Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

16 มกราคม 2558 samart.ทวี ระบุ ตั้งแต่เข้าร่วมโครงการ และนำเอกสารไปขึ้นเงินที่ธนาคารกรุงไทยกว่าแสนฉบับ มูลค่า 100 กว่าล้านบาท พบว่า ขณะนี้เอกสารถูกตรวจสอบ และจ่ายเงินมาเพียง 200 ฉบับ คิดเป็นมูลค่าหลักแสนบาทเท่านั้น

ประเด็นหลัก


 นายทวี อุดมกิจโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด กล่าวระหว่างการประชุมหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยมีผู้ประกอบการกล่องทีวีดิจิตอล จำนวน 56 ราย บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถึงเรื่องปัญหาโครงการรับแลกคูปองทีวีดิจิตอล ว่า ตั้งแต่เข้าร่วมโครงการ และนำเอกสารไปขึ้นเงินที่ธนาคารกรุงไทยกว่าแสนฉบับ มูลค่า 100 กว่าล้านบาท พบว่า ขณะนี้เอกสารถูกตรวจสอบ และจ่ายเงินมาเพียง 200 ฉบับ คิดเป็นมูลค่าหลักแสนบาทเท่านั้น ดังนั้น จึงต้องการให้ กสทช.หรือ สตง.ทบทวนการตรวจเอกสารให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น
     
       ขณะที่ผู้ประกอบการหลายรายต่างเห็นพ้องเป็นเสียงเดียวกันว่า ขณะนี้ต้องแบกรับต้นทุนในการซื้อกล่อง หรือบางรายก็ไม่สามารถมีเงินหมุนเวียนไปซื้อกล่องได้ เพราะเงินที่ได้ล่าช้า และเป็นการทยอยให้ บางรายถึงขนาดได้รับโทรศัพท์จากโรงงานในประเทศจีนเพื่อเร่งรัดหนี้สิน ขณะที่บางรายไม่ได้รับเครดิตในการปล่อยสินค้ามาให้ก่อน เพราะไม่มั่นใจว่าจะมีเงินมาจ่าย


_____________________________________________________














“สามารถ” โวยขึ้นเงินคูปองทีวีดิจิตอลได้แค่หลักแสนบาทจากมูลค่าจริงหลักร้อยล้าน



 “สามารถ” โวยขึ้นเงินคูปองทีวีดิจิตอลได้แค่หลักแสนบาทจากมูลค่าจริงหลักร้อยล้าน

        กรรมจริงๆ “สามารถ” หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการรับแลกคูปองทีวีดิจิตอล เผยตอนนี้ขึ้นเงินได้แค่หลักแสนบาท จากมูลค่าที่มีคนมาแลกหลักร้อยล้านบาท ขณะที่ตัวแทนจากธนาคารกรุงไทย เปิดตัวเลขมีเอกสารเข้าระบบสำหรับการเบิกเงินเพียง 1.2 แสนฉบับ คิดเป็นมูลค่า 82 ล้านบาท เนื่องจาก สตง.ต้องตรวจเอกสารแนบทั้งหมดก่อนจะอนุมัติให้เบิกจ่ายแก่ผู้ประกอบการ ด้านตัวแทน สตง.ยันต้องตรวจเอกสารเพื่อความโปร่งใส หวั่นถูกกล่าวหาละเลยการปฏิบัติหน้าที่
     
       นายทวี อุดมกิจโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด กล่าวระหว่างการประชุมหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยมีผู้ประกอบการกล่องทีวีดิจิตอล จำนวน 56 ราย บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถึงเรื่องปัญหาโครงการรับแลกคูปองทีวีดิจิตอล ว่า ตั้งแต่เข้าร่วมโครงการ และนำเอกสารไปขึ้นเงินที่ธนาคารกรุงไทยกว่าแสนฉบับ มูลค่า 100 กว่าล้านบาท พบว่า ขณะนี้เอกสารถูกตรวจสอบ และจ่ายเงินมาเพียง 200 ฉบับ คิดเป็นมูลค่าหลักแสนบาทเท่านั้น ดังนั้น จึงต้องการให้ กสทช.หรือ สตง.ทบทวนการตรวจเอกสารให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น
     
       ขณะที่ผู้ประกอบการหลายรายต่างเห็นพ้องเป็นเสียงเดียวกันว่า ขณะนี้ต้องแบกรับต้นทุนในการซื้อกล่อง หรือบางรายก็ไม่สามารถมีเงินหมุนเวียนไปซื้อกล่องได้ เพราะเงินที่ได้ล่าช้า และเป็นการทยอยให้ บางรายถึงขนาดได้รับโทรศัพท์จากโรงงานในประเทศจีนเพื่อเร่งรัดหนี้สิน ขณะที่บางรายไม่ได้รับเครดิตในการปล่อยสินค้ามาให้ก่อน เพราะไม่มั่นใจว่าจะมีเงินมาจ่าย
     
       ด้านตัวแทนจากธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า จากยอดการแลกคูปองล่าสุดที่ 2.6 ล้านฉบับ พบว่า มีเอกสารที่ผ่าน และธนาคารอนุมัติเงินให้ไปเพียง 1.2 แสนฉบับ หรือคิดเป็นมูลค่า 82 ล้านบาท เรื่องนี้ นางภัทรา โชว์ศรี ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบการเงินที่ 6 สตง.กล่าวว่า การตรวจสอบเอกสารต้องทำเพื่อความโปร่งใส หากไม่มีการตรวจสอบเอกสารจะถือว่า สตง.ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนสาเหตุที่การตรวจสอบล่าช้านั้นเนื่องจากแต่เดิมผู้ประกอบการส่งเอกสารของผู้แลกคูปองดิจิตอลแยกทีละเอกสารให้แก่ธนาคารกรุงไทย แต่เมื่อ สตง.ต้องตรวจสอบ ทำให้ กสทช.ต้องนำเอกสารที่แยกชุดอยู่มาเย็บรวมเป็นเอกสารชุดเดียวกันทำให้งานล่าช้า แต่ก็ยังคงยืนยันว่า ต้องตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียด
     
       ด้าน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.กล่าวว่า ได้เตรียมตั้งคณะกรรมการขึ้น โดยมีนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช.เป็นประธาน และมีผู้แทนจาก สตง.ตัวแทนจาก ปณท และบริษัทผลิตและจำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลร่วมเป็นที่ปรึกษา และคณะทำงาน เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ และติดตามการแจกคูปองทีวีดิจิตอลทั่วประเทศ สรุปสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงแก้ไขปัญหา และเร่งแจกจ่ายคูปองให้ครบถ้วนต่อไป ส่วนเรื่องการตรวจสอบเอกสารอาจจะขอความเห็นจาก สตง.ว่า จะสามารถเปลี่ยนการสุ่มตรวจ 100% เหลือเพียง 10% ได้หรือไม่ เพื่อความรวดเร็วในการจ่ายเงิน
     
       สำหรับยอดการแจกคูปองทีวีดิจิตอลล่าสุดแจกไปแล้วจำนวน 7.5 ล้านฉบับ โดยภายในสิ้นเดือน ม.ค.นี้ จะแจกคูปองเพิ่มในอีก 5 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช ภูเก็ต ตรัง สุรินทร์ และบุรีรัมย์ จำนวน 6.3 แสนฉบับในพื้นที่ที่มีสัญญาณ 80% ซึ่งตามโครงการแล้ว กสทช.จะแจกได้ครบ 14.1 ล้านฉบับ ภายเดือน มี.ค.นี้
     

http://manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9580000005604

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.