28 ธันวาคม 2557 BlackBerry จำเป็นต้องจำหน่ายสมาร์ทโฟนให้ได้ 10 ล้านเครื่องต่อปีเพื่อให้ธุรกิจฮาร์ดแวร์มีกำไร ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกของปี 57 แบล็คเบอร์รี่ทำเงินได้จากการจำหน่ายสมาร์ทโฟน 5.7 ล้านเครื่อง
ประเด็นหลัก
แบล็คเบอร์รี่มีรายได้จากยอดขายสมาร์ทโฟนประมาณ 2 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา ทั้งนี้แบล็คเบอร์รี่จำเป็นต้องจำหน่ายสมาร์ทโฟนให้ได้ 10 ล้านเครื่องต่อปีเพื่อให้ธุรกิจฮาร์ดแวร์มีกำไร ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกของปี แบล็คเบอร์รี่ทำเงินได้จากการจำหน่ายสมาร์ทโฟน 5.7 ล้านเครื่อง ซึ่งหมายความว่าในช่วง 3 เดือนที่เหลือ แบล็คเบอร์รี่จะต้องทำยอดขายให้ได้ 4.3 ล้านเครื่อง
_____________________________________________________
แบล็คเบอร์รี่ลดขาดทุนได้ผล
ผลประกอบการล่าสุดของแบล็คเบอร์รี่แสดงให้เห็นว่ายุทธศาสตร์การพลิกฟื้นบริษัทด้วยการลดค่าใช้จ่ายกำลังเห็นผล แต่ขณะเดียวกันรายได้ที่ลดลงยังเป็นโจทย์ที่ซีอีโอ จอห์น เฉิน ต้องหาทางแก้ไขต่อไป
alt เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล ระบุว่า จอห์น เฉิน เข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแบล็คเบอร์รี่ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากแคนาคา เมื่อกว่า 1 ปีก่อน หลังจากประสบความสำเร็จกับการฟื้นฟูบริษัทซอฟต์แวร์ ซีเบสฯ โดยเฉินหวังว่าจะประสบความสำเร็จกับการฟื้นสถานการณ์ของแบล็คเบอร์รี่เช่นเดียวกัน ด้วยการพยายามลดต้นทุนและเอาต์ซอร์ซการผลิตฮาร์ดแวร์เพื่อให้บริษัทกลับมาทำกำไร จากนั้นเพิ่มยอดขายโดยเน้นไปที่ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย บริการด้านเทคโนโลยี และการนำโทรศัพท์รุ่นใหม่ออกวางตลาด
ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของบริษัทที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน แสดงให้เห็นว่ายุทธศาสตร์ในขั้นแรกคือการลดต้นทุนนั้นได้ผลตามที่คาดหมาย แบล็คเบอร์รี่ขาดทุนลดลงเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และกลับมาทำกำไรจากการดำเนินการได้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี อย่างไรก็ตาม รายได้ที่ลดลง 34% สะท้อนถึงความท้าทายที่แบล็คเบอร์รี่ยังต้องเผชิญ
"ตัวเลขรายได้ยังไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับเราอย่างแน่นอน การทำกำไรได้อย่างยั่งยืนจะเกิดขึ้นต่อเมื่อรายได้มีการเติบโตเท่านั้น" เฉินกล่าว
แบล็คเบอร์รี่ส่งพนักงานประมาณ 200 คน ออกภาคสนามเพื่อช่วยกระตุ้นยอดขาย ขณะเดียวกันก็พึ่งพาเครือข่ายไร้สายรายใหญ่ในประเทศต่างๆ อาทิ เอทีแอนด์ที เวอไรซอนไวร์เลส และโวดาโฟน กรุ๊ป รวมถึงตัวแทนจำหน่ายในการทำตลาดอุปกรณ์และซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ ซึ่งเฉินกล่าวว่า ความพยายามดังกล่าวจะเห็นผลอย่างเร็วในปีหน้า "เราอาจจะต้องใช้เวลาอีก 2-3 ไตรมาสก่อนรายได้จะมีการเติบโต" เฉินกล่าว
ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาสล่าสุด แบล็คเบอร์รี่ขาดทุน 148 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงจากการขาดทุน 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้อยู่ที่ 793 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่ำกว่าความคาดหมายของนักลงทุนที่คาดไว้ประมาณ 932 ดอลลาร์สหรัฐฯ
สัปดาห์ที่ผ่านมา แบล็คเบอร์รี่นำสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด คลาสสิก (Classic)ออกวางตลาด โดยมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดลูกค้าที่เคยชื่นชอบจุดเด่นของสมาร์ทโฟนแบล็คเบอร์รี่รุ่นเก่าๆ เช่น คีย์บอร์ดและแทร็กแพด แบล็คเบอร์รี่หวังว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่น คือคลาสสิก และพาสปอร์ต ที่ออกวางตลาดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา จะสามารถกระตุ้นการเติบโตของรายได้ให้กับบริษัทได้
เฉินกล่าวว่า ยอดสั่งซื้อล่วงหน้าสมาร์ทโฟนรุ่นคลาสสิกมีสูงกว่ายอดพรีออร์เดอร์ 2 แสนเครื่องของรุ่นพาสปอร์ต แต่ไม่ได้ระบุจำนวนที่ชัดเจน และไม่ได้เปิดเผยยอดขายล่าสุดของรุ่นพาสปอร์ต
แบล็คเบอร์รี่มีรายได้จากยอดขายสมาร์ทโฟนประมาณ 2 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา ทั้งนี้แบล็คเบอร์รี่จำเป็นต้องจำหน่ายสมาร์ทโฟนให้ได้ 10 ล้านเครื่องต่อปีเพื่อให้ธุรกิจฮาร์ดแวร์มีกำไร ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกของปี แบล็คเบอร์รี่ทำเงินได้จากการจำหน่ายสมาร์ทโฟน 5.7 ล้านเครื่อง ซึ่งหมายความว่าในช่วง 3 เดือนที่เหลือ แบล็คเบอร์รี่จะต้องทำยอดขายให้ได้ 4.3 ล้านเครื่อง
นอกจากนี้ แบล็คเบอร์รี่ยังตั้งเป้าหมายเพิ่มรายได้จากธุรกิจซอฟต์แวร์ขึ้น 2 เท่าเป็น 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบประมาณหน้า โดยหวังพึ่งเทคโนโลยีโมบายดีไวซ์เมเนจเมนต์เวอร์ชันล่าสุด ขณะเดียวกัน แบล็คเบอร์รี่กล่าวว่าได้ทำงานร่วมกับบริษัท โบอิ้งฯ เพื่อนำซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่ไปใช้ในอุปกรณ์ระบบแอนดรอยด์ หวังเจาะกลุ่มลูกค้าภาคองค์กรที่ต้องการระดับความปลอดภัยสูงในโทรศัพท์มือถือ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 3,012 วันที่ 25 - 27 ธันวาคม พ.ศ. 2557
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=259035:2014-12-23-07-03-10&catid=109:2009-02-08-11-36-01&Itemid=460#.VJ_DUCBAc
แบล็คเบอร์รี่มีรายได้จากยอดขายสมาร์ทโฟนประมาณ 2 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา ทั้งนี้แบล็คเบอร์รี่จำเป็นต้องจำหน่ายสมาร์ทโฟนให้ได้ 10 ล้านเครื่องต่อปีเพื่อให้ธุรกิจฮาร์ดแวร์มีกำไร ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกของปี แบล็คเบอร์รี่ทำเงินได้จากการจำหน่ายสมาร์ทโฟน 5.7 ล้านเครื่อง ซึ่งหมายความว่าในช่วง 3 เดือนที่เหลือ แบล็คเบอร์รี่จะต้องทำยอดขายให้ได้ 4.3 ล้านเครื่อง
_____________________________________________________
แบล็คเบอร์รี่ลดขาดทุนได้ผล
ผลประกอบการล่าสุดของแบล็คเบอร์รี่แสดงให้เห็นว่ายุทธศาสตร์การพลิกฟื้นบริษัทด้วยการลดค่าใช้จ่ายกำลังเห็นผล แต่ขณะเดียวกันรายได้ที่ลดลงยังเป็นโจทย์ที่ซีอีโอ จอห์น เฉิน ต้องหาทางแก้ไขต่อไป
alt เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล ระบุว่า จอห์น เฉิน เข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแบล็คเบอร์รี่ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากแคนาคา เมื่อกว่า 1 ปีก่อน หลังจากประสบความสำเร็จกับการฟื้นฟูบริษัทซอฟต์แวร์ ซีเบสฯ โดยเฉินหวังว่าจะประสบความสำเร็จกับการฟื้นสถานการณ์ของแบล็คเบอร์รี่เช่นเดียวกัน ด้วยการพยายามลดต้นทุนและเอาต์ซอร์ซการผลิตฮาร์ดแวร์เพื่อให้บริษัทกลับมาทำกำไร จากนั้นเพิ่มยอดขายโดยเน้นไปที่ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย บริการด้านเทคโนโลยี และการนำโทรศัพท์รุ่นใหม่ออกวางตลาด
ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของบริษัทที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน แสดงให้เห็นว่ายุทธศาสตร์ในขั้นแรกคือการลดต้นทุนนั้นได้ผลตามที่คาดหมาย แบล็คเบอร์รี่ขาดทุนลดลงเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และกลับมาทำกำไรจากการดำเนินการได้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี อย่างไรก็ตาม รายได้ที่ลดลง 34% สะท้อนถึงความท้าทายที่แบล็คเบอร์รี่ยังต้องเผชิญ
"ตัวเลขรายได้ยังไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับเราอย่างแน่นอน การทำกำไรได้อย่างยั่งยืนจะเกิดขึ้นต่อเมื่อรายได้มีการเติบโตเท่านั้น" เฉินกล่าว
แบล็คเบอร์รี่ส่งพนักงานประมาณ 200 คน ออกภาคสนามเพื่อช่วยกระตุ้นยอดขาย ขณะเดียวกันก็พึ่งพาเครือข่ายไร้สายรายใหญ่ในประเทศต่างๆ อาทิ เอทีแอนด์ที เวอไรซอนไวร์เลส และโวดาโฟน กรุ๊ป รวมถึงตัวแทนจำหน่ายในการทำตลาดอุปกรณ์และซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ ซึ่งเฉินกล่าวว่า ความพยายามดังกล่าวจะเห็นผลอย่างเร็วในปีหน้า "เราอาจจะต้องใช้เวลาอีก 2-3 ไตรมาสก่อนรายได้จะมีการเติบโต" เฉินกล่าว
ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาสล่าสุด แบล็คเบอร์รี่ขาดทุน 148 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงจากการขาดทุน 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้อยู่ที่ 793 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่ำกว่าความคาดหมายของนักลงทุนที่คาดไว้ประมาณ 932 ดอลลาร์สหรัฐฯ
สัปดาห์ที่ผ่านมา แบล็คเบอร์รี่นำสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด คลาสสิก (Classic)ออกวางตลาด โดยมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดลูกค้าที่เคยชื่นชอบจุดเด่นของสมาร์ทโฟนแบล็คเบอร์รี่รุ่นเก่าๆ เช่น คีย์บอร์ดและแทร็กแพด แบล็คเบอร์รี่หวังว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่น คือคลาสสิก และพาสปอร์ต ที่ออกวางตลาดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา จะสามารถกระตุ้นการเติบโตของรายได้ให้กับบริษัทได้
เฉินกล่าวว่า ยอดสั่งซื้อล่วงหน้าสมาร์ทโฟนรุ่นคลาสสิกมีสูงกว่ายอดพรีออร์เดอร์ 2 แสนเครื่องของรุ่นพาสปอร์ต แต่ไม่ได้ระบุจำนวนที่ชัดเจน และไม่ได้เปิดเผยยอดขายล่าสุดของรุ่นพาสปอร์ต
แบล็คเบอร์รี่มีรายได้จากยอดขายสมาร์ทโฟนประมาณ 2 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา ทั้งนี้แบล็คเบอร์รี่จำเป็นต้องจำหน่ายสมาร์ทโฟนให้ได้ 10 ล้านเครื่องต่อปีเพื่อให้ธุรกิจฮาร์ดแวร์มีกำไร ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกของปี แบล็คเบอร์รี่ทำเงินได้จากการจำหน่ายสมาร์ทโฟน 5.7 ล้านเครื่อง ซึ่งหมายความว่าในช่วง 3 เดือนที่เหลือ แบล็คเบอร์รี่จะต้องทำยอดขายให้ได้ 4.3 ล้านเครื่อง
นอกจากนี้ แบล็คเบอร์รี่ยังตั้งเป้าหมายเพิ่มรายได้จากธุรกิจซอฟต์แวร์ขึ้น 2 เท่าเป็น 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบประมาณหน้า โดยหวังพึ่งเทคโนโลยีโมบายดีไวซ์เมเนจเมนต์เวอร์ชันล่าสุด ขณะเดียวกัน แบล็คเบอร์รี่กล่าวว่าได้ทำงานร่วมกับบริษัท โบอิ้งฯ เพื่อนำซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่ไปใช้ในอุปกรณ์ระบบแอนดรอยด์ หวังเจาะกลุ่มลูกค้าภาคองค์กรที่ต้องการระดับความปลอดภัยสูงในโทรศัพท์มือถือ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 3,012 วันที่ 25 - 27 ธันวาคม พ.ศ. 2557
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=259035:2014-12-23-07-03-10&catid=109:2009-02-08-11-36-01&Itemid=460#.VJ_DUCBAc
ไม่มีความคิดเห็น: