20 กันยายน 2557 ICT.พรชัย ระบุ ควบรวม TOT CAT เป็นขั้นตอนสุดท้าย ( โดยการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจต้องไม่ประสบปัญหาการขาดทุน )
ประเด็นหลัก
++ควบรวม "ทีโอที-แคท" ขั้นตอนสุดท้าย
ขณะที่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ประสบวิกฤติปัญหาขาดทุน ส่งผลให้คณะกรรมการนโยบาย และกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือซูเปอร์บอร์ด ให้ทั้ง2หน่วยงานจัดทำแผนฟื้นฟู เนื่องจากประสบปัญหาการขาดทุน
ในเรื่องนี้ นายพรชัย กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ หลังจากนี้จะต้องบริหารองค์กรไม่ให้ประสบปัญหาขาดทุนหลังจากไม่มีรายได้สัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ สำหรับการควบรวมทั้ง 2 หน่วยงานเป็นวิธีสุดท้ายที่จะทำ
______________________________
พรชัย รุจิประภา ชูธง 3 นโยบายหลัก
หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แถลงนโยบายเมื่อวันศุกร์ที่ 12 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา ถัดจากนั้นเพียงไม่กี่วันบรรดาคณะรัฐมนตรีในแต่ละกระทรวงก็ทยอยเข้าประจำการกระทรวง
พรชัย รุจิประภาพรชัย รุจิประภา เช่นเดียวกับ นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที ถือฤกษ์วันที่ 15 กันยายน 2557 ปฏิบัติภารกิจที่กระทรวงไอซีที พร้อมพบปะแลกเปลี่ยนกับคณะผู้บริหาร ที่สำคัญ นายพรชัย ได้แถลงข่าวกับบรรดาสื่อมวลชนเมื่อเวลา 11.30 น. บนชั้น 9 กระทรวงไอซีที ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะนับจากนี้ไปอนาคตใหม่กระทรวงไอซีที" กำหนดเป็นทิศทางไว้อย่างไร
++เดินหน้าคุมเว็บไม่เหมาะสม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที กล่าวเปิดใจว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ที่ได้รู้จักกับสื่อมวลชนสายนี้ พร้อมกับชี้แจงว่า ภายหลังจากรัฐบาลได้ชี้แจงนโยบายอย่างเป็นทางการ โดยกระทรวงไอซีที ต้องนำเอาแผนปฏิบัติการของรัฐบาลมาบริหารจัดการ และ บริหารการทำงานให้มีความชัดเจน ภายในระยะเวลา 3- 6 เดือน มาปฏิบัติการอย่างไรบ้าง
นโยบายสำคัญที่เร่งด่วน คือ การควบคุมเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งจะต้องบริหารจัดการและบูรณาการอย่างเต็มที่ โดยเว็บไซต์ไหนที่ไม่เหมาะสมจะดำเนินการปราบปรามให้เป็นจริงโดยนำ กฎหมาย ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาใช้อย่างจริงจัง สิ่งที่เป็นห่วงและต้องเร่งดำเนินการคือ การจัดการกับเว็บไซต์ไม่เหมาะสมทั้งเว็บไซต์หมิ่นเบื้องสูง ความมั่นคงของชาติ ที่ผิดกับพ.ร.บ.คอมฯนั้น ตอนนี้ยังค้างอยู่กว่า 2 หมื่นคดี
++เร่งบูรณาการงานทับซ้อน
เรื่องสำคัญที่สองที่ต้องบริหารจัดการอย่างเร่งด่วน เช่นเดียวกันนั้นก็คือ การทำงานทับซ้อน โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศซ้ำซ้อนระหว่างกระทรวง เช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และ กระทรวงอื่น ๆ ที่ลงทุนโครงข่ายทับซ้อนระหว่างกัน โดยเฉพาะเรื่องการติดตั้งเครือข่าย ไว-ไฟ ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการมีงบประมาณถึง 3.7 พันล้านบาท ดังนั้นต้องมีการเจรจาร่วมกันและบูรณาการในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้มีการลงทุนที่ทับซ้อน
นอกจากนี้แล้วเรื่องระบบเตือนภัยแต่ละหน่วยงานทำหน้าที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา อยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงไอซีที ขณะที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ อยู่ภายใต้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อแจ้งเตือนหรือช่วยเหลือตามแต่หน้าที่ของตนเอง
++เร่งรัดงบค้างท่อปี 57
นอกจากนี้ นายพรชัย ยังกล่าวต่อไปอีกว่า ในขณะนี้ยังมีหลายหน่วยงานที่อยู่ภายใต้สังกัดแต่ละกระทรวง ยังเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 ยังไม่ครบ เช่น ซิป้า หรือ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์กรมหาชน) ยังคงเหลืออยู่อีก 30% และ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ ยังคงเหลือสัดส่วนอีก 40% ดังนั้นหน่วยงานต่าง ๆ ควรเร่งรัดการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จเพื่อจะได้ปิดงบประมาณ หากพบว่าไม่สามารถจัดสรรงบประมาณได้ก็ต้องส่งคืนมา ส่วนงบประมาณปี 2558 ให้รีบเขียนทีโออาร์โดยเร็ว และจะต้องเน้นในเรื่องของความโปร่งใส
++ควบรวม "ทีโอที-แคท" ขั้นตอนสุดท้าย
ขณะที่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ประสบวิกฤติปัญหาขาดทุน ส่งผลให้คณะกรรมการนโยบาย และกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือซูเปอร์บอร์ด ให้ทั้ง2หน่วยงานจัดทำแผนฟื้นฟู เนื่องจากประสบปัญหาการขาดทุน
ในเรื่องนี้ นายพรชัย กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ หลังจากนี้จะต้องบริหารองค์กรไม่ให้ประสบปัญหาขาดทุนหลังจากไม่มีรายได้สัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ สำหรับการควบรวมทั้ง 2 หน่วยงานเป็นวิธีสุดท้ายที่จะทำ
++ เร่งแก้ก.ม.ทับซ้อน
ส่วนปัญหาที่ซับซ้อนทางด้านกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการดาวเทียมที่ต้องมีการแก้กฎหมายร่วมกันเพราะกระทรวงไอซีทีจะ ต้องไปประสานงานกับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศหรือ ไอทียู เพื่อขอจองพื้นที่ของดาวเทียม ส่วนสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะมีหน้าที่กำกับดูแลในเรื่องของใบอนุญาตซึ่งจะต้องกำหนดบทบาทหน้าที่ให้ ชัดเจนร่วมกันอีกครั้ง
นายพรชัย กล่าวยอมรับว่า การแก้กฎหมายเป็นเรื่องที่บริหารจัดการแม้จะยาก แต่ต่อจากนี้กระทรวงไอซีที และ หน่วยงานภายใต้ ต้องมีการประชุมใหญ่ในวันพุธแรกของทุกเดือน และ พุธที่ 3 ของทุกเดือน และ จะต้องประชุมหัวหน้าส่วนทั้งหมดเพื่อให้งานดำเนินการไปได้โดย เร็ว มั่นใจว่าจะสามารถแก้ไขกฎหมายที่ซับซ้อนให้ชัดเจนได้ภายใน 2 เดือนต่อจากนี้
และทั้งหมดคือ พันธกิจที่ นายพรชัย รุจิประภา ได้แถลงนโยบายเร่งด่วนกับบรรดาสื่อมวลชน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=246711:---3-&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.VB1Rs0tAeuw
++ควบรวม "ทีโอที-แคท" ขั้นตอนสุดท้าย
ขณะที่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ประสบวิกฤติปัญหาขาดทุน ส่งผลให้คณะกรรมการนโยบาย และกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือซูเปอร์บอร์ด ให้ทั้ง2หน่วยงานจัดทำแผนฟื้นฟู เนื่องจากประสบปัญหาการขาดทุน
ในเรื่องนี้ นายพรชัย กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ หลังจากนี้จะต้องบริหารองค์กรไม่ให้ประสบปัญหาขาดทุนหลังจากไม่มีรายได้สัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ สำหรับการควบรวมทั้ง 2 หน่วยงานเป็นวิธีสุดท้ายที่จะทำ
______________________________
พรชัย รุจิประภา ชูธง 3 นโยบายหลัก
หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แถลงนโยบายเมื่อวันศุกร์ที่ 12 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา ถัดจากนั้นเพียงไม่กี่วันบรรดาคณะรัฐมนตรีในแต่ละกระทรวงก็ทยอยเข้าประจำการกระทรวง
พรชัย รุจิประภาพรชัย รุจิประภา เช่นเดียวกับ นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที ถือฤกษ์วันที่ 15 กันยายน 2557 ปฏิบัติภารกิจที่กระทรวงไอซีที พร้อมพบปะแลกเปลี่ยนกับคณะผู้บริหาร ที่สำคัญ นายพรชัย ได้แถลงข่าวกับบรรดาสื่อมวลชนเมื่อเวลา 11.30 น. บนชั้น 9 กระทรวงไอซีที ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะนับจากนี้ไปอนาคตใหม่กระทรวงไอซีที" กำหนดเป็นทิศทางไว้อย่างไร
++เดินหน้าคุมเว็บไม่เหมาะสม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที กล่าวเปิดใจว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ที่ได้รู้จักกับสื่อมวลชนสายนี้ พร้อมกับชี้แจงว่า ภายหลังจากรัฐบาลได้ชี้แจงนโยบายอย่างเป็นทางการ โดยกระทรวงไอซีที ต้องนำเอาแผนปฏิบัติการของรัฐบาลมาบริหารจัดการ และ บริหารการทำงานให้มีความชัดเจน ภายในระยะเวลา 3- 6 เดือน มาปฏิบัติการอย่างไรบ้าง
นโยบายสำคัญที่เร่งด่วน คือ การควบคุมเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งจะต้องบริหารจัดการและบูรณาการอย่างเต็มที่ โดยเว็บไซต์ไหนที่ไม่เหมาะสมจะดำเนินการปราบปรามให้เป็นจริงโดยนำ กฎหมาย ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาใช้อย่างจริงจัง สิ่งที่เป็นห่วงและต้องเร่งดำเนินการคือ การจัดการกับเว็บไซต์ไม่เหมาะสมทั้งเว็บไซต์หมิ่นเบื้องสูง ความมั่นคงของชาติ ที่ผิดกับพ.ร.บ.คอมฯนั้น ตอนนี้ยังค้างอยู่กว่า 2 หมื่นคดี
++เร่งบูรณาการงานทับซ้อน
เรื่องสำคัญที่สองที่ต้องบริหารจัดการอย่างเร่งด่วน เช่นเดียวกันนั้นก็คือ การทำงานทับซ้อน โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศซ้ำซ้อนระหว่างกระทรวง เช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และ กระทรวงอื่น ๆ ที่ลงทุนโครงข่ายทับซ้อนระหว่างกัน โดยเฉพาะเรื่องการติดตั้งเครือข่าย ไว-ไฟ ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการมีงบประมาณถึง 3.7 พันล้านบาท ดังนั้นต้องมีการเจรจาร่วมกันและบูรณาการในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้มีการลงทุนที่ทับซ้อน
นอกจากนี้แล้วเรื่องระบบเตือนภัยแต่ละหน่วยงานทำหน้าที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา อยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงไอซีที ขณะที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ อยู่ภายใต้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อแจ้งเตือนหรือช่วยเหลือตามแต่หน้าที่ของตนเอง
++เร่งรัดงบค้างท่อปี 57
นอกจากนี้ นายพรชัย ยังกล่าวต่อไปอีกว่า ในขณะนี้ยังมีหลายหน่วยงานที่อยู่ภายใต้สังกัดแต่ละกระทรวง ยังเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 ยังไม่ครบ เช่น ซิป้า หรือ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์กรมหาชน) ยังคงเหลืออยู่อีก 30% และ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ ยังคงเหลือสัดส่วนอีก 40% ดังนั้นหน่วยงานต่าง ๆ ควรเร่งรัดการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จเพื่อจะได้ปิดงบประมาณ หากพบว่าไม่สามารถจัดสรรงบประมาณได้ก็ต้องส่งคืนมา ส่วนงบประมาณปี 2558 ให้รีบเขียนทีโออาร์โดยเร็ว และจะต้องเน้นในเรื่องของความโปร่งใส
++ควบรวม "ทีโอที-แคท" ขั้นตอนสุดท้าย
ขณะที่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ประสบวิกฤติปัญหาขาดทุน ส่งผลให้คณะกรรมการนโยบาย และกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือซูเปอร์บอร์ด ให้ทั้ง2หน่วยงานจัดทำแผนฟื้นฟู เนื่องจากประสบปัญหาการขาดทุน
ในเรื่องนี้ นายพรชัย กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ หลังจากนี้จะต้องบริหารองค์กรไม่ให้ประสบปัญหาขาดทุนหลังจากไม่มีรายได้สัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ สำหรับการควบรวมทั้ง 2 หน่วยงานเป็นวิธีสุดท้ายที่จะทำ
++ เร่งแก้ก.ม.ทับซ้อน
ส่วนปัญหาที่ซับซ้อนทางด้านกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการดาวเทียมที่ต้องมีการแก้กฎหมายร่วมกันเพราะกระทรวงไอซีทีจะ ต้องไปประสานงานกับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศหรือ ไอทียู เพื่อขอจองพื้นที่ของดาวเทียม ส่วนสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะมีหน้าที่กำกับดูแลในเรื่องของใบอนุญาตซึ่งจะต้องกำหนดบทบาทหน้าที่ให้ ชัดเจนร่วมกันอีกครั้ง
นายพรชัย กล่าวยอมรับว่า การแก้กฎหมายเป็นเรื่องที่บริหารจัดการแม้จะยาก แต่ต่อจากนี้กระทรวงไอซีที และ หน่วยงานภายใต้ ต้องมีการประชุมใหญ่ในวันพุธแรกของทุกเดือน และ พุธที่ 3 ของทุกเดือน และ จะต้องประชุมหัวหน้าส่วนทั้งหมดเพื่อให้งานดำเนินการไปได้โดย เร็ว มั่นใจว่าจะสามารถแก้ไขกฎหมายที่ซับซ้อนให้ชัดเจนได้ภายใน 2 เดือนต่อจากนี้
และทั้งหมดคือ พันธกิจที่ นายพรชัย รุจิประภา ได้แถลงนโยบายเร่งด่วนกับบรรดาสื่อมวลชน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=246711:---3-&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.VB1Rs0tAeuw
ไม่มีความคิดเห็น: