28 พฤษภาคม 2557 ศาลปกครองกลางให้ กสทช. เลื่อนให้ถ้อยคำเป็น 30 พ.ค.นี้ กรณีช่อง3 ออกอากาศระบบบอกรับสมาชิกไม่ได้!! แหล่งข่าว กสทช. รายหนึ่ง ระบุ พฤติกรรมแบบนี้เหมือนสุภาษิตที่ว่า ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน เพราะว่าแต่ละช่องเป็นอิสระมานาน เมื่อต้องอยู่ภายใต้กรอบ ระเบียบ ก็เลยเกิดปัญหา
ประเด็นหลัก
หลัง กสทช. สั่งให้ช่อง 3 ระบบอะนาล็อกสิ้นสุดการทำหน้าที่ ตามกฎมัสต์แครี่ ล่าสุด ศาลปกครองกลางให้ กสทช. เลื่อนให้ถ้อยคำเป็น 30 พ.ค.นี้ ด้านผู้บริหารซีทีเอชเผย เตรียมทางออกไว้แล้ว น้อมรับผลศาล…
"ส่วนตัวมองพฤติกรรมแบบนี้เหมือนสุภาษิตที่ว่า ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน เพราะว่าแต่ละช่องเป็นอิสระมานาน เมื่อต้องอยู่ภายใต้กรอบ ระเบียบ ก็เลยเกิดปัญหา ทั้งยังขาดการดูแลเนื้อหาให้เหมาะสม ไม่เช่นนั้นเราคงจะไม่ได้เห็นช่องรายการที่มีเนื้อหารุนแรงทางการเมือง ช่องที่พูดจาหยาบคายออกอากาศอยู่ตามดาวเทียมหรือเคเบิล อย่างไรก็ตาม หากช่อง 3 ยังดื้อดึงก็ต้องไปฟ้องร้องศาลสถานเดียว ส่วนผู้ให้บริการผ่านโครงข่ายแบบบอกรับสมาชิกที่ยังออกอากาศช่อง 3 แบบอะนาล็อกอยู่นั้น หากถึงเวลาพิจารณาโทษจริงๆ ก็ต้องว่ากันไปตามระเบียบ ในฐานะ กสทช. ขอยืนว่าทุกรายต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเท่าเทียม ซึ่งไม่เฉพาะเรื่องทีวีดิจิตอล แต่ยังรวมถึงผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบรรดาวิทยุชุมชนอีกด้วย" กรรมการ กสทช. รายหนึ่ง กล่าว
______________________________________
ศุกร์นี้ชี้ชะตา! 'ช่อง 3 อะนาล็อก' หลังศาล ปค.อนุญาต กสทช. เลื่อนให้ถ้อยคำ
โดย ไทยรัฐออนไลน์
หลัง กสทช. สั่งให้ช่อง 3 ระบบอะนาล็อกสิ้นสุดการทำหน้าที่ ตามกฎมัสต์แครี่ ล่าสุด ศาลปกครองกลางให้ กสทช. เลื่อนให้ถ้อยคำเป็น 30 พ.ค.นี้ ด้านผู้บริหารซีทีเอชเผย เตรียมทางออกไว้แล้ว น้อมรับผลศาล…
จากกรณีที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้มีคำสั่งให้ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (ช่อง 3) สิ้นสุดการทำหน้าที่เป็นผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ตามกฎมัสต์แครี่ หรือประกาศหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.2557 ทำให้ช่อง 3 จะต้องสิ้นสุดการทำหน้าที่ออกอากาศบนระบบอะนาล็อกผ่านโครงข่ายแบบบอกรับสมาชิกนั้น
ไทยรัฐออนไลน์ ได้สอบถามหนึ่งในคณะกรรมการ กสทช. ซึ่งเปิดเผยว่า ตามระเบียบหากจะออกอากาศช่อง 3 ระบบอะนาล็อก ผ่านดาวเทียมหรือเคเบิลทีวี ก็จำเป็นต้องมีการจำกัดโฆษณาไม่ให้เกิน 6 นาทีต่อชั่วโมง ซึ่งถือเป็นการปรับลดลงแบบครึ่งต่อครึ่ง หรือหากต้องการนำคอนเทนต์บนระบบอะนาล็อกไปออกอากาศ ก็จะต้องจัดสรรคอนเทนต์เพื่อย้ายไปอยู่บนช่องทีวีดิจิตอลเท่านั้น ซึ่งก่อให้เกิดความยุ่งยากต่อช่อง 3 และทำให้ต้องสูญเสียรายได้จากการลดเวลาโฆษณาลง
"ส่วนตัวมองพฤติกรรมแบบนี้เหมือนสุภาษิตที่ว่า ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน เพราะว่าแต่ละช่องเป็นอิสระมานาน เมื่อต้องอยู่ภายใต้กรอบ ระเบียบ ก็เลยเกิดปัญหา ทั้งยังขาดการดูแลเนื้อหาให้เหมาะสม ไม่เช่นนั้นเราคงจะไม่ได้เห็นช่องรายการที่มีเนื้อหารุนแรงทางการเมือง ช่องที่พูดจาหยาบคายออกอากาศอยู่ตามดาวเทียมหรือเคเบิล อย่างไรก็ตาม หากช่อง 3 ยังดื้อดึงก็ต้องไปฟ้องร้องศาลสถานเดียว ส่วนผู้ให้บริการผ่านโครงข่ายแบบบอกรับสมาชิกที่ยังออกอากาศช่อง 3 แบบอะนาล็อกอยู่นั้น หากถึงเวลาพิจารณาโทษจริงๆ ก็ต้องว่ากันไปตามระเบียบ ในฐานะ กสทช. ขอยืนว่าทุกรายต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเท่าเทียม ซึ่งไม่เฉพาะเรื่องทีวีดิจิตอล แต่ยังรวมถึงผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบรรดาวิทยุชุมชนอีกด้วย" กรรมการ กสทช. รายหนึ่ง กล่าว
ขณะที่ นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้รับสำเนาเอกสารจาก กสทช. ซึ่งยื่นต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้เลื่อนเวลาการให้ถ้อยคำออกไปอีก 15 วัน แต่ศาลมีคำสั่งให้เลื่อนได้เพียง 3 วัน เป็นวันที่ 30 พ.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม ในเนื้อหาเอกสารดังกล่าวระบุไว้ชัดเจนว่า ช่อง 3 สามารถออกอากาศในระบบอะนาล็อกได้ตามปกติ ตามสิทธิในมาตรา 75 พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 รวมถึงประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 23/2557 และ 24/2557
ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ซีทีเอช กล่าวอีกว่า บริษัทได้เตรียมทางออกไว้รองรับผลที่อาจเกิดขึ้นในทุกกรณีแล้ว จากนี้ก็รอเพียงคำสั่งจากศาลที่จะมอบให้ กสทช. มาบังคับใช้ต่อไป
"ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร การดำเนินงานจากนี้จะอยู่ภายใต้กรอบของทั้ง คสช. และ กสทช. หากมีหนังสือหรือเอกสารถูกต้องบริษัทก็พร้อมปฏิบัติตาม โดยส่วนตัวไม่รู้สึกหนักใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะเชื่อว่าศาลเป็นที่พึ่งและให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย รวมถึงการคุ้มครองประชาชนและผู้บริโภคอยู่แล้ว" นายเชิดศักดิ์ กล่าว.
http://thairath.co.th/content/425573
ไม่มีความคิดเห็น: