Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

18 มกราคม 2558 macrumors คาด!! i PHONE รุ่นต่อไปอาจเปลี่ยนแรมเป็นแบบ LPDDR4 ถึง 2GB เพราะแรมรุ่นนี้กินไฟต่ำ และมีประสิทธิภาพมากกว่าแรม LPDDR3 ขนาด 1GB รุ่นก่อนหน้านี้

ประเด็นหลัก


เว็บไซต์ macrumors รายงานอ้างข้อมูลของเว็บไซต์ TechNews Taiwan ที่ระบุว่า แอปเปิลอาจเปลี่ยนแรมของไอโฟน 6 รุ่นใหม่ หรือ ไอโฟน 6เอส เป็นแบบ LPDDR4 ถึง 2GB เพราะแรมรุ่นนี้กินไฟต่ำ และมีประสิทธิภาพมากกว่าแรม LPDDR3 ขนาด 1GB รุ่นก่อนหน้านี้อย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดกันว่าจะถูกนำมาใช้กับไอโฟน 6เอส



_____________________________________________________















ลือ! ไอโฟน 6เอส อาจมากับแรม4GB พร้อมเทคโนโลยี Force Touch


เว็บไซต์ไต้หวันเผยข่าวลือระบุ แอปเปิลอาจเปลี่ยนแรมของไอโฟน 6 รุ่นใหม่ หรือ ไอโฟน 6เอส เป็นแบบ LPDDR4 ที่มีขนาด 2GB รวมทั้งอาจสนับสนุนเทคโนโลยี 'Force Touch' เหมือนกับหน้าจอของแอปเปิลวอตช์...

เว็บไซต์ macrumors รายงานอ้างข้อมูลของเว็บไซต์ TechNews Taiwan ที่ระบุว่า แอปเปิลอาจเปลี่ยนแรมของไอโฟน 6 รุ่นใหม่ หรือ ไอโฟน 6เอส เป็นแบบ LPDDR4 ถึง 2GB เพราะแรมรุ่นนี้กินไฟต่ำ และมีประสิทธิภาพมากกว่าแรม LPDDR3 ขนาด 1GB รุ่นก่อนหน้านี้อย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดกันว่าจะถูกนำมาใช้กับไอโฟน 6เอส

แหล่งข่าวในวงการผู้ผลิตแรมคอมพิวเตอร์ ระบุว่า ตัวแรม LPDDR4 จะถูกผลิตโดย Hynix ซัมซุง และ ไมครอน-เอลปิดา รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ การดำเนินการยังช้ากว่ากำหนดการ เนื่องจากแต่ละบริษัทต้องปรับปรุงสายการผลิตในโรงงาน เพื่อให้ตรงกับความต้องการของแอปเปิล ทั้งนี้ Hynix และ ไมครอน-เอลปิดา เป็นผู้ผลิตที่ถูกระบุว่าเป็นผู้สนับสนุนในการผลิตแรมให้กับสายการผลิต ไอโฟน 6 และ ไอโฟน 6 พลัส ในเวลานี้

นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าไอโฟน 6 รุ่นใหม่จะมากับเทคโนโลยีที่เรียกว่า 'Force Touch' เหมือนกับที่ใช้กับแอปเปิลวอตช์ ที่สามารถแยกแยะแรงกดระหว่างการแตะแบบเร็วๆ และการกดเต็มแรง รวมไปถึงการมาของชิปรุ่นใหม่อย่าง โปรเซสเซอร์ A9 และกล้องดูอัลเลนส์ที่ให้คุณภาพระดับกล้องดีเอสแอลอาร์ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าแอปเปิลจะเลือกใช้เทคโนโลยีจอแสดงที่เป็นเทคโนโลยี OLED ใหม่สามารถยืดหยุ่น เพื่อรองรับการใช้ 'Force Touch' ด้วยหรือไม่.

ที่มา : macrumors
http://www.thairath.co.th/content/475206

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.