Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

09 ธันวาคม 2557 ทีวี ธันเดอร์ เดินหน้าเข้าจดทะเทียน maiตั้ง APM เป็น FA บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรกจำนวน 200,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท

ประเด็นหลัก




“ทีวี ธันเดอร์ ถือเป็นบริษัทฯ ผลิตรายการโทรทัศน์ที่อยู่คู่กับวงการโทรทัศน์ไทยมานานกว่า 22 ปี ดังจะเห็นได้จากรายการหลายรายการที่ทางบริษัทฯ เป็นผู้คิดและผลิตออกมาสู่สายตาประชาชนซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ดังนั้น การเปิดทีวีดิจิตอลที่มีถึง 24 ช่อง จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ส่งผลให้บริษัทฯ เล็งเห็นถืงช่องทางการเติบโต จึงเป็นที่มาของการเตรียมตัวเพื่อระดมทุนสำหรับการขยายตัวต่อไปในอนาคตของบริษัท และการก้าวเข้าสู่มาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน” นายสมภพ กล่าว

 นายสมภพ กล่าวต่อว่าปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนเท่ากับ 200,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 800,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท โดยทุนเรียกชำระแล้วเท่ากับ 150,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 600,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรกจำนวน 200,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท

______________________________







“ทีวี ธันเดอร์”เดินหน้าเข้าจดทะเทียน maiตั้ง APM เป็น FA



“ทีวี ธันเดอร์” ประกาศแต่งตั้ง บริษัท แอสเชท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ

altนางภัทรภร วรรณภิญโญ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ TVT ผู้ประกอบธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์และรายการบันเทิงชั้นนำ ซึ่งมีธุรกิจแบ่งเป็น 4 ลักษณะได้แก่ ธุรกิจโฆษณา ซึ่งเกิดจากการผลิตรายการโทรทัศน์ ธุรกิจรับจ้างผลิตรายการและจัดกิจกรรม ธุรกิจบริหารศิลปิน ผลิตและจำหน่ายหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊ค เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้แต่งตั้งบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เนื่องจากบริษัทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน ประกอบกับบริษัทฯ มีเป้าหมายและวิสัยทัศน์ ที่จะสร้างบริษัทฯ ให้เป็นองค์กรผู้ผลิตคอนเทนท์ชั้นนำ โดยผลิตรายการที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยปัจจุบันบริษัทมีสตูดิโอถ่ายทำรายการ 1 สตูดิโอและอยู่ระหว่างการก่อสร้างสตูดิโอสำหรับถ่ายทำรายการแห่งใหม่อีก 3 สตูดิโอ  เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจทีวีดิจิตอล ที่แต่เดิมมีเพียง 6 ช่อง เป็น 24 ช่อง ดิจิตอล ทั้งนี้ บริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินระดมทุนที่ได้มาขยายกำลังการผลิตรายการโทรทัศน์ และลงทุนในระบบการถ่ายทำ

         
altนายภูษิต ไล้ทอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันบริษัทฯ มีบริษัทย่อย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ครีเอทีส มีเดีย จำกัด หรือ CMED และบริษัท อีเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด หรือ EM ซึ่งแต่ละบริษัทมีนโยบายในการดำเนินธุรกิจที่แบ่งแยกอย่างชัดเจน โดยบริษัทฯ เน้นการผลิตและรับจ้างผลิตรายการผ่านการสร้างสรรค์รายการขึ้นมาใหม่ ในหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ รายการเกมโชว์ วาไรตี้โชว์  ละครดราม่า ละครซิทคอม และทอล์คโชว์ ซึ่งปัจจุบันมีรายการที่ออกอากาศผ่านสื่อโทรทัศน์ อาทิ รายการมาสเตอร์คีย์ เวทีแจ้งเกิด ละครหลวงตามหาชน กาละแมร์ และรายการแต๋ง เจี๊ยบ ดี้ วาไรตี้ 3 ฝ่าย เป็นต้น

 นายภูษิต กล่าวต่อว่า สำหรับ CMED มีนโยบายในการดำเนินธุรกิจเพื่อผลิตและรับจ้างผลิตรายการโทรทัศน์ที่ซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ อาทิ รายการเทค มี เอาท์ (ไทยแลนด์) รายการแดนซ์ ยัว แฟท ออฟ และรายการไทยแลนด์ แดนซ์ นาว เป็นต้น ส่วน EM มีนโยบายในการดำเนินธุรกิจบริหารศิลปิน เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานของบริษัทและ CMED โดยบริษัทฯ มีรายได้หลักจากค่าโฆษณา คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 85% ของรายได้ทั้งหมด และประมาณ 14 % มาจากการให้บริการ ซึ่งเกิดจากการรับจ้างผลิตรายการโทรทัศน์  และอีกประมาณ 1%  เป็นรายได้จากการบริหารงานศิลปินและการรับจ้างจัดงานอีเว้นท์

นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ขณะนี้บริษัท ทีวี ธันเดอร์ฯ อยู่ในระหว่างการเตรียมแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อยื่นคำขออนุญาตต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยคาดว่าน่าจะยื่นไฟลิ่งได้ภายในช่วงสิ้นปีนี้

“ทีวี ธันเดอร์ ถือเป็นบริษัทฯ ผลิตรายการโทรทัศน์ที่อยู่คู่กับวงการโทรทัศน์ไทยมานานกว่า 22 ปี ดังจะเห็นได้จากรายการหลายรายการที่ทางบริษัทฯ เป็นผู้คิดและผลิตออกมาสู่สายตาประชาชนซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ดังนั้น การเปิดทีวีดิจิตอลที่มีถึง 24 ช่อง จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ส่งผลให้บริษัทฯ เล็งเห็นถืงช่องทางการเติบโต จึงเป็นที่มาของการเตรียมตัวเพื่อระดมทุนสำหรับการขยายตัวต่อไปในอนาคตของบริษัท และการก้าวเข้าสู่มาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน” นายสมภพ กล่าว

 นายสมภพ กล่าวต่อว่าปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนเท่ากับ 200,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 800,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท โดยทุนเรียกชำระแล้วเท่ากับ 150,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 600,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรกจำนวน 200,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท


http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=257190:-mai-apm-fa&catid=176:2009-06-25-09-26-02&Itemid=524#.VIbC-4tAeuw

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.