Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

30 ธันวาคม 2557 กสทช.ฐากร ระบุ สั่งการให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี)ตรวจสอบเพจหรือเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหมิ่นสถาบันให้ปิดการเข้าถึงเนื้อหาหมิ่นสถาบัน ได้ภายใน 30 นาที พร้อมแสดงสัญลักษณ์ คสช. บนหน้าเพจหรือเว็บไซต์ พร้อมส่งหนังสือขอความร่วมมือไปยัง LINE YOUTUBE อย่างเป็นทางการ



ประเด็นหลัก


     
       นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกันระหว่างสำนักงาน กสทช. ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการอินเทอร์เน็ต (ISP) รายใหญ่ และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (พล.ต.ท. ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล) ว่า ได้สั่งการให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) ทุกรายดำเนินการตรวจสอบเพจหรือเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหมิ่นสถาบัน อันเป็นความผิดตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 112 แล้วให้รายงานข้อมูลทั้งหมดมายัง กสทช. เพื่อนำเข้าระบบโปรแกรมของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ดำเนินการปิดการเข้าถึงเนื้อหาหมิ่นสถาบัน ได้ภายใน 30 นาที พร้อมแสดงสัญลักษณ์ คสช. บนหน้าเพจหรือเว็บไซต์
     
       ทั้งนี้ กสทช.คาดว่าจะสามารถดำเนินการปิดเว็บไซต์และเพจที่หมิ่นได้ทั้งหมดภายใน 31 ธ.ค. นี้ พร้อมมีหนังสือขอความร่วมมือไปยังไลน์ ยูทิวบ์ อย่างเป็นทางการ ในขณะเดียวกันจะเตรียมหารือร่วมกับ เฟซบุ๊กอีกครั้งในช่วงต้นเดือน ม.ค. 58 เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องหลังจากที่ยังไม่สามารถติดต่อเฟซบุ๊กให้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้


_____________________________________________________



















กสทช.สั่งไอเอสพีตรวจเว็บหมิ่น/พร้อมปิดภายใน 30 นาที


        กสทช.เรียกไอเอสพีรับคำสั่งสอดส่องเว็บไซต์หมิ่นสถาบันเพื่อรายงานต่อกสทช.ดำเนินการปิดเว็บภายใน 30 นาที มั่นใจปิดได้หมดภายในสิ้นปีนี้ ขณะเดียวกันยังได้ทำหนังสือถึงไลน์และยูทิวบ์อย่างเป็นทางการเพื่อขอความร่วมมือด้วย เผยต้นเดือน ม.ค.58 นัดหารือกับเฟซบุ๊ก หลังยังติดต่อมาร่วมประชุมไม่ได้ ด้าน รมว.ไอซีทีบอกไม่รู้เรื่อง ลั่นการทำงานควรทำร่วมกัน
     
       นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกันระหว่างสำนักงาน กสทช. ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการอินเทอร์เน็ต (ISP) รายใหญ่ และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (พล.ต.ท. ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล) ว่า ได้สั่งการให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) ทุกรายดำเนินการตรวจสอบเพจหรือเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหมิ่นสถาบัน อันเป็นความผิดตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 112 แล้วให้รายงานข้อมูลทั้งหมดมายัง กสทช. เพื่อนำเข้าระบบโปรแกรมของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ดำเนินการปิดการเข้าถึงเนื้อหาหมิ่นสถาบัน ได้ภายใน 30 นาที พร้อมแสดงสัญลักษณ์ คสช. บนหน้าเพจหรือเว็บไซต์
     
       ทั้งนี้ กสทช.คาดว่าจะสามารถดำเนินการปิดเว็บไซต์และเพจที่หมิ่นได้ทั้งหมดภายใน 31 ธ.ค. นี้ พร้อมมีหนังสือขอความร่วมมือไปยังไลน์ ยูทิวบ์ อย่างเป็นทางการ ในขณะเดียวกันจะเตรียมหารือร่วมกับ เฟซบุ๊กอีกครั้งในช่วงต้นเดือน ม.ค. 58 เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องหลังจากที่ยังไม่สามารถติดต่อเฟซบุ๊กให้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้
     
       นอกจากนี้ยังได้มอนิเตอร์เนื้อหาของการใช้งานอินเทอร์เน็ตและโซเซียลมีเดีย ทั้งหมด ส่วนการดำเนินคดีหลังจากนั้นจะเป็นหน้าที่ของตำรวจสันติบาลที่จะดำเนินการ ร่วมกันหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาดต่อไป
     
       'กรณีนี้ไม่ต้องรอคำสั่งศาลก็สามารถใช้กระบวนการของ กสทช.และ คสช. ได้ทันที จากเดิมที่ผ่านมาต้องรอคำสั่งศาล หรือใช้แนวทางการขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ต ซึ่งในปี 57 ได้ปิดเว็บ และเพจที่หมิ่นสถาบันไปแล้วจำนวน 1,125 ราย ส่วนในปี 56 ปิดจำนวน 1,460 ราย'
     
       ทั้งนี้อาจมีประชาชนบางส่วนที่รู้เท่าไม่ถึงการ โพสต์ข้อความหรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นเนื้อหาที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคง หรือหมิ่นสถาบัน จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังตรวจสอบเนื้อหาข้อความก่อนทำการโพสต์ หรือแชร์เนื้อหาข้อความใดๆ หากประชาชนพบเห็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่ผิดกฎหมายเป็นภัยต่อความมั่นคง ขอให้แจ้งมายังสำนักงาน กสทช. ที่อีเมล์ report.nbtc@gmail.com ทันที
     
       ด้านพล.ต.ท. ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล กล่าวว่า สันติบาลพร้อมในการหาตัวผู้กระทำความผิด และพร้อมดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในกรณีการนำเสนอเนื้อหาที่เป็นภัยต่อความมั่นคง หรือหมิ่นสถาบัน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยเด็ดขาดทันที
     
       การดำเนินการดังกล่าวของ กสทช.ในครั้งนี้ นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องมาก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ อำนาจการปิดเว็บไซต์เป็นงานของไอซีที เพราะมีศูนย์ที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ที่ ทีโอที แต่ กสทช. สามารถทำได้เพราะเป็นผู้ให้ใบอนุญาตกับไอเอสพี โดยในอนาคตไอซีทีต้องให้กสทช.และไอซีทีทำงานร่วมกันมากกว่านี้ เพื่อให้งานชัดเจน ไม่ใช่ต่างคนต่างแยกกันทำ


http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000149726

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.