Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

03 กันยายน 2557 (บทความ) 8 ข้อป้องกัน ก่อนภาพหวิวฉันหลุด // รู้จักยับยั้งชั่งใจ!! แค่เพียงอดใจไม่ถ่ายภาพวาบหวิวของตัวเอง ก็จะไม่มีภาพให้หลุดออกสู่สาธารณะแล้ว

ประเด็นหลัก


       กฎข้อที่ 1 : รู้จักยับยั้งชั่งใจ
   
       แค่เพียงอดใจไม่ถ่ายภาพวาบหวิวของตัวเอง ก็จะไม่มีภาพให้หลุดออกสู่สาธารณะแล้ว และจริง ๆ ถ้าหากทำข้อนี้ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องมีข้อต่อ ๆ ไปให้ต้องทำอีกเลยด้วย แต่ถ้าอดใจไม่ได้จริง ๆ หรือว่าเป็นภาพที่อยากเก็บไว้จริง ๆ ก็ลองมองหากล้องดิจิตอลแทน เพราะการบันทึกภาพด้วยกล้องดิจิตอล และเก็บไฟล์ไว้ในเมมโมรี่การ์ด โอกาสที่มันจะหลุดออกไปในโลกอินเทอร์เน็ตนั้นเป็นไปได้ยากมาก หรือไม่ถ้าจะให้แน่ใจสุด ๆ ก็ลองถ่ายภาพด้วยกล้องโพลารอยด์ไปเลย
   
       กฎข้อที่ 2 : ถ้าเคยถ่ายเอาไว้ ก็ลบให้เร็วที่สุด
   
       เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเก็บไว้ จริง ๆ แล้ว วันที่คุณถ่าย คุณอาจจะพอใจกับมัน แต่หากมาเปิดดูตอนนี้ คุณอาจจะรู้สึกแย่ก็ได้ว่าวันนั้นฉันถ่ายลงไปได้อย่างไร ที่สำคัญ หากภาพนั้นอยู่บนโทรศัพท์มือถือของคุณนานเท่าไร โอกาสที่มันจะหาทางออกไปสู่โลกภายนอกก็มีมากขึ้นเท่านั้น อย่าลืมว่าการลบภาพนั้นไม่ยาก แต่ภาพที่หลุดออกไปแล้ว ไปตามเก็บมานั้นยากกว่ามากทีเดียว
   


______________________________



8 ข้อป้องกัน ก่อนภาพหวิวฉันหลุด



8 ข้อป้องกัน ก่อนภาพหวิวฉันหลุด
ขอบคุณภาพจาก Yahoo Tech

       ออกมาแล้วกับแถลงการณ์จากแอปเปิล เกี่ยวกับการสืบสวนกรณีภาพหลุดดาราฮอลลีวู้ดสุดอื้อฉาวนานนับ 40 ชั่วโมง โดยล่าสุดทางค่ายแอปเปิลให้เหตุผลถึงปัญหาภาพหลุดในครั้งนี้ว่าเกิดจากการเจาะรหัสผ่านที่มักเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ แต่ยังไม่พบว่าเป็นผลมาจากความผิดพลาดของระบบการให้บริการของแอปเปิล ทั้งจาก iCloud หรือบริการ Find my iPhone แต่อย่างใด โดยทางค่ายจะร่วมมือในการสืบสวนติดตามตัวผู้กระทำผิดรายนี้ต่อไปด้วย
     
       โดยแถลงการณ์จากแอปเปิลมีใจความดังนี้
     
       "We wanted to provide an update to our investigation into the theft of photos of certain celebrities. When we learned of the theft, we were outraged and immediately mobilized Apple’s engineers to discover the source. Our customers’ privacy and security are of utmost importance to us. After more than 40 hours of investigation, we have discovered that certain celebrity accounts were compromised by a very targeted attack on user names, passwords and security questions, a practice that has become all too common on the Internet. None of the cases we have investigated has resulted from any breach in any of Apple’s systems including iCloud® or Find my iPhone. We are continuing to work with law enforcement to help identify the criminals involved.
     
       To protect against this type of attack, we advise all users to always use a strong password and enable two-step verification. Both of these are addressed on our website at http://support.apple.com/kb/ht4232."
     
       อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นคุณสาว ๆ หรือคุณหนุ่ม ๆ เมื่อมาถึงยุคที่สมาร์ทโฟนติดกล้องชัดแจ๋ว น้อยคนที่จะยับยั้งชั่งใจไม่ถ่ายภาพตัวเองในตอนที่หุ่นยังเป๊ะไหว มันจึงต้องมีกันบ้างที่อยากจะลองถ่ายตัวเองในมุมต่าง ๆ ดู เพียงแต่หลายคนไม่ทันเฉลียวใจว่า ถ้าเกิดโทรศัพท์มือถือหาย จะเกิดผลอย่างไรตามมา
     
       วันนี้เราจึงมี 8 ข้อสะกิดใจ รวมถึงวิธีไม่ให้คุณกลายเป็นอีกหนึ่งในรายชื่อที่ถูกเสิร์ชหาบนอินเทอร์เน็ตมาฝากกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามเลย
     
       กฎข้อที่ 1 : รู้จักยับยั้งชั่งใจ
     
       แค่เพียงอดใจไม่ถ่ายภาพวาบหวิวของตัวเอง ก็จะไม่มีภาพให้หลุดออกสู่สาธารณะแล้ว และจริง ๆ ถ้าหากทำข้อนี้ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องมีข้อต่อ ๆ ไปให้ต้องทำอีกเลยด้วย แต่ถ้าอดใจไม่ได้จริง ๆ หรือว่าเป็นภาพที่อยากเก็บไว้จริง ๆ ก็ลองมองหากล้องดิจิตอลแทน เพราะการบันทึกภาพด้วยกล้องดิจิตอล และเก็บไฟล์ไว้ในเมมโมรี่การ์ด โอกาสที่มันจะหลุดออกไปในโลกอินเทอร์เน็ตนั้นเป็นไปได้ยากมาก หรือไม่ถ้าจะให้แน่ใจสุด ๆ ก็ลองถ่ายภาพด้วยกล้องโพลารอยด์ไปเลย
     
       กฎข้อที่ 2 : ถ้าเคยถ่ายเอาไว้ ก็ลบให้เร็วที่สุด
     
       เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเก็บไว้ จริง ๆ แล้ว วันที่คุณถ่าย คุณอาจจะพอใจกับมัน แต่หากมาเปิดดูตอนนี้ คุณอาจจะรู้สึกแย่ก็ได้ว่าวันนั้นฉันถ่ายลงไปได้อย่างไร ที่สำคัญ หากภาพนั้นอยู่บนโทรศัพท์มือถือของคุณนานเท่าไร โอกาสที่มันจะหาทางออกไปสู่โลกภายนอกก็มีมากขึ้นเท่านั้น อย่าลืมว่าการลบภาพนั้นไม่ยาก แต่ภาพที่หลุดออกไปแล้ว ไปตามเก็บมานั้นยากกว่ามากทีเดียว
     
       กฎข้อที่ 3 : การตั้งพาสเวิร์ดให้รัดกุม
     
       ควรตั้งให้รัดกุมสุด ๆ เพื่อที่ว่าเวลาโทรศัพท์มือถือหาย (มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทุกคน) มันจะได้ทำหน้าที่ป้องกันข้อมูลทุกอย่างของคุณเอาไว้ไม่ให้ใครที่หยิบฉวยไปสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ นอกจากนั้นแล้ว ทั้ง Apple และ Android ยังได้ตั้งให้มีการแบ็กอัปข้อมูลของผู้ใช้ขึ้นสู่คลาวด์ หรือส่งไปที่เดสก์ทอปโดยอัตโนมัติ ในกรณีนี้ ผู้ใช้ควรเข้าไปตั้งค่าระบบไม่ให้มีการแบ็กอัปข้อมูลที่เซนซิทีฟเหล่านั้นด้วย
     
       กฎข้อที่ 4 : ไม่เก็บภาพไว้บนคลาวด์
     
       แล้วจะเก็บภาพไว้ที่ไหน บางคนอาจถามคำถามนี้ แต่ต้องบอกว่า ในยุคนี้สมัยนี้ หาสถานที่ที่ไว้ใจยาก ควรไว้ใจตัวเองเป็นดีที่สุด ถ้ามีงบประมาณ อาจมองหา External Harddisk สักตัว สำหรับเก็บภาพโดยเฉพาะ หรือจะไรท์ลงซีดี แต่ถ้าจำเป็นต้องอยู่บนอินเทอร์เน็ต อาจเก็บไว้ในอีเมลที่คุณตั้งชื่อแบบไม่เจาะจง เพื่อป้องกันแฮกเกอร์คาดเดารหัสผ่านได้
     
       กฎข้อที่ 5 : ใช้บริการ two-factor authentication โดยด่วน
     
       ปัจจุบัน ทั้งแอปเปิล กูเกิล เฟซบุ๊ก Dropbox ฯลฯ ได้เปิดให้บริการ two-factor authentication แล้ว ผู้ใช้ควรรีบเปิดบริการนี้โดยด่วน เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลที่อัปขึ้นไปแล้ว
     
       กฎข้อที่ 6 : ไม่เก็บภาพในที่ที่ไม่ปลอดภัย
     
       หากบริการที่คุณใช้อยู่ไม่มี two-factor authentication ให้คุณ คำแนะนำก็คือ ย้ายสถานที่เก็บเสีย หรือไม่ก็ไม่ต้องเก็บไฟล์ที่เซนซิทีฟไว้ที่นั่น
     
       กฎข้อที่ 7 : ถ้าถ่ายภาพหวิว แล้วต้องการส่งต่อให้คนรู้ใจ?
     
       ในเมื่อคิดดีแล้ว และแน่ใจว่าฉันต้องถ่ายภาพนี้จริง ๆ เพื่อจะส่งต่อให้ใครบางคน ลองใช้บริการของ Wickr, CyberDust หรือ Snapchat ในการส่งข้อมูล เพราะมันจะไม่เก็บภาพเอาไว้ในเครื่องของคุณ รวมถึงจะลบภาพนั้นในทิ้งเมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนด ในกรณีนี้ควรกลับไปตรวจสอบให้มั่นใจด้วยว่า ภาพของคุณถูกลบไปแล้วจริง ๆ
     
       กฎข้อที่ 8 : อย่าไว้ใจใครเป็นดีที่สุด
     
       ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือคืออุปกรณ์ "ส่วนตัว" ขอย้ำว่าส่วนตัว เพราะบางคนก็พลาดแบบง่าย ๆ เมื่อไว้ใจคนผิด ปล่อยให้เขาล่วงรู้พาสเวิร์ด และเข้าถึงข้อมูลภายในเครื่องของคุณได้โดยง่าย โดยเฉพาะคุณหนุ่ม ๆ หลายคนปล่อยให้พาสเวิร์ดล่วงรู้ไปถึงเพื่อนพนักงาน และทำให้เพื่อนพนักงานเข้ามาแอบอ่านข้อมูลในเฟซบุ๊ก เมล ไลน์ และอีกหลากหลายบริการ แถมเพื่อนพนักงานบางคนร้ายหนักกว่านั้น เขาอาจเข้ามาตอบในแมสเซนเจอร์ ปลอมเป็นตัวคุณ คุยกับแฟนของคุณเป็นเรื่องเป็นราวไปเลยก็ได้ กรณีนี้อันตรายไม่แพ้ภาพถ่ายลับ ๆ หลุดออกไปว่อนเน็ตเช่นกัน
     
       เป็นเรื่องน่าสลดใจที่ดาราบางคนต้องทนทุกข์ทรมานกับภาพถ่ายลับ ๆ ของตนเองที่ปรากฏอยู่ทั่วไปบนโลกออนไลน์จากฝีมือของแฮกเกอร์ตัวแสบ สำหรับคนที่ยังไม่ต้องพบเจอกับความทุกข์เช่นนั้น กันไว้เสียตั้งแต่วันนี้ดีกว่า


http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000100878

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.