Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

11 สิงหาคม 2557 ETDA เผยคนไทยติดเน็ต 7 ชั่วโมง ซึ่งสมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์ที่มีการใช้งานสูงเกือบทั้งวัน เฉลี่ยสูงถึง 6.6 ชั่วโมงต่อวัน

ประเด็นหลัก


       นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA เปิดเผยว่า ผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2557 ที่จัดทำโดย ETDA ล่าสุดพบว่า ค่าเฉลี่ยของการใช้อินเทอร์เน็ตต่อสัปดาห์เพิ่มสูงขึ้นจากการใช้งานโดยเฉลี่ย 32.3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือเฉลี่ย 4.6 ชั่วโมงต่อวัน ในปี 2556 เพิ่มขึ้นเป็น 50.4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือเฉลี่ย 7.2 ชั่วโมงต่อวัน หรือคนใช้เวลาเกือบ 1 ใน 3 ของวันเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ ยังพบว่า “กลุ่มเพศที่สาม” มีจำนวนชั่วโมงการใช้งานอินเทอร์เน็ตสูงโดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 62.1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
   
       โดยในแต่ละช่วงเวลาจะมีพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตในอุปกรณ์ต่างๆ ที่แตกต่างกัน ซึ่งสมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์ที่มีการใช้งานสูงเกือบทั้งวัน เฉลี่ยสูงถึง 6.6 ชั่วโมงต่อวัน ส่วนการใช้งาน “สมาร์ททีวี” ในยุคทีวีดิจิตอลระยะเริ่มต้น พบว่า 8.4% ของผู้ตอบมีการใช้อุปกรณ์นี้ และกลุ่มผู้ใช้งานมีการใช้งานเฉลี่ย 3.4 ชั่วโมงต่อวัน
   
       ขณะผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ด้วยวัตถุประสงค์ด้านความบันเทิง และการติดต่อสื่อสาร โดยกิจกรรมหลัก 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 ใช้เพื่อการพูดคุยผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ 78.2% อันดับ 2 ใช้เพื่ออ่านข่าว/อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 57.6% และอันดับ 3 ใช้เพื่อค้นหาข้อมูล 56.5% ด้านผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์ หรือใช้อินเทอร์เน็ตในกิจกรรมที่ต้องเกี่ยวข้องกับข้อมูล โดยมีกิจกรรมหลัก 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ1 ใช้เพื่อรับ-ส่งอีเมล 82.6% อันดับ 2 ใช้เพื่อค้นหาข้อมูล และอ่านข่าว/อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 73.3% และอันดับ 3 ใช้เพื่ออ่านข่าว/อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 63.8%



______________________________




ETDA เผยคนไทยติดเน็ต 7 ชั่วโมงต่อวัน 80% หลงโซเชียลมีเดีย



นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA

       ETDA เผยพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตปี 57 คนไทยติดโลกออนไลน์วันละกว่า 7 ชั่วโมง เน้นใช้คุยออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียเกือบ 80% ส่วนใหญ่ใช้เพื่อเช็ก แชร์ และโชว์ ระบุอาจส่งผลเสี่ยงต่อความปลอดภัยสูง เหตุอุปกรณ์มากกว่าครึ่งไม่ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส ชี้เพศที่สามมาแรงใช้เน็ตกระจาย
     
       นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA เปิดเผยว่า ผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2557 ที่จัดทำโดย ETDA ล่าสุดพบว่า ค่าเฉลี่ยของการใช้อินเทอร์เน็ตต่อสัปดาห์เพิ่มสูงขึ้นจากการใช้งานโดยเฉลี่ย 32.3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือเฉลี่ย 4.6 ชั่วโมงต่อวัน ในปี 2556 เพิ่มขึ้นเป็น 50.4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือเฉลี่ย 7.2 ชั่วโมงต่อวัน หรือคนใช้เวลาเกือบ 1 ใน 3 ของวันเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ ยังพบว่า “กลุ่มเพศที่สาม” มีจำนวนชั่วโมงการใช้งานอินเทอร์เน็ตสูงโดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 62.1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
     
       โดยในแต่ละช่วงเวลาจะมีพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตในอุปกรณ์ต่างๆ ที่แตกต่างกัน ซึ่งสมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์ที่มีการใช้งานสูงเกือบทั้งวัน เฉลี่ยสูงถึง 6.6 ชั่วโมงต่อวัน ส่วนการใช้งาน “สมาร์ททีวี” ในยุคทีวีดิจิตอลระยะเริ่มต้น พบว่า 8.4% ของผู้ตอบมีการใช้อุปกรณ์นี้ และกลุ่มผู้ใช้งานมีการใช้งานเฉลี่ย 3.4 ชั่วโมงต่อวัน
     
       ขณะผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ด้วยวัตถุประสงค์ด้านความบันเทิง และการติดต่อสื่อสาร โดยกิจกรรมหลัก 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 ใช้เพื่อการพูดคุยผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ 78.2% อันดับ 2 ใช้เพื่ออ่านข่าว/อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 57.6% และอันดับ 3 ใช้เพื่อค้นหาข้อมูล 56.5% ด้านผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์ หรือใช้อินเทอร์เน็ตในกิจกรรมที่ต้องเกี่ยวข้องกับข้อมูล โดยมีกิจกรรมหลัก 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ1 ใช้เพื่อรับ-ส่งอีเมล 82.6% อันดับ 2 ใช้เพื่อค้นหาข้อมูล และอ่านข่าว/อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 73.3% และอันดับ 3 ใช้เพื่ออ่านข่าว/อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 63.8%
     
       ข้อสังเกตจากการสำรวจครั้งนี้คือ กลุ่มเพศที่สาม เป็นกลุ่มที่ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile Device) มากกว่ากลุ่มอื่นๆ ในหลายกิจกรรม ได้แก่ การใช้งานสังคมเครือข่ายออนไลน์ 85.6% การอ่านติดตามข่าวสารและหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 64.7% การซื้อขายสินค้าและบริการ 39.1% ในขณะที่ กลุ่มเพศหญิง เล่นเกมออนไลน์ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่มากกว่ากลุ่มอื่นๆ 52.6%
     
       นอกจากนี้ ยังมีการสำรวจข้อมูลด้าน “พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตที่สุ่มเสี่ยง” และ “พฤติกรรมการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ และพฤติกรรมการใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ที่สุ่มเสี่ยง” อีกด้วย ด้วยกระแสสังคมออนไลน์ทำให้พฤติกรรมของคนเปลี่ยนแปลงจากการพูดคุยกันมาเป็นการเช็ก แชร์ และโชว์ โดย “เช็ก” คือ การเช็กอินผ่าน Facebook เพื่อบอกให้คนในกลุ่มสนทนาออนไลน์รู้ว่า ตอนนี้ตนทำอะไรอยู่ที่ไหน ส่วน “แชร์” คือ การโพสต์ หรือแชร์ภาพที่เป็นส่วนตัวในสถานะสาธารณะ เพื่อให้มีคนติดตาม หรือเพื่อดึงดูดความสนใจจากโลกสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะตอนนี้ที่วัยรุ่นไทยชอบถ่ายรูปตัวเอง หรือที่ฮิตติดปากกันในขณะนี้ว่า เซลฟี่ (Selfie) ส่วน “โชว์” คือ การเซตสถานภาพของตนเองในเครือข่ายสังคมออนไลน์ให้เป็นสาธารณะ เพื่อที่ว่าใครที่สนใจจะเข้ามาเป็นเพื่อนกับตน ก็สามารถเห็นข้อมูลส่วนตัวได้ทุกคน
     
       จากผลการสำรวจ พบว่า กิจกรรมดังกล่าวข้างต้น เป็น 3 กิจกรรมสุดฮิตในตอนนี้ โดยเฉพาะเพศที่สามจะมีสัดส่วนการทำกิจกรรมดังกล่าวสูงกว่าเพศชายและหญิง ในขณะที่คนอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป จะมีความสุ่มเสี่ยงในเรื่องของการแชร์ภาพ/ข้อความที่อาจจะไม่เหมาะสม โดยไม่ตรวจสอบความถูกต้อง และความน่าเชื่อถือของข้อมูลและแหล่งที่มาก่อน
     
       ส่วนการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ จากผลการสำรวจ พบว่า มีคนซื้อของผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตพีซี เพียง 38.8% และมีคนทำธุรกรรมทางการเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ เพียง 29.8% เท่านั้น
     
       พฤติกรรมที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงคือ คนซื้อของแพง ชอบจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต ส่วนคนซื้อของถูก ชอบโอนเงินผ่านธนาคารมากกว่า ในขณะที่คนชอบโอนเงินมูลค่ามากกว่า 50,000 บาท จะทำธุรกรรมผ่านมือถือ โดยเข้าผ่านหน้าเว็บไซต์ของธนาคารมากกว่าการเข้าแอปพลิเคชัน พฤติกรรมเช่นนี้สุ่มเสี่ยงต่อการถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้บอกเลขที่บัตรเครดิต หรือเลขที่บัญชีธนาคารผ่านเว็บไซต์ที่ทำเลียนแบบ หรือที่เรียกว่า Phishing
     
       ส่วนพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงจากการใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น การละเลยไม่ติดตั้งโปรแกรม Anti-virus มีคนตอบว่าไม่ทำ สูงถึง 51.1% ส่วนคนที่เลิกใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่แล้ว ไม่ล้างข้อมูลออกจากเครื่อง มีผู้ตอบ 37.1% และละเลยไม่กำหนดรหัสผ่านเข้าใช้งานเครื่องมีเพียง 25% เท่านั้น
     


http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000089691

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.