07 สิงหาคม 2557 DTAC เปิดแพกเกจ dtac CTH (ต่ำสุด)แพกเสริม 499 บาท สามารถรับชม CTH ผ่านกล่องรับสัญญาณ 100 ช่องรับอินเทอร์เน็ต 3G ความเร็วสูงสุดเพิ่มอีก 1.5 GB // (หลัก)1,299 บาท สามารถรับชม CTH ผ่านกล่องรับสัญญาณ 114 ช่องโทร.ฟรี 300 นาที ใช้เน็ต 3G/4G ไม่จำกัด
ประเด็นหลัก
โดยแพกเกจ dtac CTH จะมีทั้งแบบที่เป็นแพกเกจหลักเดือนละ 1,299 บาท เมื่อสมัครแล้วจะสามารถรับชม CTH ผ่านกล่องรับสัญญาณ 114 ช่อง (เทียบเท่า Super Premium pack 1,250 บาท) และยังสามารถรับชมช่อไฮไลต์ผ่าน Watchever โทร.ฟรี 300 นาที ใช้เน็ต 3G/4G ไม่จำกัด ที่ความเร็วสูงสุด 3 GB ได้ 4G เพิ่มฟรี 3 GB ดีแทคไวไฟ ไม่จำกัด และส่งข้อความ SMS 250 ครั้ง สมัครเดือนแรกลดค่าบริการ 50%
หรือถ้าต้องการสมัครเป็นแพกเสริมก็จะมีให้เลือกระหว่างเดือนละ 499 บาท รับชมผ่านกล่องได้ 100 ช่อง (เทียบเท่า Edutainment pack 650 บาท) และรับอินเทอร์เน็ต 3G ความเร็วสูงสุดเพิ่มอีก 1.5 GB และ เดือนละ 999 บาท รับชมได้ 114 ช่อง รับอินเทอร์เน็ต 3G ความเร็วสูงสุดเพิ่มอีก 3 GB ทั้ง 2 แพกเกจ สามารถรับชมช่องไฮไลต์ผ่าน Watchever ได้เช่นเดียวกัน
______________________________
ดีแทค จับมือ ซีทีเอช ให้ลูกค้าชำระค่าเคเบิลรวมในแพกเกจมือถือ
ดีแทค จับมือ ซีทีเอช ช่วยเพิ่มฐานลูกค้า-ช่องทางสมัครสมาชิก เน้นความได้เปรียบในแง่การเข้าถึงลูกค้า และช่องทางชำระค่าบริการ ออกแพกเกจ “datc CTH” เริ่มต้น 499 บาท รับกล่องติดตั้งฟรีภายใน 48 ชั่วโมง พร้อมรับชมช่องไฮไลต์ผ่านมือถือ 12 ช่อง คาดมีลูกค้ามาสมัครใช้บริการ 1 ล้านรายในสิ้นปี
นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คแซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ความร่วมมือกับซีทีเอชในครั้งนี้ ถือเป็นมิติใหม่ของการให้บริการ เพราะถือเป็นผู้ให้บริการด้วยกันทั้งคู่ โดยในฝั่งของดีแทค จะให้บริการทางด้านโทรศัพท์ กับดาต้า ในขณะที่ซีทีเอช เป็นผู้ให้บริการทางด้านคอนเทนต์ และต่างฝ่ายอยากได้ลูกค้าเพิ่ม จึงเกิดความร่วมมือในครั้งนี้ขึ้น
“ที่ผ่านมาโอเปอเรเตอร์ส่วนใหญ่จะเน้นการขายคอนเทนต์เพื่อให้รับชมบนโทรศัพท์มือถือ แต่ระหว่างดีแทค และซีทีเอช ไม่ใช่ เพราะลูกค้าที่ใช้บริการแพกเกจ dtac CTH จะสามารถรับชมเคเบิลทีวีที่บ้านได้ พร้อมกับช่องไฮไลต์บนแอปฯ Watchever โดยชำระค่าบริการรวมไประบบจ่ายเงินของดีแทค”
โดยแพกเกจ dtac CTH จะมีทั้งแบบที่เป็นแพกเกจหลักเดือนละ 1,299 บาท เมื่อสมัครแล้วจะสามารถรับชม CTH ผ่านกล่องรับสัญญาณ 114 ช่อง (เทียบเท่า Super Premium pack 1,250 บาท) และยังสามารถรับชมช่อไฮไลต์ผ่าน Watchever โทร.ฟรี 300 นาที ใช้เน็ต 3G/4G ไม่จำกัด ที่ความเร็วสูงสุด 3 GB ได้ 4G เพิ่มฟรี 3 GB ดีแทคไวไฟ ไม่จำกัด และส่งข้อความ SMS 250 ครั้ง สมัครเดือนแรกลดค่าบริการ 50%
หรือถ้าต้องการสมัครเป็นแพกเสริมก็จะมีให้เลือกระหว่างเดือนละ 499 บาท รับชมผ่านกล่องได้ 100 ช่อง (เทียบเท่า Edutainment pack 650 บาท) และรับอินเทอร์เน็ต 3G ความเร็วสูงสุดเพิ่มอีก 1.5 GB และ เดือนละ 999 บาท รับชมได้ 114 ช่อง รับอินเทอร์เน็ต 3G ความเร็วสูงสุดเพิ่มอีก 3 GB ทั้ง 2 แพกเกจ สามารถรับชมช่องไฮไลต์ผ่าน Watchever ได้เช่นเดียวกัน
“เมื่อลูกค้าสมัครใช้บริการทางดีแทคก็จะประสานงานกับทางซีทีเอช เพื่อส่งช่างเข้าไปติดตั้งกล่องภายใน 48 ชั่วโมง ส่วนในอนาคตก็อาจจะมีการใช้ช่องทางจำหน่ายของดีแทคอย่าง ดีแทค ชอป หรือตัวแทนจำหน่ายต่างๆ นำกล่องของซีทีเอช เข้าไปร่วมวางจำหน่าย พร้อมๆ ไปกับการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเพิ่มเติม”
เบื้องต้น ทางดีแทคคาดว่าในช่วง 4-5 เดือนแรก อาจจะยังมีลูกค้าเข้ามาสมัครใช้บริการไม่มากนัก เพราะต้องสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจถึงรูปแบบบริการก่อน แต่เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วก็จะมีทั้งลูกค้าใหม่ และลูกค้าเก่าอย่างละครึ่งเข้ามาสมัครใช้งานจากเป้าที่วางไว้ 1 ล้านราย
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า จากการที่ซีทีเอช เปลี่ยนจากผู้ให้บริการเคเบิลทีวี มาเป็นผู้ให้บริการสื่อความบันเทิงทุกรูปแบบ ทำให้สามารถเข้าไปร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ในการขยายช่องทางการรับชมให้แก่ผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งความร่วมมือกับดีแทคในครั้งนี้ ก็ถือเป็นอีกช่องทางในการเพิ่มฐานลูกค้าของซีทีเอช ให้ครอบคลุมมากขึ้น
“เมื่อก่อนซีทีเอชมองถึงกลุ่มลูกค้าที่อาศัยอยู่ในบ้านเป็นหลักซึ่งมีประมาณ 22 ล้านครัวเรือน ซึ่งมีกว่า 90% ยังไม่ได้ติดตั้งเคเบิลทีวี แต่ปัจจุบันซีทีเอชมองไปไกลกว่านั้นคือ จากครัวเรือนทั้งหมดมีประชากรราว 46 ล้านคน ที่สามารถตัดสินใจ และมีกำลังซื้อ ทำให้มองถึงช่องทางในการเพิ่มการเข้าถึงของลูกค้าให้กว้างขึ้น”
ขณะเดียวกัน ฐานลูกค้ากว่า 28 ล้านรายของดีแทค ก็จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ซีทีเอช สามารถเพิ่มจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการได้ เช่นเดียวกับพาร์ตเนอร์รายอื่นๆ ที่ทยอยเพิ่มเข้ามาเกือบทั้งหมดกว่า 10 ราย ทั้งผู้ให้บริการไอพีทีวี ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ผู้ให้บริการเว็บไซต์ การเข้าไปถือหุ้นใน GMM B ความร่วมมือกับพีเอสไอ และผู้จำหน่ายสมาร์ททีวี
อย่างไรก็ตาม ข้อแตกต่างระหว่างความร่วมมือ ระหว่างซีทีเอช กับ ดีแทค และซีทีเอช กับ เอไอเอส คือ ในเรื่องของคอนเทนต์ที่นำมาให้บริการ เพราะกับความร่วมมือของเอไอเอส จะเน้นไปที่การรับชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกผ่านสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ซึ่งเป็นคอนเทนต์แบบเอ็กซ์คลูซุฟ ในขณะที่ความร่วมมือกับดีแทคในครั้งนี้ จะเป็นการนำช่องรายการที่น่าสนใจส่วนหนึ่งมาให้บริการบน Watchever แต่ไม่รวมช่องพรีเมียร์ลีก โดยหลักแล้วก็จะให้ผู้บริโภครับชมผ่านกล่องเคเบิลทีวี
ดังนั้น ถึงแม้ว่าจะสมัครแพกเกจ dtac CTH จะไม่สามารถรับชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกบนมือถือได้ แต่ก็จะมีฟุตบอลรายการอื่นๆ ที่ทาง GMM B ถือลิขสิทธิ์อยู่มาให้รับชมแทน หรือจะใช้การรับชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกผ่านกล่องเคเบิลที่บ้านก็สามารถรับชมได้เช่นเดียวกัน
สำหรับช่องรายการที่น่าสนใจ ประกอบไปด้วย ช่อง CTH WWE สุดยอดมวยปล้ำระดับโลกจาก WWE, ช่อง Zee Nung ภาพยนตร์ Bollywood ที่ดีที่สุดของประเทศอินเดีย, ช่อง MAX Sports สุดยอดการแข่งขันมวยไทยระดับโลก ของนักชกชั้นแนวหน้าทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ, ช่องลูกทุ่งเงินล้าน, ช่อง Cinema รวบรวมภาพยนตร์ชั้นนำจากต่างประเทศ, ช่อง M Channel สถานีบันเทิงสำหรับคอภาพยนตร์, ช่อง National Geographic HD หลากหลายสารคดีคุณภาพจากทั่วโลก, ช่องเชิญยิ้ม แหล่งรวมเสียงหัวเราะและความบันเทิง, ช่องเก้ายอด เรื่องราวลี้ลับ ตำนาน ความเชื่อ ที่ยังหาคำตอบไม่ได้ เป็นต้น
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000089681
โดยแพกเกจ dtac CTH จะมีทั้งแบบที่เป็นแพกเกจหลักเดือนละ 1,299 บาท เมื่อสมัครแล้วจะสามารถรับชม CTH ผ่านกล่องรับสัญญาณ 114 ช่อง (เทียบเท่า Super Premium pack 1,250 บาท) และยังสามารถรับชมช่อไฮไลต์ผ่าน Watchever โทร.ฟรี 300 นาที ใช้เน็ต 3G/4G ไม่จำกัด ที่ความเร็วสูงสุด 3 GB ได้ 4G เพิ่มฟรี 3 GB ดีแทคไวไฟ ไม่จำกัด และส่งข้อความ SMS 250 ครั้ง สมัครเดือนแรกลดค่าบริการ 50%
หรือถ้าต้องการสมัครเป็นแพกเสริมก็จะมีให้เลือกระหว่างเดือนละ 499 บาท รับชมผ่านกล่องได้ 100 ช่อง (เทียบเท่า Edutainment pack 650 บาท) และรับอินเทอร์เน็ต 3G ความเร็วสูงสุดเพิ่มอีก 1.5 GB และ เดือนละ 999 บาท รับชมได้ 114 ช่อง รับอินเทอร์เน็ต 3G ความเร็วสูงสุดเพิ่มอีก 3 GB ทั้ง 2 แพกเกจ สามารถรับชมช่องไฮไลต์ผ่าน Watchever ได้เช่นเดียวกัน
______________________________
ดีแทค จับมือ ซีทีเอช ให้ลูกค้าชำระค่าเคเบิลรวมในแพกเกจมือถือ
ดีแทค จับมือ ซีทีเอช ช่วยเพิ่มฐานลูกค้า-ช่องทางสมัครสมาชิก เน้นความได้เปรียบในแง่การเข้าถึงลูกค้า และช่องทางชำระค่าบริการ ออกแพกเกจ “datc CTH” เริ่มต้น 499 บาท รับกล่องติดตั้งฟรีภายใน 48 ชั่วโมง พร้อมรับชมช่องไฮไลต์ผ่านมือถือ 12 ช่อง คาดมีลูกค้ามาสมัครใช้บริการ 1 ล้านรายในสิ้นปี
นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คแซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ความร่วมมือกับซีทีเอชในครั้งนี้ ถือเป็นมิติใหม่ของการให้บริการ เพราะถือเป็นผู้ให้บริการด้วยกันทั้งคู่ โดยในฝั่งของดีแทค จะให้บริการทางด้านโทรศัพท์ กับดาต้า ในขณะที่ซีทีเอช เป็นผู้ให้บริการทางด้านคอนเทนต์ และต่างฝ่ายอยากได้ลูกค้าเพิ่ม จึงเกิดความร่วมมือในครั้งนี้ขึ้น
“ที่ผ่านมาโอเปอเรเตอร์ส่วนใหญ่จะเน้นการขายคอนเทนต์เพื่อให้รับชมบนโทรศัพท์มือถือ แต่ระหว่างดีแทค และซีทีเอช ไม่ใช่ เพราะลูกค้าที่ใช้บริการแพกเกจ dtac CTH จะสามารถรับชมเคเบิลทีวีที่บ้านได้ พร้อมกับช่องไฮไลต์บนแอปฯ Watchever โดยชำระค่าบริการรวมไประบบจ่ายเงินของดีแทค”
โดยแพกเกจ dtac CTH จะมีทั้งแบบที่เป็นแพกเกจหลักเดือนละ 1,299 บาท เมื่อสมัครแล้วจะสามารถรับชม CTH ผ่านกล่องรับสัญญาณ 114 ช่อง (เทียบเท่า Super Premium pack 1,250 บาท) และยังสามารถรับชมช่อไฮไลต์ผ่าน Watchever โทร.ฟรี 300 นาที ใช้เน็ต 3G/4G ไม่จำกัด ที่ความเร็วสูงสุด 3 GB ได้ 4G เพิ่มฟรี 3 GB ดีแทคไวไฟ ไม่จำกัด และส่งข้อความ SMS 250 ครั้ง สมัครเดือนแรกลดค่าบริการ 50%
หรือถ้าต้องการสมัครเป็นแพกเสริมก็จะมีให้เลือกระหว่างเดือนละ 499 บาท รับชมผ่านกล่องได้ 100 ช่อง (เทียบเท่า Edutainment pack 650 บาท) และรับอินเทอร์เน็ต 3G ความเร็วสูงสุดเพิ่มอีก 1.5 GB และ เดือนละ 999 บาท รับชมได้ 114 ช่อง รับอินเทอร์เน็ต 3G ความเร็วสูงสุดเพิ่มอีก 3 GB ทั้ง 2 แพกเกจ สามารถรับชมช่องไฮไลต์ผ่าน Watchever ได้เช่นเดียวกัน
“เมื่อลูกค้าสมัครใช้บริการทางดีแทคก็จะประสานงานกับทางซีทีเอช เพื่อส่งช่างเข้าไปติดตั้งกล่องภายใน 48 ชั่วโมง ส่วนในอนาคตก็อาจจะมีการใช้ช่องทางจำหน่ายของดีแทคอย่าง ดีแทค ชอป หรือตัวแทนจำหน่ายต่างๆ นำกล่องของซีทีเอช เข้าไปร่วมวางจำหน่าย พร้อมๆ ไปกับการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเพิ่มเติม”
เบื้องต้น ทางดีแทคคาดว่าในช่วง 4-5 เดือนแรก อาจจะยังมีลูกค้าเข้ามาสมัครใช้บริการไม่มากนัก เพราะต้องสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจถึงรูปแบบบริการก่อน แต่เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วก็จะมีทั้งลูกค้าใหม่ และลูกค้าเก่าอย่างละครึ่งเข้ามาสมัครใช้งานจากเป้าที่วางไว้ 1 ล้านราย
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า จากการที่ซีทีเอช เปลี่ยนจากผู้ให้บริการเคเบิลทีวี มาเป็นผู้ให้บริการสื่อความบันเทิงทุกรูปแบบ ทำให้สามารถเข้าไปร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ในการขยายช่องทางการรับชมให้แก่ผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งความร่วมมือกับดีแทคในครั้งนี้ ก็ถือเป็นอีกช่องทางในการเพิ่มฐานลูกค้าของซีทีเอช ให้ครอบคลุมมากขึ้น
“เมื่อก่อนซีทีเอชมองถึงกลุ่มลูกค้าที่อาศัยอยู่ในบ้านเป็นหลักซึ่งมีประมาณ 22 ล้านครัวเรือน ซึ่งมีกว่า 90% ยังไม่ได้ติดตั้งเคเบิลทีวี แต่ปัจจุบันซีทีเอชมองไปไกลกว่านั้นคือ จากครัวเรือนทั้งหมดมีประชากรราว 46 ล้านคน ที่สามารถตัดสินใจ และมีกำลังซื้อ ทำให้มองถึงช่องทางในการเพิ่มการเข้าถึงของลูกค้าให้กว้างขึ้น”
ขณะเดียวกัน ฐานลูกค้ากว่า 28 ล้านรายของดีแทค ก็จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ซีทีเอช สามารถเพิ่มจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการได้ เช่นเดียวกับพาร์ตเนอร์รายอื่นๆ ที่ทยอยเพิ่มเข้ามาเกือบทั้งหมดกว่า 10 ราย ทั้งผู้ให้บริการไอพีทีวี ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ผู้ให้บริการเว็บไซต์ การเข้าไปถือหุ้นใน GMM B ความร่วมมือกับพีเอสไอ และผู้จำหน่ายสมาร์ททีวี
อย่างไรก็ตาม ข้อแตกต่างระหว่างความร่วมมือ ระหว่างซีทีเอช กับ ดีแทค และซีทีเอช กับ เอไอเอส คือ ในเรื่องของคอนเทนต์ที่นำมาให้บริการ เพราะกับความร่วมมือของเอไอเอส จะเน้นไปที่การรับชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกผ่านสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ซึ่งเป็นคอนเทนต์แบบเอ็กซ์คลูซุฟ ในขณะที่ความร่วมมือกับดีแทคในครั้งนี้ จะเป็นการนำช่องรายการที่น่าสนใจส่วนหนึ่งมาให้บริการบน Watchever แต่ไม่รวมช่องพรีเมียร์ลีก โดยหลักแล้วก็จะให้ผู้บริโภครับชมผ่านกล่องเคเบิลทีวี
ดังนั้น ถึงแม้ว่าจะสมัครแพกเกจ dtac CTH จะไม่สามารถรับชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกบนมือถือได้ แต่ก็จะมีฟุตบอลรายการอื่นๆ ที่ทาง GMM B ถือลิขสิทธิ์อยู่มาให้รับชมแทน หรือจะใช้การรับชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกผ่านกล่องเคเบิลที่บ้านก็สามารถรับชมได้เช่นเดียวกัน
สำหรับช่องรายการที่น่าสนใจ ประกอบไปด้วย ช่อง CTH WWE สุดยอดมวยปล้ำระดับโลกจาก WWE, ช่อง Zee Nung ภาพยนตร์ Bollywood ที่ดีที่สุดของประเทศอินเดีย, ช่อง MAX Sports สุดยอดการแข่งขันมวยไทยระดับโลก ของนักชกชั้นแนวหน้าทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ, ช่องลูกทุ่งเงินล้าน, ช่อง Cinema รวบรวมภาพยนตร์ชั้นนำจากต่างประเทศ, ช่อง M Channel สถานีบันเทิงสำหรับคอภาพยนตร์, ช่อง National Geographic HD หลากหลายสารคดีคุณภาพจากทั่วโลก, ช่องเชิญยิ้ม แหล่งรวมเสียงหัวเราะและความบันเทิง, ช่องเก้ายอด เรื่องราวลี้ลับ ตำนาน ความเชื่อ ที่ยังหาคำตอบไม่ได้ เป็นต้น
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000089681
ไม่มีความคิดเห็น: