Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

13 สิงหาคม 2557 สันติ.บันลือกรุ๊ปฯ ระบุ สติกเกอร์ไลน์ หนูหิ่น,การ์ตูนขายหัวเราะ ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะมีการทำข้อตกลงร่วม กับ ไลน์ เพราะด้วยอัตราค่าดาวน์โหลดที่ไม่สูง เปรียบเทียบกับค่ายอื่น ๆ

ประเด็นหลัก


 ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะมีการทำข้อตกลงร่วม กับ ไลน์ เพราะด้วยอัตราค่าดาวน์โหลดที่ไม่สูง เปรียบเทียบกับค่ายอื่น ๆ ตั้งราคาไว้ที่ 2 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ วิธิตา จัดเก็บเพียงไม่ถึง 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น เพราะบริษัทไม่ได้หวังยอดรายได้
    เป้าหมายหลักของ "วิธิตา" ต้องการความใกล้ชิดกับผู้ใช้บริการ หวังให้ผู้ใช้บริการ Reconnect กลับมาเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน เพราะ การ์ตูนขายหัวเราะ มีสโลแกนว่า "ความฮา สามัญประจำบ้าน"


______________________________




ผ่ากลยุทธ์ สติกเกอร์ไลน์สายพันธุ์ไทย


ถ้าสติกเกอร์ไลน์สายพันธุ์ไทยค่ายที่ติดอันดับต้น ๆ คือ  "วิธิตา" เนื่องจากได้มีการพัฒนาตัวการ์ตูน ขายหัวเราะ และ หนูหิ่น ปั้นเป็นไลน์สติกเกอร์ ให้สาวกไลน์ได้โหลดเพื่อส่งเป็นสัญลักษณ์

      alt ล่า สุด "วิธิตา" ได้พัฒนาคาแรกเตอร์ "ปังปอนด์"  จากที่เคยทำเป็นแอนิเมชัน พัฒนาคาแรกเตอร์ใหม่จัดทำเป็น ไลน์ สติกเกอร์ชุดใหม่ อย่างไรก็ตาม "ฐานเศรษฐกิจ" ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ  นายสันติ  เลาหบูรณะกิจ กรรมการบริหารกลุ่มบริษัท บันลือกรุ๊ปฯ และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิธิตา แอนิเมชั่น จำกัด ถึงเหตุผลเพราะอะไรถึงพัฒนาคาแรกตูนมาเป็น ไลน์ สติกเกอร์ น่าสนใจไม่น้อย
++ทำไมถึงพัฒนาเป็นไลน์ สติกเกอร์
    ทาง ไลน์ ได้เข้ามาเจรจากับทางบริษัท เนื่องจากจำนวนฐานลูกค้าที่ใช้โปรแกรมสนทนา แชตไลน์ เฉพาะในเมืองไทยมีถึง 20 ล้านคน ดังนั้น ไลน์ อยากพัฒนา สติกเกอร์ ที่บ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์ของคนไทย  ทั้ง 2 ฝ่ายจึงได้เจรจาร่วมกัน  วิธิตา จึงได้พัฒนาการ์ตูนขายหัวเราะ ช่วงแรก "ไลน์" ให้ทดลองก่อน และ หลังจากนั้นก็พัฒนา "หนูหิ่น"  และ ได้ออก ไลน์ สติกเกอร์ ซ้ำเป็นชุดที่ 2
    หลังจากพัฒนา ไลน์ สติกเกอร์ ทำไปทำมาปรากฏว่าประสบความสำเร็จ เนื่องจากโปรแกรมแชตไลน์ เป็นสื่อยุคเป็น Add Chat ที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด ดังนั้น วิธิตา จึงได้สนใจที่จะพัฒนา ไลน์ สติกเกอร์ อย่างจริงจังเนื่องจากเป็นสื่อยุคใหม่
  ++ผลตอบรับกลุ่มเป้าหมาย
    ขายหัวเราะ เติบโตมาจากการ์ตูน ส่วน "หนูหิ่น" กลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น ขณะที่ "ปังปอนด์" ถือเป็นคาแรกเตอร์การ์ตูนไทยที่คนไทยรู้จักคุ้นเคยมากที่สุดตัวหนึ่งที่นำ เสนอในการ์ตูนเล่ม จนปี 2545 ได้นำมาสร้างเป็นการ์ตูนแอนิเมชันในรูปแบบ 3มิติ โดย ออกอากาศทางช่อง 3 ในชื่อชุด "ปังปอนด์ ตะลุยโลกอนาคต"
    คนที่ใช้ ไลน์ สติกเกอร์  สนใจมากเพราะเป็นสติกเกอร์ของคนไทยและรูปแบบเป็นแบบคลาสสิก สติกเกอร์ไลน์ ปังปอนด์ หลังปล่อยออกไปตอน 9 โมงเช้า พอช่วงเวลา 4 โมงเย็น ปรากฏว่าขึ้นท็อปไฟต์ แซงสติกเกอร์ไลน์ อื่นๆ
    ก่อนที่จะออก ไลน์ สติกเกอร์ "ปังปอนด์" ไลน์ สติกเกอร์ของ "ขายหัวเราะ"  เคยทำสถิติติดอันดับ 1 มาเป็นระยะเวลา 4-5 สัปดาห์ ขณะที่ "หนูหิ่น" ติดอันดับยอดการใช้งาน และ การซื้อมากที่สุดเป็นระยะเวลา 1 เดือน
 alt ++จำนวนผู้ดาวน์โหลด
    ไลน์ สติกเกอร์ "ขายหัวเราะ" มีจำนวนผู้ดาวน์โหลด 3 แสนครั้ง เช่นเดียวกัน "หนูหิ่น" ขณะที่ "ปังปอนด์" เพิ่งปล่อยให้ดาวน์โหลดเมื่อเร็ว ๆ นี้
++ทำไมถึงติดอันดับ
    เป็นเพราะกระแสความคิดถึงคนรู้จักการ์ตูนขายหัวเราะ และ หนูหิ่น เป็นอย่างดีเมื่อประเทศไทยมีสื่อใหม่ ๆ เข้ามา และ ด้วยความเหินห่างการ์ตูนขายหัวเราะ เมื่อเป็น ไลน์ สติกเกอร์ คนที่รู้จักการ์ตูนขายหัวเราะ และ หนูหิ่น ดาวน์โหลดไปใช้ เพราะอัตราค่าใช้จ่ายในการดาวน์โหลดอยูที่ 30 บาท (หรือ 0.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ) อัตราเดียวกับ "ปังปอนด์" และ ใช้งานได้ตลอดไม่มีวันหมดอายุ
++รายได้เปิดเผยได้หรือไม่
    ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะมีการทำข้อตกลงร่วม กับ ไลน์ เพราะด้วยอัตราค่าดาวน์โหลดที่ไม่สูง เปรียบเทียบกับค่ายอื่น ๆ ตั้งราคาไว้ที่ 2 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ วิธิตา จัดเก็บเพียงไม่ถึง 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น เพราะบริษัทไม่ได้หวังยอดรายได้
    เป้าหมายหลักของ "วิธิตา" ต้องการความใกล้ชิดกับผู้ใช้บริการ หวังให้ผู้ใช้บริการ Reconnect กลับมาเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน เพราะ การ์ตูนขายหัวเราะ มีสโลแกนว่า "ความฮา สามัญประจำบ้าน"
alt++การลงทุนและแผนงานต่อไป
    พอประมาณ เพราะในการออกแบบ ไลน์ สติกเกอร์ แต่ละชุดต้องมีการวางแผน ออกแบบความคิด ใช้เวลาพอสมควร สำหรับแผนงานต่อไปจะมีการพัฒนา ไลน์ สติกเกอร์ ต่อไปเรื่อย ๆ เนื่องจากว่า สื่อออนไลน์ เป็นโลกยุคใหม่ที่ติดต่อสื่อสารผ่านทางโทรทัศน์ และ ในอนาคตรูปแบบการอ่านหนังสือรายได้ปรับตัวลดลง เพราะสื่อยุคใหม่เข้ามาแทนที่ ซึ่งในขณะนี้ วิธิตา มีการพัฒนา การ์ตูนขายหัวเราะ เป็นอี-บุ๊ก และ ไลน์ สติกเกอร์ให้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสื่อนิวมีเดียกำลังมาแรง และ มีบทบาทที่สำคัญ หากแต่ วิธิตา ซึ่งอยู่ในกลุ่มของบันลือกรุ๊ป เป็นบริษัทที่มีคอนเทนต์ที่มากที่สุดเพราะก่อตั้งและดำเนินการมาเป็นระยะ เวลา 60 ปี อีกทั้งการ์ตูน ขายหัวเราะ ทำมาต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 40-50 ปีเช่นเดียวกัน
    ส่วนการแข่งขันนั้นต้องบอกว่า ไลน์ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นกลุ่มบริษัทได้เข้าไปเป็นพาร์ตเนอร์ ให้กับไลน์ ในการออกแบบตกแต่งคาแรกเตอร์ให้กับหน่วยงาน และ บริษัท โดยได้พัฒนาคาแรกเตอร์ ไลน์ สติกเกอร์ ให้กับสายการบินแอร์เอเชีย, ช่อง 9 อสมท และ กิฟฟารีน เป็นต้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ


http://www.thannews.th.com/index.php?option=com_content&view=article&id=241954:2014-08-08-07-37-10&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.U-spT1ZAeuw

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.