Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

03 กันยายน 2557 jib.สมยศ ระบุ คาดว่าปีนี้จะมีรายได้จากช่องทางออนไลน์ไม่มากนัก เทียบกับหน้าร้านที่ปัจจุบันมี 140 สาขา แต่ปีหน้าคาดว่าจะมีสัดส่วนถึง 20% ของรายได้รวม หรือเดือนละ 100 ล้านบาท

ประเด็นหลัก



นายสมยศ เชาวลิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ.ไอ.บี. คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของร้านค้าปลีกไอที "เจ.ไอ.บี." เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกอุปกรณ์ไอทีมา 13 ปี ตัวแปรทางธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะค่าเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นตลอด แต่กำไรจากการขายสินค้าไอทีลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายหน้าร้านในบางสาขาตามไม่ทันค่าใช้จ่าย ประกอบกับความนิยมในการใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเลตแย่งกำลังซื้อคอมพิวเตอร์พีซีและโน้ตบุ๊ก ทำให้ต้องปรับแผนรับมือทั้งพิจารณาปิดบางสาขาที่ไม่คุ้ม และเพิ่มช่องทางขายผ่านระบบออนไลน์ เพราะไม่มีค่าเช่า และผู้บริโภคเริ่มสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น

"เปิดหน้าร้านช่วงปีแรกๆ รายได้ดีมาก แต่ปีถัดๆ ไปไม่ดีนัก ช่วงแรกรายได้กับค่าเช่าต่อเดือนยังห่างกันอยู่มาก เปิดไปไม่เกิน 5 ปี ค่าเช่าเริ่มวิ่งตามรายได้ ทำให้ปีนี้ตัดสินใจปิดสาขาไป 30 แห่ง เพื่อลดต้นทุน และเดินหน้าการขายผ่านระบบออนไลน์เต็มตัว ที่ผ่านมาเว็บไซต์เรามีการอัพเดตราคาสินค้า ตลอดจนกลายเป็นแหล่งอ้างอิงเรื่องราคา โดยในแต่ละวันมีคนเข้าเว็บเฉลี่ย 1.5 หมื่นคน มีการเปิดดูข้อมูล 8 หน้า/ยูไอพี จึงน่าจะทำประโยชน์อะไรได้มากกว่านี้"

และ "เจ.ไอ.บี." เริ่มขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา หลังปรับปรุงรูปแบบหน้าเว็บไซต์ www.jib.co.th และเพิ่มปุ่ม "ซื้อ" เข้าไปในแต่ละสินค้าที่โชว์บนหน้าเว็บ (ไม่คิดบริการส่งถ้าสั่งเกิน 5,000 บาท) ได้สินค้าในวันรุ่งขึ้น คาดว่าปีนี้จะมีรายได้จากช่องทางออนไลน์ไม่มากนัก เทียบกับหน้าร้านที่ปัจจุบันมี 140 สาขา แต่ปีหน้าคาดว่าจะมีสัดส่วนถึง 20% ของรายได้รวม หรือเดือนละ 100 ล้านบาท

"ปีที่แล้วเรามีรายได้ 5.8 พันล้านบาท ปีนี้ตั้งไว้ 6.4 พันล้านบาท แต่อาจไม่ถึงเพราะเศรษฐกิจยังไม่ดี มู้ดจับจ่ายของผู้บริโภคยังไม่กลับมา ทำให้ครึ่งปีแรกปิดยอดขายได้ที่ 3 พันล้านบาท ถึงสิ้นปีที่ 6 พันล้านบาทคงได้ ส่วนช่องทางออนไลน์เราเตรียมงบฯไว้ลุยเต็มที่ ทั้งเพิ่มโปรแกรมเมอร์, ทำโฆษณาสื่อสารการตลาดให้ซื้อคอมฯออนไลน์ ต้องซื้อที่ เจ.ไอ.บี."














______________________________



ค้าปลีกไอที-มือถือ"ปรับตัว ดัน"ออนไลน์สโตร์"เพิ่มยอด



ค้าปลีก "ไอที-มือถือ" ปั้นออนไลน์สโตร์เพิ่ม หลังค่าเช่าพื้นที่พุ่ง-คนเดินช็อปน้อยลง "เจ.ไอ.บี." เผยเริ่มมา 4 เดือนยอดขายวิ่งฉิว ตั้งเป้าปีหน้าโกยยอดขาย 100 ล้านบาท/เดือน ฟาก "คอมเซเว่น" เตรียมผุดบริการ "แมงโก้ช็อปปิ้ง" เพิ่มทางเลือกลูกค้าในต่างจังหวัดหลังขยายสาขา "แมงโก้โมบาย" ครบ 100 แห่งทั่วประเทศปลายปีนี้ ด้านเชนสโตร์ดัง "เจมาร์ท" อัพเกรดเว็บรองรับอนาคต

นายสมยศ เชาวลิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ.ไอ.บี. คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของร้านค้าปลีกไอที "เจ.ไอ.บี." เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกอุปกรณ์ไอทีมา 13 ปี ตัวแปรทางธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะค่าเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นตลอด แต่กำไรจากการขายสินค้าไอทีลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายหน้าร้านในบางสาขาตามไม่ทันค่าใช้จ่าย ประกอบกับความนิยมในการใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเลตแย่งกำลังซื้อคอมพิวเตอร์พีซีและโน้ตบุ๊ก ทำให้ต้องปรับแผนรับมือทั้งพิจารณาปิดบางสาขาที่ไม่คุ้ม และเพิ่มช่องทางขายผ่านระบบออนไลน์ เพราะไม่มีค่าเช่า และผู้บริโภคเริ่มสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น

"เปิดหน้าร้านช่วงปีแรกๆ รายได้ดีมาก แต่ปีถัดๆ ไปไม่ดีนัก ช่วงแรกรายได้กับค่าเช่าต่อเดือนยังห่างกันอยู่มาก เปิดไปไม่เกิน 5 ปี ค่าเช่าเริ่มวิ่งตามรายได้ ทำให้ปีนี้ตัดสินใจปิดสาขาไป 30 แห่ง เพื่อลดต้นทุน และเดินหน้าการขายผ่านระบบออนไลน์เต็มตัว ที่ผ่านมาเว็บไซต์เรามีการอัพเดตราคาสินค้า ตลอดจนกลายเป็นแหล่งอ้างอิงเรื่องราคา โดยในแต่ละวันมีคนเข้าเว็บเฉลี่ย 1.5 หมื่นคน มีการเปิดดูข้อมูล 8 หน้า/ยูไอพี จึงน่าจะทำประโยชน์อะไรได้มากกว่านี้"

และ "เจ.ไอ.บี." เริ่มขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา หลังปรับปรุงรูปแบบหน้าเว็บไซต์ www.jib.co.th และเพิ่มปุ่ม "ซื้อ" เข้าไปในแต่ละสินค้าที่โชว์บนหน้าเว็บ (ไม่คิดบริการส่งถ้าสั่งเกิน 5,000 บาท) ได้สินค้าในวันรุ่งขึ้น คาดว่าปีนี้จะมีรายได้จากช่องทางออนไลน์ไม่มากนัก เทียบกับหน้าร้านที่ปัจจุบันมี 140 สาขา แต่ปีหน้าคาดว่าจะมีสัดส่วนถึง 20% ของรายได้รวม หรือเดือนละ 100 ล้านบาท

"ปีที่แล้วเรามีรายได้ 5.8 พันล้านบาท ปีนี้ตั้งไว้ 6.4 พันล้านบาท แต่อาจไม่ถึงเพราะเศรษฐกิจยังไม่ดี มู้ดจับจ่ายของผู้บริโภคยังไม่กลับมา ทำให้ครึ่งปีแรกปิดยอดขายได้ที่ 3 พันล้านบาท ถึงสิ้นปีที่ 6 พันล้านบาทคงได้ ส่วนช่องทางออนไลน์เราเตรียมงบฯไว้ลุยเต็มที่ ทั้งเพิ่มโปรแกรมเมอร์, ทำโฆษณาสื่อสารการตลาดให้ซื้อคอมฯออนไลน์ ต้องซื้อที่ เจ.ไอ.บี."

ด้านนายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของร้านค้าปลีกไอที "บานาน่า ไอที" และ "ไอสตูดิโอ บาย คอม เซเว่น" เปิดเผยว่า หากเปิดร้านค้าปลีกโทรศัพท์มือถือภายใต้ชื่อ "แมงโก้โมบาย" ครบ 100 แห่งในปลายปีนี้แล้วจะเพิ่มบริการ "แมงโก้ช็อปปิ้ง" สำหรับสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ในร้านด้วย เพราะสินค้าที่วางขายในแมงโก้โมบายมีเฉพาะสมาร์ทโฟนระดับกลาง-ล่าง เพื่อเป็นทางเลือกให้คนพื้นที่ไม่ต้องวิ่งเข้าเมืองไปซื้อคอมพิวเตอร์

"ซื้อจากระบบที่เราทำไว้ในร้าน ราคาจะถูกกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อจูงใจผู้บริโภค ทั้งลูกค้าไม่ต้องกังวลว่าจะมีปัญหาเรื่องการจ่ายเงิน ส่วนเรื่องการส่งของอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะส่งถึงบ้านหรือส่งที่แมงโก้โมบายแล้วให้มารับเอง"

ทั้งนี้"แมงโก้โมบาย" ปัจจุบันขยายไปทั้งหมด 20 สาขา เน้นต่างจังหวัดเป็นหลัก มีกรุงเทพฯเพียง 2-3 สาขา ส่วนการจำหน่ายออนไลน์ของบริษัทนั้น จะทำออนไลน์สโตร์บนเว็บไซต์ www.bananait.com จำหน่ายอุปกรณ์ไอทีทุกรูปแบบ ราคาเท่ากับหน้าร้าน "บานาน่าไอที" และ "บานาน่า โมบาย" ที่สิ้นปีจะมี 163 สาขา กับ 48 สาขาตามลำดับ ส่วนสินค้าแอปเปิลจะไม่มีการจำหน่ายออนไลน์ เพราะในประเทศไทยมีแอปเปิลมาทำการจัดจำหน่ายเอง ทำให้บริษัทขายที่หน้าร้าน "ไอสตูดิโอ" ที่สิ้นปีมี 107 สาขาเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม รายได้จากช่องทางออนไลน์ยังมีสัดส่วนน้อยมาก เมื่อเทียบกับการจำหน่ายผ่านช่องทางปกติ ซึ่งปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 30% จากสินค้าแอปเปิล 35%, โน้ตบุ๊ก 30%, เดสก์ทอป "ดีไอวาย" 10% ที่เหลือเป็นสมาร์ทโฟน, แท็บเลต และอุปกรณ์เสริม

นางวนิดา พงษ์อัชฌา ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บมจ.เจมาร์ท เปิดเผยว่า บริษัทเปิดเว็บไซต์ www.jaymart.co.th และขายสินค้าออนไลน์ตั้งแต่แรกเมื่อสิบปีก่อน แต่ในยุคนั้นการชำระเงินต้องโอนผ่านธนาคาร และติดต่อคอลเซ็นเตอร์ทำให้ยอดขายแทบไม่มี แต่ผู้บริโภคนิยมเข้าเว็บเพื่อเช็กราคาสินค้า จนเมื่อ 2-3 ปีก่อนได้ปรับปรุงเว็บใหม่เชื่อมต่อเข้ากับเพย์เมนต์เกตเวย์ ทำให้การซื้อสินค้าออนไลน์ง่ายขึ้นจึงมียอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้น ทำให้มูลค่ายังไม่มากนัก แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมาบริษัททำโปรโมชั่นบนเว็บต่อเนื่อง



http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1409664412

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.