Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

15 มกราคม 2558 รมว.วิทย์.พิเชฐ เตรียมการกระตุ้นให้ภาคเอกชนลงทุนในการวิจัยและพัฒนามากขึ้นกระทรวงวิทย์ ฯ ได้เสนอ 3 มาตรการเร่งด่วน มาตรการแรกคือ การเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านภาษี นอกจากจะมีมาตรการลดหย่อนภาษีส่งเสริมวิจัยและพัฒนาจาก 200% เป็น 300%

ประเด็นหลัก

สำหรับการกระตุ้นให้ภาคเอกชนลงทุนในการวิจัยและพัฒนามากขึ้นกระทรวงวิทย์ ฯ ได้เสนอ 3 มาตรการเร่งด่วน มาตรการแรกคือ การเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านภาษี นอกจากจะมีมาตรการลดหย่อนภาษีส่งเสริมวิจัยและพัฒนาจาก 200% เป็น 300% ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการแล้วนั้น จะมีการพิจารณาให้การรับรองบริษัทเอกชนที่ทำการวิจัยแทนการรับรองเป็นโครงการเพื่อให้สะดวกรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้นคาดว่าจะมาตรการนี้จะแล้วเสร็จในปลายเดือนนี้

มาตรการต่อมา คือ ที่ประชุมเห็นชอบในการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลและบุคคลธรรมดาสำหรับเงินบริจาคเข้ากองทุนที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนาซึ่งคาดว่าจะนำเข้าครม.เร็ว ๆ นี้ และมาตรการสุดท้าย คือ การแก้ไขระเบียบพัสดุ ฯของสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เอื้อกับการจัดซื้อจัดจ้างในสินค้าและบริการที่ใช้นวัตกรรมของไทยมากขึ้น ซึ่งมาตรการนี้ จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการ ฯ ซึ่งมีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีขึ้นมาดำเนินการต่อไป



_____________________________________________________














รมว.วิทย์ ชูแผนปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ดันเป็นวาระแห่งชาติ เน้นความต่อเนื่องของงบประมาณ มีผู้นำชัดเจนและเป็นเอกภาพ พร้อมเผย3มาตรการเร่งด่วนกระตุ้นเอกชนลงทุนวิจัย


วันนี้ (14 มค.) ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงวิทย์ ฯ ได้เสนอ 3 หลักการสำคัญในการปฏิรูปวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม(วทน.) คือ ระบบงบประมาณต้องคุ้มค่าและต่อเนื่อง ระบบบริหารจัดการต้องมีผู้นำในการสั่งการที่ชัดเจน และที่สำคัญคือการขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมต้องมีความเป็นเอกภาพโดยอยู่ในรูปแบบวาระแห่งชาติ ทั้งนี้หลักการดังกล่าวที่ประชุมได้มีความเห็นสอดคล้องกับที่กระทรวงวิทย์ฯ เสนอ ซึ่งจะมีการผลักดันให้การพัฒนา วทน.เข้าไปเป็นส่วนสำคัญในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ซึ่งจะเริ่มใช้ในปี พ.ศ.2560

สำหรับการกระตุ้นให้ภาคเอกชนลงทุนในการวิจัยและพัฒนามากขึ้นกระทรวงวิทย์ ฯ ได้เสนอ 3 มาตรการเร่งด่วน มาตรการแรกคือ การเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านภาษี นอกจากจะมีมาตรการลดหย่อนภาษีส่งเสริมวิจัยและพัฒนาจาก 200% เป็น 300% ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการแล้วนั้น จะมีการพิจารณาให้การรับรองบริษัทเอกชนที่ทำการวิจัยแทนการรับรองเป็นโครงการเพื่อให้สะดวกรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้นคาดว่าจะมาตรการนี้จะแล้วเสร็จในปลายเดือนนี้

มาตรการต่อมา คือ ที่ประชุมเห็นชอบในการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลและบุคคลธรรมดาสำหรับเงินบริจาคเข้ากองทุนที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนาซึ่งคาดว่าจะนำเข้าครม.เร็ว ๆ นี้ และมาตรการสุดท้าย คือ การแก้ไขระเบียบพัสดุ ฯของสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เอื้อกับการจัดซื้อจัดจ้างในสินค้าและบริการที่ใช้นวัตกรรมของไทยมากขึ้น ซึ่งมาตรการนี้ จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการ ฯ ซึ่งมีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีขึ้นมาดำเนินการต่อไป

http://www.dailynews.co.th/Content/IT/293834/พิเชฐดันแผนปฏิรูปนวัตกรรมเป็นวาระแห่งชาติ

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.