Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

25 สิงหาคม 2557 HTC ไทย.พลณรงค์ ระบุ ส่วนแบ่งตลาดของเอชทีซีในปัจุบัน ถ้ามองในเชิงปริมาณของตัวเครื่องจะยังไม่ถึง 1% แต่ถ้าในแง่ของมูลค่าจะอยู่ราว 1% ในตลาดสมาร์ทโฟน

ประเด็นหลัก


       ในขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของเอชทีซีในปัจุบัน ถ้ามองในเชิงปริมาณของตัวเครื่องจะยังไม่ถึง 1% แต่ถ้าในแง่ของมูลค่าจะอยู่ราว 1% ในตลาดสมาร์ทโฟน ที่น่าสนใจคือ เมื่อเทียบช่วงครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมากับปีนี้ เอชทีซี เติบโตขึ้นกว่า 2.5 เท่า







______________________________




เอชทีซี ไทย ปรับแนวโฟกัสในจุดแข็ง ออก One E8 เจาะตลาดเกือบไฮเอนด์



       “เอชทีซี” เลือกเน้นตลาดเฉพาะ สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าก่อนขยายตลาดเพิ่มในอนาคต พร้อมนำผลิตภัณฑ์สเปกสูงมาจำหน่ายในระดับราคาหมื่นกลางๆ ในรุ่น One E8 จับกลุ่มผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสเปกสูงในระดับราคาจับต้องได้
     
       นายพลณรงค์ วัฒนโพธิธร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอชทีซี (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า การเข้ามาเสริมไลน์ของ HTC One E8 จะมาช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการเครื่องประสิทธิภาพสูงในระดับราคาที่ไม่สูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังได้นวัตกรรมเฉพาะของเอชทีซี ซึ่งเชื่อว่าจะมีผู้บริโภคกลุ่มที่ชื่นชอบหันมาใช้งานกันมากขึ้น
     
       “แนวทางการทำตลาดของเอชทีซีในตอนนี้จะฟังผู้บริโภคมากขึ้น ตั้งราคาสินค้าให้มีความคุ้มค่ามากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์ระดับพรีเมียมอยู่ ทำให้ตอนนี้เอชทีซีให้ความสำคัญต่อผู้บริโภคในระดับกลางถึงบนค่อนข้างมาก”
     
       ปัจจุบัน ราคาเฉลี่ยของสินค้าเอชทีซีจะอยู่ที่ราว 1 หมื่นบาท จากสินค้าที่จำหน่ายในท้องตลาดราว 4 รุ่น ไล่ตั้งแต่ Desire 310 Desire 816 One E8 และ One M8 โดยรุ่นที่ทำตลาดดีที่สุด และมีสัดส่วนกว่า 50% คือ รุ่น Desire 816 ที่อยู่ในช่วงระดับราคา 1 หมื่นบาท
     
       ในขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของเอชทีซีในปัจุบัน ถ้ามองในเชิงปริมาณของตัวเครื่องจะยังไม่ถึง 1% แต่ถ้าในแง่ของมูลค่าจะอยู่ราว 1% ในตลาดสมาร์ทโฟน ที่น่าสนใจคือ เมื่อเทียบช่วงครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมากับปีนี้ เอชทีซี เติบโตขึ้นกว่า 2.5 เท่า
     
       ส่วนช่องทางการจำหน่ายในปัจจุบัน ยังคงให้ความสำคัญต่อการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์หลักอย่าง ดีแทค พร้อมไปกับการขยายช่องทางจำหน่ายผ่านตัวแทนอย่าง ทีจีโฟน เจมาร์ท และซินเน็ค รวมถึงกำลังเจรจาเพิ่มเติมกับทาง บานาน่า ไอที เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้กว้างมากขึ้น
     
       อย่างไรก็ตาม นายพลณรงค์ ให้ข้อมูลถึงการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนในขณะนี้ว่า มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูงในทุกตลาด โดยเฉพาะในตลาดเครื่องราคาต่ำกว่า 5 พันบาท ที่หลายแบรนด์ต่างหั่นราคาผลิตภัณฑ์ลงไปขาย ซึ่งทางเอชทีซี ก็ได้มีการนำสมาร์ทโฟนในรุ่นราคาถูกมาลองตลาดกับดีแทคด้วยเช่นเดียวกัน
     
       “จากการลองตลาดทำให้รู้ว่าตอนนี้ผู้ผลิตหลายๆ รายในตลาดล่างกำลังเลือดโชกกันอยู่ เพราะถึงจะขายได้ปริมาณมากก็จริงแต่กำไรต่อเครื่องค่อนข้างน้อย ทำให้เอชทีซีมองว่าควรหันมาให้ความสำคัญต่อตลาดที่ตนเองมีจุดแข็งอยู่ดีกว่า”
     
       นายปกรณ์ มโนรมย์ภัทสาร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดธุรกิจโพสต์เพด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ให้ข้อมูลเสริมว่า ด้วยความร่วมมือระหว่างเอชทีซี และดีแทค ช่วยทำให้เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น เพราะในมุมของดีแทคก็ต้องการจำหน่ายแพกเกจ ส่วนในมุมของเอชทีซี ก็ต้องการกระจายเครื่องให้มากที่สุด โอเปอเรเตอร์โมเดลจึงถือว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา
     
       สำหรับตัว HTC One E8 ทางดีแทค มองว่า เป็นเครื่องที่เหมาะต่อผู้บริโภควัยทำงาน ที่มีบัตรเครดิต จึงทำโปรโมชันผ่อน 0% 20 เดือน พร้อมกับแพกเกจที่มีทั้งค่าโทร. และอินเทอร์เน็ต โดยลดค่าแพกเกจให้ 50% และยังสามารถนำไปใช้ร่วมกับโครงการ “ยิ่งอยู่นานยิ่งรักกัน” ที่นำระยะเวลาใช้งานมาเป็นส่วนลดค่าเครื่องสูงสุด 2,400 บาท โดยราคาจำหน่ยาของ One E8 จะอยู่ที่ 17,900 บาท 2 สี คือ ดำ และขาว แถมมากับเคส Dot View Cover ภายในกล่อง
     

http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000096715

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.