21 กรกฎาคม 2557 JP Morgan.ปัญญา ระบุ ถ้าผู้ให้บริการอันดับ 1 ให้บริการ 3G 2100 จะต้องรับโหลดคนใช้งานถึง 830 เลขหมายต่อ 1 สถานีฐาน ต่อช่วงคลื่น 5 MHz ในขณะที่ดีแทค ไตรเน็ต จะรับโหลดเพียง 66 เลขหมาย ส่วนผู้ให้บริการอีกรายจะต้องรับโหลด 90 เลขหมาย
ประเด็นหลัก
นายปัญญา เวชบรรยงรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานปฏิบัติการโครงข่าย ให้ข้อมูลเพิ่มว่า มีรายงานวิเคราะห์จาก เจ.พี.มอร์แกน (JP Morgan : Asia Pacific Equity Research 26 May 2014) ที่มีการศึกษาการใช้งานเครือข่ายของแต่ละค่ายระบุว่า ถ้าผู้ให้บริการอันดับ 1 ให้บริการ 3G เฉพาะบนคลื่น 2100 MHz ณ การใช้งานขณะนั้นจะต้องรับโหลดคนใช้งานถึง 830 เลขหมายต่อ 1 สถานีฐาน ต่อช่วงคลื่น 5 MHz ในขณะที่ดีแทค ไตรเน็ต จะรับโหลดเพียง 66 เลขหมาย ส่วนผู้ให้บริการอีกรายจะต้องรับโหลด 90 เลขหมาย
______________________________
“ดีแทค” ไม่หวั่นเลื่อนประมูล มั่นใจ 3 คลื่นเพียงพอให้บริการ
“ดีแทค” ไม่หวั่น คสช.เลื่อนประมูลคลื่นความถี่ แต่เชื่อว่าในระยะยาวแล้วต้องมีการประมูล เชื่อคลื่นที่มีทั้ง 3 คลื่นความถี่ยังเพืยงพอต่อการให้บริการ พร้อมเผยเตรียมลงทุนบนคลื่น 850 MHz เพิ่ม แม้ใกล้หมดสัมปทาน โวสถานีฐานทั้งหมดของดีแทคใช้งาน 3G 2.1 GHz ได้หมดแล้ว
นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คแซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ถ้าการประมูลคลื่นถูกชะลอไปอีก 1 ปี ตามประกาศ คสช.จะยังไม่มีผลกระทบในทันทีต่อดีแทค เพราะคลื่นที่มีอยู่เพียงพอต่อการให้บริการลูกค้า ซึ่งปัจจุบันดีแทคมีคลื่นให้บริการ 3G จำนวนมากถึง 25 MHz
“อุตสาหกรรมโทรคมนาคมจำเป็นต้องมีการประมูลคลื่นเพื่อวางแผนในระยะยาว และการสร้างความมั่นใจให้บริการด้วยคุณภาพกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยให้แก่ลูกค้าทั้งระบบ”
นายปัญญา เวชบรรยงรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานปฏิบัติการโครงข่าย ให้ข้อมูลเพิ่มว่า มีรายงานวิเคราะห์จาก เจ.พี.มอร์แกน (JP Morgan : Asia Pacific Equity Research 26 May 2014) ที่มีการศึกษาการใช้งานเครือข่ายของแต่ละค่ายระบุว่า ถ้าผู้ให้บริการอันดับ 1 ให้บริการ 3G เฉพาะบนคลื่น 2100 MHz ณ การใช้งานขณะนั้นจะต้องรับโหลดคนใช้งานถึง 830 เลขหมายต่อ 1 สถานีฐาน ต่อช่วงคลื่น 5 MHz ในขณะที่ดีแทค ไตรเน็ต จะรับโหลดเพียง 66 เลขหมาย ส่วนผู้ให้บริการอีกรายจะต้องรับโหลด 90 เลขหมาย
ดังนั้น ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อการที่ทาง คสช. เลื่อนการประมูลคลื่นออกไป น่าจะส่งผลต่อการบริหารจัดการคลื่นความถี่ของผู้ให้บริการอันดับ 1 ในประเทศมากที่สุด เพราะปัจจุบันมีการนำคลื่นความถี่ 2.1 GHz มาให้บริการเต็มแล้วในบางพื้นที่ ทำให้อาจต้องมีการหาแนวทางเพื่อพัฒนาเครือข่ายอย่างการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ในการให้บริการในอนาคต
ส่วนของทางดีแทค ก็ยอมรับว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่า เพราะยังมีคลื่น 850MHz ที่พร้อมนำมาให้บริการ 3G อยู่ และล่าสุด ก็ได้มีการของบลงทุนบนคลื่นความถี่ดังกล่าวเพิ่มเติมด้วยแม้จะใกล้หมดสัมปทานแล้ว ก็จะมีการลงทุนต่อเนื่อง รวมไปถึงคลื่นความถี่บนใบอนุญาตอย่าง 2.1 GHz ก็มีแผนที่จะลงทุนเพิ่มอีก 500 สถานีฐาน และ 250 สถานีฐานย่อย ภายในสิ้นปีนี้ด้วยงบ 13,300 ล้านบาท
“สถานีฐานของดีแทคที่ให้บริการในปัจจุบันทั้งหมดกว่าหมื่นสถานี รองรับการให้บริการ 3G บนคลื่น 2.1 GHz ทั้งหมดแล้ว ดังนั้น ส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาก็จะเน้นในจุดบอดที่มีความต้องการใช้งาน”
ขณะเดียวกัน ยังได้มีแผนพัฒนาเครือข่ายต่อไปใน 4 ส่วนสำคัญ คือ 1.การปูพรมสัญญาณทุกพื้นที่ใช้งานใน กทม.และปริมณฑล (Full Blanket) 2.โครงข่ายพร้อมต่อเนื่องสำหรับดาต้าที่ไม่เคยหยุดนิ่ง 3.การขยายโครงข่ายสำหรับเมืองเติบโต และ 4.โครงข่ายไลฟ์สไตล์เพื่อรองรับการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ดีแทค ไตรเน็ต ได้มีการตั้งภารกิจ Dream Network ขึ้นมาให้พนักงานกว่า 30 คน ประจำการเพื่อรับข้อร้องเรียน เฝ้าระวัง รวมไปถึงวิเคราะห์ และแก้ไขปัญหา เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่รวดเร็ว นอกจากนี้ ยังเปิดให้พนักงานดีแทคทุกคนในการรายงานปัญหาการใช้งานทั้งด้านการโทร. (Voice) และการใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือ (Data) ผ่านเว็บไซต์พิเศษที่สามารถเข้าได้ผ่านสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต และในอนาคตจะเปิดให้ลูกค้าเข้าไปช่วยกันส่งข้อมูลเข้ามา
“ดีแทค ตั้งเป้าว่าภายในเดือนกันยายนนี้ จะมีเสาสัญญาณใหม่รองรับการใช้งานในพื้นที่เพิ่มขึ้น สู่เป้าหมายเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด”
ปัจจุบันลูกค้าดีแทค ที่มีการใช้งานดาต้าล่าสุดในเดือนมิถุนายน จากลูกค้ารายเดือน (โพสต์เพด) 2.5 ล้านราย จากฐานลูกค้ากว่า 4 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วน 70.3% ในขณะที่ลูกค้าเติมเงิน (พรีเพด) อยู่ที่ 6.6 ล้านราย จาก 24 ล้านราย หรือคิดเป็น 27.3% ซึ่งจำนวนดังกล่าวคิดเป็นลูกค้าที่มีการใช้งานดาต้าต่อเนื่องในระยะเวลา 1 เดือน และใช้งานมากกว่า 50 kb ต่อเดือน
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000081853
นายปัญญา เวชบรรยงรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานปฏิบัติการโครงข่าย ให้ข้อมูลเพิ่มว่า มีรายงานวิเคราะห์จาก เจ.พี.มอร์แกน (JP Morgan : Asia Pacific Equity Research 26 May 2014) ที่มีการศึกษาการใช้งานเครือข่ายของแต่ละค่ายระบุว่า ถ้าผู้ให้บริการอันดับ 1 ให้บริการ 3G เฉพาะบนคลื่น 2100 MHz ณ การใช้งานขณะนั้นจะต้องรับโหลดคนใช้งานถึง 830 เลขหมายต่อ 1 สถานีฐาน ต่อช่วงคลื่น 5 MHz ในขณะที่ดีแทค ไตรเน็ต จะรับโหลดเพียง 66 เลขหมาย ส่วนผู้ให้บริการอีกรายจะต้องรับโหลด 90 เลขหมาย
______________________________
“ดีแทค” ไม่หวั่นเลื่อนประมูล มั่นใจ 3 คลื่นเพียงพอให้บริการ
“ดีแทค” ไม่หวั่น คสช.เลื่อนประมูลคลื่นความถี่ แต่เชื่อว่าในระยะยาวแล้วต้องมีการประมูล เชื่อคลื่นที่มีทั้ง 3 คลื่นความถี่ยังเพืยงพอต่อการให้บริการ พร้อมเผยเตรียมลงทุนบนคลื่น 850 MHz เพิ่ม แม้ใกล้หมดสัมปทาน โวสถานีฐานทั้งหมดของดีแทคใช้งาน 3G 2.1 GHz ได้หมดแล้ว
นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คแซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ถ้าการประมูลคลื่นถูกชะลอไปอีก 1 ปี ตามประกาศ คสช.จะยังไม่มีผลกระทบในทันทีต่อดีแทค เพราะคลื่นที่มีอยู่เพียงพอต่อการให้บริการลูกค้า ซึ่งปัจจุบันดีแทคมีคลื่นให้บริการ 3G จำนวนมากถึง 25 MHz
“อุตสาหกรรมโทรคมนาคมจำเป็นต้องมีการประมูลคลื่นเพื่อวางแผนในระยะยาว และการสร้างความมั่นใจให้บริการด้วยคุณภาพกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยให้แก่ลูกค้าทั้งระบบ”
นายปัญญา เวชบรรยงรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานปฏิบัติการโครงข่าย ให้ข้อมูลเพิ่มว่า มีรายงานวิเคราะห์จาก เจ.พี.มอร์แกน (JP Morgan : Asia Pacific Equity Research 26 May 2014) ที่มีการศึกษาการใช้งานเครือข่ายของแต่ละค่ายระบุว่า ถ้าผู้ให้บริการอันดับ 1 ให้บริการ 3G เฉพาะบนคลื่น 2100 MHz ณ การใช้งานขณะนั้นจะต้องรับโหลดคนใช้งานถึง 830 เลขหมายต่อ 1 สถานีฐาน ต่อช่วงคลื่น 5 MHz ในขณะที่ดีแทค ไตรเน็ต จะรับโหลดเพียง 66 เลขหมาย ส่วนผู้ให้บริการอีกรายจะต้องรับโหลด 90 เลขหมาย
ดังนั้น ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อการที่ทาง คสช. เลื่อนการประมูลคลื่นออกไป น่าจะส่งผลต่อการบริหารจัดการคลื่นความถี่ของผู้ให้บริการอันดับ 1 ในประเทศมากที่สุด เพราะปัจจุบันมีการนำคลื่นความถี่ 2.1 GHz มาให้บริการเต็มแล้วในบางพื้นที่ ทำให้อาจต้องมีการหาแนวทางเพื่อพัฒนาเครือข่ายอย่างการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ในการให้บริการในอนาคต
ส่วนของทางดีแทค ก็ยอมรับว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่า เพราะยังมีคลื่น 850MHz ที่พร้อมนำมาให้บริการ 3G อยู่ และล่าสุด ก็ได้มีการของบลงทุนบนคลื่นความถี่ดังกล่าวเพิ่มเติมด้วยแม้จะใกล้หมดสัมปทานแล้ว ก็จะมีการลงทุนต่อเนื่อง รวมไปถึงคลื่นความถี่บนใบอนุญาตอย่าง 2.1 GHz ก็มีแผนที่จะลงทุนเพิ่มอีก 500 สถานีฐาน และ 250 สถานีฐานย่อย ภายในสิ้นปีนี้ด้วยงบ 13,300 ล้านบาท
“สถานีฐานของดีแทคที่ให้บริการในปัจจุบันทั้งหมดกว่าหมื่นสถานี รองรับการให้บริการ 3G บนคลื่น 2.1 GHz ทั้งหมดแล้ว ดังนั้น ส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาก็จะเน้นในจุดบอดที่มีความต้องการใช้งาน”
ขณะเดียวกัน ยังได้มีแผนพัฒนาเครือข่ายต่อไปใน 4 ส่วนสำคัญ คือ 1.การปูพรมสัญญาณทุกพื้นที่ใช้งานใน กทม.และปริมณฑล (Full Blanket) 2.โครงข่ายพร้อมต่อเนื่องสำหรับดาต้าที่ไม่เคยหยุดนิ่ง 3.การขยายโครงข่ายสำหรับเมืองเติบโต และ 4.โครงข่ายไลฟ์สไตล์เพื่อรองรับการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ดีแทค ไตรเน็ต ได้มีการตั้งภารกิจ Dream Network ขึ้นมาให้พนักงานกว่า 30 คน ประจำการเพื่อรับข้อร้องเรียน เฝ้าระวัง รวมไปถึงวิเคราะห์ และแก้ไขปัญหา เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่รวดเร็ว นอกจากนี้ ยังเปิดให้พนักงานดีแทคทุกคนในการรายงานปัญหาการใช้งานทั้งด้านการโทร. (Voice) และการใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือ (Data) ผ่านเว็บไซต์พิเศษที่สามารถเข้าได้ผ่านสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต และในอนาคตจะเปิดให้ลูกค้าเข้าไปช่วยกันส่งข้อมูลเข้ามา
“ดีแทค ตั้งเป้าว่าภายในเดือนกันยายนนี้ จะมีเสาสัญญาณใหม่รองรับการใช้งานในพื้นที่เพิ่มขึ้น สู่เป้าหมายเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด”
ปัจจุบันลูกค้าดีแทค ที่มีการใช้งานดาต้าล่าสุดในเดือนมิถุนายน จากลูกค้ารายเดือน (โพสต์เพด) 2.5 ล้านราย จากฐานลูกค้ากว่า 4 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วน 70.3% ในขณะที่ลูกค้าเติมเงิน (พรีเพด) อยู่ที่ 6.6 ล้านราย จาก 24 ล้านราย หรือคิดเป็น 27.3% ซึ่งจำนวนดังกล่าวคิดเป็นลูกค้าที่มีการใช้งานดาต้าต่อเนื่องในระยะเวลา 1 เดือน และใช้งานมากกว่า 50 kb ต่อเดือน
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000081853
ไม่มีความคิดเห็น: