11 สิงหาคม 2557 OPPO สัดส่วนของการทำตลาดมือถือในประเทศไทย ให้ความสำคัญต่อตลาดระดับกลางที่ราคา 10,000-15,000 บาท โดยมีสัดส่วนของยอดขายอยู่ที่ประมาณ 50%
ประเด็นหลัก
ทั้งนี้ สัดส่วนของการทำตลาดมือถือในประเทศไทยของออปโป้ยังคงให้ความสำคัญต่อตลาดระดับกลางที่ราคา 10,000-15,000 บาท โดยมีสัดส่วนของยอดขายอยู่ที่ประมาณ 50% ขณะที่ตลาดล่างที่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท จะมีสัดส่วนอยู่ที่ 25% และตลาดพรีเมียมที่หวังให้เป็นสินค้าสร้างแบรนด์มากกว่ายอดขายในระดับราคา มากกว่า 1.5 หมื่นบาทขึ้นไป จะมีสัดส่วนที่ 25% เช่นกัน เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วที่ประเทศจีน
______________________________
ออปโป้ N1 ชูจุดขาย 'เฟลซี่' กล้องหมุนได้ 206 องศา
ความพยายามของมือถือ "ออปโป้" สัญชาติจีน ที่จะเข้ามาตีตลาดในเมืองไทย ดูเหมือนว่ากำลังจะไปได้สวย หลังจากเข้ามาบุกตลาดในประเทศไทยเมื่อ 2-3 ปีก่อน แต่ยังไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนไอโฟนและซัมซุง
alt หากแต่ในปี 2557 ดูเหมือนว่ามือถือ "ออปโป้" แบรนด์เริ่มเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะการเปิดตัว "OPPO N1 mini" ที่เอากระแสฮอตเรื่อง "เซลฟี่" มาเป็นจุดขาย โดยเน้นในเรื่องของกล้องดิจิตอลที่หมุดได้ 206 องศา เป็นได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง พร้อม กับอุปกรณ์ O-Click Control ใช้ในการควบคุมกล้องในระยะไกลโดยไม่ต้องสัมผัสตัวเครื่อง และยังมี O-Touch Panel สำหรับควบคุมเครื่องจากข้างหลังอีกด้วย และความละเอียดของกล้องอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล
ขณะที่ตัวเครื่องมีหน้าจอ 5.9 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ IPS LCD มีความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล อินเตอร์เฟซยังคงเอกลักษณ์ความเป็น OPPO ไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยการปรับแต่งธีม ไอคอน เอฟเฟ็กต์ต่างๆได้มากกว่าเป็นอินเตอร์เฟซติดเครื่อง
ส่วนทางด้าน น.ส.นัฏสุชล คติฉันท์สันติ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทย ออปโป้ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับการเปิดตัว OPPO N1 mini บริษัทมีเป้าหมายให้ OPPO N1 mini เข้ามาเสริมตลาดระดับกลางซึ่งเป็นตลาดที่สร้างยอดขายได้มากที่สุดสำหรับออปโป้ โดยคาดว่าสินค้าในรุ่นนี้จะขายได้ไม่น้อยกว่า 3 หมื่นเครื่องภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งสินค้ารุ่นใหม่จะมียอดขายที่ใกล้เคียงยอดขายของ OPPO Find 7 และ OPPO Find 7a ที่เปิดตัวไปเมื่อไตรมาสที่ผ่านมา
ขณะที่แผนการทำตลาด OPPO N1 mini จะมีการทำแคมเปญร่วมกับผู้ให้บริการ 2 ราย คือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และเอไอเอส หรือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) โดยคาดว่าจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นตามลำดับ
เนื่องจากราคา และสเปกของเครื่องมีความเหมาะสม เพราะในราคาที่จำหน่าย 12,990 บาท แต่ได้ฟีเจอร์ หรือคุณสมบัติและความสามารถที่มากกว่ามือถือระดับราคาเดียวกันในท้องตลาด
ทั้งนี้ สัดส่วนของการทำตลาดมือถือในประเทศไทยของออปโป้ยังคงให้ความสำคัญต่อตลาดระดับกลางที่ราคา 10,000-15,000 บาท โดยมีสัดส่วนของยอดขายอยู่ที่ประมาณ 50% ขณะที่ตลาดล่างที่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท จะมีสัดส่วนอยู่ที่ 25% และตลาดพรีเมียมที่หวังให้เป็นสินค้าสร้างแบรนด์มากกว่ายอดขายในระดับราคา มากกว่า 1.5 หมื่นบาทขึ้นไป จะมีสัดส่วนที่ 25% เช่นกัน เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วที่ประเทศจีน
ทั้งนี้ OPPO N1 mini เริ่มจำหน่ายแล้วและเริ่มวางจำหน่ายทั่วประเทศในวันที่ 26 กรกฎาคม 2557 เป็นต้นไป โดยสีที่มีเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยยังมีเพียงสีขาวเท่านั้น ขณะที่การจำหน่ายในประเทศจีนมีทั้งหมด 4 สี ฟ้า ขาว ชมพู เหลือง ราคาเปิดตัวที่ 12,990 บาท และจะมีภาพยนตร์โฆษณาที่ถ่ายทำในประเทศไทยเป็นครั้งแรก คาดว่าจะเริ่มออกอากาศได้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=241532:-n1----206-&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.U-idE1ZAeuw
ทั้งนี้ สัดส่วนของการทำตลาดมือถือในประเทศไทยของออปโป้ยังคงให้ความสำคัญต่อตลาดระดับกลางที่ราคา 10,000-15,000 บาท โดยมีสัดส่วนของยอดขายอยู่ที่ประมาณ 50% ขณะที่ตลาดล่างที่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท จะมีสัดส่วนอยู่ที่ 25% และตลาดพรีเมียมที่หวังให้เป็นสินค้าสร้างแบรนด์มากกว่ายอดขายในระดับราคา มากกว่า 1.5 หมื่นบาทขึ้นไป จะมีสัดส่วนที่ 25% เช่นกัน เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วที่ประเทศจีน
______________________________
ออปโป้ N1 ชูจุดขาย 'เฟลซี่' กล้องหมุนได้ 206 องศา
ความพยายามของมือถือ "ออปโป้" สัญชาติจีน ที่จะเข้ามาตีตลาดในเมืองไทย ดูเหมือนว่ากำลังจะไปได้สวย หลังจากเข้ามาบุกตลาดในประเทศไทยเมื่อ 2-3 ปีก่อน แต่ยังไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนไอโฟนและซัมซุง
alt หากแต่ในปี 2557 ดูเหมือนว่ามือถือ "ออปโป้" แบรนด์เริ่มเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะการเปิดตัว "OPPO N1 mini" ที่เอากระแสฮอตเรื่อง "เซลฟี่" มาเป็นจุดขาย โดยเน้นในเรื่องของกล้องดิจิตอลที่หมุดได้ 206 องศา เป็นได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง พร้อม กับอุปกรณ์ O-Click Control ใช้ในการควบคุมกล้องในระยะไกลโดยไม่ต้องสัมผัสตัวเครื่อง และยังมี O-Touch Panel สำหรับควบคุมเครื่องจากข้างหลังอีกด้วย และความละเอียดของกล้องอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล
ขณะที่ตัวเครื่องมีหน้าจอ 5.9 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ IPS LCD มีความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล อินเตอร์เฟซยังคงเอกลักษณ์ความเป็น OPPO ไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยการปรับแต่งธีม ไอคอน เอฟเฟ็กต์ต่างๆได้มากกว่าเป็นอินเตอร์เฟซติดเครื่อง
ส่วนทางด้าน น.ส.นัฏสุชล คติฉันท์สันติ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทย ออปโป้ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับการเปิดตัว OPPO N1 mini บริษัทมีเป้าหมายให้ OPPO N1 mini เข้ามาเสริมตลาดระดับกลางซึ่งเป็นตลาดที่สร้างยอดขายได้มากที่สุดสำหรับออปโป้ โดยคาดว่าสินค้าในรุ่นนี้จะขายได้ไม่น้อยกว่า 3 หมื่นเครื่องภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งสินค้ารุ่นใหม่จะมียอดขายที่ใกล้เคียงยอดขายของ OPPO Find 7 และ OPPO Find 7a ที่เปิดตัวไปเมื่อไตรมาสที่ผ่านมา
ขณะที่แผนการทำตลาด OPPO N1 mini จะมีการทำแคมเปญร่วมกับผู้ให้บริการ 2 ราย คือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และเอไอเอส หรือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) โดยคาดว่าจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นตามลำดับ
เนื่องจากราคา และสเปกของเครื่องมีความเหมาะสม เพราะในราคาที่จำหน่าย 12,990 บาท แต่ได้ฟีเจอร์ หรือคุณสมบัติและความสามารถที่มากกว่ามือถือระดับราคาเดียวกันในท้องตลาด
ทั้งนี้ สัดส่วนของการทำตลาดมือถือในประเทศไทยของออปโป้ยังคงให้ความสำคัญต่อตลาดระดับกลางที่ราคา 10,000-15,000 บาท โดยมีสัดส่วนของยอดขายอยู่ที่ประมาณ 50% ขณะที่ตลาดล่างที่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท จะมีสัดส่วนอยู่ที่ 25% และตลาดพรีเมียมที่หวังให้เป็นสินค้าสร้างแบรนด์มากกว่ายอดขายในระดับราคา มากกว่า 1.5 หมื่นบาทขึ้นไป จะมีสัดส่วนที่ 25% เช่นกัน เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วที่ประเทศจีน
ทั้งนี้ OPPO N1 mini เริ่มจำหน่ายแล้วและเริ่มวางจำหน่ายทั่วประเทศในวันที่ 26 กรกฎาคม 2557 เป็นต้นไป โดยสีที่มีเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยยังมีเพียงสีขาวเท่านั้น ขณะที่การจำหน่ายในประเทศจีนมีทั้งหมด 4 สี ฟ้า ขาว ชมพู เหลือง ราคาเปิดตัวที่ 12,990 บาท และจะมีภาพยนตร์โฆษณาที่ถ่ายทำในประเทศไทยเป็นครั้งแรก คาดว่าจะเริ่มออกอากาศได้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=241532:-n1----206-&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.U-idE1ZAeuw
ไม่มีความคิดเห็น: