Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

10 กันยายน 2557 IPM.มานพ โต้ กสทช. ( ด้วยเหตุผลเหมือนกันแต่คนละฝั่ง ) การเรียงช่องใหม่อีก คือ ให้ช่อง 1-36 เป็นช่องของทีวีดิจิตอล ทำให้ผู้บริโภคสับสนและผู้ประกอบการดาวเทียมและเคเบิลก็ต้องมีต้นทุนในการเรียงช่องใหม่

ประเด็นหลัก



       นายมานพ โตการค้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอพีเอ็ม จำกัด และประธานชมรมผู้ประกอบการโทรทัศน์โครงข่ายทีวีดาวเทียมและเคเบิลกล่าวว่า การที่ชมรมฯออกมายื่นหนังสือคัดค้าน แสดงให้เห็นว่าไม่เห็นด้วยกับมติของ กสท.ที่บอกให้เรียงช่องใหม่ จากเดิมที่ผู้ประกอบการจะเรียงช่อง 1-10 เอง ขณะที่ช่องของทีวีดิจิตอลจะเรียงตั้งแต่ช่อง 11-46 ซึ่งเรื่องนี้ผู้ประกอบการดาวเทียมและเคเบิลเพิ่งจัดเรียงช่องตามนี้ไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่เพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น มติ กสท.ก็ออกมากำหนดให้มีการเรียงช่องใหม่อีก คือ ให้ช่อง 1-36 เป็นช่องของทีวีดิจิตอล หากเป็นเช่นนี้มันจะมีผลกระทบทำให้ผู้บริโภคสับสนและผู้ประกอบการดาวเทียมและเคเบิลก็ต้องมีต้นทุนในการเรียงช่องใหม่อีกจึงต้องออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม

______________________________




ชมรมดาวเทียม-เคเบิล ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกสท.ค้านการเรียงช่องใหม่





ชมรมดาวเทียม-เคเบิล ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกสท.ค้านการเรียงช่องใหม่
ชมรมผู้ประกอบการโทรทัศน์โครงข่ายดาวเทียมและเคเบิล ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.)

       ชมรมผู้ประกอบการโทรทัศน์โครงข่ายดาวเทียมและเคเบิล ยื่นหนังสือคัดค้านการเรียงช่องใหม่ของทีวีดิจิตอล โอดเป็นแค่ลูกเลี้ยง ลั่นขอความเป็นธรรมให้ผู้ประกอบการแข่งขันกันอย่างแท้จริง แจงเพิ่งเรียงช่องใหม่ แค่ 4 เดือน จะให้เรียงใหม่อีก หวั่นกระทบผู้บริโภค สร้างความสับสน และเพิ่มต้นทุนในการเรียงช่องใหม่ ส่วนประเด็นช่อง 3 พร้อมทำเรื่องอุทธรณ์ต่อ กสทช.นัดหารือ 'สุภิญญา' พรุ่งนี้ (10 ก.ย.)
     
       เมื่อวันที่ 9 ก.ย. มีกลุ่มของชมรมผู้ประกอบการโทรทัศน์โครงข่ายดาวเทียมและเคเบิล ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เพื่อคัดค้านการออกประกาศฉบับใหม่ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการเรียงช่อง ตามมติ ของกสท.เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา
     
       นายมานพ โตการค้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอพีเอ็ม จำกัด และประธานชมรมผู้ประกอบการโทรทัศน์โครงข่ายทีวีดาวเทียมและเคเบิลกล่าวว่า การที่ชมรมฯออกมายื่นหนังสือคัดค้าน แสดงให้เห็นว่าไม่เห็นด้วยกับมติของ กสท.ที่บอกให้เรียงช่องใหม่ จากเดิมที่ผู้ประกอบการจะเรียงช่อง 1-10 เอง ขณะที่ช่องของทีวีดิจิตอลจะเรียงตั้งแต่ช่อง 11-46 ซึ่งเรื่องนี้ผู้ประกอบการดาวเทียมและเคเบิลเพิ่งจัดเรียงช่องตามนี้ไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่เพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น มติ กสท.ก็ออกมากำหนดให้มีการเรียงช่องใหม่อีก คือ ให้ช่อง 1-36 เป็นช่องของทีวีดิจิตอล หากเป็นเช่นนี้มันจะมีผลกระทบทำให้ผู้บริโภคสับสนและผู้ประกอบการดาวเทียมและเคเบิลก็ต้องมีต้นทุนในการเรียงช่องใหม่อีกจึงต้องออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม
     
       ขณะที่นายวิชิต เอื้ออารีวรกุล ประธาน บริษัท เจริญยิ่ง (888) จำกัดกล่าวว่า สิ่งที่ออกมาเรียกร้องคือต้องการขอความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการดาวเทียมและเคเบิลซึ่งล้วนเป็นผู้ประกอบการที่ลงทุนกันเอง การเรียกร้องครั้งนี้ต้องการสู้เพื่อให้หนังสือที่ชมรมฯยื่นเป็นส่วนหนึ่งในการประกอบการพิจารณาเมื่อมีการประชาพิจารณ์ ซึ่งชมรมฯขอต่อสู้ไม่ให้มีการเรียงช่องใหม่

ชมรมดาวเทียม-เคเบิล ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกสท.ค้านการเรียงช่องใหม่

       “เราเป็นเหมือนลูกเลี้ยง ที่เป็นลูกติดมากับแม่ พอพ่อเลี้ยงมีลูกใหม่คือทีวีดิจิตอล เขาก็ลืมลูกเลี้ยงอย่างเราที่มาก่อน อย่างเรื่องแจกคูปอง เพื่อสนับสนุนให้ดูดิจิตอล โดยไม่สนใจเรา เราก็ไม่เคยว่าอะไร เราเงียบมาตลอด แต่มาตอนนี้ก็ยังเอื้อประโยชน์เรื่องการเรียงช่องใหม่ให้ทีวีดิจิตอลอีก โดยไม่ถามความเห็นเราก่อนเลย ทั้งๆที่ราก็สามารถพูดคุยกันเองได้อยู่แล้ว ทำไมต้องมีมติเพื่อจะออกประกาศเรื่องนี้ มันไม่เป็นธรรมกับเราเลย กสท.ควรปล่อยให้ทีวีดิจิตอล ดาวเทียม เคเบิล หรือแม้แต่ก้างปลา แข่งขันกันเองจะดีกว่า เอาง่ายๆขนาดประกาศที่ กสทช.ออกเรื่องมัสต์แครี่ว่าเราต้องออกอากาศรายการของทีวีดิจิตอลด้วย เราก็ยังต้องมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นเดือนละ 3 หมื่นบาทต่อช่อง หากออกอากาศครบ 36 ช่อง ก็คิดเป็นรายจ่ายที่ต้องเสียไปโดยไม่ได้รับการเยียวยาใดๆเลยถึงเดือนละล้านบาท ตอนนี้กล่องดิจิตอลก็ยังไม่แจก คนก็ยังไม่ได้ดูในวงกว้าง ทำไมต้องให้คนส่วนใหญ่ที่ดูดาวเทียมอยู่แต่เดิมประมาณ 45 ล้านคน มาปรับตามทีวีดิจิตอลซึ่งยังไม่มีคนดูด้วย ”
     
       ส่วนประเด็นเรื่องช่อง 3 ขณะนี้ผู้ประกอบการยังไม่ได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการ คงต้องรอให้ได้หนังสือจาก กสทช.ก่อน จากนั้นแนวทางของชมรมฯคงต้องยื่นอุทธรณ์อย่างแน่นอน เพราะผู้บริโภคไม่เข้าใจว่าทำไมถึงดูไม่ได้ ทั้งๆที่เขาจ่ายค่าบริการ ซึ่งลึกๆแล้วเชื่อว่าช่อง 3 จอจะไม่ดำ อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (10 ก.ย.) เวลา 13.30 น. ชมรมฯ ได้นัดหารือเรื่องดังกล่าวอีกครั้งหนึ่งกับนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. และหากกรรมการท่านอื่นว่างก็จะหารือพร้อมกันด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงาน
     
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000103435

_____________________


?ทีวีดาวเทียม-เคเบิลค้านเรียงช่องทีวีวอนช่อง 3- กสท. เจรจากัน?
ชมรมทีวีดาวเทียม – เคเบลทีวี ยื่นค้านจัดเรียงช่อง ชี้ผู้ชมสับสน ยันทำตามกสท. ถอดช่อง 3 อะนาล็อก บนโครงข่ายดาวเทียม เคเบิล หากได้รับหนังสือเป็นทางการ วอนเจรจาหาทางออกร่วมกัน


วันนี้(9 ก.ย.) ที่ตึกเอ็กซิมแบงค์ ชมรมผู้ประกอบการโทรทัศน์ดาวเทียมและเคเบิลทีวี ประกอบด้วย บริษัท ไอพีเอ็มบิ๊กโฟร์ แซทเทลไลน์ พีเอสไอ เจริญเคเบิลเป็นต้น โดยมีนายมานพ โตการค้า ในฐานะประธานชมรมฯ เป็นตัวแทนยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เพื่อคัดค้านการออกประกาศการจัดเรียงลำดับช่องใหม่ ที่ระบุให้ช่อง 1 – 36 เป็นช่องทีวีดิจิตอล ช่อง 37-60 เป็นช่องดาวเทียมและเคเบิล เนื่องจากเห็นว่า มติดังกล่าวจะก่อให้เกิดความสับสนให้กับประชาชนหรือสมาชิกที่รับชมจานดาวเทียมและเคเบิลทีวี นอกจากนี้ขอให้กสท.คำนึงถึงผู้ประกอบการโครงข่ายให้ได้รับความเป็นธรรมเหมือนผู้ประกอบการอื่นๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การยื่นหนังสือของชมรมฯ มีนายสมบัติ ลีลาพตะ รองเลขาธิการกสทช.เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว

ในขณะเดียวกันชมรมฯยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการจากกสท. ในการให้นำเอาช่อง 3 อะนาล็อกออกจากโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิล และยังไม่ตัดสินใจว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ แต่ยืนยันว่า เมื่อได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการก็พร้อมปฎิบัติตามและจะแจ้งเตือนประชาชนผู้รับชมผ่านตัววิ่งถึงความจำเป็นที่ไม่สามารถรับชมช่อง3 อะนาล็อกได้ และแจ้งคอลเซ็นเตอร์เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องต่อไป

อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้(10 ก.ย.) ชมรมผู้ประกอบการโทรทัศน์ดาวเทียม และเคเบิลจะร่วมตัวเข้าหารือ กับ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช. เวลา 13.30 น. เพื่อหาแนวทางการแก้ไขผลกระทบที่ผู้รับชมไม่สามารถรับชมได้ภายหลังจากที่ผู้ประกอบการต้องนำเอาช่อง3 อะนาล็อก และขอแนวทางปฎิบัติตามมติ กสท. ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลผู้ประกอบการ พร้อมทั้งขอให้ช่อง 3 และ กสท. เจรจาหาทางออกเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ

http://www.dailynews.co.th/Content/IT/265418/ทีวีดาวเทียม-เคเบิลค้านเรียงช่องทีวีวอนช่อง+3-+กสท.+เจรจากัน

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.