Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

20 สิงหาคม 2557 เลขาธิการ กสทช.ฐากร ระบุ คูปอง 690 บาท วงเงิน 165.5 ล้านบาท แยกเป็นค่าจัดทำคูปอง 32.775 ล้านบาท ค่าจัดส่งคูปองและค่าบริหารจัดการโครงการและการตรวจสอบ 132.725 ล้านบาท

ประเด็นหลัก



ทั้งนี้ ได้ให้กองสลากเป็นผู้จัดพิมพ์คูปอง ต้นทุน 2.75 บาทต่อฉบับ และไปรษณีย์ไทยเป็นผู้จัดส่ง ต้นทุนฉบับละ 13.50 บาท แต่ทางกสทช. จะต่อรองเหลือฉบับละ 10 บาท ตามงบประมาณที่บอร์ดกสทช. ได้เห็นชอบกรอบวงเงินในการจัดพิมพ์และจัดส่งคูปอง รวมถึงงบประมาณในการบริหารจัดการคูปองจำนวน 11.5 ล้านฉบับ วงเงิน 165.5 ล้านบาท แยกเป็นค่าจัดทำคูปอง 32.775 ล้านบาท ค่าจัดส่งคูปองและค่าบริหารจัดการโครงการและการตรวจสอบ 132.725 ล้านบาท



______________________________




กสทช.เลื่อนอีก!แจกคูปองดิจิทัลปลายก.ย.


กสทช. เลื่อนแจกคูปองอีกรอบเป็นปลายเดือน ก.ย. เคาะผู้ขายกล่องทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 5 ล้านบาท

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า เป็นที่ชัดเจนแลัวว่า กระบวนการพิมพ์และจัดส่งคูปอง 690 บาทเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านการรับชมทีวีดิจิทัลให้กับประชาชน ไม่สามารถเป็นตามกรอบเวลาเดิมที่วางไว้วันที่ 15 ก.ย. โดยคาดว่าจะเริ่มแจกได้อย่างเร็วที่สุดช่วงปลายเดือน ก.ย.

ทั้งนี้ ได้ให้กองสลากเป็นผู้จัดพิมพ์คูปอง ต้นทุน 2.75 บาทต่อฉบับ และไปรษณีย์ไทยเป็นผู้จัดส่ง ต้นทุนฉบับละ 13.50 บาท แต่ทางกสทช. จะต่อรองเหลือฉบับละ 10 บาท ตามงบประมาณที่บอร์ดกสทช. ได้เห็นชอบกรอบวงเงินในการจัดพิมพ์และจัดส่งคูปอง รวมถึงงบประมาณในการบริหารจัดการคูปองจำนวน 11.5 ล้านฉบับ วงเงิน 165.5 ล้านบาท แยกเป็นค่าจัดทำคูปอง 32.775 ล้านบาท ค่าจัดส่งคูปองและค่าบริหารจัดการโครงการและการตรวจสอบ 132.725 ล้านบาท

นอกจากนี้ บอร์ดกสทช. ยังเห็นชอบการกำหนดคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมจำหน่ายกล่องทีวีดิจิทัลในโครงการคูปอง 690 บาท โดยต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. และไม่แบล็กลิสต์ มีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท ต้องวางเงินประกัน5% ของราคากล่องที่จะจำหน่ายทั้งหมด

สำหรับเงื่อนไขอื่นๆ ประกอบด้วย คือ ต้องมีจุดรับบริการปกติและจุดบริการหลังการขายจังหวัดละไม่น้อยกว่า 4 แห่ง มีค อลเซ็นเตอร์ 24 ชม. ตลอดระยะเวลาที่เข้าร่วมโครงการ  จัดทำบัญชีสำรองจำหน่ายกล่องตามแนวทางที่ กสทช. กำหนด และจัดให้มีการแสดงเลขหมายประจำเครื่อง เพื่อขอรับสติ๊กเกอร์ไปจำหน่ายในแต่ละครั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้กสทช. ได้รายงานต่อคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) แล้ว

ขณะที่การส่งตัวแทนเข้าร่วมรับการสรรหาเป็นสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) 2 คน บอร์ดมีมติเสนอชื่อ พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร เลขานุการประธานกสทช. ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสื่อสาร และรศ.สุเจตน์ จันทรังษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย เข้าร่วมรับการสรรหาในครั้งนี้


http://www.posttoday.com/ดิจิตอลไลฟ์/313566/กสทช-เลื่อนอีก-แจกคูปองดิจิทัลปลายก-ย-



______________________________




กสทช.หั่นงบแจกคูปองจาก 900 ล้านเหลือ 165.5 ล้านบาท



นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.)

       กสทช.เคาะคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการคูปองทีวีดิจิตอล 4 คุณสมบัติหลักและ 4 คุณสมบัติเฉพาะ พร้อมอนุมัติงบดำเนินโครงการ 165.5 ล้านบาทต่ำกว่าจากเดิมที่ตั้งไว้ 900 ล้านบาท เดินหน้าคู่ขนานเสนอ คสช. แต่ยังห้อยเงื่อนไขห้ามฟ้องร้องหากล้มโครงการ หวังแจกให้ทันตามกำหนดเดิมปลายเดือนกันยายน โดยเอกชนต้องพร้อมวางกล่องภายใน 16 ตุลาคมหลังดำเนินการได้เร็วขึ้น 10 วัน
   
       นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า ที่ประชุมกสทช.มีมติเกี่ยวกับขั้นตอนและวิธีการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการสนับสนุนประชาชน ในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล โดยกำหนดคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการเพื่อจำหน่ายเครื่องและอุปกรณ์รับสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ดังนี้ 1.ผู้เข้าร่วมโครงการต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. 2. ต้องมีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท 3. ต้องวางหลักประกัน5%ของจำนวนคูปอง โดยวิธีการหักเงินหลังนำคูปองไปขึ้นเงินแล้ว 4.ต้องไม่เป็นนิติบุคคลที่ กสทช.เคยพิจารณาไม่ยอมรับหรือต้องถูกหลีกเลี่ยง (Blacklist)
   
       อีกทั้งผู้เข้าร่วมโครงการต้องมีคุณสมบัติเฉพาะ โดย 1.ต้องมีจุดรับบริการและจุดบริการหลังการขายไม่น้อยกว่าจังหวัดละ 4 แห่ง ซึ่งอาจจะเป็นจุดเดียวกันได้ 2.ต้องจัดให้มีหมายเลขโทรศัพท์เพื่อรับเรื่องร้องเรียนตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดระยะเวลาเข้าร่วมโครงการ 3. จัดทำบัญชีสำรองจำหน่ายเครื่องรับโทรทัศน์หรือเครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ตามที่ กสทช.กำหนด 4. จัดให้มีหมายเลขประจำเครื่องเพื่อขอรับสติ๊กเกอร์ไปจำหน่ายในแต่ละครั้ง ทั้งนี้คุณสมบัติทั้งหมดหลังผ่านมติ กสทช.แล้ว ยังต้องผ่านความเห็นชอบจาก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยการดำเนินการระหว่างรอความเห็นชอบจาก คสช.จะทำงานคู่ขนานเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา แต่จะมีระบุในร่าง TOR ที่หากโครงการไม่สามารถดำเนินการได้ผู้เข้าร่วมโครงการจะไม่สามารถฟ้องร้อง กสทช.ได้
   
       ทั้งนี้งบประมาณในการดำเนินการพิมพ์และจัดส่งคูปองจำนวน 11.5 ล้านใบนั้นมติที่ประชุมอนุมัติงบประมาณทั้งสิ้น 165.5 ล้านบาทลดลงจากเดิมที่เคยตั้งไว้ที่ 900 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นค่าจัดพิมพ์โดยกองสลากกินแบ่งรัฐบาล มูลค่า 32.775 ล้านบาท และค่าดำเนินการตลอดจนค่าจัดส่งรวม 132.725 ล้านบาท โดยค่าดำเนินการแบ่งเป็นค่าจัดส่งคูปองฉบับละ 10 บาทโดยจะต้องดำเนินการเจรจากับบริษัท ไปรษณีย์ไทยที่เสนอราคามาที่ 13 บาทต่อฉบับอีกครั้ง งบประมาณดังกล่าวลดลงจากเดิมที่กำหนดวงเงินไว้ที่ 900 ล้านบาท ถือว่าเป็นการใช้งบประมาณที่ประหยัดที่สุด โดยจะมีการชี้แจงในรายละเอียดต่อ คสช.ช่วงบ่ายวันที่ 20สิงหาคม ต่อไป
   
       นายฐากรกล่าวว่า คาดว่าจะสามารถเริ่มคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการได้ในช่วงเดือนกันยายน หากได้ข้อสรุปทั้งหมดในช่วงเดือนสิงหาคมเสร็จสิ้น จะเริ่มแจกคูปองได้เร็วสุดช่วงปลายเดือนกันยายน โดยเอกชนจะต้องวางกล่องได้ภายใน 16 ตุลาคม หลังจากสามารถเลื่อนระยะเวลาดำเนินการให้เร็วขึ้นได้ 10 วัน ซึ่งจะส่งผลให้ระยะเวลาการจัดทำกล่องเพิ่มขึ้นและผลิตได้ทันตามกำหนดการเดิมคือช่วงวางจำหน่ายช่วงวันที่ 16 ตุลาคม จากเดิมที่ผู้ประกอบการคาดว่าจะสามารถวางกล่องได้ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2557 ทั้งนี้กล่องที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้ โดยสามารถแจ้งเรื่องที่ กสทช. เพื่อรับสติ๊กเกอร์และนำไปติด แต่ต้องจำหน่ายกล่องในราคา 690 บาท ซึ่งก็แล้วแต่ทางบริษัทเองว่าจะเข้าร่วมโครงการหรือไม่ เนื่องจากกล่องที่มีอยู่ในท้องตลาดปัจจุบันมีมาตรฐานเกินกว่าราคาที่ กสทช.กำหนด ซึ่งผู้ประกอบการอาจจะไม่คุ้นต้นทุนได้หากว่าจะร่วมโครงการ
   
       ทั้งนี้ที่ประชุมกสทช.วาระพิเศษนี้ ยังมีมติที่เสนอชื่อ พลอากาศเอก คณิต สุวรรณเนตร เลขานุการประธาน กสทช. ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสื่อสาร และรศ. ดร. สุเจตน์ จันทรังษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย เข้าร่วมรับการสรรหาเป็นสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) 2 คน ในส่วนของคณะกรรมการกสทช.
   

http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000095138

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.