Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

07 มกราคม 2558 (บทความ) กระแสเทคโนฯใหม่ปีแพะ ‘สมาร์ทวอตช์’ ของเล่นใหม่มาแรง // ปี 2558 จะมีวินโดว์สแท็บเลต ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 8.1 เข้ามาสู่ตลาดมากขึ้น โดยชูจุดขายสามารถทำงานได้เต็มรูปแบบเช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ รองรับการใช้งานโปรแกรมยอดนิยม ออฟฟิศ

ประเด็นหลัก


alt+3G/LTE จุดขายใหม่แท็บเลต
    "แท็บเลต" อุปกรณ์ที่เคยเป็นดาวรุ่ง 2 ปีที่แล้วมาในปี 2557 แนวโน้มความต้องการเริ่มชะลอตัวลง  ซึ่งในปี 2558  ผู้ผลิตต่างแก้เกมเพื่อช่วงชิงตลาด  โดยพัฒนา แท็บเลตที่มีหน้าจอขนาด 7 นิ้วขึ้นไป ให้มีฟังก์ชันรองรับ 3G  หรือ LTE  ออกมาสู่ตลาด  ขณะที่ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ประมาณ 5 พันบาท  ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างดีมานด์ให้กับตลาดได้ไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา  นอกจากนี้ในปี 2558 จะมีวินโดว์สแท็บเลต  ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 8.1 เข้ามาสู่ตลาดมากขึ้น โดยชูจุดขายสามารถทำงานได้เต็มรูปแบบเช่นเครื่องคอมพิวเตอร์  รองรับการใช้งานโปรแกรมยอดนิยม ออฟฟิศ
alt+2In1โน้ตบุ๊กแรงขึ้น ใช้งานนานขึ้น
    ในปี 2558  คาดการณ์ว่าตลาดโน้ตบุ๊กจะกลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มโน้ตบุ๊ก 2 In 1   หรือบางค่ายเรียกว่าไฮบริด  ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊ก ที่มีคุณสมบัติ ถอดหน้าจอ  หรือหมุนกลับหน้าจอ ใช้งานเป็นแท็บเลตได้  โดยผู้ผลิตจะมีการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้น โดยใช้หน่วยประมวลผลอินเทล คอร์เอ็ม  ที่มีคุณสมบัติการทำงานสูงกว่าหน่วยประมวลผลอะตอม ที่ผู้ผลิตใส่มาในผลิตภัณฑ์ 2 in 1 ปีที่ผ่านมา  นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ ประหยัดพลังงาน  ทำให้สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้นานขึ้น ขณะที่ราคานั้นคาดว่าจะสามารถเลือกหาได้ตั้งแต่ 1.5 หมื่น- 2 หมื่นบาท


_____________________________________________________
















กระแสเทคโนฯใหม่ปีแพะ ‘สมาร์ทวอตช์’ ของเล่นใหม่มาแรง




 ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีทางด้านฮาร์ดแวร์  ที่สามารถเรียกได้ว่า "Killer" มีให้เห็นน้อยมาก ผู้ผลิตพีซี หลากหลายพยายามพัฒนารูปแบบโปรดักต์ใหม่ๆ ออกมาทั้งทูอินวัน  ทรีอินวัน  พับได้  ถอดได้  แต่ก็ยังไม่โดนใจผู้บริโภค ส่วนในปี 2558  มีเทคโนโลยีอะไรที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับตลาดบ้าง  เราลองมาดูกัน
alt+ปีแห่ง"นาฬิกาอัจฉริยะ"
    ในปี 2558 ทีมข่าวไอทีดอตคอม  ขอยกให้ "นาฬิกาอัจฉริยะ" หรือ "สมาร์ทวอตช์ " ในกลุ่มอุปกรณ์สวมใส่ (Wearable Devices) เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาแรงสุด  โดยทันทีที่แอปเปิล กระโดดลงมาเล่นในตลาด นาฬิกาอัจฉริยะ  หรือ สมาร์ทวอตช์  ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ "แอปเปิล วอตช์" โดยอวดโฉมให้เห็นในการเปิดตัวไอโฟน 6  และ ไอโฟน 6 พลัส เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2557 พร้อมประกาศทำตลาดช่วงต้นปี 2558 ก็สร้างกระแสปลุกให้ตลาดสมาร์ทวอตช์ ให้น่าสนใจขึ้นมาโดยทันที  ทั้งนี้ขึ้นชื่อว่า "แอปเปิล" แล้ว ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์  และฟังก์ชันที่มีความง่ายต่อการใช้งาน  ถือเป็นคุณสมบัติเด่นสำคัญ โดยแอปเปิล วอตช์  มีคุณสมบัติเด่นอะไรบ้าง เราลองมาไล่เรียงกัน  แอปเปิล  ดีไซน์  นาฬิกาอัจฉริยะ "แอปเปิล วอตช์" ออกมา  โดยมีคอลเลกชัน ให้เลือกหลากหลาย ทั้งขนาดหน้าจอที่มีให้เลือกหน้าจอเล็ก ความสูง 38 มิลลิเมตร และหน้าจอใหญ่ ความสูง 42 มิลลิเมตร
   alt รุ่นที่มีทั้ง แอปเปิล วอตช์ รุ่นปกติ ตัวเรือนทำจาก Stainless Steel กระจกหน้าจอแบบแซพไฟร์ , แอปเปิล วอตช์ สปอร์ต  ตัวเรือนทำมาจาก Anodised Aluminium กระจกหน้าจอแบบ Ion-X รุ่นนี้โดดเด่นที่สายนาฬิกา ที่มีสีสันสดใส และแอปเปิล วอตช์ อีดิชั่น  ตัวเรือนเป็นทองคำ 18 กะรัต พร้อมกระจกหน้าจอแบบแซพไฟร์ สายนาฬิกาแบบตัวล็อกแอปเปิล วอตช์จะมาพร้อมกับหน้าจอแบบสัมผัส  หรือทัชสกรีน  พร้อมกับพัฒนา Digital Crown ที่คล้ายกับเม็ดมะยม นาฬิกาข้อมือทั่วไปขึ้นมา  เพื่อช่วยทำให้การใช้งาน แอปเปิล วอตช์ง่ายขึ้น ซึ่ง Digital Crown นี้ สามารถหมุนได้เพื่อแทนการซูมเข้าและออก หรือใช้เพื่อเลื่อนหน้าจอขึ้นลง  และยังเป็นปุ่ม Home โดยการกดเม็ดมะยม 1 ครั้ง จะทำให้ผู้ใช้สามารถกลับเข้าสู่หน้า โฮมสกรีน  แต่ถ้ากด 2 ครั้ง จะเป็นการแสดงหน้าปัดนาฬิกา
    ขณะที่ด้านล่างปุ่ม Digital Crown จะมีปุ่มที่เรียกว่า Digital Touch เพื่อใช้ติดต่อสื่อสารกับผู้ที่ใช้ แอปเปิล วอตช์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การวาดภาพ, Walkie-Talkie คุยสลับกันไปมา, Tap แตะเพื่อสะกิด หรือ Heartbeat ส่งจังหวะการเต้นของหัวใจ ด้วยการใช้ 2 นิ้วกดลงไปบนหน้าจอนอกจากนี้แอปเปิล วอตช์ ยังมีคุณสมบัติสามารถรับส่งข้อความ (ด้วยการใช้คำสั่งเสียงแทนการพิมพ์), รองรับการใช้งานโทรศัพท์ ด้วยการใช้ไมโครโฟนที่มีอยู่ในตัว หรือจะโอนสายไปยัง ไอโฟน เพื่อให้คุยได้นานขึ้น หรือ ยังสามารถโอนสายจาก แอปเปิล วอตช์ไปยังลำโพง สปีกเกอร์โฟนในรถยนต์ และหูฟังบลูทูธ และสุดท้าย เปิดอ่านอี-เมล์ได้
   alt ทั้งนี้ภายหลังจากแอปเปิลขยับออกมาอวดโฉม แอปเปิล วอตช์  ค่ายคู่แข่งที่พัฒนาสมาร์ทวอตช์ ออกมาทำตลาดก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่สามารถสร้างอิมแพคในตลาดได้มากนัก  ก็ขยับเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดทันที
    โดยค่ายซัมซุง ออก "เกียร์ เอส" สมาร์ทวอตช์ ดีไซน์หน้าจอโค้ง  จอแสดงผล Super AMOLED แบบโค้ง มีขนาดกว้าง 2 นิ้ว ความละเอียด 480x360 พิกเซล, ขับเคลื่อนด้วย CPU dual-core 1GHz, RAM 512MB, พื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่อง 4GB, รองรับการเชื่อมต่อ 2G/3G, Bluetooth 4.1, Wi-Fi a/b/g/n, GPS/GLONASS, microUSB 2.0 โดยนาฬิการุ่นนี้ยังสามารถคุยโทรศัพท์ผ่านอุปกรณ์เสริมแบบสวมคอซึ่งมีชื่อว่า "Samsung Gear Circle" ส่วนค่าย โซนี่  ส่ง (สมาร์ทวอตช์ ทรี  (SmartWatch 3) นาฬิกาอัจฉริยะที่ใช้ระบบปฏิบัติการกูเกิลแอนดรอยด์สำหรับแอนดรอยด์แวร์โดยเฉพาะ โดยน้องใหม่รุ่นที่ 3 มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล แบบควอดคอร์ 1.2 GHz หน้าจอขนาด 1.6 นิ้ว พร้อมความสามารถในการกันน้ำ IP68 มีความจุภายใน 4GB แรม 512MB รองรับการสื่อสารไร้สายแบบ NFC และมีจีพีเอสในตัว
    นอกจากนี้ค่ายไอที ทั้งอัสซุส  ไมโครซอฟท์   รวมถึงเอเซอร์  ที่เตรียมขนผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาด ในปี 2558
alt+3G/LTE จุดขายใหม่แท็บเลต
    "แท็บเลต" อุปกรณ์ที่เคยเป็นดาวรุ่ง 2 ปีที่แล้วมาในปี 2557 แนวโน้มความต้องการเริ่มชะลอตัวลง  ซึ่งในปี 2558  ผู้ผลิตต่างแก้เกมเพื่อช่วงชิงตลาด  โดยพัฒนา แท็บเลตที่มีหน้าจอขนาด 7 นิ้วขึ้นไป ให้มีฟังก์ชันรองรับ 3G  หรือ LTE  ออกมาสู่ตลาด  ขณะที่ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ประมาณ 5 พันบาท  ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างดีมานด์ให้กับตลาดได้ไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา  นอกจากนี้ในปี 2558 จะมีวินโดว์สแท็บเลต  ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 8.1 เข้ามาสู่ตลาดมากขึ้น โดยชูจุดขายสามารถทำงานได้เต็มรูปแบบเช่นเครื่องคอมพิวเตอร์  รองรับการใช้งานโปรแกรมยอดนิยม ออฟฟิศ
alt+2In1โน้ตบุ๊กแรงขึ้น ใช้งานนานขึ้น
    ในปี 2558  คาดการณ์ว่าตลาดโน้ตบุ๊กจะกลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มโน้ตบุ๊ก 2 In 1   หรือบางค่ายเรียกว่าไฮบริด  ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊ก ที่มีคุณสมบัติ ถอดหน้าจอ  หรือหมุนกลับหน้าจอ ใช้งานเป็นแท็บเลตได้  โดยผู้ผลิตจะมีการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้น โดยใช้หน่วยประมวลผลอินเทล คอร์เอ็ม  ที่มีคุณสมบัติการทำงานสูงกว่าหน่วยประมวลผลอะตอม ที่ผู้ผลิตใส่มาในผลิตภัณฑ์ 2 in 1 ปีที่ผ่านมา  นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ ประหยัดพลังงาน  ทำให้สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้นานขึ้น ขณะที่ราคานั้นคาดว่าจะสามารถเลือกหาได้ตั้งแต่ 1.5 หมื่น- 2 หมื่นบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 3,015  วันที่  4 - 7 มกราคม  พ.ศ. 2558


http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=260106:2015-01-02-03-32-58&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.VKvO1cZAeuw

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.