Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

03 กันยายน 2557 คสช.ไพบูลย์ ชี้ กสทช.ไม่ต้องมาถามกรณีช่อง3 ซึ่ง กสทช. ต้องเป็นผู้ตัดสินใจเอง ไม่ต้องโยนมาให้ตน ในเมื่อ กสทช. รู้อยู่แล้ว ถึงเจตนารมย์ ว่า คสช. ไม่เคยไปก้าวล่วงเกี่ยวกับการจัดระเบียบการออกอากาศ

ประเด็นหลัก



ทั้งนี้พลเอกไพบูลย์ กล่าวว่าจากการดูเนื้อหาในประกาศของ คสช. แต่ละฉบับ โดยเฉพาะประกาศฉบับที่ 27 ไม่มีระบุถึง กสทช. เกี่ยวกับการจัดการระบบอะนาล็อก หรือ ดิจิตอล กสทช. ต้องมีความเข้าใจถึงเจตนารมย์ของประกาศ คสช. และไม่มีความจำเป็นต้องส่งเรื่องมาให้ฝ่ายกฎหมาย คสช.ตรวจสอบ

ซึ่ง กสทช. ต้องเป็นผู้ตัดสินใจเอง ไม่ต้องโยนมาให้ตน ในเมื่อ กสทช. รู้อยู่แล้ว ถึงเจตนารมย์ ว่า คสช. ไม่เคยไปก้าวล่วงเกี่ยวกับการจัดระเบียบการออกอากาศ เหตุใด กสทช. จึงไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว



       จากนั้นได้ประกาศอนุญาตให้ทีวีระบบบอกรับสมาชิกออกอากาศได้ เพียงแต่ขอความร่วมมือในเรื่องเนื้อหา จนถึงขณะนี้ ทีวีของช่องสีเสื้อต่างๆ ก็ออกอากาศได้จนครบทุกสถานี ดังนั้นประกาศของ คสช. จึงไม่มีอะไรเกี่ยวกับการจัดระบบอนาล็อก หรือดิจิตอลของ กสทช.เลย เป็นเรื่องการสร้างกระบวนการของ กสทช.เอง ซึ่ง กสทช.ต้องตัดสินใจบนพื้นฐานตรงนั้น กสทช.ต้องเข้าใจบทบาทของตัวเอง คำสั่ง คสช. 3 บรรทัดแรก อ่านแล้วก็จะเข้าใจทันทีว่า ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ กสทช.เลย ตนไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงไม่เข้าใจเจตนารมย์ เพราะหากได้อ่านรายละเอียดจนเข้าใจ ก็จะทราบว่า คสช.ไม่เคยก้าวล่วงการจัดระบบ เรื่องนี้ กสทช.ต้องไปคุยกับเอกชนคู่กรณีเอาเอง
   
       "ผมอ่านคำสั่ง คสช.ทุกฉบับ อย่างละเอียดมา 2-3 วัน ยังไม่เห็นว่าตรงไหนไปเกี่ยวข้องกับการจัดระบบของ กสทช. จึงขอฝากไปบอกด้วยเลยตรงนี้ว่า ไม่ต้องมาถามผม จะต้องมาถามทำไม ไปทำหน้าที่ของตัวเอง"
















______________________________



คสช.ตอก กสทช. เลอะ ถามปัญหาช่อง 3 ยันประกาศทุกฉบับไม่เกี่ยวการจัดคลื่นความถี่


"พล.อ.ไพบูลย์" เฉ่ง กสทช. เลอะส่งปัญหาช่อง 3 ให้ คสช.พิจารณา ยันประกาศทุกฉบับที่ออกมา ไม่มีส่วนใดเกี่ยวกับเรื่องจัดการสรรคลื่นความถี่ดีจิตอล และระบบอนาล็อก บอกเป็นเรื่องที่ กสทช.สร้างกระบวนการมาเอง จึงต้องไปตัดสินใจบนพื้นฐานนั้น อย่ามาถาม คสช.
     
       พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม (คสช.) รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ออกมาระบุว่า จะส่งเรื่องให้ฝ่ายกฎหมาย คสช.เพื่อขอแนวปฏิบัติที่ชัดเจน ประกาศ คสช.ฉบับที่ 27 กรณีปัญหาสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ระบบอนาล็อก พ้นจากฟรีทีวี ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมาจะสามารถออกอากาศผ่านดาวเทียม และเคเบิ้ลทีวีได้หรือไม่ว่า ประกาศของ คสช.ทุกฉบับ ตั้งแต่ฉบับแรก วันที่ 22 , 23 , 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ไม่มีฉบับใด หรือข้อไหน ที่บอกเรื่องการจัดการความถี่เรื่องนี้เลย เริ่มตั้งแต่คำสั่งฉบับแรก เป็นการประกาศให้สถานีโทรทัศน์หยุดทำการ ต่อมาเริ่มให้ฟรีทีวี และสถานีวิทยุออกอากาศได้ ยกเว้นวิทยุชุมชน
     
       จากนั้นได้ประกาศอนุญาตให้ทีวีระบบบอกรับสมาชิกออกอากาศได้ เพียงแต่ขอความร่วมมือในเรื่องเนื้อหา จนถึงขณะนี้ ทีวีของช่องสีเสื้อต่างๆ ก็ออกอากาศได้จนครบทุกสถานี ดังนั้นประกาศของ คสช. จึงไม่มีอะไรเกี่ยวกับการจัดระบบอนาล็อก หรือดิจิตอลของ กสทช.เลย เป็นเรื่องการสร้างกระบวนการของ กสทช.เอง ซึ่ง กสทช.ต้องตัดสินใจบนพื้นฐานตรงนั้น กสทช.ต้องเข้าใจบทบาทของตัวเอง คำสั่ง คสช. 3 บรรทัดแรก อ่านแล้วก็จะเข้าใจทันทีว่า ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ กสทช.เลย ตนไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงไม่เข้าใจเจตนารมย์ เพราะหากได้อ่านรายละเอียดจนเข้าใจ ก็จะทราบว่า คสช.ไม่เคยก้าวล่วงการจัดระบบ เรื่องนี้ กสทช.ต้องไปคุยกับเอกชนคู่กรณีเอาเอง
     
       "ผมอ่านคำสั่ง คสช.ทุกฉบับ อย่างละเอียดมา 2-3 วัน ยังไม่เห็นว่าตรงไหนไปเกี่ยวข้องกับการจัดระบบของ กสทช. จึงขอฝากไปบอกด้วยเลยตรงนี้ว่า ไม่ต้องมาถามผม จะต้องมาถามทำไม ไปทำหน้าที่ของตัวเอง"
     
       ผู้สื่อข่าวถามว่า กสทช.ถูกวิจารณ์เรื่องการทำงาน ว่าไม่เหมาะสม ควรจะถูกยุบหรือไม่ พล.อ ไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่ต้องมาถาม ไม่ตอบ บอกแล้วว่าไม่ยุ่งกับองค์กรอิสระ เมื่อถามต่อว่า กรณีที่ช่อง 3 อ้างคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 27 ฟ้องศาลปกครอง พล.อ ไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่ขอก้าวล่วงคำสั่งของศาล

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9570000101103&Keyword=%A1%CA%B7

______________________


รมว.ยุติธรรม เปิดงานกองทุนแม่ของแผ่นดิน



รมว.ยุติธรรม เป็นประธานเปิดงานกองทุนแม่ของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษามหาราชินี พร้อมยันคสช.ไม่ก้าวล่วงการจัดระบบอนาล็อกหรือดิจิตอลของกสทช.เป็นเรื่องที่กสทช.ไปคุยกับเอกชนเอง
     
       วันนี้ (3 ก.ย.) ที่ห้องจูบิลี่ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงานกองทุนแม่ของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษามหาราชินี โดยมีนายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ปปส.) พร้อมผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน กว่า 2,500 คน ให้การต้อนรับ
     
       พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวในงาน “กองทุนแม่ของแผ่นดิน” ถึงสถานการณ์ยาเสพติด ว่า ที่ผ่านมาพอใจผลจับกุมในการจับกุมนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ ไม่ใช่เพียงจับรายย่อย ซึ่งทั้งหมดเป็นผลมาจากการบูรณาการด้านการข่าว และการสั่งการให้เข้าเอ็กซเรย์ ตรวจค้นพื้นที่ภายในหมู่บ้านที่เป็นเป้าหมายทั่วประเทศ โดยให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านแจ้งเบาะแส ว่าหมู่บ้านใดบ้างที่มีปัญหายาเสพติด ทั้งนี้งานด้านการป้องกันและปราบปรามนั้นจะต้องเดินคู่ขนานกัน ซึ่งหลังจากนี้จะประเมินผลการดำเนินการของหมู่บ้านที่ได้รับเงินกองทุนแม่ เงินกองทุนทูบีนัมเบอร์วัน รวมถึง เงินช่วยเหลือจากป.ป.ส.และกระทรวงสาธารณสุข ว่าหลังได้รับเงินช่วยเหลืออุดหนุนไปแล้วยังมีการจับกุมยาเสพติดในหมู่บ้านหรือไม่ มากน้อยเพียงใด เพื่อนำไปจัดระบบ งานในด้านปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตามหากตำรวจทำงานอย่างเข้มงวดคู่ขนานกับมหาดไทย รวมถึงการกวาดล้างยาเสพติดภายในเรือนจำ ก็จะทำให้ปัญหายาเสพติดเบาบางไปได้มาก ทั้งนี้ตนได้ประสานไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับตำรวจในพื้นที่ให้เข้มงวดในการปราบปรามยาเสพติด และเจ้าหน้าที่รัฐต้องไม่ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเสียเอง
     
       นอกจากนี้ พล.อ.ไพบูลย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)ออกมาระบุว่าจะส่งเรื่องให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. เพื่อขอแนวปฎิบัติที่ชัดเจนกรณีสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ระบบอนาล็อกพ้นสภาพจากฟรีทีวีไปตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา ว่า ตามประกาศของคสช.ทุกฉบับ วันที่ 22 ,23,27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ไม่มีข้อไหนที่บอกเรื่องการจัดการความถี่เรื่องนี้เลย เริ่มตั้งแต่คำสั่งฉบับแรกเป็นการประกาศให้สถานีโทรทัศน์หยุดทำการ ต่อมาก็เริ่มให้ฟรีทีวีและสถานีวิทยุออกอากาศได้ ยกเว้นวิทยุชุมชน จากนั้นได้ประกาศอนุญาตให้ทีวีระบบบอกรับสมาชิกออกอากาศได้เพียงแต่ขอความร่วมมือในเรื่องเนื้อหา จนถึงขณะนี้ทีวีของช่องสีเสื้อต่างๆก็ออกอากาศได้จนครบทุกสถานี ดังนั้นประกาศของคสช.จึงไม่มีอะไรเกี่ยวกับการจัดระบบอนาล็อกหรือดิจิตอลของกสทช.เลย ซึ่งก็เป็นเรื่องการสร้างกระบวนการของกสทช.เอง โดยกสทช.ต้องตัดสินใจบนพื้นฐานตรงนั้น และกสทช.ต้องเข้าใจบทบาทของตัวเอง ทั้งนี้ตามคำสั่งของคสช. สามบรรทัดแรกอ่านแล้วก็จะเข้าใจทันทีว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับกสทช.เลย ตนจึงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่เข้าใจเจตนารมย์ เพราะหากได้อ่านรายละเอียดจนเข้าใจก็จะทราบว่าคสช.ไม่เคยก้าวล่วงการการจัดระบบ และเรื่องนี้กสทช.ต้องไปคุยกับเอกชนซึ่งเป็นคู่กรณีเอาเอง
     
       เมื่อถามว่า กสทช.ถูกวิจารณ์เรื่องการทำงานว่าไม่เหมาะสม ควรจะถูกยุบหรือไม่ พล.อ ไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่ต้องมาถาม ไม่ตอบ ไม่ยุ่งกับองค์กรอิสระ
     
       สำหรับกรณีที่ช่อง 3 อ้างคำสั่งคสช.ฉบับที่ 27 ฟ้องศาลปกครองนั้น พล.อ ไพบูลย์ กล่าวว่า ตนไม่ขอก้าวล่วงคำสั่งของศาล


http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000101096&Keyword=%A1%CA%B7

_________________________



คสช.โยน กสทช.ดำเนินการกับช่อง 3 เอง



       พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 อ้างถึงประกาศ คสช.ฉบับที่ 27 ให้สามารถยังออกอากาศทั่วประเทศ ว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะต้องดำเนินการ และเข้าใจว่า เคยมีการทำหนังสือจาก กสทช.มาหารือกับ คสช.แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องของ กสทช.ที่จะไปดำเนินการกับผู้ประกอบการเอง

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9570000100954&Keyword=%A1%CA%B7


________________________


"ไพบูลย์"ให้กสทช.ตัดสินช่อง3อนาล็อค ยันคสช.ไม่ก้าวล่วงจัดระเบียบทีวี
วันที่ 03 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 12:51:47 น.



วันที่ 3 กันยายน พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ระบุถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กสทช. จะทำหนังสือหารือไปยังฝ่ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ คสช.เพื่อขอความชัดเจนเกี่ยวกับประกาศ ฉบับที่ 27 ที่ทำให้ช่อง 3 ระบบอะนาล็อก ยังคงออกอากาศได้ทุกแพลตฟอร์มในขณะนี้ จากเดิมที่ต้องออกอากาศได้เฉพาะภาคพื้นดินตั้งแต่วันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา



ทั้งนี้พลเอกไพบูลย์ กล่าวว่าจากการดูเนื้อหาในประกาศของ คสช. แต่ละฉบับ โดยเฉพาะประกาศฉบับที่ 27 ไม่มีระบุถึง กสทช. เกี่ยวกับการจัดการระบบอะนาล็อก หรือ ดิจิตอล กสทช. ต้องมีความเข้าใจถึงเจตนารมย์ของประกาศ คสช. และไม่มีความจำเป็นต้องส่งเรื่องมาให้ฝ่ายกฎหมาย คสช.ตรวจสอบ

ซึ่ง กสทช. ต้องเป็นผู้ตัดสินใจเอง ไม่ต้องโยนมาให้ตน ในเมื่อ กสทช. รู้อยู่แล้ว ถึงเจตนารมย์ ว่า คสช. ไม่เคยไปก้าวล่วงเกี่ยวกับการจัดระเบียบการออกอากาศ เหตุใด กสทช. จึงไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ส่วนการแก้ไขปัญหายาเสพติด พลเอกไพบูลย์ ระบุว่าจากสถิติ สามารถดำเนินการได้มากขึ้น ขณะที่การควบคุมป้องกัน ทางปลัดกระทรวงมหาดไทยร่วมกับ ป.ป.ส. ได้เอ็กซเรย์หมู่บ้านต่างๆ โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นแหล่งข่าว และสามารถจับกุมผู้ค้ารายใหญ่ได้มากขึ้น

ส่วนการบังคับใช้กฎหมาย หลังตนได้เข้ามาดูแลกระทรวงยุติธรรมแล้ว คิดว่าต้องดูแลควบคุมเจ้าหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ ให้เป็นระบบระมัดระวังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

นอกจากนี้ส่วนการผ่อนคลายกฎอัยการศึก ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าจะสามารถผ่อนคลาย ไปในลักษณะใดได้บ้าง แต่ปัจจุบันการใช้กฎอัยการศึก เป็นการใช้เพื่อแก้ปัญหาบางจุด ที่กฎหมายไม่มีบังคับ อาทิ การขจัดผู้มีอิทธิพล และจัดระเบียบต่างๆ เพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1409723481

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.