15 มกราคม 2558 Dell เตรียมพร้อมที่จะออกผลิตภัณฑ์ในระดับราคาต่ำกว่า 17,000 บาท เพื่อเสริมทัพกับผลิตภัณฑ์เดิมที่จะเน้นจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางและไฮเอนด์ขึ้นไป ตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตให้มากกว่า 10% ในปีนี้
ประเด็นหลัก
ดังนั้นในปีนี้เดลล์จึงได้เตรียมพร้อมที่จะออกผลิตภัณฑ์ในระดับราคาต่ำกว่า 17,000 บาท เพื่อเสริมทัพกับผลิตภัณฑ์เดิมที่จะเน้นจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางและไฮเอนด์ขึ้นไป และถือเป็นการจับตลาดกลุ่มที่มีกำลังซื้อดังกล่าว ส่วนผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเดิมที่เดลล์มีความแข็งแกร่งอยู่นั้นจะมีการเสริมไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้เพิ่มมากขึ้น ด้วยการใส่ฟังก์ชัน ฟีเจอร์ และเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมไปถึงทำการยกระดับให้มีความเป็นพรีเมียมมากขึ้น
“เดลล์ตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตให้มากกว่า 10% ในปีนี้ เพราะเริ่มมั่นใจในสภาพแวดล้อมของตลาดที่ดีขึ้น แม้ในตลาดภาครัฐจะยังไม่ได้ขยับมากนัก รวมไปถึงมีบางโครงการต้องพับไม่ได้ไปต่อ แต่ด้วยกระแส Internet of Thing ที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์อย่างโน้ตบุ๊ก พีซี และแท็บเล็ตของเดลล์มีการขยายตัวมากขึ้น และจะส่งผลไปถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจที่จะเติบโตตามไปด้วย นอกจากนี้ ด้วยการใช้จ่ายของภาคเอกชนที่ยังดีอยู่จะยิ่งช่วยส่งเสริมให้การเติบโตดังกล่าวเป็นไปตามที่เดลล์ตั้งเป้าหมายไว้”
_____________________________________________________
เดลล์เตรียมส่งโน้ตบุ๊กเจาะตลาดล่าง หลังมั่นใจกำลังซื้อกลับมา
เดลล์เตรียมส่งโน้ตบุ๊กราคาต่ำกว่า 17,000 บาทเจาะตลาดล่าง หลังมั่นใจกำลังซื้อของผู้บริโภคในกลุ่มนี้กำลังจะกลับมา พร้อมเสริมทัพผลิตภัณฑ์ในส่วนกลางและบนด้วยเทคโนโลยีใหม่ อัปเกรดให้พรีเมียมขึ้น มองการเติบโตปีนี้แม้จะไม่หวือหวาแต่ดีกว่าปีที่แล้วอย่างแน่นอน คาดโตแตะหลัก 10% หลังมีปัจจัยผลักดันอย่าง Internet of Thing ช่วยเสริมให้ทุกผลิตภัณฑ์เติบโตมากขึ้น เตรียมส่งผลิตภัณฑ์ใหม่หลากรุ่นหวังเสริมให้การเติบโตเป็นไปตามที่ตั้งไว้
นายอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) และผู้จัดการทั่วไปภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาเดลล์มีผลประกอบการที่ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับเวนเดอร์รายอื่น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการออกจากตลาดหลักทรัพย์ซึ่งทำให้การทำธุรกิจง่ายขึ้น ไม่ต้องกังวลความผันผวนในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง และสามารถทำงานได้เต็มที่ โดยในประเทศไทยนั้นเดลล์คาดว่าปีนี้กำลังซื้อในกลุ่มของโน้ตบุ๊กระดับล่างน่าจะกลับมา เนื่องจากปีที่ผ่านมาผู้บริโภคกลุ่มนี้ชะลอการซื้อ
ดังนั้นในปีนี้เดลล์จึงได้เตรียมพร้อมที่จะออกผลิตภัณฑ์ในระดับราคาต่ำกว่า 17,000 บาท เพื่อเสริมทัพกับผลิตภัณฑ์เดิมที่จะเน้นจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางและไฮเอนด์ขึ้นไป และถือเป็นการจับตลาดกลุ่มที่มีกำลังซื้อดังกล่าว ส่วนผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเดิมที่เดลล์มีความแข็งแกร่งอยู่นั้นจะมีการเสริมไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้เพิ่มมากขึ้น ด้วยการใส่ฟังก์ชัน ฟีเจอร์ และเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมไปถึงทำการยกระดับให้มีความเป็นพรีเมียมมากขึ้น
“เดลล์ตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตให้มากกว่า 10% ในปีนี้ เพราะเริ่มมั่นใจในสภาพแวดล้อมของตลาดที่ดีขึ้น แม้ในตลาดภาครัฐจะยังไม่ได้ขยับมากนัก รวมไปถึงมีบางโครงการต้องพับไม่ได้ไปต่อ แต่ด้วยกระแส Internet of Thing ที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์อย่างโน้ตบุ๊ก พีซี และแท็บเล็ตของเดลล์มีการขยายตัวมากขึ้น และจะส่งผลไปถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจที่จะเติบโตตามไปด้วย นอกจากนี้ ด้วยการใช้จ่ายของภาคเอกชนที่ยังดีอยู่จะยิ่งช่วยส่งเสริมให้การเติบโตดังกล่าวเป็นไปตามที่เดลล์ตั้งเป้าหมายไว้”
นายอโณทัยกล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาเดลล์ได้มีการจัดการช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ ทำให้เกิดความคล่องตัวในการกระจายผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น ซึ่งในปีนี้เดลล์จะเสริมเรื่องความรู้ต่างๆ ให้แก่ลูกค้า และจะมีการจัดโรดโชว์ รวมไปถึงคาราวานต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น เพื่อเป็นตัวเสริมผลักดันการเติบโตในการก้าวเข้าไปสู่ Software Defined Infrastructure ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของเดลล์
ทั้งนี้ สำหรับตลาดในเอเชียแปซิฟิกยังเป็นเป้าหมายหลักของเดลล์ในการผลักดันการเติบโตของธุรกิจโซลูชันไคลเอนด์ โดยในส่วนโซลูชันไคลเอนด์ทั้งหมดของเดลล์มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นลำดับที่ 2 ในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่น ด้วยส่วนแบ่ง 11% ในไตรมาสที่ 3 ของปีที่ผ่านมา (ข้อมูลจากไอดีซี) ซึ่งในส่วนของไคลเอนด์ ซีเคียวริตี โซลูชันของเดลล์ โตขึ้น 311% ต่อปี
สำหรับโอกาสเติบโตของเดลล์ในตลาดเหล่านี้คือจำนวนโมบายล์ดีไวซ์ที่นำมาใช้ในองค์กรต่างๆ มีเพิ่มสูงขึ้น โดย 1 ใน 3 ของพนักงานในองค์กรต่างๆ เริ่มนำโมบายล์ดีไวซ์เข้ามาทำงานมากขึ้น ซึ่งจากการศึกษาของเดลล์พบว่าแท็บเล็ตและอุปกรณ์ทูอินวันกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น และคนทำงานกว่า 60% มีการใช้อุปกรณ์มากกว่า 1 เครื่องเพื่อช่วยให้การทำงานดีขึ้น
นายอโณทัยกล่าวว่า นอกจากนี้เดลล์ยังได้เตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ประกอบไปด้วย อัลตราบุ๊ก XPS 13 แล็ปท็อปขนาด 13 นิ้ว มาพร้อมจอแสดงผลของแล็ปท็อปแบบ UltraSharp Quad HD+ ให้ความละเอียด 5.7 ล้านพิกเซล และมีอายุแบตเตอรี่ยาวนานถึง 15 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และหน่วยประมวลผลอินเทลในรุ่นที่ 5 สามารถบูทระบบได้เร็วเพียงไม่กี่วินาที นอกจากนี้ยังเปิดตัว XPS 15 ใหม่ ด้วยจอแสดงผลแบบ UltraSharp 4K Ultra HD ความละเอียดสูงถึง 8 ล้านพิกเซล
ผลิตภัณฑ์ทู-อิน-วัน Latitude 13 7000 Series เป็นอัลตราบุ๊กน้ำหนักเบาและแท็บเล็ตขนาด 13.3 นิ้ว ที่ถอดแยกจากกันได้ ในอุปกรณ์ที่ทรงพลังเพียงเครื่องเดียว ใช้ระบบประมวลผล Intel® Core™ M โดย Latitude 13 7000 Series ใหม่นี้ให้จอแสดงผลใหญ่ถึง 13.3 นิ้ว และให้คีย์บอร์ด Backlit มาพร้อมระบบปกป้องข้อมูลชั้นนำในอุตสาหกรรมของเดลล์ (Dell Data Protection) และ Dell ControlVault™ รวมถึงระบบเข้ารหัสข้อมูลที่สมบูรณ์แบบ ระบบล้ำหน้าในการตรวจสอบตัวตนผู้ใช้งาน และระบบป้องกันมัลแวร์ ทำให้กลายเป็น Ultrabook™ ที่ปลอดภัยที่สุด
Latitude 12 5000 Series ที่มีการออกแบบที่ให้ความบางและรูปลักษณ์ที่ทันสมัย น้ำหนักเริ่มต้นแค่ 3.4 ปอนด์ หรือ 1.54 กิโลกรัม ในความบางเพียงแค่ 22.7 มิลลิเมตร นอกจากนี้ ยังสร้างจากวัสดุล้ำหน้าที่ให้ความทนทาน และมีบริการและการสนับสนุนในระดับเอนเตอร์ไพรส์
นอกจากนี้ เดลล์ยังได้ทำการเปิดตัวมอนิเตอร์รุ่นใหม่ Dell UltraSharp 27 Monitor โดยในรุ่น UP2715K ใช้จอ Ultra-HD 5K มาตรฐานภาพ 16:9 ขนาด 27 นิ้ว และให้ความละเอียดจอสูงถึง 5,120x2,880 (ละเอียดมากกว่า 14 ล้านพิกเซล) หรือมีความละเอียดเป็น 6 เท่าของจอ full-HD ธรรมดา ด้วยพิกเซลที่มีความละเอียดสูงเป็นพิเศษ ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ของการสัมผัสโลกแห่งความเป็นจริงผ่านจอได้
มอนิเตอร์ Dell UltraSharp รุ่น 34 นิ้ว ให้คุณสมบัติจอบางมาตรฐาน 21:9 ให้ความคมชัดเหมือนชมภาพยนตร์ ด้วยความละเอียด WQHD 3440x1440 จอ U3415W ให้ฟีเจอร์ทุกอย่างที่ผู้ใช้ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นตัวฐานที่ปรับได้เต็มที่ HDMI 2.0, MHL รวมถึงการเชื่อมต่อ DisplayPort และ Mini DisplayPort, ลำโพงคู่ 9 วัตต์ ให้ประสิทธิภาพเสียง 60Hz และเมื่อมีการตั้งค่าการทำงานแบบหลายมอนิเตอร์ ก็จะให้มุมมองแบบ cockpit view ที่ไร้รอยต่อให้ภาพต่อเนื่องกันหลายจอ ซึ่งต้องขอบคุณเทคโนโลยีที่มีขอบจอบางเป็นพิเศษ
อุปกรณ์ออล-อิน-วัน Dell OptiPlex 9030 และ OptiPlex 3030 ใช้ระบบประมวลผลหลักรุ่นที่ 5 ของอินเทล และมาพร้อมเครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่หลากหลายของเดลล์อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งรุ่น 9030 และ 3030 เป็นแพลตฟอร์มโมดูล 5 1.2 ที่ผ่านการรับรองและให้ความน่าเชื่อถือ อุปกรณ์ทั้งสองมีการโหลดระบบปกป้องข้อมูลและระบบรักษาความปลอดภัยของเดลล์ไว้ล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็น Dell Data Protection and Encryption, Dell Data Protection และ Protected Workspace รวมถึง Dell Secure Works นอกจากนี้ยังมีระบบปกป้องตัวตนผู้ใช้งานของอินเทล (Intel Identity Protection) และเทคโนโลยีเพื่อการป้องกันการขโมย
http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000004785
ดังนั้นในปีนี้เดลล์จึงได้เตรียมพร้อมที่จะออกผลิตภัณฑ์ในระดับราคาต่ำกว่า 17,000 บาท เพื่อเสริมทัพกับผลิตภัณฑ์เดิมที่จะเน้นจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางและไฮเอนด์ขึ้นไป และถือเป็นการจับตลาดกลุ่มที่มีกำลังซื้อดังกล่าว ส่วนผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเดิมที่เดลล์มีความแข็งแกร่งอยู่นั้นจะมีการเสริมไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้เพิ่มมากขึ้น ด้วยการใส่ฟังก์ชัน ฟีเจอร์ และเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมไปถึงทำการยกระดับให้มีความเป็นพรีเมียมมากขึ้น
“เดลล์ตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตให้มากกว่า 10% ในปีนี้ เพราะเริ่มมั่นใจในสภาพแวดล้อมของตลาดที่ดีขึ้น แม้ในตลาดภาครัฐจะยังไม่ได้ขยับมากนัก รวมไปถึงมีบางโครงการต้องพับไม่ได้ไปต่อ แต่ด้วยกระแส Internet of Thing ที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์อย่างโน้ตบุ๊ก พีซี และแท็บเล็ตของเดลล์มีการขยายตัวมากขึ้น และจะส่งผลไปถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจที่จะเติบโตตามไปด้วย นอกจากนี้ ด้วยการใช้จ่ายของภาคเอกชนที่ยังดีอยู่จะยิ่งช่วยส่งเสริมให้การเติบโตดังกล่าวเป็นไปตามที่เดลล์ตั้งเป้าหมายไว้”
_____________________________________________________
เดลล์เตรียมส่งโน้ตบุ๊กเจาะตลาดล่าง หลังมั่นใจกำลังซื้อกลับมา
เดลล์เตรียมส่งโน้ตบุ๊กราคาต่ำกว่า 17,000 บาทเจาะตลาดล่าง หลังมั่นใจกำลังซื้อของผู้บริโภคในกลุ่มนี้กำลังจะกลับมา พร้อมเสริมทัพผลิตภัณฑ์ในส่วนกลางและบนด้วยเทคโนโลยีใหม่ อัปเกรดให้พรีเมียมขึ้น มองการเติบโตปีนี้แม้จะไม่หวือหวาแต่ดีกว่าปีที่แล้วอย่างแน่นอน คาดโตแตะหลัก 10% หลังมีปัจจัยผลักดันอย่าง Internet of Thing ช่วยเสริมให้ทุกผลิตภัณฑ์เติบโตมากขึ้น เตรียมส่งผลิตภัณฑ์ใหม่หลากรุ่นหวังเสริมให้การเติบโตเป็นไปตามที่ตั้งไว้
นายอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) และผู้จัดการทั่วไปภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาเดลล์มีผลประกอบการที่ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับเวนเดอร์รายอื่น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการออกจากตลาดหลักทรัพย์ซึ่งทำให้การทำธุรกิจง่ายขึ้น ไม่ต้องกังวลความผันผวนในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง และสามารถทำงานได้เต็มที่ โดยในประเทศไทยนั้นเดลล์คาดว่าปีนี้กำลังซื้อในกลุ่มของโน้ตบุ๊กระดับล่างน่าจะกลับมา เนื่องจากปีที่ผ่านมาผู้บริโภคกลุ่มนี้ชะลอการซื้อ
ดังนั้นในปีนี้เดลล์จึงได้เตรียมพร้อมที่จะออกผลิตภัณฑ์ในระดับราคาต่ำกว่า 17,000 บาท เพื่อเสริมทัพกับผลิตภัณฑ์เดิมที่จะเน้นจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางและไฮเอนด์ขึ้นไป และถือเป็นการจับตลาดกลุ่มที่มีกำลังซื้อดังกล่าว ส่วนผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเดิมที่เดลล์มีความแข็งแกร่งอยู่นั้นจะมีการเสริมไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้เพิ่มมากขึ้น ด้วยการใส่ฟังก์ชัน ฟีเจอร์ และเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมไปถึงทำการยกระดับให้มีความเป็นพรีเมียมมากขึ้น
“เดลล์ตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตให้มากกว่า 10% ในปีนี้ เพราะเริ่มมั่นใจในสภาพแวดล้อมของตลาดที่ดีขึ้น แม้ในตลาดภาครัฐจะยังไม่ได้ขยับมากนัก รวมไปถึงมีบางโครงการต้องพับไม่ได้ไปต่อ แต่ด้วยกระแส Internet of Thing ที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์อย่างโน้ตบุ๊ก พีซี และแท็บเล็ตของเดลล์มีการขยายตัวมากขึ้น และจะส่งผลไปถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจที่จะเติบโตตามไปด้วย นอกจากนี้ ด้วยการใช้จ่ายของภาคเอกชนที่ยังดีอยู่จะยิ่งช่วยส่งเสริมให้การเติบโตดังกล่าวเป็นไปตามที่เดลล์ตั้งเป้าหมายไว้”
นายอโณทัยกล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาเดลล์ได้มีการจัดการช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ ทำให้เกิดความคล่องตัวในการกระจายผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น ซึ่งในปีนี้เดลล์จะเสริมเรื่องความรู้ต่างๆ ให้แก่ลูกค้า และจะมีการจัดโรดโชว์ รวมไปถึงคาราวานต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น เพื่อเป็นตัวเสริมผลักดันการเติบโตในการก้าวเข้าไปสู่ Software Defined Infrastructure ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของเดลล์
ทั้งนี้ สำหรับตลาดในเอเชียแปซิฟิกยังเป็นเป้าหมายหลักของเดลล์ในการผลักดันการเติบโตของธุรกิจโซลูชันไคลเอนด์ โดยในส่วนโซลูชันไคลเอนด์ทั้งหมดของเดลล์มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นลำดับที่ 2 ในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่น ด้วยส่วนแบ่ง 11% ในไตรมาสที่ 3 ของปีที่ผ่านมา (ข้อมูลจากไอดีซี) ซึ่งในส่วนของไคลเอนด์ ซีเคียวริตี โซลูชันของเดลล์ โตขึ้น 311% ต่อปี
สำหรับโอกาสเติบโตของเดลล์ในตลาดเหล่านี้คือจำนวนโมบายล์ดีไวซ์ที่นำมาใช้ในองค์กรต่างๆ มีเพิ่มสูงขึ้น โดย 1 ใน 3 ของพนักงานในองค์กรต่างๆ เริ่มนำโมบายล์ดีไวซ์เข้ามาทำงานมากขึ้น ซึ่งจากการศึกษาของเดลล์พบว่าแท็บเล็ตและอุปกรณ์ทูอินวันกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น และคนทำงานกว่า 60% มีการใช้อุปกรณ์มากกว่า 1 เครื่องเพื่อช่วยให้การทำงานดีขึ้น
นายอโณทัยกล่าวว่า นอกจากนี้เดลล์ยังได้เตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ประกอบไปด้วย อัลตราบุ๊ก XPS 13 แล็ปท็อปขนาด 13 นิ้ว มาพร้อมจอแสดงผลของแล็ปท็อปแบบ UltraSharp Quad HD+ ให้ความละเอียด 5.7 ล้านพิกเซล และมีอายุแบตเตอรี่ยาวนานถึง 15 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และหน่วยประมวลผลอินเทลในรุ่นที่ 5 สามารถบูทระบบได้เร็วเพียงไม่กี่วินาที นอกจากนี้ยังเปิดตัว XPS 15 ใหม่ ด้วยจอแสดงผลแบบ UltraSharp 4K Ultra HD ความละเอียดสูงถึง 8 ล้านพิกเซล
ผลิตภัณฑ์ทู-อิน-วัน Latitude 13 7000 Series เป็นอัลตราบุ๊กน้ำหนักเบาและแท็บเล็ตขนาด 13.3 นิ้ว ที่ถอดแยกจากกันได้ ในอุปกรณ์ที่ทรงพลังเพียงเครื่องเดียว ใช้ระบบประมวลผล Intel® Core™ M โดย Latitude 13 7000 Series ใหม่นี้ให้จอแสดงผลใหญ่ถึง 13.3 นิ้ว และให้คีย์บอร์ด Backlit มาพร้อมระบบปกป้องข้อมูลชั้นนำในอุตสาหกรรมของเดลล์ (Dell Data Protection) และ Dell ControlVault™ รวมถึงระบบเข้ารหัสข้อมูลที่สมบูรณ์แบบ ระบบล้ำหน้าในการตรวจสอบตัวตนผู้ใช้งาน และระบบป้องกันมัลแวร์ ทำให้กลายเป็น Ultrabook™ ที่ปลอดภัยที่สุด
Latitude 12 5000 Series ที่มีการออกแบบที่ให้ความบางและรูปลักษณ์ที่ทันสมัย น้ำหนักเริ่มต้นแค่ 3.4 ปอนด์ หรือ 1.54 กิโลกรัม ในความบางเพียงแค่ 22.7 มิลลิเมตร นอกจากนี้ ยังสร้างจากวัสดุล้ำหน้าที่ให้ความทนทาน และมีบริการและการสนับสนุนในระดับเอนเตอร์ไพรส์
นอกจากนี้ เดลล์ยังได้ทำการเปิดตัวมอนิเตอร์รุ่นใหม่ Dell UltraSharp 27 Monitor โดยในรุ่น UP2715K ใช้จอ Ultra-HD 5K มาตรฐานภาพ 16:9 ขนาด 27 นิ้ว และให้ความละเอียดจอสูงถึง 5,120x2,880 (ละเอียดมากกว่า 14 ล้านพิกเซล) หรือมีความละเอียดเป็น 6 เท่าของจอ full-HD ธรรมดา ด้วยพิกเซลที่มีความละเอียดสูงเป็นพิเศษ ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ของการสัมผัสโลกแห่งความเป็นจริงผ่านจอได้
มอนิเตอร์ Dell UltraSharp รุ่น 34 นิ้ว ให้คุณสมบัติจอบางมาตรฐาน 21:9 ให้ความคมชัดเหมือนชมภาพยนตร์ ด้วยความละเอียด WQHD 3440x1440 จอ U3415W ให้ฟีเจอร์ทุกอย่างที่ผู้ใช้ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นตัวฐานที่ปรับได้เต็มที่ HDMI 2.0, MHL รวมถึงการเชื่อมต่อ DisplayPort และ Mini DisplayPort, ลำโพงคู่ 9 วัตต์ ให้ประสิทธิภาพเสียง 60Hz และเมื่อมีการตั้งค่าการทำงานแบบหลายมอนิเตอร์ ก็จะให้มุมมองแบบ cockpit view ที่ไร้รอยต่อให้ภาพต่อเนื่องกันหลายจอ ซึ่งต้องขอบคุณเทคโนโลยีที่มีขอบจอบางเป็นพิเศษ
อุปกรณ์ออล-อิน-วัน Dell OptiPlex 9030 และ OptiPlex 3030 ใช้ระบบประมวลผลหลักรุ่นที่ 5 ของอินเทล และมาพร้อมเครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่หลากหลายของเดลล์อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งรุ่น 9030 และ 3030 เป็นแพลตฟอร์มโมดูล 5 1.2 ที่ผ่านการรับรองและให้ความน่าเชื่อถือ อุปกรณ์ทั้งสองมีการโหลดระบบปกป้องข้อมูลและระบบรักษาความปลอดภัยของเดลล์ไว้ล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็น Dell Data Protection and Encryption, Dell Data Protection และ Protected Workspace รวมถึง Dell Secure Works นอกจากนี้ยังมีระบบปกป้องตัวตนผู้ใช้งานของอินเทล (Intel Identity Protection) และเทคโนโลยีเพื่อการป้องกันการขโมย
http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000004785
ไม่มีความคิดเห็น: