03 กันยายน 2557 (บทความ) คำถามที่ "ซีทีเอช" ไม่ตอบ / แมวดำ // ว โดยเฉพาะเรื่องของการ "เยียวยา" ให้กับบรรดาแฟนฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ลงทุนควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อแพคเกจจ่าย 2 ปี ดู 3 ปี
ประเด็นหลัก
แรกเริ่มเดิมทีคอลัมน์ฉบับที่ท่านผู้อ่านได้เพิ่งพินิจกันอยู่ตอนนี้ควรจะเป็นเรื่องราวบทสรุปแห่งการแข่งขันมหกรรมกีฬายูธ โอลิมปิก 2014 ที่เมืองนานจิง ประเทศจีน ซึ่งเพิ่งปิดฉากลงไป อย่างไรก็ตามมีเหตุให้ต้องเปลี่ยนเรื่องเป็นการด่วน เนื่องจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ช่วงบ่ายแก่ แดดอ่อน ชวนให้เริ่มจะง่วง (อย่าไปบอกเจ้านายผมเชียว) บังเอิญโทรศัพท์ดังขึ้นปลุกให้ตื่นจากภวังค์ที่ใกล้นำหน้าผากสัมผัสโต๊ะทำงานเต็มแก่ เมื่อรับสายจึงทราบว่าเป็นการติดต่อมาจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ "ซีทีเอช" เพื่อแจ้งกำหนดการผู้บริหารว่าจะมีการแถลงความร่วมมือ สำหรับเปิดตัวโครงการถ่ายทอดไฮไลต์ศึกลูกหนังลีกสูงสุดแดนผู้ดี ผ่านดิจิตอลบิลบอร์ดทั่วกรุงเทพ
ซึ่งเรื่องนี้ประจวบเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับความสนใจของชาวบ้านร้านตลาดทั้งหลาย ที่เป็นสมาชิก "ซีทีเอช" อยากได้รับคำตอบในหลากหลายเรื่องราว โดยเฉพาะเรื่องของการ "เยียวยา" ให้กับบรรดาแฟนฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ลงทุนควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อแพคเกจจ่าย 2 ปี ดู 3 ปี นับรวมไปก็กว่า 2 หมื่น มันเจ็บอกก็ตรงที่ดันเอาไปปล่อยให้ "เฮียฮ้อ" ขายกล่อง "พรีเมียร์ลีก-ลาลีกา" ราคา 1,590 บาท บวกกับแพคเกจรายเดือน 180 บาทเท่านั้น แม้จะไม่มีระบบ "เอชดี" ดูภาพคมชัดมากมาย แต่แค่ "เอสดี" ก็เรียกเสียงโอดครวญให้ลูกค้าเดิมของ "ซีทีเอช" ถึงขั้นร้องโหยหวนกันเลยทีเดียว
ก่อนที่จะเอ่ยปากรับคำเชิญร่วมงาน จึงได้สอบถามถึงฝ่ายประชาสัมพันธ์ถึงมาตรการ "เยียวยา" ลูกค้าผู้น่าเอ็นดูกลุ่มนี้ว่ามีอะไรที่อยากจะช่วยเหลือ หรือแบ่งเบาความน้อยเนื้อต่ำใจของเขาและเธอเหล่านี้ ที่ว่ากันว่าน่าจะมีจำนวนราว 3-4 หมื่นราย โดยคำถามดังกล่าวพอจับอาการได้ว่าน่าจะสร้างความกระอักกระอ่วนให้กับปลายสายจนถึงต้องไปขอคำปรึกษาจากคนที่คาดว่าเป็นผู้บังคับบัญชา ก่อนตอบแบบเลี่ยงๆ ว่าเรียนเชิญไปหาคำตอบกับผู้บริหาร "ซีทีเอช" ที่งานเลยจะดีกว่า
______________________________
คำถามที่ "ซีทีเอช" ไม่ตอบ / แมวดำ
คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
แรกเริ่มเดิมทีคอลัมน์ฉบับที่ท่านผู้อ่านได้เพิ่งพินิจกันอยู่ตอนนี้ควรจะเป็นเรื่องราวบทสรุปแห่งการแข่งขันมหกรรมกีฬายูธ โอลิมปิก 2014 ที่เมืองนานจิง ประเทศจีน ซึ่งเพิ่งปิดฉากลงไป อย่างไรก็ตามมีเหตุให้ต้องเปลี่ยนเรื่องเป็นการด่วน เนื่องจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ช่วงบ่ายแก่ แดดอ่อน ชวนให้เริ่มจะง่วง (อย่าไปบอกเจ้านายผมเชียว) บังเอิญโทรศัพท์ดังขึ้นปลุกให้ตื่นจากภวังค์ที่ใกล้นำหน้าผากสัมผัสโต๊ะทำงานเต็มแก่ เมื่อรับสายจึงทราบว่าเป็นการติดต่อมาจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ "ซีทีเอช" เพื่อแจ้งกำหนดการผู้บริหารว่าจะมีการแถลงความร่วมมือ สำหรับเปิดตัวโครงการถ่ายทอดไฮไลต์ศึกลูกหนังลีกสูงสุดแดนผู้ดี ผ่านดิจิตอลบิลบอร์ดทั่วกรุงเทพ
ซึ่งเรื่องนี้ประจวบเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับความสนใจของชาวบ้านร้านตลาดทั้งหลาย ที่เป็นสมาชิก "ซีทีเอช" อยากได้รับคำตอบในหลากหลายเรื่องราว โดยเฉพาะเรื่องของการ "เยียวยา" ให้กับบรรดาแฟนฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ลงทุนควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อแพคเกจจ่าย 2 ปี ดู 3 ปี นับรวมไปก็กว่า 2 หมื่น มันเจ็บอกก็ตรงที่ดันเอาไปปล่อยให้ "เฮียฮ้อ" ขายกล่อง "พรีเมียร์ลีก-ลาลีกา" ราคา 1,590 บาท บวกกับแพคเกจรายเดือน 180 บาทเท่านั้น แม้จะไม่มีระบบ "เอชดี" ดูภาพคมชัดมากมาย แต่แค่ "เอสดี" ก็เรียกเสียงโอดครวญให้ลูกค้าเดิมของ "ซีทีเอช" ถึงขั้นร้องโหยหวนกันเลยทีเดียว
ก่อนที่จะเอ่ยปากรับคำเชิญร่วมงาน จึงได้สอบถามถึงฝ่ายประชาสัมพันธ์ถึงมาตรการ "เยียวยา" ลูกค้าผู้น่าเอ็นดูกลุ่มนี้ว่ามีอะไรที่อยากจะช่วยเหลือ หรือแบ่งเบาความน้อยเนื้อต่ำใจของเขาและเธอเหล่านี้ ที่ว่ากันว่าน่าจะมีจำนวนราว 3-4 หมื่นราย โดยคำถามดังกล่าวพอจับอาการได้ว่าน่าจะสร้างความกระอักกระอ่วนให้กับปลายสายจนถึงต้องไปขอคำปรึกษาจากคนที่คาดว่าเป็นผู้บังคับบัญชา ก่อนตอบแบบเลี่ยงๆ ว่าเรียนเชิญไปหาคำตอบกับผู้บริหาร "ซีทีเอช" ที่งานเลยจะดีกว่า
ใจหนึ่งก็อดห่วงว่ากลัวว่าจะไม่ได้คำตอบอะไรที่ชัดเจนอีก แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจส่งผู้สื่อข่าวในทีมไปร่วมงานเผื่อจะมีข้อมูลคืบหน้าในวันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งภายในงานก็มี คุณเชิดศักดิ์ กูเกียรติอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด(มหาชน) เจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ กับ คุณปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด(มหาชน) ให้ข้อมูลการถ่ายทอดไฮไลต์ลูกหนังลีกสูงสุดแดนผู้ดีในสื่อดิจิตอลบิลบอร์ด 100 จอ พร้อมกันทั่วกรุงเทพ
โดยทั้ง 100 จอ จะตั้งกระจายทั่วกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณ 4 แยก ในเขตสำคัญๆ หรือแหล่งที่มีการจราจรสูง เช่น บริเวณแยกอโศก ซึ่งจะถ่ายทอดไฮไลต์การแข่งขันฟุตบอล รวมถึง ผลและโปรแกรมการแข่งขันในแต่ละสัปดาห์ เพื่อให้เข้าถึงผู้คนกว่า 10 ล้านคน และในอนาคตอันใกล้อาจมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันคู่สำคัญผ่านจอ LED ทั่วกรุงเทพฯ
พร้อมกันนี้ยังกล่าวกันต่อไปอีกว่าเป็นการนำฟุตบอลอังกฤษ ไปให้แฟนบอลตัวจริงได้ชมกันบนถนนรนแคมโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ผ่านจอสวยๆ ที่มีความคมชัดสูง มองเห็นได้จากระยะไกล และไม่ทำลายสายตา อีกทั้งยังคงเร่งพัฒนาช่องรายการและเนื้อหาที่มีสาระบันเทิงให้ครบครัน เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างทั่วถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย
หลังจากนั้นมีความพยายามที่จะตั้งคำถามถึงการเยียวยาลูกค้าของ "ซีทีเอช" ทว่าก็ได้รับการขอร้องจากคุณเชิดศักดิ์ ว่าไม่อาจสละเวลาให้ข้อมูลต่างๆ อย่างที่อยากรู้ อยากฟังได้ เพราะมีภาระกิจอื่น ก่อนเดินจากไปพร้อมกับความว่างเปล่า ส่วนตัวแล้วเป็นคนคิดมาก พยายามคิดอยู่ว่าเขาอาจไม่อยากตอบคำถามที่ไม่ส่งผลดีต่อภาพพจน์องค์กรการค้าของเขา ซึ่งหากคุณผู้อ่านไม่เชื่อลองไปดูในแฟนเพจ หรือโทรหาคอลเซนเตอร์ผู้ให้บริการรายนี้ได้ว่าเขาพร้อมตอบคำถามแบบนี้หรือไม่
http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9570000098731
แรกเริ่มเดิมทีคอลัมน์ฉบับที่ท่านผู้อ่านได้เพิ่งพินิจกันอยู่ตอนนี้ควรจะเป็นเรื่องราวบทสรุปแห่งการแข่งขันมหกรรมกีฬายูธ โอลิมปิก 2014 ที่เมืองนานจิง ประเทศจีน ซึ่งเพิ่งปิดฉากลงไป อย่างไรก็ตามมีเหตุให้ต้องเปลี่ยนเรื่องเป็นการด่วน เนื่องจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ช่วงบ่ายแก่ แดดอ่อน ชวนให้เริ่มจะง่วง (อย่าไปบอกเจ้านายผมเชียว) บังเอิญโทรศัพท์ดังขึ้นปลุกให้ตื่นจากภวังค์ที่ใกล้นำหน้าผากสัมผัสโต๊ะทำงานเต็มแก่ เมื่อรับสายจึงทราบว่าเป็นการติดต่อมาจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ "ซีทีเอช" เพื่อแจ้งกำหนดการผู้บริหารว่าจะมีการแถลงความร่วมมือ สำหรับเปิดตัวโครงการถ่ายทอดไฮไลต์ศึกลูกหนังลีกสูงสุดแดนผู้ดี ผ่านดิจิตอลบิลบอร์ดทั่วกรุงเทพ
ซึ่งเรื่องนี้ประจวบเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับความสนใจของชาวบ้านร้านตลาดทั้งหลาย ที่เป็นสมาชิก "ซีทีเอช" อยากได้รับคำตอบในหลากหลายเรื่องราว โดยเฉพาะเรื่องของการ "เยียวยา" ให้กับบรรดาแฟนฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ลงทุนควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อแพคเกจจ่าย 2 ปี ดู 3 ปี นับรวมไปก็กว่า 2 หมื่น มันเจ็บอกก็ตรงที่ดันเอาไปปล่อยให้ "เฮียฮ้อ" ขายกล่อง "พรีเมียร์ลีก-ลาลีกา" ราคา 1,590 บาท บวกกับแพคเกจรายเดือน 180 บาทเท่านั้น แม้จะไม่มีระบบ "เอชดี" ดูภาพคมชัดมากมาย แต่แค่ "เอสดี" ก็เรียกเสียงโอดครวญให้ลูกค้าเดิมของ "ซีทีเอช" ถึงขั้นร้องโหยหวนกันเลยทีเดียว
ก่อนที่จะเอ่ยปากรับคำเชิญร่วมงาน จึงได้สอบถามถึงฝ่ายประชาสัมพันธ์ถึงมาตรการ "เยียวยา" ลูกค้าผู้น่าเอ็นดูกลุ่มนี้ว่ามีอะไรที่อยากจะช่วยเหลือ หรือแบ่งเบาความน้อยเนื้อต่ำใจของเขาและเธอเหล่านี้ ที่ว่ากันว่าน่าจะมีจำนวนราว 3-4 หมื่นราย โดยคำถามดังกล่าวพอจับอาการได้ว่าน่าจะสร้างความกระอักกระอ่วนให้กับปลายสายจนถึงต้องไปขอคำปรึกษาจากคนที่คาดว่าเป็นผู้บังคับบัญชา ก่อนตอบแบบเลี่ยงๆ ว่าเรียนเชิญไปหาคำตอบกับผู้บริหาร "ซีทีเอช" ที่งานเลยจะดีกว่า
______________________________
คำถามที่ "ซีทีเอช" ไม่ตอบ / แมวดำ
คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
แรกเริ่มเดิมทีคอลัมน์ฉบับที่ท่านผู้อ่านได้เพิ่งพินิจกันอยู่ตอนนี้ควรจะเป็นเรื่องราวบทสรุปแห่งการแข่งขันมหกรรมกีฬายูธ โอลิมปิก 2014 ที่เมืองนานจิง ประเทศจีน ซึ่งเพิ่งปิดฉากลงไป อย่างไรก็ตามมีเหตุให้ต้องเปลี่ยนเรื่องเป็นการด่วน เนื่องจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ช่วงบ่ายแก่ แดดอ่อน ชวนให้เริ่มจะง่วง (อย่าไปบอกเจ้านายผมเชียว) บังเอิญโทรศัพท์ดังขึ้นปลุกให้ตื่นจากภวังค์ที่ใกล้นำหน้าผากสัมผัสโต๊ะทำงานเต็มแก่ เมื่อรับสายจึงทราบว่าเป็นการติดต่อมาจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ "ซีทีเอช" เพื่อแจ้งกำหนดการผู้บริหารว่าจะมีการแถลงความร่วมมือ สำหรับเปิดตัวโครงการถ่ายทอดไฮไลต์ศึกลูกหนังลีกสูงสุดแดนผู้ดี ผ่านดิจิตอลบิลบอร์ดทั่วกรุงเทพ
ซึ่งเรื่องนี้ประจวบเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับความสนใจของชาวบ้านร้านตลาดทั้งหลาย ที่เป็นสมาชิก "ซีทีเอช" อยากได้รับคำตอบในหลากหลายเรื่องราว โดยเฉพาะเรื่องของการ "เยียวยา" ให้กับบรรดาแฟนฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ลงทุนควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อแพคเกจจ่าย 2 ปี ดู 3 ปี นับรวมไปก็กว่า 2 หมื่น มันเจ็บอกก็ตรงที่ดันเอาไปปล่อยให้ "เฮียฮ้อ" ขายกล่อง "พรีเมียร์ลีก-ลาลีกา" ราคา 1,590 บาท บวกกับแพคเกจรายเดือน 180 บาทเท่านั้น แม้จะไม่มีระบบ "เอชดี" ดูภาพคมชัดมากมาย แต่แค่ "เอสดี" ก็เรียกเสียงโอดครวญให้ลูกค้าเดิมของ "ซีทีเอช" ถึงขั้นร้องโหยหวนกันเลยทีเดียว
ก่อนที่จะเอ่ยปากรับคำเชิญร่วมงาน จึงได้สอบถามถึงฝ่ายประชาสัมพันธ์ถึงมาตรการ "เยียวยา" ลูกค้าผู้น่าเอ็นดูกลุ่มนี้ว่ามีอะไรที่อยากจะช่วยเหลือ หรือแบ่งเบาความน้อยเนื้อต่ำใจของเขาและเธอเหล่านี้ ที่ว่ากันว่าน่าจะมีจำนวนราว 3-4 หมื่นราย โดยคำถามดังกล่าวพอจับอาการได้ว่าน่าจะสร้างความกระอักกระอ่วนให้กับปลายสายจนถึงต้องไปขอคำปรึกษาจากคนที่คาดว่าเป็นผู้บังคับบัญชา ก่อนตอบแบบเลี่ยงๆ ว่าเรียนเชิญไปหาคำตอบกับผู้บริหาร "ซีทีเอช" ที่งานเลยจะดีกว่า
ใจหนึ่งก็อดห่วงว่ากลัวว่าจะไม่ได้คำตอบอะไรที่ชัดเจนอีก แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจส่งผู้สื่อข่าวในทีมไปร่วมงานเผื่อจะมีข้อมูลคืบหน้าในวันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งภายในงานก็มี คุณเชิดศักดิ์ กูเกียรติอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด(มหาชน) เจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ กับ คุณปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด(มหาชน) ให้ข้อมูลการถ่ายทอดไฮไลต์ลูกหนังลีกสูงสุดแดนผู้ดีในสื่อดิจิตอลบิลบอร์ด 100 จอ พร้อมกันทั่วกรุงเทพ
โดยทั้ง 100 จอ จะตั้งกระจายทั่วกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณ 4 แยก ในเขตสำคัญๆ หรือแหล่งที่มีการจราจรสูง เช่น บริเวณแยกอโศก ซึ่งจะถ่ายทอดไฮไลต์การแข่งขันฟุตบอล รวมถึง ผลและโปรแกรมการแข่งขันในแต่ละสัปดาห์ เพื่อให้เข้าถึงผู้คนกว่า 10 ล้านคน และในอนาคตอันใกล้อาจมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันคู่สำคัญผ่านจอ LED ทั่วกรุงเทพฯ
พร้อมกันนี้ยังกล่าวกันต่อไปอีกว่าเป็นการนำฟุตบอลอังกฤษ ไปให้แฟนบอลตัวจริงได้ชมกันบนถนนรนแคมโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ผ่านจอสวยๆ ที่มีความคมชัดสูง มองเห็นได้จากระยะไกล และไม่ทำลายสายตา อีกทั้งยังคงเร่งพัฒนาช่องรายการและเนื้อหาที่มีสาระบันเทิงให้ครบครัน เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างทั่วถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย
หลังจากนั้นมีความพยายามที่จะตั้งคำถามถึงการเยียวยาลูกค้าของ "ซีทีเอช" ทว่าก็ได้รับการขอร้องจากคุณเชิดศักดิ์ ว่าไม่อาจสละเวลาให้ข้อมูลต่างๆ อย่างที่อยากรู้ อยากฟังได้ เพราะมีภาระกิจอื่น ก่อนเดินจากไปพร้อมกับความว่างเปล่า ส่วนตัวแล้วเป็นคนคิดมาก พยายามคิดอยู่ว่าเขาอาจไม่อยากตอบคำถามที่ไม่ส่งผลดีต่อภาพพจน์องค์กรการค้าของเขา ซึ่งหากคุณผู้อ่านไม่เชื่อลองไปดูในแฟนเพจ หรือโทรหาคอลเซนเตอร์ผู้ให้บริการรายนี้ได้ว่าเขาพร้อมตอบคำถามแบบนี้หรือไม่
http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9570000098731
ไม่มีความคิดเห็น: