Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

18 กันยายน 2557 กสทช. (บอร์ดใหญ่) มีมติ “ไม่ทบทวน” คำร้องของช่อง3 เพื่อขอทบทวนมติ กสท. กำหนดให้โครงข่ายทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวี ต้องยุติการออกอากาศช่อง 3 อนาล็อก ภายใน 15 วัน

ประเด็นหลัก


ทีประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช) มีมติ “ไม่ทบทวน” ตามที่ประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการบริหาร บริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด หรือ ช่อง 3 ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอทบทวนมติของ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์(กสท.) ที่กำหนดให้โครงข่ายทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวี ต้องยุติการออกอากาศช่อง 3 อนาล็อก ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้รับจดหมายจากกสทช . และมติที่ให้ช่อง 3 สิ้นสุดความเป็นโทรทัศน์บริการทั่วไป  และระหว่างนี้ขอให้ช่อง 3 ออกอากาศไปก่อนจนกว่าจะหาข้อยุติ

ทั้งนี้  กสทช.  ได้ให้ช่อง 3 ส่งหนังสือยืนยันกลับมาว่าผู้ที่ลงนามในหนังสือที่ยื่นมา มีอำนาจหรือไม่ หากเป็นผู้มีอำนาจ ให้นำเรื่องส่งให้ที่ปรึกษากฎหมายของ กสทช. ให้ความเห็น
โดยในระหว่างที่อยู่ในระหว่างการพิจารณา ให้มติกสท. ยังมีผลบังคับใช้อยู่ จนกว่าที่ประชุมจะมีมติเป็นอย่างอื่น


______________________________




บอร์ดกสทช.ยันดาวเทียม-เคเบิลต้องปลดช่อง3ใน15วัน


บอร์ดกสทช. ยืนตามกสท. ไม่ทบทวนมติยืดระยะเวลาโครงข่ายทีวี ดาวเทียม ต้องปลดช่อง 3 ลงเมื่อครบ 15 วัน

บอร์ดกสทช.ยันดาวเทียม-เคเบิลต้องปลดช่อง3ใน15วัน

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดกสทช.วันที่ 17 ก.ย. มีมติไม่ทบทวนข้อเสนอของ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนต์ หรือ ช่อง 3 ที่ได้ยื่นขอไม่ให้โครงข่ายดาวเทียม และเคเบิล ปลดช่อง 3 ลงเมื่อครบ 15 วัน ส่งผลให้เมื่อสิ้นสุดระยะเวลา คือ ระหว่างวันที่ 25-27 ก.ย. ช่อง 3 จะจอดำทันที

อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังช่อง 3 ว่าบุคคลในหนังสือที่ยื่นมาที่กสทช. นั้น มีอำนาจจริงหรือไม่ ซึ่งหลังจากได้จดหมายตอบกลับแล้ว จะนัดประชุมบอร์ดกสทช. เพื่อพิจารณาอีกครั้ง แต่จะไม่ทบทวนมติของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ที่ได้มีมติเรื่องโครงข่ายต้องปลดช่อง 3 ลงใน 15 วัน

ทั้งนี้ ทางผู้บริหารช่อง 3 จะเขัาพบบอร์ดกสท. อีกครั้งในวันที่ 18 ก.ย. กรณีออกอากาศคู่ขนาน หลังจากการเจรจาครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ช่อง 3 ยินดีออกอากาศคู่ขนานในช่อง 33 เอชดี แต่ภายใต้เงื่อนไขว่ากสท. ต้องยินยอมตามข้อเสนอที่ช่อง 3 ยื่นเสนอมาทั้งหมด  คือ เยียวยาค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการเรียกร้องที่มากเกินไป ส่งผลให้ยังไม่สามารถตกลงกันได้

http://www.posttoday.com/ดิจิตอลไลฟ์/319005/บอร์ดกสทช-ยันดาวเทียม-เคเบิลต้องปลดช่อง3ใน15วัน

_____________________________________

บอร์ดกสทช.มีมติ ยังไม่ฟัน ช่อง 3 จอดำ โยนให้ กสท-ฝ่ายกฎหมาย



ทีประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช) มีมติ “ไม่ทบทวน” ตามที่ประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการบริหาร บริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด หรือ ช่อง 3 ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอทบทวนมติของ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์(กสท.) ที่กำหนดให้โครงข่ายทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวี ต้องยุติการออกอากาศช่อง 3 อนาล็อก ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้รับจดหมายจากกสทช . และมติที่ให้ช่อง 3 สิ้นสุดความเป็นโทรทัศน์บริการทั่วไป  และระหว่างนี้ขอให้ช่อง 3 ออกอากาศไปก่อนจนกว่าจะหาข้อยุติ

ทั้งนี้  กสทช.  ได้ให้ช่อง 3 ส่งหนังสือยืนยันกลับมาว่าผู้ที่ลงนามในหนังสือที่ยื่นมา มีอำนาจหรือไม่ หากเป็นผู้มีอำนาจ ให้นำเรื่องส่งให้ที่ปรึกษากฎหมายของ กสทช. ให้ความเห็น
โดยในระหว่างที่อยู่ในระหว่างการพิจารณา ให้มติกสท. ยังมีผลบังคับใช้อยู่ จนกว่าที่ประชุมจะมีมติเป็นอย่างอื่น
อย่างไรก็ตาม  ทางด้าน กสท.ได้มีการหารือกับช่อง 3 อีกครั้งในวันที่ 18 กันยายนนี้ หลังจากที่ได้มีการเจรจาร่วมกันมาตั้งแต่ 15 กันยายน โดยที่ช่อง 3 ยอมนำช่อง3 อนาล็อกออกคู่ขนานในช่องดิจิตอล แต่กสท.ต้องเยียวยาค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด  ทำให้การเจรจาจึงยืดเยื้อต่อไป เพราะกสท.เองต้องดูว่าข้อไหนทำได้หรือทำไม่ได้  โดย กสท. พยายามหาข้อสรุปให้ทันวันที่ 28 ก.ย. นี้

http://www.positioningmag.com/content/บอร์ดกสทชมีมติ-ยังไม่ฟัน-ช่อง-3-จอดำ-โยนให้-กสท-ฝ่ายกฎหมาย


๘_________________________________________



บอร์ด กสท.ยังไม่สรุปช่อง 3 ชี้เงื่อนไขมาก


นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

        บอร์ด กสท. ยังไม่สรุปเรื่องช่อง 3 “สุภิญญา” ชี้ตกลงเงื่อนไขกันไม่ลงตัว เผยให้ช่อง 3 กลับไปลดเงื่อนไข และเข้ามานำเสนอใหม่ในการประชุมบอร์ด กสท.วันที่ 18 ก.ย.นี้ ยันหากตกลงกันไม่ได้ช่อง 3 จอดำแน่
     
       เมื่อวันที่ 16 ก.ย. เมื่อเวลา 16.00 น. ผู้บริหารจาก บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ประกอบด้วย นายประสาร มาลีนนท์ รองประธานกรรมการบริหาร นายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการบริหาร และผู้อำนวยการอาวุโส สายธุรกิจโทรทัศน์ นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน และ นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด (ช่อง 3) เดินทางเข้าพบคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เพื่อหารือเรื่องแนวทางการออกอากาศคู่ขนานตามคำเชิญของบอร์ด กสท.
     
       ทั้งหมดใช้เวลาในการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง โดยนายประวิทย์ และทีมผู้บริหารช่อง 3 ออกมาจากห้องประชุมประมาณ 17.48 น. โดยฝ่าวงล้อมสื่อมวลชนที่เฝ้ารอทำข่าวกันอยู่อย่างเนืองแน่น และไม่ได้พูดอะไรต่อสื่อมวลชนก่อนที่จะเดินทางกลับไป หลังจากนั้น บอร์ด กสท.ยังคงดำเนินการประชุมกันต่อจนกระทั่งเวลา 18.11 น.โดยให้ พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธาน กสท. เข้ามาแจ้งสั้นๆ ว่า การประชุมครั้งนี้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี แต่ยังไม่มีข้อสรุป ต้องมีการนัดพูดคุยกันต่อไป โดยจะนำเรื่องแจ้งต่อบอร์ด กสทช.อีกครั้งหนึ่ง
     
       ด้าน น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. กล่าวว่า โดยความเห็นส่วนตัวคิดว่าช่อง 3 ต้องการออกคู่ขนานผ่านทางช่อง 33HD อย่างมีเงื่อนไข ซึ่งเงื่อนไขที่ช่อง 3 เสนอมาตนเองคิดว่าเป็นข้อเสนอที่มากเกินไป โดยเฉพาะเรื่องการเรียกร้องให้ทาง กสทช.เยียวยา เป็นสิ่งที่นอกเหนืออำนาจของ กสทช.
     
       “แม้ว่าช่อง 3 จะยอมออกอากาศคู่ขนานแต่ก็มีเงื่อนไขที่เสนอมาเยอะมาก เราจึงขอให้ช่อง 3 กลับไปลดเงื่อนไข และกลับมาคุยกันใหม่กับบอร์ด กสท.ในวันพฤหัสบดีนี้ (18 ก.ย.) ส่วนเรื่องบอร์ด กสทช.จะมีหน้าที่ตัดสินใจในวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) หรือไม่นั้น ตนเองและกรรมการคนอื่นๆ ใน กสท.เห็นพ้องต้องกันแล้วว่าเรื่องนี้จะเป็นเพียงการแจ้งเพื่อทราบต่อบอร์ด กสทช.เท่านั้น ส่วนอำนาจการตัดสินใจต้องอยู่ที่บอร์ด กสท.และหากการตกลงกับช่อง 3 ไม่สามารถตกลงกันได้ก็ต้องปล่อยให้จอดำ และเรื่องนี้ต้องจบภายใน 15 วัน”
     
       *** เครือข่ายฯ ยื่นล้มสัมปทานช่อง 3
     
       ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 12.00 น. เครือข่ายภาคประชาเฝ้าระวังสื่อวิทยุและโทรทัศน์ เข้ามายื่นหนังสือถึงประธาน และกรรมการ กสทช. ผ่านเลขาธิการ กสทช. โดยเนื้อหาในหนังสือระบุถึงความผิดของบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด กระทำความผิดตามสัญญาสัมปทานตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2551 เรื่องผู้ได้รับใบอนุญาตต้องประกอบกิจการด้วยตัวเอง จะโอนให้ผู้อื่นไม่ได้ แต่บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด กลับมอบหมายให้ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการแทน จึงร้องขอให้ กสทช.ตรวจสอบเรื่องนี้ให้เพิกถอนใบอนุญาต
     
       นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ตนเองเป็นตัวแทนในการรับหนังสือครั้งนี้เพื่อนำเข้าที่ประชุมบอร์ด กสทช.ในวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ควบคู่กับเรื่องการทบทวนมติของ กสท.เกี่ยวกับช่อง 3 ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว บอร์ด กสท.จะเป็นผู้รับเรื่องนี้ไปพิจารณา
     
       *** โครงข่ายทีวีดิจิตอลเร่งติดตั้งสถานีเสริม
     
       นายฐากร กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. เชิญผู้ประกอบการให้บริการโครงข่ายดิจิตอลทีวีทั้ง 4 ราย (5 โครงข่าย) เข้าหารือถึงแนวทางการดำเนินการแจกคูปองสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลของสำนักงาน กสทช. ตามพื้นที่ที่โครงข่ายครอบคลุมไปถึงว่า ในล็อตแรกสำนักงาน กสทช. จะแจกคูปองใน 21 จังหวัด ที่มีสัญญาณครอบคลุมตั้งแต่ 80%
     
       ส่วนในล็อตที่ 2 อีก 21 จังหวัด ที่สัญญาณยังครอบคลุมไม่ถึงนั้น ผู้ให้บริการโครงข่ายดิจิตอลทีวีทั้ง 5 โครงข่าย เสนอให้การแจกคูปองในล็อตที่ 2 แจกคูปองในระดับอำเภอที่มีสัญญาณครอบคลุมก่อน พร้อมรับจะช่วยติดตั้งสถานีเสริมในพื้นที่ที่โครงข่ายหลักครอบคลุมไม่ทั่งถึง เพื่อให้สัญญาณดิจิตอลทีวีครอบคลุมให้ได้ถึง 80% ของพื้นที่ ซึ่งผู้ประกอบการโครงข่ายทุกรายจะทำข้อมูลส่วนของพื้นที่ครอบคลุมในระดับอำเภอนี้ส่งให้แก่สำนักงาน กสทช.
     
       ทั้งนี้ ในจังหวัดที่ขณะนี้มีความครอบคลุมของสัญญาณราว 70 กว่าเปอร์เซนต์ เช่น อุบลราชธานี ลำพูน พิจิตร สุราษฎร์ธานี หากมีการติดตั้งสถานีเสริมคาดว่าสัญญาณจะครอบคลุมพื้นที่ 80% ของจังหวัดได้
     
       นายฐากร กล่าวว่า กรณีการแจกคูปองในพื้นที่ระดับอำเภอจะมีปัญหาหากไม่ทำประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ แต่สำนักงาน กสทช. จะทำการขอความร่วมมือจากฟรีทีวีทั้ง 24 ช่อง รวมถึงช่องสาธารณะ ให้ช่วยประชาสัมพันธ์เรื่องพื้นที่การแจกคูปองว่าอำเภอไหนที่มีการปรับสัญญาณให้ครอบคลุมแล้ว และจะแจกจ่ายคูปองได้ รวมถึงวิธีการใช้คูปองให้ประชาชนรับทราบด้วย สำหรับความคืบหน้าเรื่องการติดตั้งสถานีฐาน ทราบจากไทยพีบีเอส และช่อง 5 ว่า การติดตั้งสถานีฐานทั้ง 39 สถานี ที่เดิมกำหนดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย.2558 นั้นคาดว่าจะติดตั้งเสร็จสิ้นก่อนกำหนดในเดือน ก.พ.2558 ซึ่งหากติดตั้งสถานีฐานหลักทั้ง 39 สถานีฐานแล้วเสร็จจะครอบคลุมจำนวนครัวเรือน 80% ของจำนวนครัวเรือนทั่วประเทศ ในส่วนของ อสมท ขณะนี้ติดขัดปัญหาเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะดำเนินการได้ทันตามแผนที่กำหนดไว้


http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000106635


______________________


กสทช.ยันช่อง 3 เจรจาไม่จบก่อน 28 ก.ย.จอดำบนกล่องดาวเทียม /เคเบิล



นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

        กสทช.ยันมติ กสท.ยังบังคับใช้กรณีช่อง 3 พร้อมให้ยืนยันผู้มีอำนาจลงนามจริงในหนังสือที่ร้องขอทบทวนมติกสท. ลั่นต้องได้ข้อสรุปก่อน 28 ก.ย.นี้ พร้อมแจงเงินชดเชยบอลโลก 2014 มติหั่นงบชดเชยเหลือ 370 ล้านบาท เปิดช่องพร้อมรับคำอุทธรณ์จากอาร์เอส
     
       นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ที่ประชุมกสทช.ได้รับทราบเรื่องที่ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด (ช่อง 3 ) ยื่นขอทบทวนมติของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) แล้ว และขอให้ช่อง 3 ทำหนังสือยืนยันว่าผู้ที่ลงนามในหนังสือฯ มีอำนาจในการลงนามหรือไม่ หากเป็นผู้มีอำนาจ ให้นำเรื่องส่งให้ที่ปรึกษากฎหมายพิจารณาให้ความเห็นต่อไป คาดว่าน่าจะพิจารณาเสร็จภายในต้นสัปดาห์หน้าจากนั้นจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมบอร์ด กสทช.อีกครั้งหนึ่ง
     
       ระหว่างที่รอความเห็นดังกล่าว มติของบอร์ดกสท. ยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป จนกว่าจะมีมติที่ชัดเจน ระหว่างนี้จดหมายของสำนักงานกสทช.ได้ส่งออกไปยังผู้ให้บริการโครงข่ายดาว เทียมและเคเบิลแล้ว เท่ากับว่าวันที่ 28 ก.ย.นี้ ผู้ให้บริการโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิลต้องไม่เผยแพร่ช่อง 3 อนาล็อกบนดาวเทียมและเคเบิล แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นตนเองมั่นใจว่าจะต้องได้ข้อยุติก่อนวันที่ 28 ก.ย. อย่างแน่นอน คงจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์
     
       'อย่างไรเสียวันที่ 18 ก.ย.นี้ช่อง 3 ก็ต้องกลับมาคุยกับบอร์ด กสท. อีกครั้งเพื่อหารือเพิ่มเติม ผมว่าจุดนี้ใกล้จะได้ข้อยุติกันแล้ว เรื่องนี้เราต้องปล่อยให้เป็นอำนาจของ บอร์ดกสท. เราไม่ได้ตัดสิทธิอำนาจของบอร์ด กสท. ระหว่างนี้ก็ต้องยึดตามมติของ บอร์ด กสท.'
     
       ส่วนเรื่องที่เครือข่ายภาคประชาชนเฝ้าระวังสื่อวิทยุและโทรทัศน์ เข้ามายื่นหนังสือให้เพิกถอนสัมปทานและใบอนุญาตของช่อง 3 นั้น ที่ประชุมจะส่งเรื่องให้บอร์ด กสท. กลับไปทบทวน เพราะก่อนหน้านี้บอร์ด กสท.เคยพิจารณาเรื่องสัญญาสัมปทานมาก่อนหน้านั้นของช่อง 3 แล้วว่าชอบด้วยกฎหมาย
     
       ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย. ทนายความของสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ได้ส่งหนังสือมายังสำนักงานกสทช.เพื่อให้กำลังใจ กสทช.ให้ทำงานเรื่องการพิจารณาเกี่ยวกับช่อง 3 โดยยึดพื้นฐานความถูกต้องตามกฎหมายเป็นหลัก
     
       *** หั่นวงเงินชดเชยบอลโลก
     
       จากนั้นที่ประชุมยังได้มีมติเห็นชอบให้จ่ายเงินชดเชยกรณีการถ่ายทอดการแข่งขันบอลโลก 2014 ให้กับบริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอสคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเมนท์ จำกัด (RS) เป็นจำนวนเงิน 369.859 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งลดลงจากวงเงินที่ กสทช. อนุมัติไว้เดิม 57,155,875.68 บาท ทั้งนี้ หากบริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอสคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเมนท์ จำกัด (RS) เห็นว่าวงเงินดังกล่าวยังไม่เหมาะสมสามารถอุทธรณ์เรื่องดังกล่าวต่อ กสทช. ได้
     
       'จากเดิมที่ กสทช.เคยมีมติจ่ายชดเชยให้ 427 ล้านบาท แต่เมื่ออนุกรรมการไปพิจารณาแล้วกลับเห็นต่างโดยเฉพาะในเรื่องต้นทุนกล่อง ดังนั้นอาร์เอสสามารถนำข้อเท็จจริงมาเสนอเพื่ออุทธรณ์ได้ ซึ่งต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน ว่ามีประชาชนมาคืนกกล่องจำนวนเท่าไหร่ โดยก่อนหน้านี้กสทช.ได้จ่ายเงินชดเชยไปแล้ว 118 ล้านบาท กสทช.ก็จะจ่ายในส่วนที่เหลือให้ต่อไป'
     
       ***เดินหน้าประชาพิจารณ์เรียงช่อง
     
       นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การจัดลำดับบริการโทรทัศน์ พ.ศ. .... ที่ผ่านการพิจารณาจากกสท. ไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะตามมาตรา 28 ได้ โดยหากร่างประกาศฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะทำให้ประชาชนสามารถรับชมฟรีทีวีทั้ง 24 ช่อง และช่องบริการสาธารณะ ได้ในลำดับช่องที่ 1-36 ในทุกระบบ (ทุกแพลตฟอร์ม) คาดว่าจะสามารถดำเนินการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะและออกกฎบังคับใช้ได้ภายใน 45 วัน ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับการแจกคูปองส่วนลดแลกซื้ออุปกรณ์รับสัญญาณดิจิตอล
     


http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000107049


__________________________________________


?กสทช.ส่งหนังสือถามช่อง3 -ยึดมติกสท.จอดำบนดาวเทียมเคเบิล?
กสทช. ร่อนหนังสือหาช่อง 3 ถามหาผู้มีอำนาจในหนังสือร้องขอทบทวนมติกสท. 3 ข้อ สั่งยึดมติเดิมถอดช่อง 3 อนาล็อกออกจากบนโครงข่ายดาวเทียม เคเบิล ภายใน 15 วัน เชิญช่อง 3 ถกอีกครั้งพรุ่งนี้


วันนี้( 17 ก.ย. ) ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช. ) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมกสทช. ให้สำนักงานกสทช.ส่งหนังสือสอบถามไปยังบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนต์ หรือ ช่อง 3 ถึงผู้ที่ลงนามในหนังสือที่ยื่นขอให้กสทช. ทบทวนมติกสท. 3 ข้อนั้นเป็นผู้ที่มีอำนาจหรือไม่พร้อมทั้งส่งให้ที่ปรึกษากฎหมายพิจารณา จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุมกสทช.อีกครั้ง ส่งผลให้ระหว่างนี้ ยึดตามมติคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท. ) ที่ให้โครงข่ายดาวเทียม และเคเบิลทีวี นำเอาช่อง 3 อนาล็อกออกภายใน 15 วันซึ่งคาดว่าจะครบกำหนดช้าสุดในวันที่ 27 ก.ย. นี้

ทั้งนี้ผู้ประกอบการโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิลทีวี ต้องปฎิบัติตาม ยังไม่มีการคุ้มครองใดๆเกิดขึ้น นอกจากนี้ในวันพรุ่งนี้(18 ก.ย.)ทางผู้บริหารช่อง 3 จะเข้าพบบอร์ดกสท.อีกครั้ง หลังได้มีการการเจรจาครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งช่อง 3 ยินดีออกอากาศคู่ขนานในช่อง 33 เอชดี แต่ภายใต้เงื่อนไขว่ากสท. ต้องยินยอมตามข้อเสนอที่ช่อง 3 ยื่นเสนอมาทั้งหมดคือ เยียวยาค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ยังไม่สามารถตกลงกันได้

สำหรับหนังสือที่ช่อง 3 ยื่นทบทวนนั้นมีจำนวน 3ข้อ ได้แก่ 1.ขอให้ทบทวนมติที่ประชุมกสท.เมื่อวันที่8ก.ย.57ที่ระบุให้ผู้ประกอบการโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิลทีวี ยุติการนำช่องอนาล็อกมาออกอากาศ ภายใน15วันนับจากได้รับหนังสือคำสั่งจากกสทช.2.ให้ทบทวนมติกสท.เมื่อวันที่3ก.พ.57ที่มีคำสั่งให้ช่องอนาล็อกยุติการเป็นฟรีทีวีและ3.ขอให้กสทช.คุ้มครองและเยียวยาระหว่างที่มีการพิจารณาโดยให้ช่อง3สามารถออกอากาศได้จนกว่าจะมีข้อยุติ

นายฐากร กล่าวว่า นอกจากนี้กสทช.ยังเห็นชอบสั่งจ่ายค่าชดเชยกรณีถ่ายทอดสดการแข่งขันบอลโลก2014 ให้กับบริษัทอาร์เอสอินเตอร์เนชั่นแนล บรอสคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเมนท์ จำกัด เป็นจำนวน 369.859ล้านบาท โดยมีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธานการพิจารณา ซึ่งต่ำกว่าวงเงินเดิมที่กำหนด 427 ล้านบาท คิดเป็นส่วนต่างจำนวน 57.155 ล้านบาท และก่อนหน้านี้ได้จ่ายเงินให้อาร์เอสไปแล้วเป็นจำนวน118 ล้านบาท เนื่องจากคณะอนุพิจาณาได้พิจารณาแนวทางค่าเสียโอกาสธุรกิจแต่ก็ยังมีข้อขัดแย้งที่มองต่างกันในส่วนของกล่องบอลโลกที่ได้จำหน่ายออกไปซึ่งทั้งนี้หากอาร์เอสมีข้อมูลก็สามารถนำมาเสนอให้ม่ได้ และอาร์เอสสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน15 วัน

สำหรับค่าเยียวยาทั้งหมดประกอบด้วย ค่าชดเชยการคืนกล่อง 116.14ล้านบาท รายได้จากการขายกล่องบอลโลก 95.51 ล้านบาท รายได้จากการขายกล่องให้กับสมาชิกเดิม 5 แสนรายและค่าคืนสมาขิก39.52 ล้านบาทรายได้จากการขายสิทธิ์เคเบิลท้องถิ่น 27.94 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายบริหารจัดการคืนกล่อง 49 ล้านบาทค่าชดเชยที่สมาชิกคืนกล่อง 116.14ล้านบาท ค่าโฆษณาให้กับเอไอเอสและโตโยต้า 3.47 ล้านบาทและค่าเช่าเวลา ช่อง 5 7 และ 11 รวม 4.39 ล้านบาทค่าคืนสิทธิ์ทรู วิชั่นส์ 30ล้านบาท

http://www.dailynews.co.th/Content/IT/267464/กสทช.ส่งหนังสือถามช่อง3+-ยึดมติกสท.จอดำบนดาวเทียมเคเบิล


_____________________________________


กสทช. ไม่ชี้ชัด ข้อเรียกร้องช่อง 3 จะทำได้หรือไม่



ฝ่ายกฎหมาย กสทช. ยังไม่ชี้ชัด ข้อเรียกร้องที่ช่อง 3 เสนอมาที่บอร์ด กสท. และ กสทช. ให้เยียวยาการออกคู่ขนาน ลดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทีวีดิจิตอล ทำได้หรือไม่ ด้านบอร์ด กสทช. จ่อแถลงข่าวผลประชุมและพิจารณาช่อง 3 บ่ายครึ่งวันน้ี...

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ข้อเสนอที่ทางผู้บริหารช่อง 3 เสนอมาที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. วานนี้ มีอะไรบ้าง แต่หากเป็นข้อเสนอเดิมต้องพิจารณาตามข้อกฎหมายว่าสามารถทำได้หรือไม่

หากเป็นเรื่องการพิจารณายกเว้นเก็บค่าธรรมเนียม ร้อยละ 4 ของรายได้จากการประกอบธุรกิจทีวีดิจิตอล ซึ่งช่อง 3 ต้องจ่ายให้ กสทช. รายปีนั้น แยกเป็น ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ร้อยละ 2 กสท. มีอำนาจในการพิจารณา แต่ต้องเท่าเทียมและยุติธรรมกับทั้ง 24 ช่อง ที่ประมูลมาด้วย ไม่ใช่ให้เฉพาะช่อง 3 เพียงรายเดียว ส่วนอีกร้อยละ 2 ที่ต้องนำส่งเข้ากองทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์นั้น กสท. ไม่มีอำนาจ

ส่วนเรื่องแผนการเยียวยาค่าสัมปทาน ระหว่างช่อง 3 กับ อสมท นั้น ต้องดูเงื่อนไขที่ทั้ง 2 ฝ่ายทำร่วมกันไว้ก่อนหน้า ตามกฎหมาย กสทช. มีอำนาจในการกำกับดูแลช่อง 3 ในระบบอนาล็อก ซึ่งหากช่อง 3 กระทำผิด กสทช. ก็สามารถเพิกถอนใบอนุญาตช่อง 3 ได้ ทำให้อาจจะมีผลกระทบกับสัมปทานของ อสมท ไปด้วย

ขณะที่การเยียวยาเรื่องการชดเชยค่าลิขสิทธิ์รายการต่างๆ ที่ช่อง 3 ลงทุนและผลิตรายการไปแล้ว เป็นเรื่องของแผนธุรกิจของช่อง 3 แต่ตามหลักการการออกกฎหมายของหน่วยงานกำกับดูแล หากคำสั่งมีผลกระทบกับแผนธุรกิจ หน่วยงานนั้นก็ต้องพิจารณาการเยียวยา หรือชดเชย ซึ่งต้องแน่ใจว่าเกิดจากข้อกฎหมายนั้นจริง และต้องมีหลักฐานด้วย

สำหรับการปรับแก้ประกาศต่างๆ ของ กสท. และ กสทช.นั้น ถ้าเกี่ยวข้องกับหน่วยงานของ กสท. และ กสทช. เพียงหน่วยงานเดียว สามารถพิจารณาปรับแก้ได้ แต่ถ้ามีหน่วยงานอื่นๆ ร่วมด้วย ก็อาจจะต้องพิจารณาอีกครั้งว่าสามารถทำได้หรือไม่

นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง หรือ พีพีทีวี เปิดเผยว่า เรื่องการลดค่าธรรมเนียม ทางสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ และ 24 ช่องทีวีดิจิตอล เคยเสนอไปที่ กสทช. แล้ว ซึ่งรับปากว่าจะดำเนินการให้ และมองว่าเรื่องนี้จะเกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย ส่วนเรื่องการปรับแก้ประกาศต่างๆ นั้น มองว่าเป็นเรื่องดีหากปรับแก้แล้ว เท่าเทียม และเกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกช่อง แต่ถ้าปรับแก้แล้วเอื้อประโยชน์กับรายใหญ่ก็ไม่ยุติธรรม

ในส่วนเรื่องลิขสิทธิ์รายการช่อง 3 นั้น มองว่า ต้องตรวจสอบเรื่องการถือหุ้น เพราะบริษัทที่ทำสัญญาเรื่องคอนเทนต์ อาจจะคนละบริษัทกับที่ได้รับใบอนุญาตทีวีดิจิตอลก็ได้ จึงทำให้เกิดปัญหาตามมา

ด้าน น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. เปิดเผยภายหลังหารือร่วมช่อง3 วานนี้ ว่า ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากช่อง 3 เรียกร้องให้ กสท. เยียวยาค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งเป็นการเรียกร้องที่มากเกินไป จึงต้องประชุมบอร์ดเพื่อหารือกันอีกครั้ง วันที่ 18 กันยายน เพื่อให้ได้ข้อสรุปทันวันที่ 28 กันยายน ที่สิ้นสุดระยะเวลา 15 วัน ที่โครงข่ายดาวเทียมและเคเบิลทีวีจะต้องยุติการออกอากาศช่อง 3

สิ่งที่ กสท. จะช่วยได้คือ การยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและเงินที่ต้องนำส่งกองทุน เพื่อพัฒนากิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ รวมร้อยละ 4 แต่หากยกเว้นให้ช่อง 3 ก็จะต้องดำเนินการลักษณะเดียวกันกับช่อง 7 ซึ่งยอมออกาอากาศคู่ขนานไปก่อนหน้าแล้ว

นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กรรมการ กสท. กล่าวว่า หลังหารือกันขณะนี้ เหลืออยู่ 3-4 ประเด็นเท่านั้น ที่เหมือนจะสรุปประเด็นกันได้ แต่ยังต้องคุยกันเพิ่ม ถือว่าเป็นความคืบหน้าที่ดี เดินหน้า ซึ่ง กสท. ต้องถามฝ่ายกฎหมายก่อนด้วยว่าทำได้หรือไม่

สำหรับวาระการประชุมคณะกรรมการ กสทช. ที่เกี่ยวกับช่อง 3 วันนี้ ได้แก่ การพิจารณาหนังสือที่ช่อง 3 ยื่นให้ทบทวนเรื่องมติคณะกรรมการ กสท. 3 ต่อ 2 ที่มีคำสั่งทางปกครอง กรณี 15 วัน สิ้นสุดระยะเวลา 15 วัน ที่โครงข่ายดาวเทียมและเคเบิล จะต้องปลดสัญญาณช่อง 3 ลง ภายในวันที่ 28 กันยายนนี้ และข้อเสนอต่างๆ ที่ช่อง 3 ต้องการให้เยียวยา หากยอมออกคู่ขนาน ซึ่งคณะกรรมการ กสทช. ได้ประชุมในช่วงเช้า และจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเวลา 13.30 นาที ที่สำนักงาน กสทช.


http://www.thairath.co.th/content/450816

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.