18 สิงหาคม 2557 AIS.นัฐิยา ระบุ ผลประกอบการไตรมาส 2/2557 (หลังหัก)โตขึ้น 0.3% มีเงินสด 27,328 ล้านบาท ( ชี้การตลาด AIS จะเจาะกลุ่มลูกค้าชั้นกลางมากขึ้น โดยยังคงงบการตลาดในระดับสูง ในระดับที่ 4% ของรายได้รวม )
ประเด็นหลัก
"โดยสรุปรายได้ของบริษัทยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนที่ต้องแบ่งให้ภาครัฐลดลง บริษัทจะเจาะกลุ่มลูกค้าชั้นกลางมากขึ้น โดยยังคงงบการตลาดในระดับสูง ในระดับที่ 4% ของรายได้รวม เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าโอนย้ายคลื่นความถี่เดิมที่จะหมดอายุสัมปทาน มายังคลื่นความถี่ 2,100 เมกะเฮิรตซ์ให้ได้ตามเป้าหมาย 85% ของลูกค้าทั้งหมด ส่วนการเลื่อนประมูลคลื่นความถี่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ ผู้บริหารเชื่อมั่นว่าจะเปิดให้ประมูลคลื่นได้ภายใน 1 ปีหลังจากนี้และบริษัทมีความพร้อมที่เข้าประมูล" น.ส.นัฐิยากล่าว
น.ส.นัฐิยากล่าวว่า สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/2557 รายได้การให้บริการไม่รวมรายได้จากการเชื่อมโยงโครงข่าย เติบโต 2.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2557 และโต 1.7% เทียบไตรมาส 2/2556 ส่วนรายได้ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 58,571 ล้านบาท คงที่จากปี 2556 รายได้จากการให้บริการเสียงลดลง แต่ถูกชดเชยจากรายได้จากการให้บริการข้อมูล กำไรสุทธิอยู่ที่ 8,475 ล้านบาท ลดลง 11% จากไตรมาส 1/2557 และลดลง 7.8% จากไตรมาส 1/2556 ส่วนกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อม (อิบิทด้า) ในไตรมาสที่ 2/2557 โตขึ้น 0.3% แต่ยังคงนโยบายปันผล 100% คิดเป็น 6.04 บาทต่อหุ้น สำหรับฐานะทางการเงิน บริษัทมีเงินสด 27,328 ล้านบาท หนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.25 เท่า
______________________________
"เอไอเอส" เจอพิษการเมือง หดเป้ารายได้ปีนี้โตแค่ 1-2%
"เอไอเอส"ปรับลดคาดการณ์รายได้ปีนี้ จากเดิมพุ่งสูง 6-8% เหตุรับผลกระทบจากการเมืองและภาวะเศรษฐกิจครึ่งปีแรก ไม่ท้อยังลงทุนต่อเนื่อง 4 หมื่นล้าน สนธุรกิจเน็ตบ้านผ่านสายโทรศัพท์ แตกไลน์ธุรกิจมือถือสู่ดิจิตอลเต็มรูปแบบ รอบอร์ดเคาะ
น.ส.นัฐิยา พัวพงศกร ผู้จัดการนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับคาดการณ์รายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย) ในปี 2557 ลง จากเดิมที่ประมาณการว่าจะโต 6-8% เป็น 1-2% บนพื้นฐานครึ่งปีหลังรายได้จะต้องโตประมาณ 2-4% สำหรับสาเหตุปรับลดประมาณการมาจากผลกระทบทางการเมืองและเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรก แต่บริษัทยังคงวงเงินการลงทุนทั้งปีที่ 4 หมื่นล้านบาท เพราะยังคงขยายโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง
น.ส.นัฐิยากล่าวว่า ขณะที่ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ปรับคาดการณ์เป็นเพิ่มขึ้น 15% จากปีที่แล้ว ลดลงจากเดิมซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน และคาดว่าปีนี้ Service EBITDA margin (จากการให้บริการ) จะเพิ่มขึ้นประมาณ 3% จากปีก่อน ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดในเชิงรายได้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งเสริมการใช้งานโครงข่าย 3จี การทำโปรโมชั่นจูงใจ
"โดยสรุปรายได้ของบริษัทยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนที่ต้องแบ่งให้ภาครัฐลดลง บริษัทจะเจาะกลุ่มลูกค้าชั้นกลางมากขึ้น โดยยังคงงบการตลาดในระดับสูง ในระดับที่ 4% ของรายได้รวม เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าโอนย้ายคลื่นความถี่เดิมที่จะหมดอายุสัมปทาน มายังคลื่นความถี่ 2,100 เมกะเฮิรตซ์ให้ได้ตามเป้าหมาย 85% ของลูกค้าทั้งหมด ส่วนการเลื่อนประมูลคลื่นความถี่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ ผู้บริหารเชื่อมั่นว่าจะเปิดให้ประมูลคลื่นได้ภายใน 1 ปีหลังจากนี้และบริษัทมีความพร้อมที่เข้าประมูล" น.ส.นัฐิยากล่าว
น.ส.นัฐิยากล่าวว่า สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/2557 รายได้การให้บริการไม่รวมรายได้จากการเชื่อมโยงโครงข่าย เติบโต 2.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2557 และโต 1.7% เทียบไตรมาส 2/2556 ส่วนรายได้ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 58,571 ล้านบาท คงที่จากปี 2556 รายได้จากการให้บริการเสียงลดลง แต่ถูกชดเชยจากรายได้จากการให้บริการข้อมูล กำไรสุทธิอยู่ที่ 8,475 ล้านบาท ลดลง 11% จากไตรมาส 1/2557 และลดลง 7.8% จากไตรมาส 1/2556 ส่วนกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อม (อิบิทด้า) ในไตรมาสที่ 2/2557 โตขึ้น 0.3% แต่ยังคงนโยบายปันผล 100% คิดเป็น 6.04 บาทต่อหุ้น สำหรับฐานะทางการเงิน บริษัทมีเงินสด 27,328 ล้านบาท หนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.25 เท่า
น.ส.นัฐิยากล่าวว่า บริษัทมีแนวคิดจะเข้าไปดำเนินธุรกิจอินเตอร์เน็ตทางสายโทรศัพท์เพื่อใช้งานในบ้าน เนื่องจากไทยยังมีการขยายตลาดไม่มากนัก มีเพียง 20% ของประชากรที่เข้าถึง และปัจจุบันยังมีให้บริการในรูปแบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแบบเอดีเอสแอล และจะมีการเปลี่ยนธุรกิจใหม่ เพื่อตอบโจทย์การขยายธุรกิจจากเดิมที่เน้นโมบายเป็นหลัก ให้มาดำเนินธุรกิจดิจิตอลเต็มรูปแบบมากขึ้น แต่ต้องมีการเสนอกับคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เพื่อพิจารณาอีกครั้ง
ที่มา : นสพ.มติชน
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1408169157
"โดยสรุปรายได้ของบริษัทยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนที่ต้องแบ่งให้ภาครัฐลดลง บริษัทจะเจาะกลุ่มลูกค้าชั้นกลางมากขึ้น โดยยังคงงบการตลาดในระดับสูง ในระดับที่ 4% ของรายได้รวม เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าโอนย้ายคลื่นความถี่เดิมที่จะหมดอายุสัมปทาน มายังคลื่นความถี่ 2,100 เมกะเฮิรตซ์ให้ได้ตามเป้าหมาย 85% ของลูกค้าทั้งหมด ส่วนการเลื่อนประมูลคลื่นความถี่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ ผู้บริหารเชื่อมั่นว่าจะเปิดให้ประมูลคลื่นได้ภายใน 1 ปีหลังจากนี้และบริษัทมีความพร้อมที่เข้าประมูล" น.ส.นัฐิยากล่าว
น.ส.นัฐิยากล่าวว่า สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/2557 รายได้การให้บริการไม่รวมรายได้จากการเชื่อมโยงโครงข่าย เติบโต 2.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2557 และโต 1.7% เทียบไตรมาส 2/2556 ส่วนรายได้ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 58,571 ล้านบาท คงที่จากปี 2556 รายได้จากการให้บริการเสียงลดลง แต่ถูกชดเชยจากรายได้จากการให้บริการข้อมูล กำไรสุทธิอยู่ที่ 8,475 ล้านบาท ลดลง 11% จากไตรมาส 1/2557 และลดลง 7.8% จากไตรมาส 1/2556 ส่วนกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อม (อิบิทด้า) ในไตรมาสที่ 2/2557 โตขึ้น 0.3% แต่ยังคงนโยบายปันผล 100% คิดเป็น 6.04 บาทต่อหุ้น สำหรับฐานะทางการเงิน บริษัทมีเงินสด 27,328 ล้านบาท หนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.25 เท่า
______________________________
"เอไอเอส" เจอพิษการเมือง หดเป้ารายได้ปีนี้โตแค่ 1-2%
"เอไอเอส"ปรับลดคาดการณ์รายได้ปีนี้ จากเดิมพุ่งสูง 6-8% เหตุรับผลกระทบจากการเมืองและภาวะเศรษฐกิจครึ่งปีแรก ไม่ท้อยังลงทุนต่อเนื่อง 4 หมื่นล้าน สนธุรกิจเน็ตบ้านผ่านสายโทรศัพท์ แตกไลน์ธุรกิจมือถือสู่ดิจิตอลเต็มรูปแบบ รอบอร์ดเคาะ
น.ส.นัฐิยา พัวพงศกร ผู้จัดการนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับคาดการณ์รายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย) ในปี 2557 ลง จากเดิมที่ประมาณการว่าจะโต 6-8% เป็น 1-2% บนพื้นฐานครึ่งปีหลังรายได้จะต้องโตประมาณ 2-4% สำหรับสาเหตุปรับลดประมาณการมาจากผลกระทบทางการเมืองและเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรก แต่บริษัทยังคงวงเงินการลงทุนทั้งปีที่ 4 หมื่นล้านบาท เพราะยังคงขยายโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง
น.ส.นัฐิยากล่าวว่า ขณะที่ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ปรับคาดการณ์เป็นเพิ่มขึ้น 15% จากปีที่แล้ว ลดลงจากเดิมซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน และคาดว่าปีนี้ Service EBITDA margin (จากการให้บริการ) จะเพิ่มขึ้นประมาณ 3% จากปีก่อน ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดในเชิงรายได้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งเสริมการใช้งานโครงข่าย 3จี การทำโปรโมชั่นจูงใจ
"โดยสรุปรายได้ของบริษัทยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนที่ต้องแบ่งให้ภาครัฐลดลง บริษัทจะเจาะกลุ่มลูกค้าชั้นกลางมากขึ้น โดยยังคงงบการตลาดในระดับสูง ในระดับที่ 4% ของรายได้รวม เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าโอนย้ายคลื่นความถี่เดิมที่จะหมดอายุสัมปทาน มายังคลื่นความถี่ 2,100 เมกะเฮิรตซ์ให้ได้ตามเป้าหมาย 85% ของลูกค้าทั้งหมด ส่วนการเลื่อนประมูลคลื่นความถี่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ ผู้บริหารเชื่อมั่นว่าจะเปิดให้ประมูลคลื่นได้ภายใน 1 ปีหลังจากนี้และบริษัทมีความพร้อมที่เข้าประมูล" น.ส.นัฐิยากล่าว
น.ส.นัฐิยากล่าวว่า สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/2557 รายได้การให้บริการไม่รวมรายได้จากการเชื่อมโยงโครงข่าย เติบโต 2.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2557 และโต 1.7% เทียบไตรมาส 2/2556 ส่วนรายได้ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 58,571 ล้านบาท คงที่จากปี 2556 รายได้จากการให้บริการเสียงลดลง แต่ถูกชดเชยจากรายได้จากการให้บริการข้อมูล กำไรสุทธิอยู่ที่ 8,475 ล้านบาท ลดลง 11% จากไตรมาส 1/2557 และลดลง 7.8% จากไตรมาส 1/2556 ส่วนกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อม (อิบิทด้า) ในไตรมาสที่ 2/2557 โตขึ้น 0.3% แต่ยังคงนโยบายปันผล 100% คิดเป็น 6.04 บาทต่อหุ้น สำหรับฐานะทางการเงิน บริษัทมีเงินสด 27,328 ล้านบาท หนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.25 เท่า
น.ส.นัฐิยากล่าวว่า บริษัทมีแนวคิดจะเข้าไปดำเนินธุรกิจอินเตอร์เน็ตทางสายโทรศัพท์เพื่อใช้งานในบ้าน เนื่องจากไทยยังมีการขยายตลาดไม่มากนัก มีเพียง 20% ของประชากรที่เข้าถึง และปัจจุบันยังมีให้บริการในรูปแบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแบบเอดีเอสแอล และจะมีการเปลี่ยนธุรกิจใหม่ เพื่อตอบโจทย์การขยายธุรกิจจากเดิมที่เน้นโมบายเป็นหลัก ให้มาดำเนินธุรกิจดิจิตอลเต็มรูปแบบมากขึ้น แต่ต้องมีการเสนอกับคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เพื่อพิจารณาอีกครั้ง
ที่มา : นสพ.มติชน
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1408169157
ไม่มีความคิดเห็น: