน์ได้
“หากเราพบสถานีโทรทัศน์ใดฝ่าฝืนคำสั่งนี้ คสช.จะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักตามลำดับ เริ่มตั้งแต่เตือน เรียกพบ และปิดในที่สุด”
ขณะที่ประเภทโทรทัศน์ที่ คสช.อนุญาตให้ออกอากาศแล้วในเวลานี้ ได้แก่ ช่องฟรีทีวีเดิมในระบบแอนะล็อก 6 ช่อง ช่องรายการฟรีทีวีในระบบทีวีดิจิตอล 23 จาก 24 ช่องรายการ ทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี และไอพีทีวี โดยทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี และไอพีทีวี ในช่วงเวลานี้จะอนุญาตให้สามารถออกอากาศได้เฉพาะที่เป็นของผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ในระบบบอกรับสมาชิกเท่านั้น
ส่วนช่องทางการออกอากาศอื่นๆ รวมทั้งในส่วนช่องวอยซ์ทีวี และช่องรายการโทรทัศน์อื่นๆ จำนวน 14 ช่อง และวิทยุชุมชนที่ได้มีคำสั่งระงับการออกอากาศไปก่อนหน้านี้ จะยังไม่ให้ออกอากาศในเวลานี้ และจะนำมาพิจารณาใหม่ในภายหลัง
อย่างไรก็ดี ข้อมูลจากผู้ประกอบการโทรทัศน์ล่าสุดระบุว่า ปัจจุบันมีช่องรายการทีวีที่สามารถออกอากาศตามปกติได้แล้วจำนวน 274 ช่องรายการ เนื่องจากมีเนื้อหาสาระที่ไม่ได้ขัดต่อประกาศ คสช.
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000057945
ไม่มีความคิดเห็น: