Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

19 ธันวาคม 2557 นางวรรณี รัตนพล ระบุ สมรภูมิทีวีวันนี้ ผู้แข่งขันมี 2 กลุ่ม คือ ช่องเก่า (3-5-7-9) กับช่องใหม่ ขณะเดียวกันช่องใหม่ ๆ อย่าง เวิร์คพอยท์, ช่อง 8, โมโน 29, ไทยรัฐ, ทรูฟอร์ยู สามารถไต่อันดับขึ้นมาอยู่ใน 10 อันดับแรก สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อม โดยเฉพาะแนวทางการทำตลาดชัดเจน

ประเด็นหลัก



นางวรรณี รัตนพล ประธานบริหาร บริษัท ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส จำกัด และนายกสมาคมมีเดียธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สมรภูมิทีวีวันนี้อยู่บนสนามเดียวกันแล้ว ไม่มีช่องแอนะล็อกอีกต่อไป ถ้าจะแบ่ง

ผู้แข่งขันมี 2 กลุ่ม คือ ช่องเก่า (3-5-7-9) กับช่องใหม่ ทำให้การแข่งขันดุเดือดขึ้นแน่นอน เพราะทุกสถานีต้องมีรายได้เข้ามา ช่องที่มีเรตติ้งน้อยก็ต้องปรับตัว เพื่อช่วงชิงเม็ดเงินโฆษณา

ทั้งนี้หลังจากทีวีดิจิทัลออกอากาศมา 7-8 เดือนพบว่า เรตติ้งช่องเก่ายังทิ้งห่างช่องใหม่ชัดเจน ประกอบกับพฤติกรรมผู้ชมไทยยึดติดกับทีวีช่องเก่า คุ้นชินกับรายการเดิม ๆ กลุ่มคนเมืองยังเหนียวแน่นกับช่อง 3 ส่วนคนต่างจังหวัดก็ยังดูช่อง 7 เป็นหลัก ถือเป็นปัญหาของช่องใหม่ ๆ ทำอย่างไรให้ผู้ชมรับรู้ว่า ยังมีช่องอื่น ๆ ที่มีคอนเทนต์น่าสนใจอีก

ขณะเดียวกันช่องใหม่ ๆ อย่าง เวิร์คพอยท์, ช่อง 8, โมโน 29, ไทยรัฐ, ทรูฟอร์ยู สามารถไต่อันดับขึ้นมาอยู่ใน 10 อันดับแรก สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อม โดยเฉพาะแนวทางการทำตลาด เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้ชม


______________________________







ทีวีเดิมพันอนาคตแนวรบร้อนฉ่า 3-7บี้หนัก/ช่องใหม่เร่งสร้างจุดขายก่อนตกขบวน



ปีหน้าเดิมพันสูงลิบ ยักษ์ฟรีทีวีขยับรอบใหม่ ชิงเม็ดเงินโฆษณา 8 หมื่นล้าน ตอกย้ำจุดแข็ง ช่อง 7 ส่ง "อั้ม-เวียร์-พอร์ช" ย้ำคุณภาพรายการ ช่อง 3 เต็มสูบ ซุ่มเงียบรายการช่วงไพรมไทม์ช่องเอสดี ฟากรายใหม่ "เวิร์คพอยท์-แกรมมี่-ไทยรัฐทีวี-พีพีทีวี-ช่อง 8" เดิมพันอนาคต พาเหรดเขย่าผังรับศึกหนัก มีเดียเอเยนซี่ ย้ำช่องใหม่ต้องเร่งเครื่องย้ำจุดขายให้ชัด สร้างฐานผู้ชม ตรึงเรตติ้ง ชี้พฤติกรรมคนดู เกาะช่อง 3-7 แน่น

ปี 2558 น่าจะเป็นห้วงเวลาสำคัญที่สุดชี้อนาคตทีวีช่องต่าง ๆ โดยเฉพาะช่องใหม่-ดิจิทัล ภายหลังจากทุกช่องออกอากาศภายใต้กฎ-กติกา ในสนามการแข่งขันเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียงช่องทีวีใหม่ของ กสทช. ทำให้มีเลขหมายช่องตรงกันในทุกช่องทางออกอากาศ

จากที่ผ่านมาภายหลังการแพร่ภาพทีวีดิจิทัล ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา มีไม่กี่ช่องเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ โกยเรตติ้งคนดูตั้งแต่เริ่มต้น ขณะที่บางช่องอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม ก่อนเปิดแนวรบอย่างเต็มรูปแบบทันทีที่เริ่มสู่ปี 2558

แหล่งข่าวผู้บริหารทีวีดิจิทัลวิเคราะห์ว่า สถานการณ์ต่าง ๆ น่าจะเริ่มดีขึ้น จาก 4 ปัจจัย ได้แก่ 1.การเรียงหมายเลขช่องทีวีดิจิทัลทั้ง 36 ช่องในทุกแพลตฟอร์ม น่าจะมีผลในต้นปีหน้า 2.การจ่ายค่าสัมปทาน ซึ่งอาจถูกเลื่อนกำหนดจากวันที่ 2 ก.พ. 58 ออกไป ทำให้ทุกค่ายถูกยืดลมหายใจ และสามารถนำเงินไปพัฒนาคอนเทนต์(รายการ) เพื่อรองรับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น 3.การแจกคูปองกล่องทีวีดิจิทัลในปีหน้าจะครอบคลุมทั่วประเทศ และ 4.นีลเส็น บริษัทสำรวจความนิยมผู้ชม (เรตติ้ง) จะเพิ่มอีก 200 กลุ่มตัวอย่าง สำหรับผู้ชมผ่านกล่องทีวีดิจิทัลในช่วงไตรมาส 1 ปี 2558

"ปีนี้ทีวีดิจิทัลต้องเผชิญกับปัญหามากมาย ทั้งความไม่พร้อมของโครงข่าย และการแจกคูปอง"

เรตติ้งช่องเก่ายังทิ้งห่าง

นางวรรณี รัตนพล ประธานบริหาร บริษัท ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส จำกัด และนายกสมาคมมีเดียธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สมรภูมิทีวีวันนี้อยู่บนสนามเดียวกันแล้ว ไม่มีช่องแอนะล็อกอีกต่อไป ถ้าจะแบ่ง

ผู้แข่งขันมี 2 กลุ่ม คือ ช่องเก่า (3-5-7-9) กับช่องใหม่ ทำให้การแข่งขันดุเดือดขึ้นแน่นอน เพราะทุกสถานีต้องมีรายได้เข้ามา ช่องที่มีเรตติ้งน้อยก็ต้องปรับตัว เพื่อช่วงชิงเม็ดเงินโฆษณา

ทั้งนี้หลังจากทีวีดิจิทัลออกอากาศมา 7-8 เดือนพบว่า เรตติ้งช่องเก่ายังทิ้งห่างช่องใหม่ชัดเจน ประกอบกับพฤติกรรมผู้ชมไทยยึดติดกับทีวีช่องเก่า คุ้นชินกับรายการเดิม ๆ กลุ่มคนเมืองยังเหนียวแน่นกับช่อง 3 ส่วนคนต่างจังหวัดก็ยังดูช่อง 7 เป็นหลัก ถือเป็นปัญหาของช่องใหม่ ๆ ทำอย่างไรให้ผู้ชมรับรู้ว่า ยังมีช่องอื่น ๆ ที่มีคอนเทนต์น่าสนใจอีก

ขณะเดียวกันช่องใหม่ ๆ อย่าง เวิร์คพอยท์, ช่อง 8, โมโน 29, ไทยรัฐ, ทรูฟอร์ยู สามารถไต่อันดับขึ้นมาอยู่ใน 10 อันดับแรก สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อม โดยเฉพาะแนวทางการทำตลาด เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้ชม

"ที่พบคือ แต่ละช่องรูปแบบรายการคล้าย ๆ กัน ถ้าเป็นรายการวาไรตี้ ส่วนใหญ่จะเชิญแขกมานั่งพูดคุย ซึ่งบางรายการก็ไม่น่าสนใจ เมื่อคอนเทนต์ไม่แตกต่าง โปรไฟล์ช่องไม่ชัด แต่จำนวนช่องเพิ่มขึ้น ก็จะไม่ได้รับความสนใจ ดังนั้นสถานีเองต้องมีโปรไฟล์ชัดเจน เมื่อโปรไฟล์ชัดผู้ชมจะเลือกเข้ามาชมตามไลฟ์สไตล์ตัวเอง ต้องดูว่ารายการไหนเข้ากับกลุ่มผู้ชมกลุ่มไหน ไม่เว้นแม้แต่ช่องข่าวเองก็ต้องวางกลุ่มเป้าหมายให้ชัด"

ได้เวลาชิงเม็ดเงินหมื่น ล.

นางวรรณีกล่าวต่อว่า แม้ว่าจำนวนทีวีดิจิทัลจะเพิ่มเป็น 24 ช่อง แต่งบฯโฆษณาทีวีไม่ได้เพิ่มขึ้น ยังมีสัดส่วน 60-65% ของงบฯโฆษณารวม หรือ 7-8 หมื่นล้านบาท แต่คาดว่าเม็ดเงินโฆษณาทีวีดิจิทัล (ช่องใหม่) จะเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาท จากปีนี้อยู่ที่ 7 พันล้านบาท

ตัวแปรสำคัญที่ทำให้เม็ดเงินโฆษณาไหลจากช่องเดิม (3-5-7-9) มาหาช่องใหม่ก็ขึ้นอยู่กับ Cost Per Rating Points - CPRP (ค่าใช้จ่ายต่อ 1% ของค่าความนิยมในรายการ) ต้องไม่แพงกว่าช่องเดิม ทำให้ช่องต้องมีแผนการประชาสัมพันธ์รายการอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการรับรู้ และดึงให้ผู้ชมมารับชมช่องนั้น ๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะช่องเก่าก็ใช้เวลาหลายปีในการสร้างสถานีจนเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

"คิดว่าทุกรายยังสู้อยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าใครจะถอดใจเร็วแค่ไหน เพราะธุรกิจทีวีต้องใช้เงินลงทุนสูงและออกอากาศทุกวัน ถ้าช่องยังไม่มีรายได้เข้ามาแล้วยังจะทนได้แค่ไหน เพราะทีวีถือเป็นธุรกิจที่รวยก็รวยเร็ว ถ้าเจ๊งก็เจ๊งเร็วเช่นกัน" ผู้บริหารมีเดียเอเยนซี่ยักษ์ใหญ่กล่าว

3-7 ปล่อยของ ย้ำแชมป์เจ้าตลาด

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวล่าสุดของ 2 ยักษ์ใหญ่ โดยเฉพาะช่อง 7 ซึ่งถูกระบุว่ามีเรตติ้งคนดูมากที่สุด ได้ปล่อยหนังโฆษณาชุดที่ 2 "คัดแล้วคัดอีก" ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคม ดึง 3 นักแสดงแม่เหล็ก อั้ม พัชราภา, เวียร์-ศุกลวัฒน์ และพอร์ช-ศรัณย์ มาเป็นตัวเดินเรื่อง ตอกย้ำ "กว่าจะเป็นรายการของช่อง 7 สี และช่อง 7 เอชดี" จะผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มงวด และไม่ใช่แค่รายการอะไรก็ได้ แต่ต้องเป็นรายการคุณภาพ จากก่อนหน้านี้เมื่อเดือนเมษายนได้ปล่อยโฆษณาชุด "อั้ม พัชราภา ชวนดูทีวีดิจิทัลช่อง 7 สีเอชดี ทางช่อง 35" พร้อมโรดโชว์ทั่วประเทศ

ตามด้วยการปรับผังรายการใหม่เมื่อเดือนตุลาคม ให้น้ำหนักรายการข่าว ลากยาวตั้งแต่ 05.00-09.30 น. จากเดิมออกอากาศ 05.00-08.30 น. ปิดจุดอ่อนรายการข่าวช่วงเช้า

และปรับผังรายการบางส่วนในช่วงวันหยุดฟากช่อง 3 เอชดี, ช่อง 3 เอสดี และช่องแฟมิลี่ ก็ปล่อยโฆษณาชุด "ประสบการณ์สู่อนาคต" เพื่อสื่อสารกับผู้ชม ตั้งแต่เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะที่นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธ์ รองกรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ออกมากล่าวถึงทิศทางธุรกิจทีวีดิจิทัลในเวลาต่อมาว่า ปีหน้าจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาช่อง 3 เอสดี ช่วงไพรมไทม์ 17.00-22.00 น. แต่จะไม่ใส่คอนเทนต์รายการชนกับช่อง 3 เอชดี ซึ่งเน้นละครและข่าวเป็นตัวชูโรง

"เวิร์คพอยท์-แกรมมี่" ขยับผังสู้

นายปัญญา นิรันดร์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด(มหาชน) ผู้บริหารช่อง "เวิร์คพอยท์ ครีเอทีฟทีวี" กล่าวว่า การแข่งขันทีวีดิจิทัลปีหน้าจะชัดเจนขึ้นทุกด้าน แต่ละช่องจะเร่งเติมคอนเทนต์ ปรับผังรายการ ตลอดจนโครงข่ายการรับชม หลังจากที่ปีนี้ทีวีดิจิทัลต้องเผชิญกับความไม่ชัดเจนจากหลายปัญหา โดยในส่วนเวิร์คพอยท์จะปรับผังรายการใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2558 เป็นต้นไป ด้วยการเติมรายการใหม่กว่า 20 รายการ ทั้งซิทคอมและวาไรตี้ เช่น เชฟหม่ำ พ่อครัวหัวเหลี่ยม เดอะซิงเกอร์ไทยแลนด์ Let Me In Thailand ซิทคอมเพลงรักบ้านเช่า เป็นต้น ภายใต้งบฯลงทุนเฉพาะคอนเทนต์รายการ 550-600 ล้านบาท

"ปัจจุบันเวิร์คพอยท์มีเรตติ้งอันดับ 3 รองจากช่อง 7 และช่อง 3 ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว จากนี้ไปจะเดินหน้ารักษาตำแหน่งนี้ต่อไป จะไม่สู้กับช่อง 7 และช่อง 3 เพราะมีประสบการณ์มานาน แต่จะทำในสิ่งที่เวิร์คพอยท์เชี่ยวชาญ"

ด้าน นายถกลเกียรติ วีรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดิจิทัลทีวี บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารช่องวันกล่าวว่า ปี 2558 ทุกช่องคงแข่งกันที่คอนเทนต์เป็นหลัก ตั้งแต่เดือนสิงหาคมบริษัทได้ทยอยปล่อยรายการใหม่ ๆ ออกมาต่อเนื่อง ล่าสุดปล่อยละครช่วงไพรมไทม์จันทร์-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น.ชนกับช่อง 3-7 มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนเป็นกลุ่มผู้หญิงเมือง เนื่องจากสถานการณ์ทุกอย่างเริ่มดีขึ้น ประกอบกับสัญญาณการฟื้นตัวการใช้งบฯโฆษณาก็มีแนวโน้มดีขึ้นเช่นกัน ตั้งเป้าจะมีส่วนแบ่งตลาด 10% หรือ 1,000 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไทยรัฐทีวี เตรียมลงทุนด้านคอนเทนต์รายการในปีหน้าอีก 1,200 ล้านบาท เพิ่มจากปีแรกที่ใช้ 1,000 ล้านบาท และได้ปรับผังรายการบางส่วนไปแล้วเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะปรับอีกครั้งในต้นปีหน้า เช่นเดียวกับวอยซ์ทีวี เตรียมปรับผังใหม่ต้นปีหน้า เพิ่มรายการตอบโจทย์ผู้ชมกลุ่มอายุ 18-22 ปี ฟากไบร์ททีวี ทุ่ม 700-800 ล้านบาท เพิ่มความหลากหลายให้คอนเทนต์ ทั้งละคร วาไรตี้ ตลก

ก่อนหน้านี้ ช่องพีพีทีวี และช่อง 8 ต่างเติมรายการกีฬา ทั้ง มวย ฟุตบอล เพิ่มเข้ามา จีเอ็มเอ็ม ชาแนล ก็ทยอยปล่อยคอนเทนต์ออกมาสู้ตั้งแต่เดือนตุลาคม ส่วนช่องโมโน 29 ปรับผังรายการ โดยเพิ่มสัดส่วนโลคอลคอนเทนต์เป็น 35% และ 65% เป็นรายการต่างประเทศ ตามด้วย นิวส์ทีวี เพิ่มรายการบันเทิงรูปแบบใหม่ ๆ มาเรียกความสนใจ


http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1418831328

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.