24 ธันวาคม 2557 comseven.สุระ ระบุ สำหรับรายได้รวมปี 2558 คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 15% โดยปีนี้มีรายได้ประมาณ 1.49 หมื่นล้านบาท ซึ่งสัดส่วนรายได้ปีนี้ กลุ่มแอปเปิล โฟน และสมาร์ทโฟน แซงหน้าโน้ตบุ๊กเป็นปีแรก โดยมีสัดส่วน 27%
ประเด็นหลัก
นายสุระ กล่าวต่ออีกว่าปี 2558 บริษัทจะขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าองค์กรมากขึ้น โดยจากการสำรวจที่ผ่านมาบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มองค์กร 8% อย่างไรก็ตามสาขาในบางพื้นที่ มีรายได้จากลูกค้าองค์กร และโรงงาน สูงถึง 10-40% ซึ่งเป็นโอกาสให้บริษัทขยายตลาดไปยังลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะเอสเอ็มอี โดยประมาณไตรมาส 2 ปีหน้าจะมีแคมเปญสำหรับกลุ่มเอสเอ็มอีออกมา รวมถึงการให้ระยะเวลาการชำระค่าสินค้าและบริการ หรือ เครดิต เทอม นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดให้บริการอี-คอมเมิร์ซผ่านเว็บไซต์ แมงโก้ช็อปปิ้งดอตคอม ประมาณต้นไตรมาส 3 โดยจุดเด่นของแมงโก้ช็อปปิ้ง คือ สินค้าราคาถูก ซึ่งเป็นสินค้าที่ต่างจากร้านบานาน่า โดยบริษัทจะจับมือกับพันธมิตร โดยใช้ช่องทางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่บริษัทมีอยู่ในการกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภค ซึ่งในปีหน้าตั้งเป้ารายได้จากช่องทางอี-คอมเมิร์ซไว้ 30 ล้านบาท
สำหรับรายได้รวมปี 2558 คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 15% โดยปีนี้มีรายได้ประมาณ 1.49 หมื่นล้านบาท ซึ่งสัดส่วนรายได้ปีนี้ กลุ่มแอปเปิล โฟน และสมาร์ทโฟน แซงหน้าโน้ตบุ๊กเป็นปีแรก โดยมีสัดส่วน 27% ขณะที่โน้ตบุ๊กมีสัดส่วนประมาณ 25% ส่วนในปี 2558 คาดว่าแอปเปิลโฟน และสมาร์ทโฟน จะสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 30%
_____________________________________________________
'คอมเซเว่น'เชื่อไอที58ฟื้น
คอมเซเว่น มองตลาดไอทีปี 58 สดใส เชื่อของเล่นใหม่แอปเปิล-โน้ตบุ๊กฟื้นชีพ-การเกิด 4G-ดิจิตอลอีโคโนมี ช่วยปลุกตลาดเติบโต กางแผนทุ่มการตลาด-ปรับโฉม-ขยายสาขาใหม่ 500 ล้านบาท พร้อมขยายธุรกิจจับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี รวมถึงขายผ่านอี-คอมเมิร์ซผ่านแมงโก้ช็อปปิ้ง ตั้งเป้ารายได้ปี 58 ประมาณ 1.75 หมื่นล้านบาท เติบโต 15%
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ เปิดเผยว่าภาพรวมของตลาดไอทีปี 2558 นั้นมีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวราว 10% ทั้งนี้เป็นผลมาจากไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส ที่เข้ามาตลาดปลายปีนี้ จะสามารถขายได้มากขึ้นในปีหน้า อย่างน้อยสุดก็ประมาณ 10 เดือน ขณะที่ปีหน้า ผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ของแอปเปิล กลุ่มอุปกรณ์สวมใส่ (Wearable Device)คือ แอปเปิล วอยซ์ จะเข้ามาสร้างสีสันให้ตลาด
นอกจากนี้ยังมองว่าตลาดโน้ตบุ๊ก ที่ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วจะกลับมาฟื้นตัว โดยกลุ่มผู้ซื้อแท็บเลตไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จะเริ่มกลับมามองหาโน้ตบุ๊กเครื่องใหม่ใช้ในการทำงาน ขณะเดียวกันมองว่าการเกิดขึ้นของ 4G ปีหน้า จะทำให้ผู้บริโภคให้ความสนใจในตัวอุปกรณ์หรือ ดีไวซ์มากขึ้น เช่นเดียวกับนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลของรัฐบาล ที่ขณะนี้ยังไม่ชัดเจน แต่เชื่อว่าจะสร้างการตื่นตัวให้ธุรกิจไอทีปีหน้า
สำหรับแผนธุรกิจปี 2558 บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้ 500 ล้านบาท แบ่งเป็นงบขยายสาขา และปรับปรุงสาขา ราว 350 ล้านบาท โดยสาขาใหม่ที่มีแผนเปิดปีหน้า รวม 66 สาขา แบ่งเป็นเพิ่มบานาน่าไอที 21 สาขา บานาน่าโมบาย 13 สาขา ไอสตูดิโอรวมไอบีทบายคอมเซเว่น 22 สาขา ไอแคร์ 8 สาขา และซัมซุงช็อป 2 สาขา ทั้งนี้ในจำนวนดังกล่าวจะเป็นแฟลกชิพสโตร์บานาน่าไอที และไอสตูดิโอ รวม 2 แห่ง ที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในเดือนมีนาคม 2558 นอกจากนี้ ปรับปรุงร้านบานาน่าไอที 50 สาขา ไอสตูดิโอ 10 สาขา คอนเซ็ปต์เน้นรูปแบบโดดเด่น มีเอกลักษณ์ เพื่อรองรับสินค้าไฮเทคระดับไฮเอนด์แบรนด์แอปเปิลที่จะเปิดตัวในปีหน้า
นอกจากนี้ยังได้วางงบลงตลาดไว้ 150 ล้านบาท สำหรับทำการตลาดแบบรอบด้าน โดยจะมุ่งเน้นการทำกิจกรรมตลาดหน้าร้าน เพื่อดึงคนเข้ามาในร้านมากกว่าร่วมงานอีเวนต์ใหญ่ เนื่องจากเชื่อว่าการดึงคนเข้ามาในร้านเป็นแนวทางที่ทำให้ธุรกิจเกิดความยั่งยืนมากกว่า
นายสุระ กล่าวต่ออีกว่าปี 2558 บริษัทจะขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าองค์กรมากขึ้น โดยจากการสำรวจที่ผ่านมาบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มองค์กร 8% อย่างไรก็ตามสาขาในบางพื้นที่ มีรายได้จากลูกค้าองค์กร และโรงงาน สูงถึง 10-40% ซึ่งเป็นโอกาสให้บริษัทขยายตลาดไปยังลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะเอสเอ็มอี โดยประมาณไตรมาส 2 ปีหน้าจะมีแคมเปญสำหรับกลุ่มเอสเอ็มอีออกมา รวมถึงการให้ระยะเวลาการชำระค่าสินค้าและบริการ หรือ เครดิต เทอม นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดให้บริการอี-คอมเมิร์ซผ่านเว็บไซต์ แมงโก้ช็อปปิ้งดอตคอม ประมาณต้นไตรมาส 3 โดยจุดเด่นของแมงโก้ช็อปปิ้ง คือ สินค้าราคาถูก ซึ่งเป็นสินค้าที่ต่างจากร้านบานาน่า โดยบริษัทจะจับมือกับพันธมิตร โดยใช้ช่องทางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่บริษัทมีอยู่ในการกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภค ซึ่งในปีหน้าตั้งเป้ารายได้จากช่องทางอี-คอมเมิร์ซไว้ 30 ล้านบาท
สำหรับรายได้รวมปี 2558 คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 15% โดยปีนี้มีรายได้ประมาณ 1.49 หมื่นล้านบาท ซึ่งสัดส่วนรายได้ปีนี้ กลุ่มแอปเปิล โฟน และสมาร์ทโฟน แซงหน้าโน้ตบุ๊กเป็นปีแรก โดยมีสัดส่วน 27% ขณะที่โน้ตบุ๊กมีสัดส่วนประมาณ 25% ส่วนในปี 2558 คาดว่าแอปเปิลโฟน และสมาร์ทโฟน จะสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 30%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 3,011 วันที่ 21 - 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=258579:58&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.VJp5dCBAc
นายสุระ กล่าวต่ออีกว่าปี 2558 บริษัทจะขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าองค์กรมากขึ้น โดยจากการสำรวจที่ผ่านมาบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มองค์กร 8% อย่างไรก็ตามสาขาในบางพื้นที่ มีรายได้จากลูกค้าองค์กร และโรงงาน สูงถึง 10-40% ซึ่งเป็นโอกาสให้บริษัทขยายตลาดไปยังลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะเอสเอ็มอี โดยประมาณไตรมาส 2 ปีหน้าจะมีแคมเปญสำหรับกลุ่มเอสเอ็มอีออกมา รวมถึงการให้ระยะเวลาการชำระค่าสินค้าและบริการ หรือ เครดิต เทอม นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดให้บริการอี-คอมเมิร์ซผ่านเว็บไซต์ แมงโก้ช็อปปิ้งดอตคอม ประมาณต้นไตรมาส 3 โดยจุดเด่นของแมงโก้ช็อปปิ้ง คือ สินค้าราคาถูก ซึ่งเป็นสินค้าที่ต่างจากร้านบานาน่า โดยบริษัทจะจับมือกับพันธมิตร โดยใช้ช่องทางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่บริษัทมีอยู่ในการกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภค ซึ่งในปีหน้าตั้งเป้ารายได้จากช่องทางอี-คอมเมิร์ซไว้ 30 ล้านบาท
สำหรับรายได้รวมปี 2558 คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 15% โดยปีนี้มีรายได้ประมาณ 1.49 หมื่นล้านบาท ซึ่งสัดส่วนรายได้ปีนี้ กลุ่มแอปเปิล โฟน และสมาร์ทโฟน แซงหน้าโน้ตบุ๊กเป็นปีแรก โดยมีสัดส่วน 27% ขณะที่โน้ตบุ๊กมีสัดส่วนประมาณ 25% ส่วนในปี 2558 คาดว่าแอปเปิลโฟน และสมาร์ทโฟน จะสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 30%
_____________________________________________________
'คอมเซเว่น'เชื่อไอที58ฟื้น
คอมเซเว่น มองตลาดไอทีปี 58 สดใส เชื่อของเล่นใหม่แอปเปิล-โน้ตบุ๊กฟื้นชีพ-การเกิด 4G-ดิจิตอลอีโคโนมี ช่วยปลุกตลาดเติบโต กางแผนทุ่มการตลาด-ปรับโฉม-ขยายสาขาใหม่ 500 ล้านบาท พร้อมขยายธุรกิจจับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี รวมถึงขายผ่านอี-คอมเมิร์ซผ่านแมงโก้ช็อปปิ้ง ตั้งเป้ารายได้ปี 58 ประมาณ 1.75 หมื่นล้านบาท เติบโต 15%
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ เปิดเผยว่าภาพรวมของตลาดไอทีปี 2558 นั้นมีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวราว 10% ทั้งนี้เป็นผลมาจากไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส ที่เข้ามาตลาดปลายปีนี้ จะสามารถขายได้มากขึ้นในปีหน้า อย่างน้อยสุดก็ประมาณ 10 เดือน ขณะที่ปีหน้า ผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ของแอปเปิล กลุ่มอุปกรณ์สวมใส่ (Wearable Device)คือ แอปเปิล วอยซ์ จะเข้ามาสร้างสีสันให้ตลาด
นอกจากนี้ยังมองว่าตลาดโน้ตบุ๊ก ที่ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วจะกลับมาฟื้นตัว โดยกลุ่มผู้ซื้อแท็บเลตไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จะเริ่มกลับมามองหาโน้ตบุ๊กเครื่องใหม่ใช้ในการทำงาน ขณะเดียวกันมองว่าการเกิดขึ้นของ 4G ปีหน้า จะทำให้ผู้บริโภคให้ความสนใจในตัวอุปกรณ์หรือ ดีไวซ์มากขึ้น เช่นเดียวกับนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลของรัฐบาล ที่ขณะนี้ยังไม่ชัดเจน แต่เชื่อว่าจะสร้างการตื่นตัวให้ธุรกิจไอทีปีหน้า
สำหรับแผนธุรกิจปี 2558 บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้ 500 ล้านบาท แบ่งเป็นงบขยายสาขา และปรับปรุงสาขา ราว 350 ล้านบาท โดยสาขาใหม่ที่มีแผนเปิดปีหน้า รวม 66 สาขา แบ่งเป็นเพิ่มบานาน่าไอที 21 สาขา บานาน่าโมบาย 13 สาขา ไอสตูดิโอรวมไอบีทบายคอมเซเว่น 22 สาขา ไอแคร์ 8 สาขา และซัมซุงช็อป 2 สาขา ทั้งนี้ในจำนวนดังกล่าวจะเป็นแฟลกชิพสโตร์บานาน่าไอที และไอสตูดิโอ รวม 2 แห่ง ที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในเดือนมีนาคม 2558 นอกจากนี้ ปรับปรุงร้านบานาน่าไอที 50 สาขา ไอสตูดิโอ 10 สาขา คอนเซ็ปต์เน้นรูปแบบโดดเด่น มีเอกลักษณ์ เพื่อรองรับสินค้าไฮเทคระดับไฮเอนด์แบรนด์แอปเปิลที่จะเปิดตัวในปีหน้า
นอกจากนี้ยังได้วางงบลงตลาดไว้ 150 ล้านบาท สำหรับทำการตลาดแบบรอบด้าน โดยจะมุ่งเน้นการทำกิจกรรมตลาดหน้าร้าน เพื่อดึงคนเข้ามาในร้านมากกว่าร่วมงานอีเวนต์ใหญ่ เนื่องจากเชื่อว่าการดึงคนเข้ามาในร้านเป็นแนวทางที่ทำให้ธุรกิจเกิดความยั่งยืนมากกว่า
นายสุระ กล่าวต่ออีกว่าปี 2558 บริษัทจะขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าองค์กรมากขึ้น โดยจากการสำรวจที่ผ่านมาบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มองค์กร 8% อย่างไรก็ตามสาขาในบางพื้นที่ มีรายได้จากลูกค้าองค์กร และโรงงาน สูงถึง 10-40% ซึ่งเป็นโอกาสให้บริษัทขยายตลาดไปยังลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะเอสเอ็มอี โดยประมาณไตรมาส 2 ปีหน้าจะมีแคมเปญสำหรับกลุ่มเอสเอ็มอีออกมา รวมถึงการให้ระยะเวลาการชำระค่าสินค้าและบริการ หรือ เครดิต เทอม นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดให้บริการอี-คอมเมิร์ซผ่านเว็บไซต์ แมงโก้ช็อปปิ้งดอตคอม ประมาณต้นไตรมาส 3 โดยจุดเด่นของแมงโก้ช็อปปิ้ง คือ สินค้าราคาถูก ซึ่งเป็นสินค้าที่ต่างจากร้านบานาน่า โดยบริษัทจะจับมือกับพันธมิตร โดยใช้ช่องทางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่บริษัทมีอยู่ในการกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภค ซึ่งในปีหน้าตั้งเป้ารายได้จากช่องทางอี-คอมเมิร์ซไว้ 30 ล้านบาท
สำหรับรายได้รวมปี 2558 คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 15% โดยปีนี้มีรายได้ประมาณ 1.49 หมื่นล้านบาท ซึ่งสัดส่วนรายได้ปีนี้ กลุ่มแอปเปิล โฟน และสมาร์ทโฟน แซงหน้าโน้ตบุ๊กเป็นปีแรก โดยมีสัดส่วน 27% ขณะที่โน้ตบุ๊กมีสัดส่วนประมาณ 25% ส่วนในปี 2558 คาดว่าแอปเปิลโฟน และสมาร์ทโฟน จะสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 30%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 3,011 วันที่ 21 - 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=258579:58&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.VJp5dCBAc
ไม่มีความคิดเห็น: