03 กันยายน 2557 เลขาธิการ กสทช.ฐากร ระบุ คูปองจะมีอายุ 6 เดือน หากประชาชนไม่ใช้ก็ไม่ต้องส่งคืน สามารถทำลายทิ้งได้ ซึ่งเราคาดว่าจะมีประชาชนมาใช้สิทธิ์แลกเพียง 80 % เท่านั้น
ประเด็นหลัก
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า กสทช.จะเริ่มแจกคูปองเงินสดส่วนลดสำหรับแลกซื้ออุปกรณ์รับชมทีวีระบบดิจิตอลสำหรับภาคพื้นดิน มูลค่า 690 บาท ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2557 ผ่านทางไปรษณีย์จนครบประมาณ 11.45- 11.89 ล้านครัวเรือน รวม 45 จังหวัดภายในสิ้นปีนี้ จากนั้นภายใน 2 ปี ต้องแจกให้ครบทั้งหมด 77 จังหวัด ครอบคลุม 22.9 ล้านครัวเรือน ภายใต้งบประมาณ 16,165.265 ล้านบาท (แบ่งเป็น 1.ค่าคูปอง 22.9 ล้านฉบับๆ ละ 690 บาท เป็นเงิน 15,801 ล้านบาท 2.ค่าพิมพ์คูปอง ฉบับละ 2.85 บาท เป็นเงิน 65.265 ล้านบาท 3.ค่าสติ๊กเกอร์คู่คูปอง ฉบับ 1.50 บาท เป็นเงิน 34.350 ล้านบาท ซึ่งจะได้รับคืนจากบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ 4.ค่าสติ๊กเกอร์เครื่องหมายแสดงความสอดคล้องมาตรฐาน ฉบับละ 1.50 บาท เป็นเงิน 34.350 ล้านบาท ซึ่งจะได้รับคืนจากบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ 5.ค่าจัดส่งคูปองโดยไปรษณีย์ไทย ฉบับละ 10 บาท เป็นเงิน 229 ล้านบาท 6.ค่าธรรมเนียมธนาคาร ฉบับละ 0.55 บาท เป็นเงิน 12.595 ล้านบาท โดยบริษัทที่เข้าร่วมโครงการจะเป็นผู้ชำระ 7.ค่าระบบบริหารจัดการโครงการ จำนวน 50 ล้านบาท 8.ค่าดำเนินการตรวจสอบ จำนวน 20 ล้านบาท)
'สำหรับคูปองจะมีอายุ 6 เดือน หากประชาชนไม่ใช้ก็ไม่ต้องส่งคืน สามารถทำลายทิ้งได้ ซึ่งเราคาดว่าจะมีประชาชนมาใช้สิทธิ์แลกเพียง 80 % เท่านั้น เพราะบางคนก็อาจจะมีกล่องหรือทีวีรับสัญญาณดิจิตอลอยู่แล้ว'
______________________________
กสทช.แจกคูปองทีวีดิจิตอล 690 บาท 15 ต.ค. สามารถแลกกล่องได้ 25 ต.ค.57
ประชาชนเตรียมเฮ กสทช. เคาะ 15 ต.ค.เริ่มแจกคูปองทีวีระบบดิจิตอล690 บาท เพื่อนำไปแลกได้ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม โดยภายในสิ้นปี 2557 จะแจกให้ครอบคลุมกว่า 11 ล้านครัวเรือน รวม 45 จังหวัด คิดเป็น 52% ของจำนวนประชากร ก่อนจะแจกให้ครบทั้ง 77 จังหวัด ครอบคลุม 22.9 ล้านครัวเรือนภายใน 2 ปี
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า กสทช.จะเริ่มแจกคูปองเงินสดส่วนลดสำหรับแลกซื้ออุปกรณ์รับชมทีวีระบบดิจิตอลสำหรับภาคพื้นดิน มูลค่า 690 บาท ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2557 ผ่านทางไปรษณีย์จนครบประมาณ 11.45- 11.89 ล้านครัวเรือน รวม 45 จังหวัดภายในสิ้นปีนี้ จากนั้นภายใน 2 ปี ต้องแจกให้ครบทั้งหมด 77 จังหวัด ครอบคลุม 22.9 ล้านครัวเรือน ภายใต้งบประมาณ 16,165.265 ล้านบาท (แบ่งเป็น 1.ค่าคูปอง 22.9 ล้านฉบับๆ ละ 690 บาท เป็นเงิน 15,801 ล้านบาท 2.ค่าพิมพ์คูปอง ฉบับละ 2.85 บาท เป็นเงิน 65.265 ล้านบาท 3.ค่าสติ๊กเกอร์คู่คูปอง ฉบับ 1.50 บาท เป็นเงิน 34.350 ล้านบาท ซึ่งจะได้รับคืนจากบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ 4.ค่าสติ๊กเกอร์เครื่องหมายแสดงความสอดคล้องมาตรฐาน ฉบับละ 1.50 บาท เป็นเงิน 34.350 ล้านบาท ซึ่งจะได้รับคืนจากบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ 5.ค่าจัดส่งคูปองโดยไปรษณีย์ไทย ฉบับละ 10 บาท เป็นเงิน 229 ล้านบาท 6.ค่าธรรมเนียมธนาคาร ฉบับละ 0.55 บาท เป็นเงิน 12.595 ล้านบาท โดยบริษัทที่เข้าร่วมโครงการจะเป็นผู้ชำระ 7.ค่าระบบบริหารจัดการโครงการ จำนวน 50 ล้านบาท 8.ค่าดำเนินการตรวจสอบ จำนวน 20 ล้านบาท)
'สำหรับคูปองจะมีอายุ 6 เดือน หากประชาชนไม่ใช้ก็ไม่ต้องส่งคืน สามารถทำลายทิ้งได้ ซึ่งเราคาดว่าจะมีประชาชนมาใช้สิทธิ์แลกเพียง 80 % เท่านั้น เพราะบางคนก็อาจจะมีกล่องหรือทีวีรับสัญญาณดิจิตอลอยู่แล้ว'
สำหรับ 11 จังหวัดนำร่อง เริ่มแจกคูปองตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2557 มีทั้งหมด 4 สถานีฐาน ครอบคลุม 23 จังหวัด ได้แก่ 1. สถานีฐาน กรุงเทพมหานคร ครอบคลุม 17 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก ราชบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี สระบุรี ปราจีนบุรี 2. สถานีฐาน นครราชสีมา 3. สถานีฐาน เชียงใหม่ ครอบคลุมถึง จังหวัดลำพูน และ 4. สถานีฐานสงขลา ครอบคลุมจังหวัด พัทลุง และ ปัตตานี
ส่วนเฟส 2 จะแจกให้เสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคมอีก 7 สถานีฐานครอบคลุม 22 จังหวัด เช่น อุบลราชธานี สุราษฏร์ธานี ระยอง สิงห์บุรี สุโขทัย ขอนแก่น อุดรธานี เป็นต้น
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการแจกคูปองในครั้งนี้ได้เริ่มทยอยเข้ามายื่นเอกสารแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. โดยกสทช.จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการทุก 15 วัน ซึ่งจะประกาศชุดแรกในวันที่ 15 ก.ย. หากหลักฐานการเข้าร่วมโครงการไม่ครบผู้ประกอบการสามารถยื่นเอกสารเพิ่มเติมได้และจะประกาศรายชื่ออีกครั้งในวันที่ 30 ก.ย. และ 15 ต.ค. ตามลำดับ ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมโครงการที่ผ่านการคัดเลือกต้องหาสถานที่ในการรับแลกคูปองจังหวัดละ 4 แห่ง ทั้งนี้ ประชาชนสามารถนำคูปองไปแลกกล่องเซ็ตท็อปบ็อกซ์ได้ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 2557
http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000101057
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า กสทช.จะเริ่มแจกคูปองเงินสดส่วนลดสำหรับแลกซื้ออุปกรณ์รับชมทีวีระบบดิจิตอลสำหรับภาคพื้นดิน มูลค่า 690 บาท ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2557 ผ่านทางไปรษณีย์จนครบประมาณ 11.45- 11.89 ล้านครัวเรือน รวม 45 จังหวัดภายในสิ้นปีนี้ จากนั้นภายใน 2 ปี ต้องแจกให้ครบทั้งหมด 77 จังหวัด ครอบคลุม 22.9 ล้านครัวเรือน ภายใต้งบประมาณ 16,165.265 ล้านบาท (แบ่งเป็น 1.ค่าคูปอง 22.9 ล้านฉบับๆ ละ 690 บาท เป็นเงิน 15,801 ล้านบาท 2.ค่าพิมพ์คูปอง ฉบับละ 2.85 บาท เป็นเงิน 65.265 ล้านบาท 3.ค่าสติ๊กเกอร์คู่คูปอง ฉบับ 1.50 บาท เป็นเงิน 34.350 ล้านบาท ซึ่งจะได้รับคืนจากบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ 4.ค่าสติ๊กเกอร์เครื่องหมายแสดงความสอดคล้องมาตรฐาน ฉบับละ 1.50 บาท เป็นเงิน 34.350 ล้านบาท ซึ่งจะได้รับคืนจากบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ 5.ค่าจัดส่งคูปองโดยไปรษณีย์ไทย ฉบับละ 10 บาท เป็นเงิน 229 ล้านบาท 6.ค่าธรรมเนียมธนาคาร ฉบับละ 0.55 บาท เป็นเงิน 12.595 ล้านบาท โดยบริษัทที่เข้าร่วมโครงการจะเป็นผู้ชำระ 7.ค่าระบบบริหารจัดการโครงการ จำนวน 50 ล้านบาท 8.ค่าดำเนินการตรวจสอบ จำนวน 20 ล้านบาท)
'สำหรับคูปองจะมีอายุ 6 เดือน หากประชาชนไม่ใช้ก็ไม่ต้องส่งคืน สามารถทำลายทิ้งได้ ซึ่งเราคาดว่าจะมีประชาชนมาใช้สิทธิ์แลกเพียง 80 % เท่านั้น เพราะบางคนก็อาจจะมีกล่องหรือทีวีรับสัญญาณดิจิตอลอยู่แล้ว'
______________________________
กสทช.แจกคูปองทีวีดิจิตอล 690 บาท 15 ต.ค. สามารถแลกกล่องได้ 25 ต.ค.57
ประชาชนเตรียมเฮ กสทช. เคาะ 15 ต.ค.เริ่มแจกคูปองทีวีระบบดิจิตอล690 บาท เพื่อนำไปแลกได้ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม โดยภายในสิ้นปี 2557 จะแจกให้ครอบคลุมกว่า 11 ล้านครัวเรือน รวม 45 จังหวัด คิดเป็น 52% ของจำนวนประชากร ก่อนจะแจกให้ครบทั้ง 77 จังหวัด ครอบคลุม 22.9 ล้านครัวเรือนภายใน 2 ปี
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า กสทช.จะเริ่มแจกคูปองเงินสดส่วนลดสำหรับแลกซื้ออุปกรณ์รับชมทีวีระบบดิจิตอลสำหรับภาคพื้นดิน มูลค่า 690 บาท ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2557 ผ่านทางไปรษณีย์จนครบประมาณ 11.45- 11.89 ล้านครัวเรือน รวม 45 จังหวัดภายในสิ้นปีนี้ จากนั้นภายใน 2 ปี ต้องแจกให้ครบทั้งหมด 77 จังหวัด ครอบคลุม 22.9 ล้านครัวเรือน ภายใต้งบประมาณ 16,165.265 ล้านบาท (แบ่งเป็น 1.ค่าคูปอง 22.9 ล้านฉบับๆ ละ 690 บาท เป็นเงิน 15,801 ล้านบาท 2.ค่าพิมพ์คูปอง ฉบับละ 2.85 บาท เป็นเงิน 65.265 ล้านบาท 3.ค่าสติ๊กเกอร์คู่คูปอง ฉบับ 1.50 บาท เป็นเงิน 34.350 ล้านบาท ซึ่งจะได้รับคืนจากบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ 4.ค่าสติ๊กเกอร์เครื่องหมายแสดงความสอดคล้องมาตรฐาน ฉบับละ 1.50 บาท เป็นเงิน 34.350 ล้านบาท ซึ่งจะได้รับคืนจากบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ 5.ค่าจัดส่งคูปองโดยไปรษณีย์ไทย ฉบับละ 10 บาท เป็นเงิน 229 ล้านบาท 6.ค่าธรรมเนียมธนาคาร ฉบับละ 0.55 บาท เป็นเงิน 12.595 ล้านบาท โดยบริษัทที่เข้าร่วมโครงการจะเป็นผู้ชำระ 7.ค่าระบบบริหารจัดการโครงการ จำนวน 50 ล้านบาท 8.ค่าดำเนินการตรวจสอบ จำนวน 20 ล้านบาท)
'สำหรับคูปองจะมีอายุ 6 เดือน หากประชาชนไม่ใช้ก็ไม่ต้องส่งคืน สามารถทำลายทิ้งได้ ซึ่งเราคาดว่าจะมีประชาชนมาใช้สิทธิ์แลกเพียง 80 % เท่านั้น เพราะบางคนก็อาจจะมีกล่องหรือทีวีรับสัญญาณดิจิตอลอยู่แล้ว'
สำหรับ 11 จังหวัดนำร่อง เริ่มแจกคูปองตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2557 มีทั้งหมด 4 สถานีฐาน ครอบคลุม 23 จังหวัด ได้แก่ 1. สถานีฐาน กรุงเทพมหานคร ครอบคลุม 17 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก ราชบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี สระบุรี ปราจีนบุรี 2. สถานีฐาน นครราชสีมา 3. สถานีฐาน เชียงใหม่ ครอบคลุมถึง จังหวัดลำพูน และ 4. สถานีฐานสงขลา ครอบคลุมจังหวัด พัทลุง และ ปัตตานี
ส่วนเฟส 2 จะแจกให้เสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคมอีก 7 สถานีฐานครอบคลุม 22 จังหวัด เช่น อุบลราชธานี สุราษฏร์ธานี ระยอง สิงห์บุรี สุโขทัย ขอนแก่น อุดรธานี เป็นต้น
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการแจกคูปองในครั้งนี้ได้เริ่มทยอยเข้ามายื่นเอกสารแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. โดยกสทช.จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการทุก 15 วัน ซึ่งจะประกาศชุดแรกในวันที่ 15 ก.ย. หากหลักฐานการเข้าร่วมโครงการไม่ครบผู้ประกอบการสามารถยื่นเอกสารเพิ่มเติมได้และจะประกาศรายชื่ออีกครั้งในวันที่ 30 ก.ย. และ 15 ต.ค. ตามลำดับ ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมโครงการที่ผ่านการคัดเลือกต้องหาสถานที่ในการรับแลกคูปองจังหวัดละ 4 แห่ง ทั้งนี้ ประชาชนสามารถนำคูปองไปแลกกล่องเซ็ตท็อปบ็อกซ์ได้ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 2557
http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000101057
ไม่มีความคิดเห็น: