Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

28 ธันวาคม 2557 baidu.ชฎากร ระบุ ประเทศไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ประมาณ 30% หลังจากเข้ามาดำเนินธุรกิจเมื่อปี 2554 มีจำนวนผู้ใช้บริการทุกผลิตภัณฑ์รวมประมาณ 9 ล้านคนโดยประเมินจากผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจำนวน 20 ล้านคน

ประเด็นหลัก



++ผ่าแผนชักธงรบตลาดไทยปี58
    สอดคล้องกับนางชฎากร  ธนสุวรรณเกษม  ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการ ไป่ตู้ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีหน้าบริษัทจะบุกตลาดโมบาย ออกแคมเปญที่เป็นแมส และเน้นการเพิ่มฐานผู้ใช้บริการก่อนที่รายได้จะตามมา  เห็นได้จากที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ไม่มากหลักๆมาจาก 2ส่วนคือ โฆษณาบนมือถือและการขายโฆษณาผ่านเว็บ www.baidu.com สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยหรือเอสเอ็มอีที่ไปลงทุนในจีน
    ทั้งนี้ ไป่ตู้ประเทศไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ประมาณ 30% หลังจากเข้ามาดำเนินธุรกิจเมื่อปี 2554 มีจำนวนผู้ใช้บริการทุกผลิตภัณฑ์รวมประมาณ 9 ล้านคนโดยประเมินจากผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจำนวน  20 ล้านคน  ส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้บริการผลิตภัณฑ์  PC Faster ประมาณ 5 ล้านคน  Antivirus ประมาณ 2 ล้านคน ที่เหลือจำนวนผู้ใช้อาจจะซ้ำกันในผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ Spark Brower ,Brower, Photo Wonder,DU Battery Saver, DU Speed Booster , และ Hao123
    "ไป่ตู้"มุ่งมั่นที่จะนำเสนอวิธีการค้นหาข้อมูลที่เยี่ยมที่สุดเพื่อเชื่อมโยงผู้ใช้กับบริการต่างๆ  โดยเฉพาะเปิดโอกาสให้เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างผู้ประกอบการไทยในทุกกลุ่มุธุรกิจที่มีลูกค้าเป้าหมายเป็นชาวจีนหรือผู้ประกอบการชาวจีน ทั้งในรูปแบบ B to B หรือ B to C นำเสนอสินค้าและบริการผ่านช่องทางดังกล่าว" นางชฎากร กล่าวและว่า
    เห็นได้จากช่วงเริ่มต้นโฟกัสธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม โรงพยาบาล และธุรกิจเอสเอ็มอี ด้วยบริการที่แตกต่าง  โดยมียอดการใช้งานของผู้ใช้ชาวจีนทั่วทุกมุมโลกกว่า 6 พันล้านครั้งต่อวัน หรือ เป็นเว็บไซต์อันดับ 1ในจีน และเป็นเว็บไซต์อันดับ 5 ของโลก อีกทั้งยังมีการให้ข้อมูลที่สามารถสื่อสารได้ถึงกลุ่มเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ รวมทั้งช่วยให้ลูกค้าได้รับข้อมูลครบถ้วนและรวบรวมข้อมูลหรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เป็นต้น

_____________________________________________________













ก้าวต่อไป'ไป่ตู้' เสิร์ชเอนจินมังกรจีน

 หลังจากเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยถึง 3 ปี  ไป่ตู้ดอทคอม  ผู้ให้บริการเสิร์ช เอนจิน  ณ กรุงปักกิ่ง  สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน ได้เชิญทัพสื่อมวลชนกว่า 14 ฉบับ ซึ่งหนึ่งในนั้นมี "ฐานเศรษฐกิจ" รวมอยู่ด้วยเข้าเยี่ยมชมศูนย์บัญชาการใหญ่ที่ปักกิ่งเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ หวังสร้างการรับรู้ต่อยอดแผนการรุกตลาดทั่วโลก
 alt++ เผยมีผู้ใช้บริการ 95%
    "ไป่ตู้ดอทคอม" เป็นบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีเสิร์ช เอนจิน สัญชาติจีน ก่อตั้งโดยนายโรบิน ลี ผู้บุกเบิกด้านอินเตอร์เน็ตด้วยวิสัยทัศน์การเชื่อมโยงข้อมูลแบบวิเคราะห์ไฮเปอร์ลิงก์ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอวิธีการค้นหาข้อมูลที่ดีที่สุดเพื่อเชื่อมโยงผู้ใช้กับบริการต่างๆ "ไป่ตู้"ตั้งขึ้นในปี 2543 เริ่มด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีของเสิร์ช เอนจินให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพจนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา(NASDAQ)
    "ไป่ตู้" ครองพื้นที่ทางการตลาดและเป็นผู้นำเสิร์ช เอนจินในจีนแล้ว ด้วยจำนวนผู้ใช้บริการ 95% จากยอดผู้เข้าชมทั่วโลกกว่า 500 ล้านคนต่อวัน เป็นเว็บไซต์ภาษาจีนที่มีจำนวนผู้ใช้บริการเป็นอันดับ 1 ของจีนและติดอันดับ 5 ของโลก  หลังจากการขยายธุรกิจอย่างจริงจังไปยังประเทศสหรัฐฯ   ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อียิปต์  บราซิล  อินโดนีเซีย และไทย
 alt++ชูธง เสิร์ช เอนจินโลก
    ก้าวต่อไปของ www.baidu.com ชูธงออกไปขยายธุรกิจ Search Engine Marketing(SEM)ไปยังชาวจีนทุกประเทศทั่วโลก  โดยนายริชาร์ด ลี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดต่างประเทศ  "ไป่ตู้ดอทคอม" ประกาศวางตำแหน่งในอีก 5 ปีข้างหน้า คือ ภายในปี 2563 แบรนด์"ไป่ตู้"คาดหวังจะครองใจผู้ใช้บริการในสัดส่วน 50% ของจำนวนประชากรทั้งโลก โดยเฉพาะปัจจุบัน "ไปตู้" อยู่ระหว่างทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนจะวางตลาดในเร็วๆนี้ เช่น ไป่ตู้ ไบค์(จักรยาน)บอกเส้นทางและคำนวณแคลอรี, ไป่ตู้ วอลเล็ต แอพพลิเคชันที่ใช้เทคโนโลยีคิวอาร์โค้ดในการจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์และ ไป่ตู้ ฟูล วิว แผนที่ 3 มิติที่ใช้เสียงค้นหาเส้นทาง เป็นต้น
 ++ขยายตลาดสู่อาเซียน
    สำหรับนโยบายปี 2558 ตั้งเป้าขยายการลงทุนไป อินเดีย นอกจากการรุดตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน  ด้วยกลยุทธ์การทำตลาดในประเทศที่มีภาษาเป็นของตนเอง ควบคู่ไปกับปัจจัยแนวโน้มการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ต รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองและการเติบโตทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ
    ขณะเดียวกันยังมองเมืองไทยเป็นตลาดที่มีโอกาสของไป่ตู้  โดยเฉพาะพฤติกรรมคนไทยมีแนวโน้มใช้สมาร์ทโฟนท่องโซเชียลหรืออินเตอร์เน็ตเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวัน  ดังนั้น  "ไป่ตู้"เป็นอีกทางเลือกของผู้ใช้อินเตอร์เน็ต และเพิ่มโอกาสในการสร้างฐานผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น
    ต่อข้อถามถึงการเติบโตของรายได้นั้น นายริชาร์ด ระบุว่า  เบื้องต้นยังเป็นการลงทุนที่มุ่งขยายฐานผู้ใช้บริการเป็นหลัก ดังนั้น บริษัทจะให้น้ำหนักในการเพิ่มงบประมาณหลายเท่าในการทำการตลาดโดยลงทุนด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาเพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์ และทีมงานที่แข็งแกร่งเพื่อให้ผู้ใช้บริการรู้จักผลิตภัณฑ์ของไป่ตู้ในวงกว้างมากขึ้น   เพราะเชื่อว่าเมื่อสามารถสร้างการรับรู้และกลุ่มผู้ใช้บริการให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์แล้วจะสามารถเพิ่มฐานผู้ใช้บริการก่อนที่รายได้จะตามมาในอนาคต
    "ปีหน้าไป่ตู้มุ่งทำตลาดให้เข้มข้น  โดยเฉพาะการมุ่งสร้างความเชื่อมั่นด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการให้ดีขึ้น ทั้งผลิตภัณฑ์ แอนตี้ไวรัส ระบบความปลอดภัยแบบคลาวด์(Baidu Antivirus) รวมถึงประสานความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจในการให้ความมั่นใจ สร้างการรับรู้ในแบรนด์ให้ใกล้ชิดกับผู้ใช้บริการมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทเปิดหลายช่องทางรับข้อมูลเพื่อปรับปรุงบริการทั้งเฟซบุ๊ก คอลล์เซ็นเตอร์ หรือหน้าเว็บไซต์ ฯลฯ ทำให้ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาปัญหาลดลง โดยยืนยันบริษัทมุ่งผลิตผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้บริการ และปีหน้าจะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์ให้สะอาดรวดเร็ว(Baidu PC Faster)หรือเว็บบราวเซอร์ฟรีสำหรับสมาร์ทโฟน(Baidu Browser)ด้วย"
++ผ่าแผนชักธงรบตลาดไทยปี58
    สอดคล้องกับนางชฎากร  ธนสุวรรณเกษม  ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการ ไป่ตู้ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีหน้าบริษัทจะบุกตลาดโมบาย ออกแคมเปญที่เป็นแมส และเน้นการเพิ่มฐานผู้ใช้บริการก่อนที่รายได้จะตามมา  เห็นได้จากที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ไม่มากหลักๆมาจาก 2ส่วนคือ โฆษณาบนมือถือและการขายโฆษณาผ่านเว็บ www.baidu.com สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยหรือเอสเอ็มอีที่ไปลงทุนในจีน
    ทั้งนี้ ไป่ตู้ประเทศไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ประมาณ 30% หลังจากเข้ามาดำเนินธุรกิจเมื่อปี 2554 มีจำนวนผู้ใช้บริการทุกผลิตภัณฑ์รวมประมาณ 9 ล้านคนโดยประเมินจากผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจำนวน  20 ล้านคน  ส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้บริการผลิตภัณฑ์  PC Faster ประมาณ 5 ล้านคน  Antivirus ประมาณ 2 ล้านคน ที่เหลือจำนวนผู้ใช้อาจจะซ้ำกันในผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ Spark Brower ,Brower, Photo Wonder,DU Battery Saver, DU Speed Booster , และ Hao123
    "ไป่ตู้"มุ่งมั่นที่จะนำเสนอวิธีการค้นหาข้อมูลที่เยี่ยมที่สุดเพื่อเชื่อมโยงผู้ใช้กับบริการต่างๆ  โดยเฉพาะเปิดโอกาสให้เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างผู้ประกอบการไทยในทุกกลุ่มุธุรกิจที่มีลูกค้าเป้าหมายเป็นชาวจีนหรือผู้ประกอบการชาวจีน ทั้งในรูปแบบ B to B หรือ B to C นำเสนอสินค้าและบริการผ่านช่องทางดังกล่าว" นางชฎากร กล่าวและว่า
    เห็นได้จากช่วงเริ่มต้นโฟกัสธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม โรงพยาบาล และธุรกิจเอสเอ็มอี ด้วยบริการที่แตกต่าง  โดยมียอดการใช้งานของผู้ใช้ชาวจีนทั่วทุกมุมโลกกว่า 6 พันล้านครั้งต่อวัน หรือ เป็นเว็บไซต์อันดับ 1ในจีน และเป็นเว็บไซต์อันดับ 5 ของโลก อีกทั้งยังมีการให้ข้อมูลที่สามารถสื่อสารได้ถึงกลุ่มเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ รวมทั้งช่วยให้ลูกค้าได้รับข้อมูลครบถ้วนและรวบรวมข้อมูลหรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 3,012  วันที่  25 - 27 ธันวาคม  พ.ศ. 2557


http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=259043:2014-12-23-07-15-25&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.VJ_DWCBAc

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.