24 กรกฎาคม 2557 Microsoft เผยผลประกอบการไตรมาส 2 หรือตั้งแต่เดือน มี.ค.-มิ.ย. เมื่อวันอังคาร (22 ก.ค.) ปรากฏว่า กำไรสุทธิลดลงจาก 4.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ APPLE ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 เมื่อวันที่ 22 ก.ค.เช่นกัน โดยบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปี 2013 เป็น 7.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ประเด็นหลัก
บริษัท ไมโครซอฟท์ ผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ เผยผลประกอบการไตรมาส 2 หรือตั้งแต่เดือน มี.ค.-มิ.ย. เมื่อวันอังคาร (22 ก.ค.) ปรากฏว่า กำไรสุทธิลดลงจาก 4.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเดียวกันของปี 2013 เหลือ 4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็น 7% เนื่องจากส่วนธุรกิจของโนเกียที่ไมโครซอฟท์ซื้อมาเมื่อเดือนเม.ย. ขาดทุน 692 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม รายได้ของไมโครซอฟท์เพิ่มขึ้น 17.5% จากบริการระบบคลาวด์ และนายสัตยา นาเดลลา ซีอีโอคนใหม่ของไมโครซอฟท์ ซึ่งเพิ่งประกาศปรับโครงสร้างบริษัทครั้งใหญ่ เริ่มจากปลดพนักงาน 18,000 ตำแหน่ง เมื่อสัปดาห์ก่อน ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มรายได้ของบริษัทในปีนี้เป็น 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ด้านบริษัท แอปเปิล เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2 เมื่อวันที่ 22 ก.ค.เช่นกัน โดยบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปี 2013 เป็น 7.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยขายสมาร์ทโฟน 'ไอโฟน' ในช่วงเวลาดังกล่าวได้ถึง 35.2 ล้านเครื่อง จากความต้องการที่มากขึ้นในกลุ่มประเทศ 'บริคส์' (BRICS) ได้แก่ บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน และแอฟริกาใต้ โดยเฉพาะในจีนยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 48%
อย่างไรก็ตาม ยอดขายของคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต 'ไอแพด' กลับลดลงเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน ที่ 9% เหลือเพียง 13.3 ล้านเครื่อง ขณะที่ ทิม คุก ซีอีโอของบริษัท แอปเปิล ออกแถลงการณ์แสดงความตื่นเต้นเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการตัวใหม่สำหรับไอโฟน และคอมพิวเตอร์แมค รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่พวกเขาแทบจะทนรอเปิดตัวไม่ไหวแล้วด้วย
______________________________
สรุปรายได้ 'ไมโครซอฟท์-แอปเปิล-เฟซบุ๊ก' 3 บ.ไอทียักษ์ใหญ่มะกัน
บริษัท ไมโครซอฟท์, แอปเปิล และเฟซบุ๊ก 3 บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ออกมาแล้ว เมื่อวันที่ 22-23 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยไมโครซอฟท์มีกำไรลดลงเจ็บตัวเพราะโนเกีย ส่วนแอปเปิลมีกำไรเพิ่มขึ้นอานิสงส์จากยอดขายไอโฟน ส่วนเฟซบุ๊กมีกำไรเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเกินกว่าสองเท่า
บริษัท ไมโครซอฟท์ ผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ เผยผลประกอบการไตรมาส 2 หรือตั้งแต่เดือน มี.ค.-มิ.ย. เมื่อวันอังคาร (22 ก.ค.) ปรากฏว่า กำไรสุทธิลดลงจาก 4.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเดียวกันของปี 2013 เหลือ 4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็น 7% เนื่องจากส่วนธุรกิจของโนเกียที่ไมโครซอฟท์ซื้อมาเมื่อเดือนเม.ย. ขาดทุน 692 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม รายได้ของไมโครซอฟท์เพิ่มขึ้น 17.5% จากบริการระบบคลาวด์ และนายสัตยา นาเดลลา ซีอีโอคนใหม่ของไมโครซอฟท์ ซึ่งเพิ่งประกาศปรับโครงสร้างบริษัทครั้งใหญ่ เริ่มจากปลดพนักงาน 18,000 ตำแหน่ง เมื่อสัปดาห์ก่อน ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มรายได้ของบริษัทในปีนี้เป็น 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ด้านบริษัท แอปเปิล เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2 เมื่อวันที่ 22 ก.ค.เช่นกัน โดยบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปี 2013 เป็น 7.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยขายสมาร์ทโฟน 'ไอโฟน' ในช่วงเวลาดังกล่าวได้ถึง 35.2 ล้านเครื่อง จากความต้องการที่มากขึ้นในกลุ่มประเทศ 'บริคส์' (BRICS) ได้แก่ บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน และแอฟริกาใต้ โดยเฉพาะในจีนยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 48%
อย่างไรก็ตาม ยอดขายของคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต 'ไอแพด' กลับลดลงเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน ที่ 9% เหลือเพียง 13.3 ล้านเครื่อง ขณะที่ ทิม คุก ซีอีโอของบริษัท แอปเปิล ออกแถลงการณ์แสดงความตื่นเต้นเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการตัวใหม่สำหรับไอโฟน และคอมพิวเตอร์แมค รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่พวกเขาแทบจะทนรอเปิดตัวไม่ไหวแล้วด้วย
ส่วนบริษัท เฟซบุ๊ก เพิ่งเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 เมื่อวันที่ 23 ก.ค. โดยบริษัทมีรายได้สุทธิถึง 791 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 138% เมื่อเทียบกับรายได้ 333 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเดียวกันของปี 2013 ขณะที่รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 2.91 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยรายได้กว่า 62% มาจากค่าโฆษณาบนอุปกรณ์มือถือ เช่น สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ขณะที่จำนวนผู้ใช้งานเฟซบุ๊กเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ครั้งต่อเดือน เพิ่มขึ้น 14% เป็น 1.32 พันล้านคนแล้ว
http://www.thairath.co.th/content/438505
บริษัท ไมโครซอฟท์ ผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ เผยผลประกอบการไตรมาส 2 หรือตั้งแต่เดือน มี.ค.-มิ.ย. เมื่อวันอังคาร (22 ก.ค.) ปรากฏว่า กำไรสุทธิลดลงจาก 4.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเดียวกันของปี 2013 เหลือ 4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็น 7% เนื่องจากส่วนธุรกิจของโนเกียที่ไมโครซอฟท์ซื้อมาเมื่อเดือนเม.ย. ขาดทุน 692 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม รายได้ของไมโครซอฟท์เพิ่มขึ้น 17.5% จากบริการระบบคลาวด์ และนายสัตยา นาเดลลา ซีอีโอคนใหม่ของไมโครซอฟท์ ซึ่งเพิ่งประกาศปรับโครงสร้างบริษัทครั้งใหญ่ เริ่มจากปลดพนักงาน 18,000 ตำแหน่ง เมื่อสัปดาห์ก่อน ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มรายได้ของบริษัทในปีนี้เป็น 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ด้านบริษัท แอปเปิล เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2 เมื่อวันที่ 22 ก.ค.เช่นกัน โดยบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปี 2013 เป็น 7.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยขายสมาร์ทโฟน 'ไอโฟน' ในช่วงเวลาดังกล่าวได้ถึง 35.2 ล้านเครื่อง จากความต้องการที่มากขึ้นในกลุ่มประเทศ 'บริคส์' (BRICS) ได้แก่ บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน และแอฟริกาใต้ โดยเฉพาะในจีนยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 48%
อย่างไรก็ตาม ยอดขายของคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต 'ไอแพด' กลับลดลงเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน ที่ 9% เหลือเพียง 13.3 ล้านเครื่อง ขณะที่ ทิม คุก ซีอีโอของบริษัท แอปเปิล ออกแถลงการณ์แสดงความตื่นเต้นเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการตัวใหม่สำหรับไอโฟน และคอมพิวเตอร์แมค รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่พวกเขาแทบจะทนรอเปิดตัวไม่ไหวแล้วด้วย
______________________________
สรุปรายได้ 'ไมโครซอฟท์-แอปเปิล-เฟซบุ๊ก' 3 บ.ไอทียักษ์ใหญ่มะกัน
บริษัท ไมโครซอฟท์, แอปเปิล และเฟซบุ๊ก 3 บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ออกมาแล้ว เมื่อวันที่ 22-23 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยไมโครซอฟท์มีกำไรลดลงเจ็บตัวเพราะโนเกีย ส่วนแอปเปิลมีกำไรเพิ่มขึ้นอานิสงส์จากยอดขายไอโฟน ส่วนเฟซบุ๊กมีกำไรเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเกินกว่าสองเท่า
บริษัท ไมโครซอฟท์ ผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ เผยผลประกอบการไตรมาส 2 หรือตั้งแต่เดือน มี.ค.-มิ.ย. เมื่อวันอังคาร (22 ก.ค.) ปรากฏว่า กำไรสุทธิลดลงจาก 4.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเดียวกันของปี 2013 เหลือ 4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็น 7% เนื่องจากส่วนธุรกิจของโนเกียที่ไมโครซอฟท์ซื้อมาเมื่อเดือนเม.ย. ขาดทุน 692 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม รายได้ของไมโครซอฟท์เพิ่มขึ้น 17.5% จากบริการระบบคลาวด์ และนายสัตยา นาเดลลา ซีอีโอคนใหม่ของไมโครซอฟท์ ซึ่งเพิ่งประกาศปรับโครงสร้างบริษัทครั้งใหญ่ เริ่มจากปลดพนักงาน 18,000 ตำแหน่ง เมื่อสัปดาห์ก่อน ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มรายได้ของบริษัทในปีนี้เป็น 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ด้านบริษัท แอปเปิล เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2 เมื่อวันที่ 22 ก.ค.เช่นกัน โดยบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปี 2013 เป็น 7.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยขายสมาร์ทโฟน 'ไอโฟน' ในช่วงเวลาดังกล่าวได้ถึง 35.2 ล้านเครื่อง จากความต้องการที่มากขึ้นในกลุ่มประเทศ 'บริคส์' (BRICS) ได้แก่ บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน และแอฟริกาใต้ โดยเฉพาะในจีนยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 48%
อย่างไรก็ตาม ยอดขายของคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต 'ไอแพด' กลับลดลงเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน ที่ 9% เหลือเพียง 13.3 ล้านเครื่อง ขณะที่ ทิม คุก ซีอีโอของบริษัท แอปเปิล ออกแถลงการณ์แสดงความตื่นเต้นเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการตัวใหม่สำหรับไอโฟน และคอมพิวเตอร์แมค รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่พวกเขาแทบจะทนรอเปิดตัวไม่ไหวแล้วด้วย
ส่วนบริษัท เฟซบุ๊ก เพิ่งเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 เมื่อวันที่ 23 ก.ค. โดยบริษัทมีรายได้สุทธิถึง 791 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 138% เมื่อเทียบกับรายได้ 333 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเดียวกันของปี 2013 ขณะที่รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 2.91 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยรายได้กว่า 62% มาจากค่าโฆษณาบนอุปกรณ์มือถือ เช่น สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ขณะที่จำนวนผู้ใช้งานเฟซบุ๊กเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ครั้งต่อเดือน เพิ่มขึ้น 14% เป็น 1.32 พันล้านคนแล้ว
http://www.thairath.co.th/content/438505
ไม่มีความคิดเห็น: