Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

03 มิถุนายน 2557 IPM.มานพ ระบุ ปัจจุบันบริษัทมีฐานสมาชิกผู้ชมในประเทศไทยกว่า 3.7 ล้านราย และสปป.ลาว 1.2 ล้านราย โดยสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้าขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว


ประเด็นหลัก


มานพ โตการค้ามานพ โตการค้า    นายมานพ โตการค้า ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอพีเอ็มทีวี จำกัด ผู้ทำธุรกิจจานดาวเทียมสีส้ม ภายใต้แบรนด์ "ไอพีเอ็ม"  (IPM)  เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า  ปัจจุบันบริษัทมีฐานสมาชิกผู้ชมในประเทศไทยกว่า 3.7 ล้านราย และสปป.ลาว 1.2 ล้านราย โดยสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้าขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว แบ่งเป็น ในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านราย และต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 2.2 ล้านราย ซึ่งการขยายตลาดต่างประเทศครั้งนี้บริษัทจะร่วมมือกับพาร์ตเนอร์พัฒนาคอนเทนต์ เพื่อรักษาฐานลูกค้าในสปป.ลาวที่มีสัดส่วนผู้ชมกว่า 90% ของทั้งประเทศ

______________________________________


IPMตั้งเป้าสิ้นปีลูกค้าใหม่โต100%



 จานดาวเทียมสีส้ม"ไอพีเอ็ม"  เล็งขยายฐานผู้ชมไทย/เทศแบบก้าวกระโดดโตเพิ่ม 100%  หลังทุ่มงบกว่า 500 ล้านพัฒนาแพลตฟอร์ม และผลิตละครป้อนทีวีดิจิตอล  ล่าสุดคว้างานยักษ์ช่อง THV  เผยจอดำ ช่วงรัฐประหารส่งผลเม็ดเงินโฆษณาหายวับ 50%
มานพ โตการค้ามานพ โตการค้า    นายมานพ โตการค้า ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอพีเอ็มทีวี จำกัด ผู้ทำธุรกิจจานดาวเทียมสีส้ม ภายใต้แบรนด์ "ไอพีเอ็ม"  (IPM)  เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า  ปัจจุบันบริษัทมีฐานสมาชิกผู้ชมในประเทศไทยกว่า 3.7 ล้านราย และสปป.ลาว 1.2 ล้านราย โดยสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้าขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว แบ่งเป็น ในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านราย และต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 2.2 ล้านราย ซึ่งการขยายตลาดต่างประเทศครั้งนี้บริษัทจะร่วมมือกับพาร์ตเนอร์พัฒนาคอนเทนต์ เพื่อรักษาฐานลูกค้าในสปป.ลาวที่มีสัดส่วนผู้ชมกว่า 90% ของทั้งประเทศ
    "การจับมือกับพาร์ตเนอร์พัฒนาโลคัลคอนเทนต์ เนื่องจากบริษัทมองว่าวัฒนธรรม  ไลฟ์สไตล์ ภาษา และความชอบแต่ละประเทศค่อนข้างแตกต่างกัน ดังนั้นการผลิตโลคัลคอนเทนต์จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์สถานีโทรทัศน์ของทั้งในประเทศและต่างประเทศ"
    ขณะเดียวกันบริษัทวางงบประมาณกว่า 500 ล้านบาทในการผลิตคอนเทนต์  ทำกิจกรรมการตลาด และพัฒนาแพลตฟอร์ม ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีสถานีโทรทัศน์ทีวีดิจิตอลเข้ามาพูดคุยหลายรายในรูปแบบการผลิตคอนเทนต์ละคร และรายการให้กับช่อง แต่ที่บรรลุข้อตกลง และพร้อมดำเนินการแล้ว คือ ช่อง THV ของทีวีพูล โดยบริษัทจะผลิตละครและพร้อมออกอากาศได้ในต้นเดือนมิถุนายนนี้

    อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้าควบคุมและระงับการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ทั้งหมด ส่งผลให้บริษัทได้รับผลกระทบในเรื่องของรายได้โฆษณาที่หายไปราว 50% หรือประมาณ 2-3 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้าชะลอการใช้เงิน ขณะที่ในไตรมาสแรกที่ผ่านมาแม้จะเกิดปัญหาความไม่สงบทางการเมืองส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อลดลง และยอดโฆษณาโดยรวมของบริษัทก็ลดลง  แต่บริษัทยังมีรายได้จากการขายจานดาวเทียม กล่องรับสัญญาณไอพีเอ็ม และการผลิตคอนเทนต์เข้ามาเพิ่ม ทำให้เชื่อว่ารายได้ในปีนี้ของบริษัทจะยังเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
    โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจแพลตฟอร์ม 30% ลิขสิทธิ์และจำหน่ายคอนเทนต์แปรรูป  20% โฆษณา 30% และการผลิตละคร 20%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=233180:ipm100&catid=106:-marketing&Itemid=456#.U42AxhZAfM4

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.